เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 243 คุณเป็นแพทย์ผู้นำทีมผ่าตัด
ฉินเสียงมองแผลเป็นบนใบหน้าของโต้วซินที่ถูกวาดสัญลักษณ์เหล่านั้นไว้ เค้าโครงทั้งหมด…ฉินเสียงก็คุ้นตามากขึ้นมาทันใด!
เอ๊ะ?
นี่มันแบบร่างที่ตนร่างเมื่อกี้นี้
ไปอยู่บนหน้าซินซินตั้งแต่เมื่อไหร่!
ทันใดนั้นฉินเสียงก็ชะงักงัน!
นี่มันเป็นลายเส้นที่เฉินชางร่างไว้เมื่อกลางวัน?
เหมือนกับของตนมาก...เหมือน...เหมือน...
ฉินเสียงสับสนมึนงงไปหมดแล้ว!
ทำไมผม…
มิน่าเล่า เมื่อกี้นี้ตนถึงได้รู้สึกว่าเกิดแสงแห่งปัญญาในหัว คาดไม่ถึงว่ายังไม่ทันต้องคิดอะไรทั้งนั้นก็ออกแบบแผนการปลูกถ่ายผิวหนังออกมาได้อย่างไหลลื่น!
ที่แท้ก็เป็นเพราะสาเหตุนี้นี่เอง!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สภาพจิตใจของเขาพลันว้าวุ่นยุ่งเหยิงจนถึงขีดสุด สีหน้าของเขาเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด ดูกระสับกระส่ายร้อนรน!
แบบนี้เท่ากับตนขโมยความคิดของคนอื่นหรือเปล่า
ไม่หรอกมั้ง ก็แค่ได้ไอเดีย จะเรียกว่าขโมยความคิดได้ไง?
ไม่ได้เรียกว่าการขโมยความคิดหรอก หลักฐานวาดอยู่บนใบหน้าผู้ป่วยแล้ว แถมมีสวีข่ายหลินยืนอยู่ข้างๆ ที่ตรงนั้น นัยน์ตากลมโตของเธอกะพริบตาปริบๆ ต้องบอกให้ทราบว่าเธอเป็นคนเอาปากกาไวท์บอร์ดให้เฉินชางกับมือ เรื่องนี้ทำให้ฉินเสียงไม่หลงเหลือความมั่นใจอยู่เลย
เมื่อโต้วเฉียงกั๋วเห็นฉินเสียงเหม่อลอย เขาก็ถามอย่างระมัดระวังว่า “หัวหน้าฉินครับ เอ่อ คุณไม่กล้าลบออกใช่มั้ยครับ…”
ฉินเสียงยิ้มเล็กน้อย “ลบครับ ลบให้สะอาดหน่อยนะครับ พรุ่งนี้ต้องวาดแบบร่าง อย่าลืมลบให้สะอาดเลยนะครับ พรุ่งนี้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายผิวหนังกันครับ”
หลังจากที่พูดจบ ฉินเสียงก็เอามือไพล่หลังแล้วเดินออกไป ตอนนี้ไม่หลงเหลือหลักฐานอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นผลงานออกแบบของตนได้แล้วสินะ?
แต่…สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เฉินชางเป็นเจ้าของแบบร่างนี้!
พ่อเด็กหนุ่มคนนั้น เฮ้อ…ทำไมถึงได้เป็นเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยมได้ขนาดนี้นะ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินเสียงก็ชะเล็กน้อย เขานึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้กะทันหัน
ในเมื่อเฉินชางเป็นคนออกแบบแผนการปลูกถ่ายผิวหนังแบบนี้ออกมาได้ นั่นก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเฉินชางเข้าใจเรื่องการปลูกถ่ายผิวหนังมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ออกแบบโดยที่ไม่พึ่งพาตน!
ฉินเสียงถึงกับตกตะลึงในทันใด
เขามีความสามารถสูงมากแค่ไหนกัน
เรื่องราวดอกไม้สีเหลืองดอกเล็ก ที่เริ่มออกดอกผลิบานในปีนั้นและปลิดปลิวไปตามสายลม
ส่วนเฉินชางแห่งแผนกฉุกเฉิน ปกปิดความสามารถของตนตั้งแต่จำความได้จวบจนปัจจุบัน
ฉินเสียงหวนนึกถึงทุกครั้งที่ติดต่อคบค้าสมาคมกับเฉินชาง ดูเหมือนว่าเฉินชางจะประสบความสำเร็จในการปกปิดความสามารถของตนอย่างสมบูรณ์
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ คิดไม่ถึงว่าฉินเสียงจะรู้สึกสงสัยอยู่นิดๆ
เฉินชางเก่งมากขนาดไหนกันแน่
หรือว่าตนกระจอกเกินไป!
เฉินชางเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง ยี่สิบเจ็ดเองมั้ง!
อายุแค่นี้ปลูกถ่ายผิวหนังเป็นแล้ว?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังออกแบบแผนการปลูกถ่ายผิวหนังที่ละเอียดประณีตชวนตะลึงได้ขนาดนี้
ฉินเสียงพยายามไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง แล้วเขาก็เปลี่ยนความคิดในฉับพลัน แบบร่างที่ซับซ้อนขนาดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝีมือที่ต้องใช้ในการเย็บผิวหนัง เฉินชางออกแบบมาให้สอดคล้องกับระดับฝีมือของตัวเฉินชางเองไม่ใช่หรือ
ถึงแม้คนอื่นจะเอาผลงานออกแบบแผนการปลูกถ่ายผิวหนังของเฉินชางไป ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะทำออกมาได้ดีมากพอ?
ไม่แน่เสมอไป!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ทันใดนั้นฉินเสียงก็รู้สึกว่า มิน่าเล่า เฉินชางจึงไม่สะทกสะท้านใดๆ ไม่ถือสาหาความเลยสักนิด เพราะหลังจากที่คนอื่นได้ผลงานออกแบบแผนการปลูกถ่ายผิวหนังของเขาไปแล้ว ก็ไม่กล้าลงมือทำอยู่ดี ต่อให้คิดจะทำก็ทำไม่ได้ ทำได้อย่างมากที่สุดก็แค่เลียนแบบ แต่ก็ทำไม่ได้อย่างเขา ไม่อาจบรรลุผลลัพธ์ได้
ฉินเสียงอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ เป็นเด็กหนุ่มที่น่าเกรงขามมากจริงๆ
หรือว่า…การผ่าตัดในวันพรุ่งนี้ จะให้เฉินชางมาเป็นแพทย์ผู้นำทีมผ่าตัด?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินเสียงอดอยากสนับสนุนไม่ได้
…
…
เช้าวันต่อมา เฉินชางวิ่งมาที่โรงพยาบาลตงต้าแต่เช้า สำหรับเฉินชางแล้ว ระยะทางไม่ถึงสามกิโลเมตรนับว่าเป็นการออกกำลังยามเช้า
ทันทีที่มาถึงแผนกผิวหนัง เฉินชางก็เห็นว่าฉินเสียงมาถึงแล้ว เฉินชางยิ้มพร้อมกล่าวทักทาย
“หัวหน้าฉิน มาเช้าจังเลยนะครับ!”
ฉินเสียงนอนหลับไม่สนิทตลอดทั้งคืน นึกถึงตลอดชีวิตที่ผ่านมาของตนเองที่เป็นคนซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา ประสบความสำเร็จในด้านความรู้เฉพาะทางมาก็ไม่น้อย เป็นคนใจกว้าง เป็นที่ยอมรับในสังคม ตนจะทำให้บั้นปลายชีวิตของตนต้องมาสั่นคลอนเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้!
เมื่อคืนนี้ฉินเสียงนอนไม่ค่อยหลับ เขานอนพลิกตัวกลับไปกลับมาตลอดทั้งคืน
ทำให้ภรรยาของฉินเสียงหงุดหงิดจนทนไม่ไหว!
“เหล่าฉิน คุณเป็นอะไรของคุณเนี่ย พลิกตัวไปมาตลอดทั้งคืนเลย”
ฉินเสียงครุ่นคิด เขาตบไหล่ภรรยาเบาๆ แล้วถามขึ้นว่า “ที่รัก ผมขอถามคุณเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไร”
“ผมจะยกตัวอย่างนะ ในอดีตมีหมอคนหนึ่ง ในแผนกมีหมอหนุ่มคนหนึ่ง…”
“อ้อ…คร่อกฟี้…”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็พบว่าภรรยาของเขาหลับไปแล้ว ฉินเสียงแสดงสีหน้าจนปัญญา เฮ้อ…คนใจร้าย!
เมื่อนอนหลับไม่สนิทตลอดทั้งคืนก็เป็นธรรมดาที่วันวันต่อมาจะมาถึงโรงพยาบาลเช้าเป็นพิเศษ
ฉินเสียงพยักหน้า “เสี่ยวเฉิน คุณเองก็มาถึงเช้ามาก!”
เฉินชางหัวเราะ “เป็นความเคยชินครับ”
ฉินเสียงมองเฉินชางทีหนึ่ง และเมื่อมองดูรอบแล้วปลอดผู้คน เขาก็หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “เสี่ยวเฉิน เรื่องแผนการปลูกถ่ายผิวหนังเมื่อวาน...”
เฉินชาง “แนวคิดของคุณดีมากครับหัวหน้า แนวคิดของคุณกับผมเหมือนกันมาก ผมคิดว่าความคิดเห็นในการปลูกถ่ายผิวหนังเคสนี้ของเราเป็นหนึ่งเดียวกันมาก! อีกอย่าง ผมรู้สึกว่าคุณคำนึงถึงรายละเอียดปลีกย่อยได้รอบด้านมากกว่าผม ประชุมกับโรงพยาบาลหมัวตูซื่อลิ่วเพื่อร่วมกันวางแผนการรักษาเมื่อวานนี้ทำให้ผมคิดอะไรได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เดิมทีผมคิดว่าจะปรับปรุงแผนการปลูกถ่ายผิวหนังอีกสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าคุณจะแก้จุดบกพร่องได้ทั้งหมดแล้ว!…
…ดังนั้นหัวหน้าฉิน คุณเข้าใจสถานการณ์ของผู้ป่วยดีมาก รวมทั้งแนวคิดของคุณเกี่ยวกับการปลูกถ่ายผิวหนังก็ชัดเจนมาก!”
ฉินเสียงชะงัก!
เอ่อ…ฟังดูเหมือนว่า..เหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ตนไม่ได้ขโมยความคิด แต่เรียกว่าสร้างสรรค์ขึ้นใหม่!
สวีข่ายหลินที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับตกตะลึง
คำเยินยอที่ไร้รูป อันตรายที่สุด!
เมื่อดูฉินเสียงที่ดูท่าทางดีอกดีใจ ดูมีความสุข…
จู่ๆ สวีข่ายก็พบว่าชีวิตการทำงานช่างยากลำบาก
…
…
ภายในห้องผ่าตัด ทุกสิ่งทุกอย่างจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว หมอแผนกผิวหนังที่ว่างอยู่ต่างก็มาร่วมผ่าตัดในเคสนี้
การถ่ายทอดสดก็เตรียมพร้อมแล้ว
จู่ๆ ฉินเสียงก็มองเฉินชาง “เสี่ยวเฉิน ฝีมือปลูกถ่ายผิวหนังของคุณเป็นยังไงบ้าง”
เฉินชางกล่าวตามความจริง “ใช้ได้ครับ”
ฉินเสียงพยักหน้าเล็กน้อย เขาอยากมอบโอกาสให้เฉินชาง
การปลูกถ่ายผิวหนังเคสนี้เป็นเคสของผู้ป่วยเคสพิเศษ สามารถนำมาใช้เป็นกรณีศึกษาได้
ถ้าเฉินชางเคยผ่านเคสที่ดีแบบนี้มาก่อน ถึงตอนนั้นแล้วไม่แน่ว่าตอนที่เขาได้เข้าร่วมสมาคมศัลยกรรมตกแต่งแห่งมณฑลตงหยาง กับสมาคมแพทย์ผิวหนัง จะมีอำนาจในการออกความคิดเห็นมากยิ่งขึ้น ถึงขั้นที่ไม่แน่ว่าอาจได้มีส่วนร่วมในงานของสมาคมล่วงหน้า
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินเสียงก็กล่าวอย่างแน่วแน่ว่า “งั้นวันนี้คุณเป็นแพทย์ผู้นำทีมผ่าตัด”
คำพูดเพียงหนึ่งคำทำเอาคนอื่นๆ ถึงกับตะลึง!
นี่…
เหมาะสมหรือ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หมอท่านอื่นๆ ที่ยืนอยู่รอบๆ ต่างก็อดตั้งคำถามไม่ได้ “หัวหน้า…ทำแบบนี้เหมาะสมหรือครับ”
“นั่นน่ะสิครับ การผ่าตัดในวันนี้สำคัญมากนะครับ คนของโรงพยาบาลหมัวตูซื่อลิ่วจับตาดูอยู่นะครับ! หัวหน้าครับ คุณจะทำอะไรมักง่ายแบบนี้ไม่ได้นะครับ”
แม้แต่เฉิงเยว่เจ๋อ รองหัวหน้าแผนกที่เข้ามาเป็นผู้ช่วยในวันนี้ยังอดมองฉินเสียงไม่ได้ เขาลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร ฐานะที่เป็นรองหัวหน้า ก็วางตัวอย่างรองหัวหน้า
…
สวีข่ายหลินมองสีหน้าของแต่ละคน เธอยิ้มเล็กน้อย พวกคุณมันเป็นกลุ่มคนธรรมดาทั่วไป จะไปเข้าใจความคิดของหัวหน้าได้อย่างไรกัน
สวีข่ายหลินถึงขั้นที่กำลังเดาว่า ไม่แน่ว่าระดับความสามารถของเฉินชางอาจจะเก่งกล้ามามารถมากกว่าหัวหน้าก็เป็นได้!
เช้าตรู่วันนี้ สวีข่ายหลินรู้สึกว่าตนเองได้เข้าใจหลักการในการประจบอย่างเข้าถึงแก่น ถึงยังไงหัวหน้าก็คงจะไม่เป็นผู้ช่วยให้เฉินชางหรอกมั้ง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สวีข่ายหลินก็กล่าวว่า “ฉันเป็นผู้ช่วยหมอเฉินเองค่ะ”
ฉินเสียงพยักหน้า “ผมเองครับ”
สวีข่ายหลินชะงัก ดูเหมือนว่าฉันจะ…ประจบผิดที่ผิดทางอีกแล้ว?
เฮ้อ…สวีข่ายหลินอดถอนหายใจไม่ได้ ชีวิตการทำงานช่างยากลำบาก
เธอจะไปรู้ได้ยังไงกัน หลังจากที่ฉินเสียงเคยเป็นผู้ช่วยให้เฉินชางที่บ้านเจิ้งกั๋วถานแล้ว ก็เหมือนว่าเขาจะเคยชินกับการเป็นผู้ช่วยของเฉินชางไปโดยปริยาย!
อืม…