เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 231 ศึกแห่งเกียรติยศ!
แผนกฉุกเฉินเป็นแผนกที่แปลกจริงๆ ไม่ว่าจะโรคอะไร อาการแบบไหนก็มีหมด แม้แต่หัวหน้าหลี่เป่าซานผู้ฝึกวรยุทธ์มาจนช่ำชองยังไม่กล้ากล่าวว่าตนรับมือผู้ป่วยได้ทุกรูปแบบ
เช้าตรู่เวลาเจ็ดโมงกว่า เป็นช่วงเวลาที่มีผู้ป่วยพอสมควร ช่วงเวลานี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นวัยหนุ่มสาว ผู้ป่วยที่เร่งรีบไปเรียนไปทำงานแล้วไม่ระมัดระวังเลยประสบอุบัติเหตุ
ไม่ก็เป็นผู้ป่วยที่ปวดฟันจนทนไม่ไหว
เฉินชางพบปัญหาหนึ่งว่าช่วงนี้ดูเหมือนว่าใบหน้าของเขาจะหมองคล้ำมาก เข้าเวรดึกทีไร ผู้ป่วยเยอะทุกทีไป ครั้งที่แล้วที่เข้าเวรดึกแทนหวังหย่ง ผู้ป่วยเยอะมาก พอมาวันนี้ตนเข้าเวรดึก ผู้ป่วยก็เยอะมากอีกแล้ว
ถ้าผู้ป่วยลดน้อยลงสักหน่อยจะดีขนาดไหนนะ
บ้านเมืองสงบสุข ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ทุกครอบครัวรักใคร่กลมเกลียว มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ถ้าเป็นเช่นนี้ตนก็นอนหลับได้อย่างสงบสุขไร้กังวล ไม่แน่ว่าหลังเลิกงานในเช้าวันรุ่งขึ้น ตนยังมีเรี่ยวแรงเล่นเกมส์ออเนอร์ ออฟ คิงส์ (Honor of kings)[1] ต่อได้
หลังจากที่รักษาผู้ป่วยช่วงเช้าเสร็จ เฉินชางก็ง่วงจนทนไม่ไหวแล้ว ก็เลยกลับไปที่ห้องเวร แล้วเอาน้ำเย็นล้างหน้าสักหน่อยเพื่อให้ตนรู้สึกสดชื่นขึ้น
เฉินชางเพิ่งจะเดินพ้นประตูออกมาก็เจอฉินเยว่กำลังเดินแกว่งแขนก้าวเท้ายาวๆ ตรงไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อ
นัยน์ตาของเฉินชางเปล่งประกายในทันใด เขาดึงตัวฉินเยว่เข้ามาในห้องเวรทันที แล้วก็ปิดประตูเสียเลย!
จากนั้นก็ต้อนฉินเยว่จนติดมุมกำแพงด้วยท่าทางที่ดูโหดร้าย มือข้างซ้ายวางทาบลงบนผนังกำแพงข้างศีรษะฉินเยว่ นัยน์ตาของเขาหรี่ลง เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ดุร้ายราวกับโกรธแค้นฝังใจ!
“แหม เมื่อคืนนี้นอนหลับสบายเลยสินะ”
เมื่อฉินเยว่เห็นสถานการณ์เช่นนี้ เธอก็ฝืนยิ้มออกมา “อืม หลับสบายมาก”
เฉินชางทำเสียงเชอะออกมา “ว่ามา จะให้ทำแบบไหน”
ฉินเยว่ชะงัก เธอมองเฉินชางตาปริบๆ ส่งสายตาวิงวอนด้วยความน่าสงสารยิ่งนัก “มาขนาดนี้แล้ว ตามที่คุณต้องการ...”
เฉินชางพลันตกตะลึง ทำไมตรงกันข้ามกับสิ่งที่คิดไว้
ฉินเยว่จะต้องคิดว่าตนไม่กล้าทำแน่ๆ คิดอย่างงั้นรึ?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็หัวเราะชั่วร้ายออกมา แล้วใช้นิ้วชี้ข้างขวาช้อนคางฉินเยว่ขึ้นเบาๆ จากนั้นก็เป่าลมใส่หน้าฉินเยว่ “งั้นผมไม่เกรงใจละนะ!”
เขาอยากจะรู้นักว่าฉินเยว่จะยืนหยัดแสดงละครต่อไปได้ถึงเมื่อไหร่
เขาเห็นแค่ว่าในตอนนี้ใบหน้าของฉินเยว่แดงระเรื่อ หลับตาปี๋ ขนตาที่งอนยาวสั่นระริก แม้แต่ขาข้างขวายังกระดกขึ้นเล็กน้อย…
ฉิบแล้ว เห็นได้ชัดว่ากำลังฟิน...!
วิธีนี้จะไม่ทำให้ตนต้องติดกับยัยฉินขี้ประจบงั้นรึ
หรือว่าจะปล่อยให้เรื่องมันแล้วกันไป?
ไม่ได้!
ถ้าไม่สั่งสอนให้ยัยฉินขี้ประจบสักหน่อย เธอก็จะไม่รู้ว่าเขาดุขนาดใหญ่!
เฉินชางรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ!
เขารู้ดีว่านี่คือการประลองสภาพจิตใจระหว่างเขากับเธอว่าใครจะแกร่งกว่ากัน!
แล้วก็เป็นการดวลหนังหน้าระหว่างเขากับเธอด้วยว่าหน้าใครจะทนมากกว่ากัน!
ณ เวลานี้ไม่มีถูกผิด!
มีแต่แพ้ชนะ!
ตอนนี้เฉินชางรู้สึกปวดใจดั่งมีดทิ่มแทง เขารู้สึกได้ถึงคลื่นไฟฟ้าหัวใจของตนเองที่ปรากฏให้เห็นค่า P wave สูงผิดปกติ จังหวะการเต้นของหัวใจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวะการหดตัวของหัวใจช่องล่างกระชั้นถี่ หัวใจเต้นเร็วขึ้นมาก เฉินชางรู้ว่านี้คือภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ…
แต่เขามั่นใจว่าไม่ใช่หัวใจหวั่นไหว! ไม่ใช่แน่…
ก็แค่ตื่นเต้นก็เท่านั้นเอง
เฉินชางรู้สึกได้ถึงลมหายใจอันหอมละมุนที่ผ่านออกมาทางจมูกของฉินเยว่
กลิ่นที่เขารู้จักดีมาก ดูถูก เหยียดหยาม เย้ยหยัน
ถ้าจะต้องอธิบายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูด งั้นก็จะต้องกล่าวว่า…
คุณ…คุณมานี่!
ในตอนนี้เขาเข้าใจความหมายของประโยคนี้ดี
ในเวลานี้ตน…ตนไม่ได้รู้สึกแบบนี้งั้นหรือ
เฉินชางกัดฟันตัดสินใจแน่วแน่ ตะโกนก้องในใจด้วยความเดือดดาลว่า สู้โว้ย!
ทนต่อไปไม่ได้แล้ว!
เฉินชางยืนหยัดแน่วแน่!
ถ้าไม่สำเร็จก็ต้องพลีชีพ!
และในตอนนี้เอง ตอนที่เฉินชางตัดสินแน่วแน่แล้วว่าจะจูบฉินเย่ว
ทันใดนั้น…แอ๊ด เสียงประตูถูกเปิดออก
หลังจากที่หลี่เป่าซานเดินเข้ามาด้านในแล้ว ทันใดนั้นเขาก็เห็นฉากนี้เข้า
เป็นฉากที่ชวนให้ประหลาดใจ!
หลี่เป่าซานกระแอมออกมาสองที กล่าวพึมพำตนเอง “เอ๊ะ? ผมวางกุญแจไว้ไหนนะ”
ขณะที่กล่าวอยู่นั้น หลี่เป่าซานจ้องมองเพดาน ไม่กล้าลดระดับสายตาลงมา เขากล่าวพลางขมวดคิ้ว มือทั้งสองข้างคลำกระเป๋าเสื้อ เหมือนว่ากำลังหากุญแจอยู่จริงๆ
แต่คุณเปิดประตูเข้ามาแล้วชัดๆ คุณจะหากุญแจอะไรอีก!
เวลาที่คุณจะโกหก คุณจะโกหกแบบขอไปทีไม่ได้
หลังจากที่พูดกับตนเองจบ หลี่เป่าซานก็ถอนหายใจออกมาอีกหนึ่งที “อืม น่าจะอยู่ที่ห้องทำงาน! ลองไปดูสักหน่อย ตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงสี่สิบ...อืม ยังเหลือเวลาอีกยี่สิบนาทีกว่าจะถึงเวลาเปลี่ยนเวร เวลาน่าจะมากพอ! ผมไปซื้ออาหารเช้าด้วยเลยแล้วกัน”
หลังจากที่พูดกับตนเองอยู่นานสองนาน หลี่เป่าซานก็ปิดประตูหันหลังเดินจากไป
เฉินชางอยากจะไปถามหัวหน้าหลี่สักหน่อยว่า ‘ยังเหลือเวลาอีกยี่สิบนาทีกว่าจะถึงเวลาเปลี่ยนเวร’ หมายความว่าอะไร
‘เวลาน่าจะมากพอ’ หมายความว่าอะไร
กำลังดูถูกใครกัน!
จังหวะที่เฉินชางกำลังเตรียมพร้อม ทันใดนั้นฉินเยว่ก็ปลีกตัวออกแล้วเดินจากไป พร้อมกล่าวลอยๆ ทิ้งท้ายว่า “เฮ้อ!…เหงาจัง…”
หลังจากพูดจบ เธอก็ส่ายหน้าแล้วเดินคอตกไปตรงไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผู้หญิง แสร้งทำเป็นรู้สึกเซ็ง แต่ในใจกลับกระหยิ่มยิ้มย่อง แถมยังชูนิ้วชี้ข้างขวาส่ายไปส่ายมา
เฉินชางกำหมัดแน่น ถ้าเขาไว้เล็บยาว เล็บของเขาจะต้องจิกเข้าไปในเนื้อแน่ ขาดก็แค่เลือดที่ไหลออกมา!
เฉินชางยืนกัดฟันกรอดอยู่กับที่ สายตาเต็มไปด้วยความเดือดดาล!
ยัยฉินขี้ประจบ คุณมันยัยไม้กระดานของแท้!
คุณคอยดูวันข้างหน้าเถอะ!
วันนี้โชคเป็นของคุณ แต่ต้องมีวันที่โชคเข้าข้างผม!
คุณคอยดูเถอะ!
ต้องมีสักวันที่ผมจะทำให้คุณต้องคุกเข่าร้องเพลงยอมรับความพ่ายแพ้!
และบทเพลงที่คุณร้องจะเป็นบทเพลงที่ผมเขียนเอง!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็รู้สึกว่าฉินเยว่สร้างความอับอายให้เขา
ไม่ใช่สิ มันคือการดูถูกเหยียดหยาม…
ไม่สิไม่ใช่ ต้องใช้คำว่าสร้างความอัปยศ…
ไม่ยังตรงกับความรู้สึก ควรจะใช้คำว่าการผสมผสานระหว่าง…ความอับอาย ความอัปยศ ความอดสูเข้าด้วยกัน
ครอบคลุมความรู้สึก!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็รู้สึกว่าความอาฆาตแค้นของเขาทวีคูณยิ่งขึ้น
จะต้องล้างแค้นให้ได้!
เมื่อเห็นว่าใกล้จะแปดโมงตรงแล้ว เฉินชางก็หยิบเสื้อกาวน์เดินตรงไปที่ห้องทำงาน
เฉินชางที่เดิมที่ง่วงจนตาจะปิด จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตนมีกำลังวังชาไปทั้งตัว
เขาจะต้องกำจัดยัยฉินตัวร้ายนี้ให้ได้!
ตอนนั้นเอง หลี่เป่าซานก็เดินช้าๆ เข้ามาในห้อง เขากวาดตามองทุกคน “เริ่มเปลี่ยนเวร”
เมื่อเฉินชางเห็นหลี่เป่าซานเดินเข้ามา เขาก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ไม่รู้ว่าทำไมถึงมีความรู้สึกเขินอายจน…จนหน้าแดง
เขาก็เลยแอบหันไปมองฉินเยว่ทีหนึ่ง แล้วเขาก็พบว่า ดูเหมือนว่าฉินเยว่จะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลย สงบสุขุม สบายใจไร้กังวล!
….เหอะ…ผู้หญิงคนนี้จิตใจโหดเหี้ยมเกินคน!
เฉินชางเกิดลังเลใจ เป็นศัตรูกับคนที่น่ากลัวแบบนี้เป็นความคิดที่ไม่ดีสักเท่าไหร่หรือเปล่านะ
หรือตนจะเป็นฝ่ายยอมรับผิด?
เลี้ยงข้าวเธอสักมื้อ ลงนามกฎสันติภาพ?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางลืมความรู้สึกอัปยศทั้งหมดในใจไป ถึงอย่างไรเสียศัตรูก็แข็งแกร่งมากจนเกินต้าน แถมหน้าอกเล็กมากด้วย!
ช่างเถอะ ช่างเถอะ…
หลังจากเปลี่ยนเวรและออกมาจากแผนกฉุกเฉินแล้ว เฉินชางคิดไปคิดมาก็ตัดสินใจว่าจะกลับบ้านไปนอน ต่อให้เป็นชายชาตรีที่แข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่อาจต้านทานความเหนื่อยล้าจากการเข้าเวรดึกของแผนกฉุกเฉินได้
แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆ หลี่เป่าซานถึงได้เรียกเฉินชางเอาไว้ “เสี่ยวเฉิน?”
เฉินชางพยักหน้า “ครับหัวหน้า คุณเรียกผม?”
หลี่เป่าซานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “เอ่อ…พักผ่อนให้เต็มที่นะครับ!”
เฉินชาง…
นี่คุณดูถูกใครอีกแล้ว!
[1] เกมส์ออเนอร์ ออฟ คิงส์ (Honor of kings: 王者荣耀) เกมสัญชาติจีน