เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 226 หน้ากากอนามัยของนอร์แมนเบธูน
ทันใดนั้นทุกคนก็พบว่าเฉินชางไม่ได้อยู่หน้าเตียงผ่าตัดแล้ว
ไปไหนแล้ว?
เมื่อหันไปดูก็พบว่าเฉินชาง
ถอดถุงมือยางแล้ว ถอดหน้ากากอนามัยแล้ว ในมือถือโทรศัพท์มือถือ
กำลังถ่ายรูป
เฉินชางเองก็อยากรู้ว่าหลังจากที่ผนังชั้นในของถุงซีสต์ไฮดาติดแตกแล้ว พวกพยาธิจะมีรูปร่างหน้าเป็นอย่างไร
สิ่งที่เฉินชางเห็นอยู่ข้างในถุงซีสต์ไฮดาติดที่แตกแล้ว…อืม ช่างยอดเยี่ยม ชวนให้เจริญอาหารมาก แล้วก็คล้ายเส้นใหญ่ต้มสุกในหม้อไฟ แล้วก็เหมือนเส้นใหญ่ลวกสุก…อืม แล้วก็รอบๆ ตรงที่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม คนที่เป็นโรคกลัวรู[1]จะต้องชอบดูมากแน่! เอ๊ะ? เป็นสีชมพู!
เฉินชางเองก็เพิ่งเห็นสิ่งนี้เป็นครั้งแรก เป็นธรรมดาที่จะต้องรู้สึกแปลกใหม่ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปรัวๆ แชะ แชะ แชะ
หมอที่ยืนอยู่ข้างๆ อดถามไม่ได้ว่า “หมอเฉิน คุณทำอะไรหรือครับ”
เฉินชางหัวเราะ “พยาธิที่หาดูได้ยากแบบนี้ คุณไม่ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อยหรือครับ”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกว่ามีเหตุผล
ต่างก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วก็เริ่มถ่ายรูป
กลุ่มพยาบาลที่ยืนอยู่ด้านข้างเก็บเครื่องมือทางการแพทย์เสร็จแล้ว ต่างก็ยืนมองเฉินชาง ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นฮึกเหิม
หมอคนนี้เก่งจังเลย!
ทั้งหล่อทั้งฝีมือดี มีมือสองข้างที่…มีฝีมือล้ำเลิศ!
กลุ่มพยายาบาลต่างก็ยืนมองเฉินชาง แล้วก็อดหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปไม่ได้ “หมอเฉินจิตใจเปี่ยมล้นด้วยความรัก!”
พยาบาลบี “ใช่ๆ หมอเฉินชอบสัตว์ตัวเล็กๆ ใช่มั้ย”
พยาบาลซี “ว่ากันว่าผู้ชายที่รักสัตว์ทุกคนรักภรรยามาก”
หัวหน้าพยาบาล “ใช่น่ะสิ! จะต้องมีผู้หญิงหลายคนมากที่ชอบเสี่ยวเฉิน!”
ทุกคนชะงัก มีตรรกะแบบนี้ด้วยหรือเนี่ย
ทำไมพวกเขาไม่รู้!
เฉินชางหัวเราะด้วยความเขินอาย มีคนเอ่ยชมหลายคนขนาดนี้ แถมยังเป็นผู้หญิงกลุ่มใหญ่ด้วย เขารู้สึกแปลกๆ นิดๆ…อืมมม แต่ก็รู้สึกดีจัง?
แต่จิ่งหรานกลับรู้สึกหวาดกลัว เขามองกลุ่มพยาบาลที่กะพริบตาปริบๆ ให้เฉินชาง ประจบเกินไปหรือเปล่า
จากชอบพยาธิไฮดาติดกลายเป็นชอบสัตว์เล็กไปได้?
จะประจบประแจงทั้งทีใช้สมองหน่อยได้มั้ย!
บ้าผู้ชายก็คือบ้าผู้ชาย…ไม่ต้องทำมาเป็นชื่นชม
จิ่งหรานรู้ว่าพยาบาลประจำห้องผ่าตัดเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญมากในห้องผ่าตัด พยาบาลประจำห้องผ่าตัดเป็นทีมที่มีพลังในการกระจายข่าวที่แข็งแกร่งที่สุด ในฐานะบุคคลที่ทำงานอยู่ในแวดวงศัลยแพทย์ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเธอไว้ ปรองดองเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน! บุคคลเหล่านี้จะมีส่วนช่วยในการป่าวประกาศและกระจายข่าวเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของตนในอนาคตข้างหน้า การรักษาความสัมพันธ์กับพยาบาลประจำห้องผ่าตัดไว้ให้อยู่ในแนวร่วมเดียวกัน ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อความก้าวหน้าในอนาคตของตนมาก!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ จิ่งหรานก็หัวเราะพร้อมกับพูดในสิ่งที่ไม่ตรงกับใจออกไป “ใช่ครับ น่ารักมาก ผมก็ต้องถ่ายรูปเก็บไว้สักหน่อย!”
ขณะที่พูดอยู่นั้น จิ่งหรานก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วเริ่มถ่ายรูป
พยาบาลเอถึงกับชะงัก “หมอจิ่งคะ…รสนิยมแปลกนะคะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะบอกว่าพยาธิน่ารัก!”
พยาบาลบี “รสนิยมของหมอจิ่งเป็นรสนิยมเฉพาะบุคคลมาก!”
พยาบาลซี “อี๋…เห็นแล้วคลื่นไส้”
หัวหน้าพยาบาล “หมอจิ่งสมกับเป็นหมอเฉพาะทางด้านศัลยกรรมทรวงอกจริงๆ เลยนะคะ คิดไม่ถึงว่าจะชอบพยาธิ”
จิ่งหราน...
ผมทำอะไรผิด
ทำไมผมจะต้องทุกข์ทรมานเพียงนี้!
เฉินชางถ่ายรูปพยาธิแปลว่าเป็นคนรักสัตว์เล็ก จิตใจเปี่ยมล้นด้วยความรัก ผมถ่ายรูปพยาธิกลายเป็นคนรสนิยมแปลก จิตวิปริต?
หรือว่าจะต่างกันตรงที่ผมพูดคำว่า ‘น่ารัก’ ออกไป
จิ่งหรานค่อนข้างรู้สึกทำอะไรไม่ถูก
ความยุติธรรมยังมีอยู่หรือเปล่า
กฎหมายบ้านเมืองยังมีอยู่หรือเปล่า!
เขาเป็นถึงนักวิจัยหลังปริญญาเอกเชียวนะ? นักวิจัยหลังปริญญาเอก สถาบันโรคหลอดเลือดหัวใจแห่งชาติสังกัดโรงพยาบาลฟู่ว่าย รองหัวหน้าแผนกโรงพยาบาลตงต้า อนาคตไกลไร้ขีดจำกัด…
เฉินชางเป็น…นักศึกษาปริญญาโทปีหนึ่ง โอเค้?
พวกคุณอย่าวัดคุณค่าของคนจากรูปร่างหน้าตาจะได้มั้ย!
หน้าตาหล่อจะทำอะไรก็ได้หรือไง
จะว่าไปผมก็หล่อมากเหมือนกันนะ?
แค่อย่าไปยืนใกล้กับเฉินชางแค่นั้นแหละ ผมก็เป็นเทพบุตรรูปงามคนหนึ่ง
จิ่งหรานรู้สึกแน่นอกราวกับโพรงเยื่อหุ้มปอดของเขามีอากาศขังอยู่ คงจะเป็นเพราะเขากำลังโมโห
เขารู้สึกว่าตนไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อนานจนเกินไป เขากลัวว่า เกิดตนแน่นอกจนกลายเป็นจุกอกจนหายใจไม่ออกราวกับมีเลือดคั่งอยู่ในโพรงเยื่อหุ้มปอดขึ้นมาจะทำอย่างไร
และเมื่อถึงตอนนั้น ตนต้องนอนซมอยู่บนเตียงผู้ป่วย แล้วคนที่จะเป็นคนผ่าตัดให้ตนก็จะต้องเป็นเฉินชาง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ จิ่งหรานค่อนข้างรู้สึกกระวนกระวายใจ เมื่อถึงตอนนั้นเฉินชางก็โชว์ฝีมือผ่าตัด แล้วพยาบาลก็จะตะโกนชื่นชมว่าหล่อๆๆ ส่วนตนก็คงโมโหจนเป็นบ้า?
ถอดหายใจ
ปวดใจ
…
…
ขั้นตอนต่อไปหลังการรักษาจำเป็นต้องติดต่อครอบครัวของผู้ป่วย แต่ยังให้ผู้ป่วยพักฟื้นหลังการผ่าตัดอยู่ที่แผนกศัลยกรรมทรวงอกของโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลชั่วคราวก่อนได้
การผ่าตัดราบรื่นมาก ทุกคนต่างออกจากห้องผ่าตัดไปแล้ว
เฉินชางเพิ่งจะเดินพ้นประตูห้องผ่าตัด
[ติ๊ง! สังหารมอนสเตอร์ถุงซีสต์ไฮดาติดในปอด lv.51 สำเร็จ
ระดับ +2
ได้รับไอเทมพิเศษ: หน้ากากอนามัยของนอร์แมนเบธูน]
เฉินชางหยุดเดินทันใด
คิดไม่ถึงว่าจะดรอปไอเทมได้ด้วย!
เป็นไอเทมหายาก
หน้ากากอนามัยของนอร์แมนเบธูน ไอเทมสีม่วง
หน้ากากอนามัยนี้เป็นหนึ่งในไอเทมของเซ็ตนอร์แมนเบธูน เดิมทีเฉินชางคิดอยู่ว่าทำไมมอนสเตอร์หายากถึงดรอปของได้ ที่แท้ก็เป็นมอนสเตอร์ที่หายากมาก
[หน้ากากอนามัยของนอร์แมนเบธูน: หนึ่งในไอเทมสำคัญของเซ็ตนอร์แมนเบธูน
คุณสมบัติ:
กรอง +5
ป้องกันการรุกราน +5]
ครั้งนี้ไม่มีคุณสมบัติพิเศษ แล้วก็ไม่มีทักษะอะไร มีแค่ตัวเลขเลเวลที่เพิ่มขึ้นสองหน่วย
เรื่องมีคุณสมบัติกรองอันนี้เข้าใจง่าย แต่ทำไมหน้ากากอนามัยถึงมีคุณสมบัติป้องการรุกรานเพิ่มขึ้นมาด้วยล่ะ
หรือว่า…
ทันใดนั้นเฉินชางก็คิดว่าคุณสมบัติป้องกันการรุกรานนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับโรคติดต่อ
เมื่อเฉินชางคิดถึงการรุกรานที่เชื่อมโยงกับการรักษาพยาบาลได้ ก็มีแต่เรื่องโรคติดต่อ…
เฉินชางคิดว่านี่จะใช่สิ่งนี้หรือเปล่า: เพิ่มพลังป้องกันการรุกราน...จะลดอัตราการติดโรคติดต่อของตนได้
มีความเป็นไปได้สูง!
ถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆ เฉินชางคิดว่าคุณสมบัติป้องกันการรุกรานนี้ค่อนข้างยอดเยี่ยม
อย่างน้อยที่สุด ถ้าว่ากันด้วยเรื่องความปลอดภัยจากโรคติดต่อ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์แล้ว ไอเทมนี้จัดว่าเป็นของดีแน่นอน
น่าปลื้มอกปลื้มใจนัก ได้ไอเทมที่สามของเซ็ตนอร์แมนเบธูน ในที่สุดก็เรียกทักษะร่างแฝงของนอร์แมนเบธูนได้แล้ว
[ติ๊ง! สะสมเซ็ตนอร์แมนเบธูน 3 ไอเทม
พบทักษะพิเศษ: ทักษะร่างแฝงของนอร์แมนเบธูน
คำอธิบายเพิ่มเติม: นอร์แมนเบธูน: lv.99 ศัลยแพทย์ด้านโรคหัวใจระดับปรมาจารย์ มีความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยและรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ เชี่ยวชาญในด้านศัลยกรรมหัวใจเป็นพิเศษ หลังจากใช้ร่างแฝงแล้ว คงอยู่ในร่างแฝงได้ยาวนาน 5 ชั่วโมง เดือนละ 1 ครั้ง]
เฉินชางถึงกับกลืนน้ำลาย แม่เจ้าโว้ย ที่แท้ก็เป็นบิ๊กบอส!
บิ๊กบอส! lv.99 นี่คือ…การจัดระดับเลเวลของหมอระดับประเทศ?
ใกล้จะ lv.100 แล้ว
เจ๋งสุดยอด!
แต่นอร์แมนเบธูนแย่งชิงอะไรไม่ได้ใช่มั้ย
เฉินชางส่ายหน้า
จิ่งหรานเห็นว่าเฉินชางหยุดเดินกะทันหัน เขาก็เลยชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเฉินชางแอบยิ้มมุมปาก เขาก็อดถามไม่ได้ว่า
“หมอเฉิน มีอะไรหรือครับ”
เฉินชางส่ายหน้าพร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “ผมนึกถึงเรื่องน่าดีใจเรื่องหนึ่งน่ะครับ”
จิ่งหรานหัวเราะ “อ๋อ ไหนคุณเล่าให้ฟังหน่อยสิครับ”
เฉินชางพยักหน้า “ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่คิดว่าพยาธิไฮดาติดในปอดเป็นของหายาก เลยอยากจะส่งรูปให้เพื่อนดูหน่อย”
พอพูดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็ส่งข้อความไปหาฉินเยว่
เฉินชาง: [กินข้าวยัง]
ฉินเยว่ตอบกลับมาทันที: [จะเลี้ยงข้าวฉัน?]
เฉินชาง: [คิดเยอะไปแล้ว ผมก็แค่ถามเฉยๆ ว่ากินข้าวหรือยัง]
ฉินเยว่: [ไสหัวไป ฉันกำลังกินข้าว ไม่คุยกับคุณแล้ว อีกเดี๋ยวต้องเข้าเวรดึก!]
เฉินชาง: [อ๋อ! กินข้าวอยู่? กินข้าวอยู่ก็ดี จะส่งรูปให้ดูระหว่างกินข้าว จะได้เจริญอาหาร!]
ฉินเยว่ชะงัก หรือว่าเฉินชางก็กำลังกินอะไรอร่อยๆ อยู่
คนใจร้าย!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ฉินเยว่ก็หัวเราะเย็นชาออกมา: [วันนี้พ่อฉันเข้าครัวทำอาหารเองกับมือ!]
เมื่อฉินเสี้ยวยวนเห็นฉินเยว่ถือโทรศัพท์มือถือ มุมปากเหยียดยกขึ้นขณะที่พิมพ์ตอบข้อความ เขาก็อดกล่าวไม่ได้ว่า “กินข้าวอย่าเล่นโทรศัพท์!”
ฉินเยว่พยักหน้า และในตอนนี้เอง เฉินชางก็ส่งรูปให้ฉินเยว่ หลังจากที่ฉินเยว่เปิดเข้าไปดูแล้ว ทันใดนั้น…
“เชี่ย! พ่อง…!”
คำว่า ‘เชี่ย!’ หนึ่งคำทำเอาฉินเสี้ยวยวนตกใจจนมือสั่น
เนื้อหมูที่เขาเพิ่งคีบขึ้นมาตกลงไปอยู่บนพื้น
เจ็บปวด!
แพงมาก!
ฉินเยว่มองกับข้าวที่วางอยู่ตรงหน้า จู่ๆ ก็รู้สึกไม่ค่อยเจริญอาหาร
รู้สึกว่ากับข้าวที่เพิ่งคีบใส่ปากไปเมื่อครู่นี้มีรสชาติแปลกๆ!
เมื่อฉินเสี้ยวยวนได้ยินคำว่า ‘เชี่ย’ กับคว่า ‘พ่อง…!’ สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมทันใด ถลึงตาจ้องฉินเยว่ อดตำหนิเสียงดังไม่ได้ “ฉินเยว่ เป็นสาวเป็นนาง ลูกสบถอะไรออกมา มีมารยาทบ้างมั้ย!”
เมื่อคุณแม่ของฉินเยว่เองก็มองฉินเยว่ทีหนึ่ง “อยู่ดีๆ ทำไมสบถอะไรแบบนี้ออกมา ไหนดูอะไรอยู่”
ขณะที่พูด คุณแม่ของฉินเยว่ก็หยิบโทรศัพท์ของฉินเยว่ขึ้นมาดู ทันทีที่ได้เห็นภาพที่เกินจะบรรยายออกมาด้วยคำพูด เป็นภาพที่ทำให้ความรู้สึกคลื่นไส้จู่โจมทันใด “อี๋ แหวะ แม่ไปเข้าห้องน้ำนะ”
ฉินเสี้ยวยวนชะงัก จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เปลือกตาของเขากระตุกทันใด!
นี่…นี่..นี่มันอะไรกันเนี่ย
น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ!
กำลังกินข้าวกันอยู่ ดันส่งรูปพยาธิมาให้ดู!
จะต้องกล่าวว่าฉินเสี้ยวยวนมีความเป็นหมอมืออาชีพมาก แค่แวบแรกที่เห็นก็รู้เลยทันทีว่าเป็นพยาธิ แต่…ดูไปดูมา อาหารมื้อนี้ไม่อร่อยอีกต่อไปแล้ว!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินเสี้ยวยวนก็รู้สึกเซ็ง กว่าจะเข้าครัวทำอาหารสักมื้อได้ ผลคือเจอรูปพยาธิทำลายช่วงเวลาแห่งความอร่อยซะงั้น!
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง ชื่อผู้ส่งคือ “เฉินชาง!”
[1] โรคกลัวรู (Trypophobia) เป็นโรคที่รู้สึกเกลียดกลัวเมื่อเห็นอะไรก็ตามที่เป็นรู ทั้งรูปกติและรูที่รวมตัวกันเป็นกระจุก ทั้งที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่มนุษย์ทำ และเกิดขึ้นตามธรรมชาติ