เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 239 มอนสเตอร์แผลเป็นระดับบอส
หลังจากที่ผู้หญิงทั้งสามคนออกมาจากห้องติดตามผลที่ฟู่อวี้หลานอยู่แล้ว ใบหน้าของพวกเธอก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความฮึกเหิมกับความตื่นเต้นดีใจ
ผลลัพธ์ชัดเจนมาก พวกเธอสนใจ!
เดิมทีแค่มาสืบราคากับเพื่อนว่าเสริมหน้าอกราคาเท่าไหร่ ผลคือหลังจากที่ทราบว่าราคาอยู่ที่หลักล้าน พวกเธอต่างก็อยากรู้ว่าเสริมหน้าอกราคาหนึ่งล้านผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร
ผลคือในเวลานี้ หลังจากที่ทั้งสามคนได้เห็นรูปภาพก่อนทำของฟู่อวี้หลานและเปรียบเทียบกับหลังทำแล้ว พวกเธอก็ถึงกับตกตะลึงตาค้างในทันใด!
แตกต่างจากก่อนทำมากจริงๆ สวยจังเลย!
ของเก่ากับของใหม่ช่างแตกต่างกันมากเหลือเกิน!
แน่นอนว่าฟู่อวี้หลานมีรูปร่างดีมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะถึงอย่างไรเสีย นักเต้นรำย่อมฝึกฝนร่างกายอยู่เป็นประจำ หลังจากที่ศัลยกรรมเสริมหน้าอกแล้วก็ยิ่งทำให้ดูงดงามมากยิ่งขึ้นอีก
อืม…รีวิวจากลูกค้าได้ผลดี!
แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ก็คือความเปลี่ยนแปลงหลังทำของฟู่อวี้หลาน เป็นผลลัพธ์ที่ทำให้แววตาของทุกคนเปล่งประกายจริงๆ ราวกับว่าเธอได้มอบความหวังให้กันคนเหล่านั้น
ฟู่อวี้หลาน ฟู่อวี้ฟาง กับผู้หญิงสามคนนั้นต่างก็พูดคุยกระหนุงกระหนิงด้วยความรู้สึกตื่นเต้นดีใจในห้องติดตามผล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ทั้งสามคนนั้นรู้ว่าใบหน้าของฟู่อวี้ฟางผ่านการศัลกรรมมาก่อน พวกเธอก็ยิ่งตะตะลึง
ผู้หญิงกับผู้หญิงด้วยกันกลายเป็นเพื่อนกันได้ง่ายมาก แค่อยากได้เครื่องสำอางรุ่นเดียวกันก็คุยกันถูกคอแล้ว
ด้วยเหตุนี้หลังจากที่ฟู่อวี้ฟางเอารูปก่อนและหลังทำศัลยกรรมของตนในโทรศัพท์มือถือให้พวกเธอดู หัวใจของผู้หญิงสามคนนั้นก็เต้นโครมๆ ทันใด!
ทำ!
ต้องทำ!
ปกติแล้วในแต่ละปีทั้งสามคนก็จ่ายค่าบำรุงรักษาสุขภาพไม่ใช่ถูกๆ อยู่แล้ว ตอนนี้มีโอกาสเช่นนี้เข้ามา โอกาสที่จะได้กลายเป็นหญิงงาม ใครจะยอมปล่อยให้หลุดมือไปได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้ยินว่าเฉินชางตารางงานแน่นมาก ทั้งสามคนก็ยิ่งกังวลใจไม่อยากชวดโอกาสนี้ไป เพราะถ้าชวดโอกาสวันนี้ไปแล้ว เฉินชางอาจไม่มีคิวว่างแล้วก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นก็เสียโอกาสไปแล้ว!
ความฝันจะกลายเป็นหญิงงามต้องเป็นดับวูบ!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ทั้งสามคนรีบคุยกับเฉินชางทันที นัดวันเวลาเรียบร้อย ทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลมาที่นี่ชั่วคราว หลังจากเตรียมการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องพร้อมแล้ว ก็เข้ารับผ่าตัดในสัปดาห์หน้า
…
…
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เฉินชางมาที่แผนกผิวหนังของโรงพยาบาลตงต้า
แผนกผิวหนังของโรงพยาบาลกับโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามแตกต่างกันราวกับอยู่คนละโลก สภาพแวดล้อมที่นี่แตกต่างกับโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามมาก แต่กลับทำให้เฉินชางรู้สึกได้ถึงความเป็นโรงพยาบาลมากกว่า
ช่วงวันเสาร์ตอนเวลาเกือบเที่ยงแล้ว แต่งานในวอร์ดยังคงยุ่งอยู่ ทุกคนต่างก็ยุ่งมาก เสียงกริ่งเรียกพยาบาลที่เคาน์เตอร์พยาบาลดังอยู่เรื่อยๆ
การมาถึงของเฉินชางไม่ได้ขัดจังหวะการทำงานของแผนกนี้ ทันทีที่เขาหันตัวไปก็เห็นฉินเสียงวิ่งเข้ามา
ฉินเสียงรอเฉินชางจนเริ่มร้อนใจอยู่นานแล้ว เขาเดินวนเวียนไปมาอยู่หน้าลิฟต์
หลังจากที่เห็นเฉินชาง เขาก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันใด รีบเดินเข้ามาต้อนรับ “เสี่ยวเฉิน คุณมาถึงแล้ว! ลำบากคุณแล้วจริงๆ!”
กล่าวตามตรง ฉินเสียงรู้สึกซาบซึ้งใจมากอยู่แล้วจริงๆ หลังจากที่เขาเห็นเฉินชางมาถึงแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกดีใจเป็นที่สุด “ไปกันครับ ไปดูผู้ป่วยกัน”
ฉินเสียงไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรกับเฉินชาง เขาเชิญเฉินชางมาดูผู้ป่วย ไม่ได้เชิญมาจิบชา ทั้งสองเดินตามกันไปถึงเตียง 7-20 ทันทีที่เฉินชางก้าวพ้นประตูเข้าไป เขาก็เห็นเด็กสาวคนหนึ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย เมื่อมองใบหน้าของเธอจากด้านข้าง ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยมาก แสงที่ลอดผ่านหน้าต่างตกกระทบลงบนใบหน้าของเธอ ขับเน้นให้อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าที่ละเมียดละไมของเธอดูวิจิตรยิ่ง
ทว่าในตอนที่เด็กสาวหันหน้ามา แผลไฟ้ไหม้ที่โหดร้ายทารุณก็ปรากฏสู่สายตาของเฉินชาง ทำให้เขาอดกลืนน้ำลายไม่ได้!
โหนกแก้มข้างขวาแผ่ขยายไปจนถึงลำคอ แผลไฟไหม้ที่ผิวหน้าและลำคอเป็นวงกว้างราวกับเป็นหน้ากากชวนสยองที่ไม่เข้ากับใบหน้างดงามละเมียดละไม
เฉินชางอดเงยหน้าขึ้นมาสบตาเด็กสาวไม่ได้ แสงเที่ทอประกายในดวงตาคู่นั้นพลันดับวูบทันใด เธอหันกลับไปทันที ก้มศีรษะลง สั่นหัวเล็กน้อยทำให้เส้นหล่นลงมาบดบังใบหน้าไว้ครึ่งซีก ก้มหน้าคอตกจนเหมือนกันนกกระจอกเทศ ราวกับรู้ว่าตนเองช่างต่ำต้อยไม่ต่างจากฝุ่นละลอง
ช่วงเวลาเพียงชั่วพริบตาเดียว เฉินชางรู้สึกราวกับมีบางสิ่งบางอย่างคว้าหัวใจของเขาไว้แล้วบีบรัดแน่น บีบแน่นเสียจนเขารู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัส
ดูเหมือนว่าฉินเสียงจะเห็นจนชินชาแล้ว เขาถอนหายใจออกมา มองเฉินชางหนึ่งที แล้วเดินตรงเข้าไปด้านใน
“ซินซิน คุณพ่อของหนูล่ะ”
“ออกไปซื้อข้าวค่ะ” เด็กสาวตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบามาก ราวกับกลัวว่าถ้าพูดเสียงดังจะทำให้ใครตกใจ
ฉินเสียงพยักหน้า กล่าวว่า “ซินซิน คุณหมอท่านนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่เราเชิญมาออกแบบแผนการรักษา หนูนั่งไว้แบบนี้ดีแล้ว เราให้คุณหมอเฉินดูอาการดีมั้ย”
เด็กสาวลังเลอยู่นาน แล้วเธอก็ถอนหายใจยาวออกมา ก้มหน้าเก็บเส้นผมที่ปิดหน้ามาทัดหูให้เรียบร้อยเพื่อเผยให้เห็นใบหน้าทั้งหมด จังหวะที่เธอเงยหน้าขึ้น เธอหลับตาสนิท ไม่พูดไม่จา ทุกอิริยาบถเป็นไปอย่างไหลลื่นมาก ดูไหลลื่นเสียจนชวนให้ค่อนข้างรู้สึกปวดร้าวจิตใจ
เป็นเด็กหญิงที่น่ารักมากคนหนึ่ง!
ตอนนี้เฉินชางมองดูแผลไฟไหม้บนใบหน้าและลำคอของเด็กสาวอย่างละเอียด เดิมทีสายตาเห็นเป็นสีเหลือง คิดไม่ถึงว่าจะขึ้นสัญลักษณ์สีแดง
[มอนสเตอร์แผลเป็น lv.50 มอนเตอร์ระดับบอส บาดแผลไฟไหม้ที่ทิ้งรอยแผลเป็นหยั่งรากลึก รูปลักษณ์ประหลาด กินพื้นที่ค่อนข้างกว้าง]
สีแดงคือโรคภัยไข้เจ็บ สีเหลืองคือความไม่สมบูรณ์
เฉินชางเอื้อมมือไปสัมผัสรอยแผลเป็นบนใบหน้าเด็กสาว เขารู้สึกได้เลยว่าผิวถูกไหม้ในระดับรุนแรง ชั้นหนังกำพร้าและผิวหนังชั้นหนังแท้ทั้งหมดถูกทำลาย เฉินชางไม่ค่อยเข้าใจเรื่องแผลไฟไหม้ แต่เขารู้เรื่องการปลูกถ่ายผิวหนังดีมากทีเดียว
เด็กสาวมีผิวขาวมาก แต่เพราะด้วยสาเหตุนี้ ทำให้หลังจากที่ปลูกถ่ายผิวหนังแล้วสีผิวจะดูไม่กลมกลืนกันอย่างเห็นได้ชัด
สายตาของเฉินชางยังพินิจพิเคราะห์ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง พยายามคิดหาวิธีปลูกถ่ายผิวหนังที่เหมาะสมกับตัวผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น วิธีไหนที่จะทำให้เมื่อปลูกถ่ายผิวหนังไปไว้บนใบหน้าแล้วไม่ทำให้สีผิวที่ปลูกถ่ายผิวแตกต่างกันมากจนเกินไป
โดยทั่วไปแล้วผิวหนังบริเวณที่นิยมนำมาปลูกถ่ายในเคสที่เป็นวงกว้างแบบนี้มักจะเลือกใช้ผิวหนังบริเวณแขนกับขา การปลูกถ่ายผิวหนังบริเวณใบหน้าค่อนข้างยุ่งยากมาก ประการแรกคือระดับความยากที่สูงมาก ประการต่อมาคืออัตราการรอดชีวิตของผิวหนังที่ปลูกถ่ายต่ำ
เขาเคยเห็นมาหลายเคสที่หลังการปลูกถ่ายผิวหนัง สีผิวบริเวณที่ปลูกถ่ายมีสีม่วงช้ำ ทำให้ยิ่งดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้น!
ดังนั้นก่อนปลูกถ่ายผิวหนังจะต้องยืนยันแล้วว่าผิวของบาดแผลเสียหายอย่างรุนแรง เลือดไม่หล่อเลี้ยง เส้นประสาทสำคัญเสียหาย หลอดเลือดเสียหาย รวมทั้งบริเวณที่มีเอ็นที่ไม่มีเนื้อเยื่อห่อหุ้มโผล่ออกมา และใช้ผิวหนังบริเวณใกล้เคียงมาปิดบาดแผลไม่ได้โดยตรง
สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากในการตัดสินใจว่ามีความจำเป็นต้องปลูกถ่ายผิวหนังหรือไม่!
เพราะรอยแผลเป็นที่แก้มข้างขวากว้างมากเกินไปจนเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปลูกถ่ายผิวหนังได้!
แล้วเฉินชางก็พบว่า การออกแบบสำหรับเคสนี้แตกต่างกับการออกแบบเพื่อศัลยกรรรมตกแต่งโดยสิ้นเชิง!
ศัลยกรรรมตกแต่งเป็นเหมือนงานศิลปะ เติมส่วนที่ขาด แก้ไขส่วนที่บกพร่อง
แต่การออกแบบเคสนี้มีสิ่งที่จำเป็นต้องทำหลายอย่างมาก!
อันดับแรกคือผิวหนังที่จะนำมาปลูกถ่าย
อันดับรองลงมาคือการออกแบบผิวหนังที่ปลูกถ่าย
และหลังจากที่ออกแบบผิวหนังที่จะนำมาปลูกถ่ายแล้ว ก็ต้องดูว่าจะยืดขยายผิวหนังอย่างไร กับจะเย็บด้วยวิธีไหน เพื่อที่หลังจากผิวหนังฟื้นฟูแล้วผลลัพธ์จะออกมาดีที่สุด
การปลูกถ่ายผิวหนังคืออะไร
ความจริงแล้วก็คือการเอาผิวหนังจากส่วนอื่นบนร่างกายของคุณย้ายมาปิดบริเวณบาดแผลที่ต้องการซ่อมแซม
ดูเป็นเรื่องง่ายมาก แต่ปัญหามีอยู่หลายข้อมาก ที่ทำให้คุณจำเป็นต้องคิดใคร่ครวญให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ
อันดับแรกคือผิวหนังที่คุณนำมาปลูกถ่ายจะต้องมีระบบการไหลเวียนของเลือดที่ดีมาก เพื่อที่เวลาที่ปลูกถ่ายแล้ว ผิวหนังยังมีชีวิตอยู่ได้ ไม่ใช่ชิ้นเนื้อหนึ่งชิ้นที่ตายแล้ว
แน่นอนว่าการเรียกผิวหนังที่นำมาปลูกถ่ายว่าชิ้นเนื้อหนึ่งชิ้นค่อนเป็นการเรียกที่ค่อนข้างคลุมเครือไม่ชัดเจน ถ้าจะกล่าวให้เฉพาะทางสักหน่อยก็ต้องกล่าวว่า ผิวหนังกับไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังที่นำมาปลูกถ่ายคือต้องมีสมบูรณ์พร้อมระบบไหลเวียนเลือดปกติ
ในกระบวนการปลูกถ่ายผิวหนัง ผิวหนังที่ใช้สำหรับปลูกถ่ายจำเป็นต้องมีความสมบูรณ์ สามารถดำรงชีพอยู่ได้ด้วยตัวเอง (ผิวหนังที่ย้ายมา) เป็นการย้ายผิวหนังจากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่ง โดยผิวหนังที่ปลูกถ่ายจะมีเส้นเลือดและเส้นประสาทอยู่ครบ
จากนั้นก็เย็บผิวหนังให้เชื่อมติดกัน ส่วนที่เดิมทีเคยขาดไปก็กลับมามีผิวหนังปกคลุมแล้ว
นี่เป็นเทคนิคผ่าตัดระดับสูง!
ทั้งยังเป็นเทคนิคที่แพทย์ผิวหนังกับแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งยังคงพยายามศึกษาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง