เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 180 ภารกิจความปรารถนาของจูหย่งวั่ง
เฉินชางบอกกับฉินเยว่ว่า “คุณไปบอกให้พยาบาลมาวัดอุณหภูมิร่างกายกับวัดความดันโลหิตให้ผู้ป่วยหน่อย อ้อ จริงด้วย บอกให้ลี่น่าเข็นเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจมาด้วย เตรียมตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ”
ฉินเยว่ยืดตัวตรงแล้วเดินออกไป
เฉินชางปิดประตูห้อง หันกลับมาจ้องหน้าชายหนุ่ม “คุณต้องการจะฆ่าตัวตาย?”
ชายหนุ่มชะงักงัน เขาหัวเราะลั่น “ใช่น่ะสิครับหมอ มีชีวิตอยู่ต่อไปจะไปมีความหมายอะไร…”
“เมียผมขายข้าวของทุกอย่างในบ้านที่ขายได้จนหมดเกลี้ยง เพื่อที่จะเอาเงินมารักษาตัวผม ผมยอมตายยังดีกว่ามีชีวิตต่อไป”
เฉินชาง “คุณมีลูกมั้ยครับ”
เมื่อชายหนุ่มได้ยินคำว่าลูก เขาก็อดถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งไม่ได้ “ผมมีลูกที่น่ารักสามคน คนโตเป็นลูกสาว กำลังเรียนอยู่ชั้นป.3 ลูกคนรองก็เป็นลูกสาว อายุหกขวบยังไม่เข้าเรียน ส่วนคนที่สามเป็นลูกชาย ทั้งสามคนเป็นเด็กดี ส่วนผมเป็นพ่อที่เหลวแหลก เพื่อที่จะได้มีเงินรักษาตัว ลูกๆ ผมไม่เคยได้สวมเสื้อผ้าใหม่ๆ ถ้าผมยังต้องหาหมออีก ยังต้องจ่ายค่ารักษาตัวอีก อย่าว่าแต่ส่งลูกเรียนหนังสือเลยครับ แค่นี้ก็จะอดตายกันอยู่แล้ว…”
“…ผมหาลวดเหล็กดัดจากในบ้าน จากนั้นผมก็เดินออกไปไกลมาก เอาลวดเหล็กดัดที่ถือมาด้วยแทงเข้าไปในหัวใจ”
เฉินชางมองที่บริเวณบาดแผลทีหนึ่ง “ตรงนั้นไม่ใช่หัวใจครับ…”
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก “การแสดงในทีวีหลอกคนทั้งนั้น”
เฉินชาง “…”
จู่ๆ เขาก็ไม่ว่าเขาควรจะพูดอะไรดี ควรจะปลงอนิจจังที่ละครโทรทัศน์ชักนำคนดูไปในทางที่ผิดดี หรือควรจะดีใจที่สอนผิดวิธีดี
ไม่ต่างอะไรกับการที่ซื้อยาฆ่าหญ้าปลอมมาฆ่าตัวตาย ผลที่ได้คือความผิดหวังจากความเหลวในการที่พยายามจะฆ่าตัวตาย
ชายหนุ่มกล่าวต่อว่า “ผมนั่งรถไฟจากลู่เหลียงมาที่เมืองหลวง ผมไปชมจตุรัสเทียนอันเหมิน สวยจริงๆ เมืองหลวงสวยมาก อลังการมาก จากนั้นผมก็นั่งรถไฟกลับมาที่…สุดท้ายก็มาถึงอันหยาง…”
“…ผมค้นพบว่า…การมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องที่ดี…ผมไม่อยากตายแล้ว คุณหมอช่วยผมได้มั้ยครับ…”
“…แล้วก็อีกอย่างครับ คุณหมอช่วยเอาลวดเหล็กดัดเส้นนี้ออกทีครับ ผมทรมานจนแทบทนไม่ไหว สองวันมานี้รู้สึกแน่นอกมาก…”
“…ผมไม่มีเงิน…แต่ตอนนี้ก็ไม่อยากตายแล้ว คุณหมอช่วยผมได้มั้ยครับ”
[ติ๊ง! พบภารกิจ ความปรารถนาของจูหย่งวั่ง:
ทำความปรารถนาของจูหย่งวั่งให้เสร็จสิ้น อาจได้รับ:
คะแนนทักษะ +5 ถุงนำโชคพิเศษ +1 ระดับการวินิจฉัยโรค +1]
เฉินชางสูดลมหายใจเข้าหนึ่งที รางวัลภารกิจที่เยอะมากขนาดนี้
เฉินชาง “คุณนั่งรถไปได้ไง”
“ผมบอกกับพนักงานว่าผมจะไปหาหมอ พนักงานรถไฟกลัวผมตายเลยพาผมไปที่ที่นอนในตู้นอนของรถไฟ ผมบอกว่าผมไม่มีเงิน พนักงานพวกนั้นก็ให้ตั๋วฟรีกับผม”
ในตอนนี้เอง ฉินเยว่พาฉางลี่น่าเดินเข้ามาในห้อง
ฉางลี่น่า “หมอเสี่ยวเฉินคะ อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยอยู่ที่ 38.8 องศาเซลเซียส ความดันโลหิตอยู่ที่ 130/70 mmhg[1]”
เฉินชางพยักหน้า คาดว่าบาดแผลเกิดการติดเชื้อส่งผลให้มีไข้ขึ้นสูง
“ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ผมจะตรวจดูหัวใจของเขาหน่อยว่าอาการเป็นยังไงบ้าง”
ฉางลี่น่าพยักหน้า เธอมองชายหนุ่มอย่างระมัดระวัง กล่าวว่า “คุณนอนลงบนเตียงนะคะ ฉันจะตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้คุณค่ะ”
ชายหนุ่มกล่าวด้วยความเกรงใจ “เนื้อตัวผมสกปรก เตียงจะเลอะนะครับ”
ฉางลี่น่าหัวใจอ่อนระทวย “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เราก็ต้องส่งผ้าปูที่นอนไปซักพอดีเลยค่ะ”
หลังจากที่ชายหนุ่มเอนตัวลงนอนแล้ว ลวดเหล็กดัดเกิดสั่นสะเทือน ทำเอาฉางลี่น่าถึงกับตกใจจนตัวสั่น
ทว่าในตอนที่ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ฉางลี่น่าถึงกับหนักใจ “หมอเฉินคะ ติดแผ่น Electrode[2] V2 ไว้ตรงตำแหน่งไหนดีคะ”
ลวดเหล็กดันปักอยู่ตำแหน่งที่ต้องติดแผ่น Electrode V2 พอดี
เฉินชาง “งั้นก็ติดที่ด้านข้างก็ได้ครับ ไม่ส่งกระทบอะไร”
ไม่นานก็ปรากฏคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้เห็น
จังหวะไซนัส[3] แกนนำไฟฟ้าของหัวใจเอียงขวา[4] โดยรวมแล้วไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เฉินชางยืดตัวตรง ถอดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของตนออก แล้วยื่นให้ชายหนุ่ม “สวมเสื้อซะ มาครับ ผมจะพาคุณไปถ่ายเอ็กซเรย์ ดูว่าลวดเหล็กดัดที่แทงเข้าไปอยู่ลักษณะไหน”
ชายหนุ่มส่ายหน้า “ผมไม่มีเงิน”
เฉินชาง “ผมออกเงินให้คุณ”
คำพูดหนึ่งประโยคที่ทำเอาคนอื่นๆ ถึงกับตกตะลึง
เฉินชางบ้าไปแล้ว?
ทันทีที่ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น นัยน์ของเขาก็เปล่งประกาย เขารีบลุกขึ้นทันที “ตกลงครับ”
เมื่อแพทย์ที่อยู่แผนกรังสีวิทยาเวรดึกเห็นมีคนมาจากห้องฉุกเฉิน เขาก็รีบเดินออกมาทันที เขาเห็นเฉินชางพาผู้ป่วยคนหนึ่งเดินเข้ามาที่แผนก
“หมอเฉิน?” ผางซินกับเฉินชางเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลในปีเดียวกัน ได้ฝึกอบรมก่อนทำงานด้วยกัน ความสัมพันธ์จัดว่าใช้ได้
เฉินชางกล่าวว่า “มีผู้ป่วยพิเศษคนหนึ่งครับ ไม่มีเงิน พยายามฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ ตอนนี้ที่หน้าอกมีลวดเหล็กดัดปักอยู่หนึ่งเส้น คุณช่วยผมดูหน่อยว่าเป็นยังไง”
ผางซินพยักหน้า “ต้องใช้แผ่นฟิล์มภาพถ่ายเอ็กซเรย์มั้ย”
เฉินชางลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง “ปรินท์ออกมาเลยครับ ผมจ่ายเอง”
ผางซินชะงักงัน “คุณจ่ายเอง?”
เฉินชางพยักหน้า “เขาไม่มีเงิน…”
ผางซินอดมองเฉินชางทีหนึ่งไม่ได้ “คุณบ้าไปแล้วหรือไงครับเนี่ย ผู้ป่วยเยอะขนาดนี้คุณจะไปช่วยเรื่องเงินกับทุกคนไหวที่ไหนกัน”
เฉินชางถอนหายใจ “เขาเป็นคนน่าสงสาร พอช่วยได้ก็ช่วยสักหน่อย”
ผางซินโน้มน้าวเฉินชางไม่ไหว เขาอดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นว่า “หรือว่าคุณให้เขาถ่ายเอ็กซเรย์ก่อน จากนั้นคุณก็ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปไว้ จะได้ไม่ต้องปรินท์ออกมา? แบบนี้จะได้ไม่ต้องเสียเงิน”
เฉินชางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ก็ได้! งั้นรบกวนเหล่าผางด้วยนะครับ”
ผางซินส่ายศีรษะ “เข้าไปเถอะ ผมดูให้ว่าสถานการณ์เป็นยังไง!”
สามนาทีผ่านไป ผลเอ็กซเรย์ออกมาแล้ว
ผางซินชี้ที่ภาพเอกซเรย์ที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ “จากภาพที่เห็น…ค่อนข้างซับซ้อน แล้วก็ค่อนข้างพิเศษ!…”
“…คุณดูนี่ ตรงหลอดเลือดแดงปอด ลวดเหล็กดัดเส้นนี้แทงทะลุหลอดเลือดแดงปอดพอดี แต่เพราะแทงเข้าไปด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งลวดเหล็กดัดเส้นนี้มีขนาดค่อนข้างเล็ก น่าจะไม่ส่งผลอะไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรภายในร่างกายในช่วงเวลาสั้นๆ…แต่…นี่มันผิดปกติมากเลยนะครับ เพราะจะต้องเกิดภาวะลมรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอดอย่างเห็นได้ชัด เพราะตอนนี้เวลาก็ผ่านไปนานมากแล้วด้วย…”
“…แล้วอีกอย่าง..ไม่สิ ผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดด้วย?!”
ผางซินอดเบิกตาโตไม่ได้!
เฉินชางพยักหน้า “ครับ ถูกต้อง สถานการณ์ของผู้ป่วยพิเศษมาก มะเร็งปอดแพร่กระจายไปยังกระดูก ตามที่ผู้ป่วยบอกคืออยู่ได้อีกไม่ถึงปีเลยคิดอยากจะฆ่าตัวตาย แต่กลับหาหัวใจไม่เจอเลยแทงเฉียงไป แทงเข้าไปที่หลอดเลือดแดงปอดแทน ผลคือ…นั่งรถไฟเข้าเมืองมาหนึ่งรอบ ก็ยังไม่ตาย ตอนนี้มาที่แผนกฉุกเฉินไม่ยอมไปไหนแล้ว จะให้ผมรักษาให้ได้ แถมยังบอกว่าไม่มีเงิน…”
“…เขาหาหมอรักษาตัวจนเงินในครอบครัวหมดเกลี้ยง ที่บ้านมีภรรยาหนึ่งคน มีลูกสามคน…น่าสงสารทีเดียว ผมเลยคิดว่าอะไรพอช่วยได้ก็ช่วย”
ผางซินมองภาพเอ็กซเรย์ ขมวดคิ้วเข้าหากัน “ช่วยอะไรไม่ได้แล้วละครับ คุณดูบริเวณปอดสิ…มะเร็งลุกลามเป็นวงกว้างขนาดนี้ ผมคาดว่าน่าแพร่กระจายลงกระดูกไปทั่วแล้ว…อยู่ได้อีกไม่นานแล้วจริงๆ คุณจะรักษายังไง”
เฉินชางถอนหายใจออกมา “พรุ่งนี้รอหมอแผนกศัลยกรรมหัวใจมาทำงาน ให้หัวหน้าเถาช่วยเอาลวดเหล็กดัดออกให้ ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันเรื่องอื่น…”
“ผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณนะครับเหล่าผาง!”
ผางซินมองเฉินชางพร้อมกับหยิบบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวนมาคาบไว้ที่ปาก “คุณจะช่วยไหวเหรอ ผู้ป่วยมีตั้งเยอะ คนน่าสงสารมีเยอะมากเกินไป!”
เฉินชางหันกลับไปตอบ “ช่วยไหวหนึ่งคนก็ช่วยหนึ่งคน!”
เมื่อจูหย่งวั่งเห็นเฉินชางเดินออกมา “เป็นไงบ้างครับ”
เฉินชาง “หมายถึงอะไร”
จูหย่งวั่ง “คุณหมอจะช่วยรักษาผมได้มั้ยครับ”
เฉินชางตอบเสียงราบเรียบ “ลวดเหล็กดัดที่ปักอยู่ที่อก พรุ่งผมจะลองสอบถามแผนกศัลยกรรมหัวใจดู ลวดเหล็กดัดเส้นนี้แทงทะลุหลอดเลือดแดงปอด แต่มะเร็งปอดที่คุณเป็นอยู่…รักษายาก”
จูหย่งวั่งชะงักงัน “โรงพยาบาลของพวกคุณเป็นโรงพยาบาลใหญ่ จะต้องรักษาได้แน่นอน ผมไม่อยากตายนี่ครับ ผมยังอยาก…”
เฉินชางถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก “ใจเย็นๆ ค่อยเป็นค่อยไป”
จูหย่งวั่งพยักหน้า “อันที่จริงผมพกบัตรประชาชนติดตัวมาด้วย แต่ผมหลอกคุณหมอ แต่เรื่องไม่มีเงิน ผมไม่มีเงินจริงๆ ครับ”
[1] mmhg มิลลิเมตรปรอทท คือหน่วยวัดความดัน
[2] Electrode วัสดุแผ่นติดหน้าอกสำหรับวันคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งจะติดลงบนหน้าอก 6 ตำแหน่ง V1-V6 (V1 ติดที่ช่องระหว่างกระดูกซี่โครงช่องที่ 4 ทางด้านขวาติดกับขอบกระดูกหน้าอก, V2 ติดที่ช่องระหว่างกระดูกซี่โครงช่องที่ 4 ทางด้านช้ายที่ติดกับขอบกระดูกหน้าอก, V3 ติดอยู่กึ่งกลางระหว่าง V2 และ V4 พอดี, V4 ติดอยู่บนเส้นกึ่งกลางกระดูกไหปลาร้า (mid-clavicularline) ในช่องระหว่างกระดูกซี่โครงช่องที่ 5, V5 ติดอยู่บนจุดซึ่งติดกันระหว่างเส้น anterioraxillaryline กับเส้นขนาน (horizontal line) ที่ลากจาก V4, V6 อยู่บนจุดซึ่งติดกันระหว่างเส้น mid-axillaryline กับเส้นขนานที่ลากจาก V4 ไป)
[3] จังหวะไซนัส (Sinus rhythm) เป็นรูปแบบการเต้นของหัวใจปกติที่เห็นจากการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
[4] แกนนำไฟฟ้าของหัวใจเอียงขวา (right axis deviation, RAD) มักพบในรายที่มีหัวใจห้องล่างขวาโต