เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 209 อุ๊ย ทุกคนรอผมอยู่หรือครับ ขอโทษด้วยนะครับ
หลี่เป่าซานรู้สึกว่าตนน่าจะเข้าใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเฉินชางผิดไป!
แล้วเขาก็พบว่าบรรดาหัวหน้าพวกนี้ก็เข้าใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเฉินชางผิดไปเหมือนกันใช่หรือไม่!
เฉินชางที่เราพูดถึง เป็นคนคนเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย
เมื่อเซียวเหอได้ยินคำถามของหลี่เป่าซาน เขาก็พยักหน้าตอบ ในตอนนี้เขาไม่มีเวลาอธิบายใดๆ จึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาเฉินชางเลย
เฉินชางที่เดิมทีอยู่เวรดึกงานยุ่งมาตลอดทั้งคืน ค่อนข้างเหนื่อยล้าจนหมดแรง ถึงจะได้กินยาบำรุงพลังไปแล้วก็ตาม เพราะยาบำรุงพลังแค่หยดสองสองหยดก็ช่วยเพิ่มพลังได้แค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น หรือกล่าวได้ว่าพลังเพิ่มขึ้นจากที่ตนมีอยู่ก่อนหน้านี้แค่นิดหน่อย ไม่ได้มากเท่าที่คิดไว้
เฉินชางพบว่าจู่ๆ ตนก็รู้สึกคิดถึงชุดผ่าตัดของตน หลังจากสวมชุดแล้วจะเพิ่มพลังกายได้สองหน่วย แล้วก็ยังมีทักษะพิเศษหนึ่งทักษะ เป็นพลังที่จะฟื้นฟูพลังชีวิตได้เดือนละหนึ่งครั้งด้วย
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าตนควรที่หาโอกาสลองไอเทมเหล่านี้
ดูซิว่าทักษะฟื้นฟูพลังชีวิตจะเจ๋งขนาดไหนกันเชียว!
ในตอนนี้เอง จู่ๆ โทรศัพท์มือถือก็มีสายเรียกเข้า เป็นเซียวเหอโทรมมา
“เสี่ยวเฉิน คุณอยู่ที่โรงพยาบาลหรือเปล่า!” น้ำเสียงของเซียวเหอร้อนรนชัดเจนมาก
ทำให้เฉินชางอดกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่ได้ “ครับ ผมอยู่โรงพยาบาลครับ หัวหน้าเซียวมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”
เซียวเหอพยักหน้า “คุณมาที่ห้องผ่าตัดก่อน ห้องผ่าตัดแผนกสูตินรีเวช มาถึงแล้วผมค่อยอธิบาย”
หลังจากที่พูดจบ เซียวเหอก็วางสายไป เฉินชางรีบลุกขึ้นมุ่งตรงไปที่ห้องผ่าตัด
หรือว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
…
…
เมื่อหลี่เป่าซานเห็นเซียวเหอวางสายแล้ว เขาอดถามไม่ได้ว่า “หัวหน้าเซียว เข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนไปหรือเปล่าครับ เสี่ยวเฉินเป็นหมอแผนกพวกเรา ปีนี้เพิ่งจะอายุยี่สิบเจ็ดปี เหมือนว่าเขาจะไม่เคยสัมผัสประสบการณ์ผ่าตัดหลอดอาหารมาก่อนนะครับ?”
ทันทีที่จางจิ้นเฟิงหัวหน้าแผนกสูตินรีเวชได้ยินคำพูดนี้ เธอก็เลิกคิ้วขึ้นทันที “หัวหน้าเซียวคะ…นี่ล้อกันเล่นใช่มั้ยคะ ผ่าตัดรักษาหลอดอาหารไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ทุกปีมีคนตายเพราะภาวะหลอดอาหารรั่วไม่น้อย แล้วผู้ป่วยรายนี้ก็เป็นผู้ป่วยของแผนกเรา จะเกิดเรื่องอะไรกับเธอไม่ได้!”
กล่าวได้ว่าแผนกสูตินรีเวชเป็นแผนกที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องระหว่างผู้ป่วยมากที่สุดชนิดที่ไม่มีแผนกไหนจะเทียบได้
เพราะในแผนกนี้ไม่ใช่แค่หมอที่เป็นผู้หญิงทั้งหมด แม้แต่ผู้ป่วยก็เป็นผู้หญิงทั้งหมด บวกกับผู้ช่วยพยาบาลทุกคนในแผนกนี้ล้วนเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว ถ้าคุณกล้าปล่อยให้เกิดปัญหาแม้แต่นิด คุณก็ดูจะเป็นคนใจจืดใจดำไปสักหน่อยแล้ว
ดังนั้นจางจิ้นเฟิงเลยไม่พูดจานุ่มนวลอ่อนหวานใดๆ เธอบอกให้เซียวเหอทิ้งความคิดยุ่งเหยิงเหล่านั้นไป
เธอคิดว่าเซียวเหอต้องการให้เฉินชางฝึกหัด
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่เซียวเหอเองก็ยังตกตะลึงจนตาค้าง
คนอื่นไม่รู้เรื่องความสามารถของเฉินชาง สิ่งนี้เข้าใจได้ แต่หลี่เป่าซานเป็นหัวหน้าแผนกฉุกเฉินที่เฉินชางอยู่เชียวนะ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เซียวเหอก็ถึงมึนงงเป็นไก่ตาแตก สรุปผม หรือหลี่เป่าซานกันแน่ที่อยู่แผนกฉุกเฉิน…
ตอนนี้พยาบาลเตรียมห้องผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยก็เตรียมตัวพร้อมที่จะเข้ารับการผ่าตัดแล้ว ทั้งหมดนี้เหลือแค่รอให้การผ่าตัดเริ่มขึ้น
เมื่อหลิวเจี้ยนเห็นหัวหน้าทั้งหลายร่วมตัวกันอยู่ที่นี่ เขาก็เดินเข้ามาในห้องผ่าตัดพร้อมกับความสงสัยทันใด หลังจากที่เข้ามาในห้องผ่าตัดแล้ว เขาก็กล่าวทักทายทุกๆ คน
ถึงแม้ว่าหลิวเจี้ยนจะยังอายุไม่มาก แต่ชื่อของเขาก็อยู่อันดับต้นของแผนกวิสัญญี ทักษะฝีมือไม่ด้อยไปกว่าระดับหัวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลิวเจี้ยนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้ใหม่ๆ เยอะมาก เขามักจะเข้าร่วมประชุมเชิงวิชาการเพื่อเพิ่มพูนความรู้อยู่เสมอ
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หัวหน้าแผนกวิสัญญีให้ความสำคัญ
เมื่อจางจิ้นเฟิงเห็นหลิวเจี้ยน เธอก็รีบกล่าวว่า “หมอหลิว อีกเดี๋ยวจะมีการผ่าตัด คุณช่วยวางยาสลบให้หน่อยนะคะ”
หลิวเจี้ยนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ได้ครับ ไม่มีปัญหา คำพูดของหัวหน้าจางคือคำสั่ง ลูกผมหัวหน้าจางก็เป็นคนทำคลอดให้ ทุกวันนี้ยังเรียกหาคุณย่าจางทั้งวัน”
เมื่อจางจิ้นเฟิงได้ฟังสิ่งที่หลิวเจี้ยนเล่า ความวิตกกังวลก็คลายลงบ้าง แต่ก็ยังอดถอนหายใจออกมายาวๆ ไม่ได้
หลิวเจี้ยนถามขึ้นว่า “ผ่าตัดอะไรหรือครับ”
จางจิ้นเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ผ่าตัดรักษาหลอดอาหารค่ะ! สาเหตุเกิดจากระหว่างที่ผู้ป่วยคลอดลูก เกิดภาวะความดันภายในช่องท้องสูงขึ้นเฉียบพลัน ทำให้เกิดแรงบีบอัดส่งไปยังกระเพาะอาหาร ทำให้ความดันภายในหลอดอาหารสูงขึ้นกะทันหัน ในขณะเดียวกัน กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารก็เกิดอาการกระตุก และทำให้กล้ามเนื้อหลอดอาหารหดตัว ส่งผลให้ความดันภายในหลอดอาหารกับความดันภายในทรวงอกมีระดับความดันที่แตกต่างกันมากจนทำให้หลอดอาหารฉีกขาด!…
…อาการหนักมากค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าหลี่เป่าซานเชิญผู้เชี่ยวชาญจากที่อื่นมา ก็ต้องทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลแล้ว คุณดูสิ บรรดาหัวหน้าทั้งหมดนี้ ฉันเป็นคนเชิญมาร่วมวินิจฉัยอาการของผู้ป่วย”
หลังจากที่หลิวเจี้ยนได้ฟังเช่นนั้น เขาก็ยิ้มจางๆ “อ้อ จริงด้วยสิครับ หมอเสี่ยวเฉินใกล้จะมาถึงแล้วใช่มั้ยครับ ผมจะได้เตรียมยาสลบ”
หลิวเจี้ยนพูดคำพูดนี้ออกไป ทุกคนต่างก็ถึงกับตกตะลึง
จางจิ้นเฟิงถามด้วยสีหน้างุนงง “อะไรนะ หมอเสี่ยวเฉิน?”
หลี่เป่าซานกับเถามี่ต่างก็สบตากัน และในทันทีหลังจากนั้นก็มองไปที่หลิวเจี้ยน “หมอเสี่ยวเฉินคนนั้น?”
เมื่อเห็นสีหน้าของทุกคน หลิวเจี้ยนก็ถึงกับงุนงง เขาหันไปมองเซียวเหอพร้อมถามขึ้นว่า “หัวหน้าเซียวครับ หรือว่า…คนผ่าตัดไม่ใช่เฉินชาง”
เซียวเหอพยักหน้า “ใช่ครับ หัวหน้าหลี่ติดต่อหัวหน้าเว่ยจื้อโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลแล้ว อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงแล้วครับ”
ทันทีที่หลิวเจี้ยนได้ยินเช่นนั้นก็อดยิ้มกระอักกระอ่วนออกมาไม่ได้ “เชิญเว่ยจื้อมาทำไมกันครับ พวกคุณรู้จักศัลยแพทย์ทรวงอกหนิวเทียนลี่ว์คนนั้นมั้ย คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากเมืองหลวงที่โรงพยาบาลของเราว่าจ้างระยะยาว”
ทำไมทุกคนจะไม่รู้จัก แต่ก่อนที่โรงพยาบาลของเรารับเคสศัลยกรรมทรวงอกได้ก็เป็นเพราะเชิญผู้เชี่ยวชาญท่านนี้มาผ่าตัดให้ไม่ใช่หรือไง
หนิวเทียนลี่ว์เป็นรองหัวแผนกศัลยกรรมทรวงอกโรงพยาบาล 302 แห่งเมืองหลวง แน่นอนว่าไม่ต้องพูดถึงเรื่องระดับฝีมือ
จางจิ้นเฟิงอดถามไม่ได้ว่า “รู้สิคะ แต่หัวหน้าหนิวกลับเข้าเมืองหลวงไปแล้วไม่ใช่หรือคะ ถ้าหัวหน้าหนิวอยู่ พวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องตื่นตระหนกกันขนาดนี้!”
หลี่เป่าซานพยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
ถึงแม้แต่ก่อนแผนกศัลยกรรมทรวงอกจะเป็นแค่โครงการตัวอย่าง แต่ในตอนที่มีหนิวเทียนลีว์อยู่ ก็ช่วยแบ่งเบาความยุ่งยากในกับทุกคนได้ไม่น้อยจริงๆ
แผนกศัลยกรรมทรวงอก แผนกระบบทางเดินหายใจ แผนกศัลยกรรมหัวใจ แผนกระบบทางเดินอาหาร และแผนกฉุกเฉิน แผนกเหล่านี้ล้วนมีความเกี่ยวโยงกันแนบแน่น มีการให้ความเหลือซึ่งกันและกันเสมอ
ในตอนนี้แผนกศัลยกรรมทรวงอกยุบไปแล้ว ในเวลาต่อมาทุกคนต่างก็รู้สึกได้ถึงปัญหายุ่งยากที่ทยอยเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
เซียวเหอรู้สึกได้ชัดเจนที่สุด!
หลิวเจี้ยนกล่าวต่อ “แล้วผมไม่ใช่คนที่วางยาสลบให้กับทุกเคสของหัวหน้าหนิวหรือไงครับ ผมรู้สึกว่าระดับฝีมือในการผ่าตัดรักษาหลอดอาหารของหัวหน้าหลิวยังสู้เฉินชางไม่ได้เลย”
เมื่อหลิวเจี้ยนพูดประโยคนี้ออกไป ทุกคนโดยรอบต่างก็ตกตะลึงจนตาค้างในฉับพลัน!
หลี่เป่าซานรู้สึกว่าตนไม่ใช่คนที่ขาดการติดต่อสื่อสารกับเฉินชาง และไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักเฉินชาง เขาอดกล่าวไม่ได้ว่า “หมอหลิวครับ คุณแน่ใจนะครับว่าเฉินชางที่คุณพูดถึงคือเสี่ยวเฉินแผนกเรา”
คำถามของหลี่เป่าซานทำเอาหลิวเจี้ยนถึงกับหัวเราะ เขาพยักหน้าพร้อมกล่าว่า “ใช่แน่นอนครับ โรงพยาบาลเรามีเฉินชางคนที่สองด้วยหรือครับ…”
“…เมื่อวานนี้หัวหน้าเซียวมีผู้ป่วยรายหนึ่งที่มีภาวะหลอดอาหารทะลุไม่ใช่หรือครับ หมอเสี่ยวเฉินเป็นคนผ่าตัดเคสนี้ ในตอนนั้นผมอยู่ดูตั้งแต่ต้นแต่ต้นจนจบ ไม่คลาดสายตาแม้แต่ขั้นตอนเดียว ฝีมือการผ่าตัดของหมอเสี่ยวเฉินเรียกได้ว่าละเอียดงดงาม!…
…ถึงแม้ว่าหัวหน้าหนิวจะผ่าตัดประเภทนี้ได้อย่างแน่นอน แต่ผมรู้สึกว่าฝีมือผ่าตัดของหัวหน้าหนิวก็ยังไม่ละเอียดงดงามเท่าเสี่ยวเฉิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ซ่อมแซมหลอดอาหาร เสี่ยวเฉินทำด้วยความใส่ใจมาก!…
…เว่ยจื้อ…เขาเชี่ยวชาญในเรื่องของหลอดเลือดใหญ่ในทรวงอก ผมคิดว่าการผ่าตัดรักษาหลอดอาหาร คนของเราก็ทำได้!”
เซียวเหอพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ใช่ครับ เมื่อวานนี้มีผู้ป่วยรายหนึ่งเกิดภาวะหลอดอาหารทะลุ เดิมทีผมคิดจะทำเรื่องย้ายโรงพยาบาล แต่นึกถึงเฉินชางขึ้นมา ก็เลยให้เขามาลองดูว่าทำได้มั้ย ผลคือเขาบอกว่าเขาทำได้ ผมก็เลยให้เขาทำ…
…โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าเขาทำได้ดีมาก ฝีมือไม่ต่างอะไรกับผู้เชี่ยวชาญพวกนั้นเลยสักนิด!”
ในเวลานี้เฉินชางเดินเข้ามาในห้องผ่าตัดพอดี เมื่อเห็นวิสัญญีแพทย์กับบรรดาหัวหน้ายืนเรียงรายกันอยู่ เขาก็รู้สึกเกรงใจเล็กน้อยที่เพิ่งมาถึง
เขายิ้มอย่างเขินอาย “อุ๊ย ทุกคนรอผมอยู่หรือครับ ขอโทษด้วยนะครับ…”