เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 233 หนึ่งวินาทียาวนานแค่ไหนกันแน่
เฉินชางรู้สึกว่าการเป็นระบบที่มีมโนธรรมควรจะคิดแทนผู้เล่นให้รอบด้านเสมอ
ในตอนแรกหลังเย็บเส้นเอ็นสำเร็จหนึ่งเคสก็จะมีภารกิจปรากฏขึ้นสามภารกิจ จนกระทั่งตอนนี้ภารกิจเริ่มมีการลดวัสดุและขั้นตอนในการเย็บเส้นเอ็นแต่ละเคส จัดว่าเป็นพฤติกรรมที่ไร้จรรยาบรรณ
เฉินชางมองประสบการณ์ในการผ่าตัดมือเย็บเส้นเอ็นสำเร็จห้าร้อยเคสของตนเองด้วยความปลื้มอกปลื้มใจ จู่ๆ เขาก็รู้สึกตั้งตาคอยขึ้นมา
ถ้าทำภารกิจสำเร็จพร้อมกันสองภารกิจในเวลาเดียวกัน รางวัลที่ได้จะเป็นอะไรนะ
หนังสือ ‘เข็มทิศเวชศาสตร์ฟื้นฟูเส้นเอ็น’ จัดว่าเป็นของรางวัลที่ไม่เลว เพราะเป็นองค์ประกอบสำคัญของเวชศาสตร์การกีฬา[1]
เฉินชางรู้สึกว่าไอเทมชิ้นนี้เป็นไอเทมที่ส่งเสริมความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้า!
เฉินชางกดเปิดหน้าจอเสมือนอย่างระมัดระวัง เปิดภารกิจที่ยังไม่สำเร็จ เมื่อมองดูภารกิจต่างๆ นานาจำนวนมาก จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าความรู้สึกฮึกเหิมและมุ่งมั่นท่วมท้นไปทั่วทั้งตัว
คิดไม่ถึงว่าเฉียนหลินกับจิ่งหรานจะเพิ่มภารกิจในตนได้มากมายหลากหลายขนาดนี้
จู่ๆ เฉินชางก็ค่อนข้างรู้สึกเสียดายช่วงเวลาในอดีตหลายปีที่ผ่านมา ทำไมตนถึงมีเกิ่งเหยียนเป็นแฟนเก่าแค่คนเดียว ตนน่าจะลองคบคนอื่นอีกสักสองสามคน เหตุผลไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด แต่เพื่อจะได้มีบุคคลที่จะมาเป็นผู้ดึงดูดภารกิจอันหวานหอมเหล่านั้นมาให้!
เฉินชางมองภารกิจที่ปรากฏอยู่เต็มหน้าจอเสมือน จากนั้นเขาก็เริ่มเลือกภารกิจ และไล่ทำไปทีละภารกิจจนสำเร็จ!
ในตอนนี้ยังไม่ต้องคิดเรื่องรางวัลจากการแข่งขัน ช่วงนี้อย่างไรก็ยังไม่มีการแข่งขันอะไรทั้งสิ้น และยังไม่มีการพิจารณาคัดเลือกผู้ได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลด้วย การแข่งขันระดับประเทศก็ยังไม่มีข่าวคราว
ส่วนเรื่องชื่อเสียงเกียรติยศ…เรื่องนี้ปัญหาไม่เล็กไม่ใหญ่ หัวหน้าจางโหย่วฝูบอกกับตนว่าต้องการเชิญชวนตนให้เข้าร่วมสมาคมศัลยแพทย์ด้านตับและถุงน้ำดีของมณฑลตงหยาง แต่จะเป็นสมาชิกชมรมได้หรือเปล่านั้น เรื่องนี้พูดยาก...
เป้าหมายด้านงานวิจัยอีกไม่นานก็สำเร็จแล้ว แค่รอให้บทความของตนได้ตีพิมพ์ลงบนวารสาร ‘ปลูกถ่ายตับ’ ชัยชนะก็อยู่ไม่ไกล!
เป้าหมายด้านรายได้ก้าวที่หนึ่งคือระดับสองล้านหยวน ในตอนนี้เฉินชางประเมินว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของตนมีอยู่หนึ่งล้านหยวน ยังขาดอีกครึ่งหนึ่งก็จะถึงเป้าหมายแล้ว! แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เสริมหน้าอกอีกสักสองสามเคส ศัลยกรรมความงาม ไม่นานก็ถึงเป้าหมาย ไปที่คลินิกสุดสัปดาห์นี้จะต้องตกลงกับจางจื้อซินให้เรียบร้อย เอาสัญญาที่ตนร่างขึ้นให้เขาเซ็น จากนั้นก็ติดต่อกับหยางเทา ให้หยางเทาแขวนชื่อตนในคลินิก ติดป้ายระบุราคาให้ชัดเจน แล้วก็หาลูกค้าเศรษฐินีเพิ่มอีกสักหน่อย
ส่วนเรื่องแฟนสาว…
จู่ๆ เฉินชางก็นึกไอเดียดีๆ ขึ้นมาได้ไอเดียหนึ่ง!
ภารกิจระบุไว้แค่ว่าให้มีแฟนนิสัยดีคนหนึ่ง ไม่ได้มีข้อกำหนดว่าต้องคบกี่นาทีสักหน่อย
ตนมีช่วงเวลาแห่งรักที่ตราตรึงใจได้ ถึงแม้จะเป็นความรักจอมปลอมที่มีระยะเวลาแค่หนึ่งวินาทีก็เถอะ!
แม้แต่ความรักก็ซื้อได้ด้วยเงิน!
เฉินชางมองฉินเยว่ที่นั่งบันทึกประวัติผู้ป่วยอยู่ตรงนั้น ระบบกำหนดแค่ว่านิสัยดี ไม่ได้กำหนดว่าคัพเล็กคัพใหญ่?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็ตัดสินใจเลือกฉินเยว่เป็นตัวเลือกสำหรับบรรลุภารกิจนี้
เฉินชางลุกขึ้นเดินร่าเริงไปหาฉินเยว่ “ฉินเยว่ ฉินเยว่”
ฉินเยว่จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างไม่ละสายตา “ว่า…”
เฉินชาง “อืม” พร้อมพยักหน้าแล้วก็ถามว่า “คุณว่าผมเป็นไง”
ฉินเยว่ “ก็ไม่เป็นไง”
เฉินชาง “ตอบดีๆ ตั้งใจตอบ ตอบตามความจริง!”
ฉินเยว่กลอกตามองบน แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก นับตั้งแต่วันนั้นที่เฉินชางส่งรูปพยาธิไฮดาติดมาให้เธอตอนรับประทานอาหาร เธอก็เตรียมพร้อมบล็อกเฉินชางทุกเวลา
เฉินชางไม่รู้สึกว่าตนกำลังรบกวนฉินเยว่ “อย่าทำแบบนี้ ให้โอกาสผมสักครั้ง แล้วก็เป็นการให้โอกาสสักครั้งกับตัวคุณเองด้วย ผมจะเป็นแฟนคุณหนึ่งวินาทีเป็นไง”
ฉินเยว่ชะงัก มองเฉินชางด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความรู้สึกเหลือเชื่อ “เป็นแฟนกันแค่หนึ่งวินาทีเนี่ยนะ หนึ่งวินาทีเพื่ออะไร เฉินชาง คุณ (เสร็จ) ไวเกินไปหรือเปล่าเนี่ย!”
จู่ๆ เสียงของฉินเยว่ก็ดังขึ้น ทำให้เฉินชางถึงกับซวนเซ หวังเชียน สือน่า หวังหย่ง หัวหน้าพยาบาลที่อยู่รอบๆ ห้องต่างก็หันมามองเฉินชางอย่างพร้อมเพรียงกัน สายตาเต็มไปด้วย…ความเจ็บปวด!
เฉินชางรู้สึกมึนตึบในทันใด!
เขารีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ “ทุกคนเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น!”
…
เฉินชางมองฉินเยว่ ดูแล้วภารกิจนี้คงต้องเลื่อนไปก่อน
ผู้ชายจะต้องการความรักไปทำไมกัน
ผู้ชายควรให้ความสำคัญกับหน้าที่การงาน
เย็บเส้นเอ็นห้าร้อยเคสจะว่ายากก็ไม่ยาก จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย
เป็นหมอแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลรัฐมีข้อได้เปรียบอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือทรัพยากรมากเพียงพอ
ศูนย์ฉุกเฉิน 120 วิ่งวุ่นกันอยู่ทุกวัน จำเป็นต้องช่วยผู้ป่วยจำนวนมาก ไม่ต้องต้องกลัวเลยว่าแผนกฉุกเฉินของคุณจะขาดแคลนทรัพยากรผู้ป่วย แต่สิ่งที่ต้องกลัวคือ ต้องกลัวว่าแผนกฉุกเฉินของคุณจะไม่มีศักยภาพ
ปกติตอนที่ยังไม่ได้ประกาศให้ทุกคนทราบ ในแต่ละวันเคสเย็บเส้นเอ็นมีราวแปดถึงสิบเคส ในตอนนี้ตั้งใจประกาศให้ทุกคนทราบเป็นพิเศษก็คงจะมีจำนวนเคสเพิ่มขึ้นไม่น้อย
ที่โรงพยาบาลอันดับสองไม่มีแผนกศัลยกรรมมือ เวลามีเคสก็จะเชิญโรงพยาบาลอู๋จวี๋ออร์โทพีดิกส์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเข้ามาช่วยเป็นครั้งคราว
โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจได้อย่างทะลุปรุโปร่งและเฉียบแหลม มองเห็นสิ่งที่โรงพยาบาลแห่งอื่นที่อยู่ใกล้กันยังขาดแคลน พวกเขาลงมือสั่งเครื่องมือเฉพาะทางกับอุปกรณ์ศัลยกรรมมือมา และก่อตั้งแผนกศัลยกรรมมือขึ้น
แต่แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็ย่อมสูงกว่าโรงพยาบาลรัฐไม่น้อย แต่ธุรกิจก็ดีจริงๆ ผลกำไรก็ดีมากด้วย
แต่เฉินชางก็ยังสงสัยมากว่าสาเหตุที่แท้จริงที่โรงพยาบาลอันดับสองไม่ก่อตั้งแผนกศัลยกรรมมือเป็นเพราะคนไม่พอหรือเพราะอะไรกันแน่
ถึงขั้นที่เขาคาดเดาว่าจะเป็นเพราะเถ้าแก่โรงพยาบาลเอกชนกับผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลอันดับสองมีความลับอะไรระหว่างกันที่ไม่อาจบอกใครได้หรือเปล่า
แต่เรื่องพวกนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเฉินชางมากนัก
เฉินชางเพิ่งจะคิดมาถึงตรงนี้ พยาบาลที่อยู่ด้านนอกก็ส่งเสียงเรียก
เฉินชางลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไป บรรยากาศในห้องทำงานกดดันเกินไป สู้ออกไปทำภารกิจก็ไม่ได้
สิ่งที่เฉินชางเห็นคือชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีขาวยืนอยู่หน้าแผนกฉุกเฉิน ในมือซ้ายพันด้วยกระดาษชำระหลายชั้น สีหน้าร้อนรน
“คุณหมอครับ! เย็บเส้นเอ็นกี่หยวนครับ”
เมื่อเห็นว่าเฉินชางเดินออกมา คำถามนี้ก็เป็นคำถามแรกที่ผู้ป่วยรายนี้ถามเฉินชาง
ทำเอาเฉินชางถึงกับชะงักเล็กน้อย “ต้องวิเคราะห์อาการก่อนนะครับ ตามผมมาครับ ให้ผมดูก่อนว่าหนักแค่ไหน”
ชายคนนี้น่าจะเป็นพ่อครัว ตอนที่วิ่งเข้ามาหาเฉินชาง เนื้อตัวของเขามีกลิ่นอาหารติดมาด้วย
ชายวัยกลางคนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่ใช่ครับ…ถ้าแพงผมก็จะ…”
เฉินชางส่ายหน้า “เราดูอาการกันก่อนแล้วค่อยว่ากันครับ การเย็บเส้นเอ็นมีหลายรูปแบบมากครับ อีกทั้งในตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าบาดเจ็บไปถึงเส้นประสาทหรือเปล่า”
ชายวัยกลางคนตัดสินใจเดินตามเฉินชางเข้าไปในห้องตรวจ หลังจากที่เฉินชางแกะกระดาษชำระที่ห่อมือซ้ายของผู้ป่วยออกแล้ว บาดแผลก็ปรากฏสู่สายตาของเฉินชางอย่างช้าๆ นิ้วชี้ท่อนกลางมีรอยมีดเฉือนอย่างเห็นได้ชัด
ชายวัยกลางคนแยกเขี้ยวยิ้ม “ตอนสับเนื้อสับโดนมือเข้า โชคดีนะครับที่ผมยั้งแรงไว้พอดี ไม่งั้นนิ้วผมขาดไปแล้ว”
เฉินชางพยักหน้า เขาใช้น้ำเกลือล้างแผลให้ก่อนหนึ่งรอบ จากนั้นก็ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ฆ่าเชื้ออีกที หลังจากล้างแผลแล้วก็ทำให้เห็นบาดแผลชัดเจนขึ้นเพราะจะไม่โดนเลือดไหลออกมาเคลือบไว้ หลังจากนั้นเฉินชางก็ใช้แหนบเปิดดูแผลเล็กน้อยทันที
บาดแผลกลับไม่ได้สาหัสอย่างที่คิด ก็แค่กล้ามเนื้อเอ็กเทนเซอร์[2] โดนตัดขาดครึ่งหนึ่ง หลอดเลือดได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่สิ่งนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ประเด็นสำคัญในตอนนี้คือเส้นเอ็นได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัส
เฉินชางประมาณการคร่าวๆ แล้วกล่าวว่า “ค่ารักษารวมค่ายาอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันหยวนครับ”
เมื่อชายวัยกลางคนได้ยินเช่นนั้น เขาก็ตกใจจนชักมือกลับ “โอ้โห แพงไปหรือเปล่าครับคุณหมอ เย็บแผลตั้งพันกว่าหยวน ไม่ไหวๆ ผมไม่เย็บที่นี่แล้วครับ พบไปไปคลินิกเล็กๆ เย็บให้ก็ได้ครับ…
…แต่ยังไงก็ขอบคุณคุณหมอมากนะครับที่ล้างแผลให้ผม อ้อ จริงด้วย ผมขอผ้าก๊อซสักสองม้วนได้มั้ยครับ”
เฉินชางยังคงอธิบายด้วยความใจเย็น “ความจริงแล้วการเย็บเส้นเอ็นกับการเย็บแผลทั่วไปต่างกันมาก เหตุผลที่คลินิกเล็กๆ ค่ารักษาถูกเพราะวัสดุที่ใช้ในการรักษาต่างกัน เรื่องค่าหมอยังคุยกันได้ แต่ค่ารักษาหลักคือไหมที่ใช้เย็บเส้นเอ็นมีราคาที่แตกต่างกัน…
…สำหรับการเย็บเส้นเอ็น เราแนะนำให้ใช้เข็มที่มีขนาดเล็กระดับไมโครกับไหมโพรลีพรอพิลีน เพราะเข็มขนาดเล็กจะก่อให้เกิดปฏิกิริยากับร่างกายคนน้อย ส่วนไหมเย็บแผลชนิดที่แนะนำนี้มีสารเคลือบที่ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียไว้หนึ่งชั้น ทั้งยังช่วยให้เส้นเอ็นยึดสมานกันได้ดีขึ้น อีกทั้งยังป้องกันการเกิดพังผืด จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานของนิ้วมือในอนาคตข้างหน้า…
…ทั้งหมดนี้ก็เพราะผมมองถึงสมรรถภาพใช้งานของนิ้วมือคุณในอนาคตข้างหน้า ไม่ใช่มาพูดเพื่อบอกให้คุณต้องจ่ายเงินแพงๆ”
[1] เวชศาสตร์การกีฬา (Sport medicine) สาขาวิชาที่มุ่งเน้นการป้องกันและรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการออกกำลังกายหรือกีฬา
[2] กล้ามเนื้อเอ็กเทนเซอร์ กล้ามเนื้อส่วนที่ทำให้ร่างยืดเหยียดออกได้