เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 285 ช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บไว้ได้แล้ว!
บทที่ 285 ช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บไว้ได้แล้ว!
เฉินชางใส่หลอดเลือดเทียมเสร็จสมบูรณ์ ลำดับต่อไปต้องเริ่มซ่อมแซมหลอดลมกับหลอดอาหารที่เสียหาย
ในห้องผ่าตัด ผู้ที่เชี่ยวชาญในด้านนี้ยังคงมีแค่เฉินชางกับจิ่งหราน
การผ่าตัดดำเนินมาสามชั่วโมงแล้ว!
ทว่างานช่วยชีวิตนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เช้า!
เฉินชางกับจิ่งหรานสองคนสาละวนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บมาตั้งแต่เก้าโมงเช้า
จิ่งหรานทำงานหนักมาเกือบห้าชั่วโมง อีกทั้งยังเสียเหงื่อปริมาณมาก ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เขาเริ่มอ่อนล้า ร่างกายเริ่มยืนหยัดไว้ไม่ไหวแล้ว
เฉินชางยังดีที่มีความแข็งแรงค่อนข้างมาก จึงไม่เหนื่อยล้ามากนัก
เฉินชางเงยหน้ามองจิ่งหราน “คุณพักก่อนสักหน่อยเถอะครับ อีกเดี๋ยวคุณค่อยมาจัดการปอดที่ฉีกขาด!”
จิ่งหรานมองเฉินชางแต่ไม่พูดอะไร แล้วก็ไม่ได้เดินออกไป เพราะเขารู้ว่าการซ่อมแซมหลอดอาหารกับหลอดลมที่เสียหายจำเป็นต้องแยกอวัยวะเวลาซ่อมแซม ในขณะเดียวกันก็ต้องใช้ความละเอียดแม่นยำมาก คนอื่นๆ ช่วยได้แค่เรื่องเล็กๆ ในขั้นตอนนี้ มีเพียงเฉินชางกับตนเท่านั้นที่เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมทรวงอก
เวลาแต่ละนาทีแต่ละวินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว…
เฉินชางกับจิ่งหราน หวังเชียน จางเสวียเลี่ยง ทั้งสี่คนในทีมผ่าตัดต่างก็ลืมเวลาไปตั้งนานแล้ว
เงยหน้าขึ้นมาดูเวลาสักหน่อย?
ไม่!
เฉินชางไม่กล้า พวกเขาก็ไม่กล้า มือของเขายังคงผ่าตัดอย่างไม่หยุดยั้ง
แต่พวกเขารู้ว่าเวลาจะต้องผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วแน่
เพราะ…ผ้าก๊อซที่ใช้สำหรับห้ามเลือดที่ใช้แล้ววางกองอยู่เต็มผ้ารองผ่าตัดสีเขียว!
ในสายตาของพวกเขาทั้งสี่ ผ้าก๊อซแต่ละชิ้นที่ถูกใช้ไป เปรียบเสมือนตัวบอกเวลาที่ได้มาตรฐานเพียงอย่างเดียว!
พยาบาลเตรียมผ้าก็อซสำห้ามเลือดไปสามรอบแต่ก็ยังไม่พอ!
สายตาของหัวหน้าทั้งสามที่ยืนอยู่ด้านหลังจับจ้องทีมแพทย์ตรงหน้า พวกเขาอดรู้สึกชื่นชมจากใจไม่ได้จริงๆ
หมอหนุ่มเหล่านี้คือผู้สานต่อศาสตร์แห่งการแพทย์
ภาระรับผิดชอบอันหนักอึ้งในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บก็จำเป็นจะต้องมีคนวัยนี้เข้ามารับช่วงต่อ
และคนวัยหนุ่มสาวก็จำเป็นต้องมีผู้นำ
ในวันนี้ เฉินชางได้ทำหน้าที่นั้นแล้ว เขาเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง
เขากลับก้าวมาถึงจุดนี้ได้แล้ว!
ขีดจำกัดเด็กหนุ่มอนาคตไกลคนนี้อยู่ที่ไหนกันนะ
…
หลังจากสี่สิบห้านาทีผ่านไป หลอดลมกับหลอดอาหารก็ได้รับการเย็บซ่อมแซมจนสำเร็จ!
เฉินชางขยับตัวสลับตำแหน่งกับจิ่งหรานเล็กน้อย เขาเงยหน้าถามจิ่งหรานว่า “คุณไหวมั้ย”
จิ่งหรานเหนื่อยไหม
เหนื่อย!
แต่ต่อให้เหนื่อยมากกว่านี้อีกเขาก็ต้องอดทนเอาไว้ รอเฉินชางเหนื่อยแล้วเขาจะได้ช่วยทำแทนเฉินชางได้
อย่างน้อยเมื่อเทียบกันกับเฉินชางแล้ว จิ่งหรานสบายกว่ามาก
ความจริงแล้วเฉินชางเองก็อยากเป็นคนเย็บในส่วนนี้ แต่…
ท่านนอร์แมนเบธูนไม่อยู่แล้ว!
ความเชี่ยวชาญในการเย็บซ่อมแซมปอดที่ฉีกขาดของเฉินชางมีขีดจำกัด เขาทำได้อย่างมากที่สุดก็แค่เพียงให้ความช่วยเหลือในบางส่วน
จิ่งหรานเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ เฉินชางจะอวดเก่งไม่ได้ ต้องจัดสรรหน้าที่ให้เหมาะสมเป็นระเบียบแบบแผน ถึงจะบรรลุเงื่อนไขความสำเร็จในการผ่าตัดได้!
ขณะนี้ผู้บาดเจ็บได้รับพลาสมาระหว่างผ่าตัดไปสองพันห้าร้อยมิลลิลิตรแล้ว!
เฉินชางตั้งใจดูการผ่าตัดเย็บซ่อมแซมปอดที่ฉีกขาดอย่างใจจดใจจ่อ ไม่ใช่แค่เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือ แต่เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้!
ในฐานะหมอคนหนึ่ง การเรียนรู้เป็นสิ่งที่ไม่อาจทิ้งขว้าง
เฉินชางรวบรวมสมาธิจดจ่อ ตั้งใจเรียนรู้เทคนิคและวิธีการเย็บซ่อมแซมปอดที่ฉีกขาดของจิ่งหราน
จะต้องกล่าวว่าจิ่งหรานสมกับที่เป็นนักวิจัยหลังปริญญาโทโดยแท้ ฝีมือของเขาสร้างความรู้สึกนัยน์ตาลุกวาวให้เฉินชางจริงๆ
การมีเขาอยู่ในทีม ช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการช่วยชีวิตครั้งนี้ให้สูงขึ้นอีก
เวลาแต่ละนาทีแต่ละวินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็วดั่งสายน้ำ ผ้าก๊อชสำห้ามเลือดที่ใช้แล้วกองอยู่เต็มผ้ารองผ่าตัดสีเขียว ผู้บาดเจ็บรับพลาสมาไปสามพันมิลลิลิตรแล้ว
เวลาสิบเจ็ดนาฬิกาสามสิบสามนาที!
หลอดเลือดและอวัยวะที่เสียหายทั้งหมดของผู้บาดเจ็บได้รับการเย็บซ่อมแซมเรียบร้อย
เฉินชางมองสัญญาณชีพของผู้บาดเจ็บ
แล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจในที่สุด!
“ช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บไว้ได้แล้ว!”
คำพูดไม่กี่คำกลับต้องใช้พลังทั้งหมดที่หลงเหลืออยู่ในตัวของเขาเปล่งมันออกมา
ในตอนที่ทุกคนในห้องผ่าตัดได้ยินคำนี้ ทุกคนต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจเช่นกัน
พยาบาลที่ทำหน้าที่จัดเตรียมถุงเลือดถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
ใครจะรับรู้ได้บ้างว่าระยะเวลาหกเจ็ดชั่วโมงนี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนเคี่ยวกรำ
แต่ความสุขจากความสำเร็จก็เป็นความสุขที่ชวนหลงใหล!
เป็นความรู้สึกซาบซึ้งสุดหัวใจ!
ซาบซึ้งเสียจนน้ำเอ่อล้นรินไหลออกมา
แพทย์หญิงนักเทคนิคการแพทย์ที่ยืนอยู่ด้านหลังอดหันหลังไปปาดน้ำตาไม่ได้
การที่ได้เห็นทีมแพทย์อายุน้อยเหล่าช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บที่อาการร่อแร่อย่างสุดความสามารถกับตาตนเอง กล่าวได้เลยว่าไม่มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องไหนบนโลกที่จะสร้างความรู้สึกตื้นตันใจได้มากไปกว่าภาพความทุ่มเทในการช่วยชีวิตคนในห้องผ่าตัดได้อีกแล้ว
นี่คือความสมบูรณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต!
ช่วงเวลาแห่งเกียรติยศเป็นของทีมแพทย์อายุน้อยทีมนี้
และเฉินชางที่เป็นแพทย์ผู้นำทีมกู้ชีพในครั้งนี้
คำว่า ‘ฮีโร่’ คำนี้ เป็นคำที่คู่ควร!
ทว่าน่าเสียดายที่งานของพวกเราไม่มีรางวัลเกียรติยศมอบให้เหมือนที่กัวจื้อหย่งได้รับ ไม่ว่าเราจะทำดีขนาดไหน ทุ่มเทมากแค่ไหน ทำสิ่งอันเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ได้ยิ่งใหญ่สักเพียงใดก็จะไม่ได้รางวัลเหล่านั้น
เพราะทุกสิ่งที่คุณทำคือหน้าที่ของคุณ!
หน้าที่ของคุณคือการช่วยชีวิตคนที่กำลังจะเสียชีวิตและรักษาผู้บาดเจ็บ!
ซึ่งคนอื่นอาจมองไม่เห็นความทุ่มเทของคุณ
รางวัลเพียงอย่างเดียวที่คุณจะได้รับอาจเป็นการได้เห็นรอยยิ้มที่แข็งแรงของผู้บาดเจ็บกระมัง…
ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในห้องผ่าตัด จะมีฮีโร่ในคราบของมนุษย์ธรรมดาทั่วไปปรากฏตัวขึ้นในเรื่องราวเหล่านั้นอยู่ทุกครั้งท่ามกลางเรื่องราวอกสั่นขวัญหายในห้องผ่าตัด ฮีโร่ในคราบของมนุษย์กู้สถานการณ์ที่ชวนสะเทือนอารมณ์เอาไว้
พวกเขาไม่ร้องขอรางวัลตอบแทน ขอแค่เพียงรอยยิ้มแห่งความสุข
การเย็บซ่อมแซมหลอดเลือดเสร็จเรียบร้อย เย็บซ่อมแซมอวัยวะเสร็จสมบูรณ์ ลำดับต่อไปเป็นขั้นตอนการรักษากระดูกที่หัก
เมื่อหลี่เจี้ยนเหว่ยกับหมออีกสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเห็นว่าหนุ่มๆ เหนื่อยล้ากันมากแล้ว ก็เลยเดินเข้าไปพูดว่า
“หนุ่มๆ ขั้นตอนต่อไปส่งต่อให้พวกผมก็แล้วกันครับ!”
คำพูดหนึ่งประโยค เป็นการผลัดหน้าที่กันระหว่างทีมแพทย์สองรุ่น
คำพูดหนึ่งประโยคที่หมายถึงการสานต่อภารกิจอันหนักอึ้ง
เฉินชางพยักหน้า พวกเขาเหนื่อยล้าจนไม่อาจยืนหยัดต่อไปได้อีกจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การช่วยชีวิตไม่ใช่เรื่องของการอวดเก่ง การที่เฉินชางไม่ให้ทุกคนหันไปให้ความสนใจกับหัวหน้าทั้งสามเมื่อช่วงเวลาก่อนหน้านี้ไม่ใช่เพื่อที่จะอวดเก่งโชว์ศักยภาพ!
แต่เป็นเพราะขณะนั้นทุกคนในทีมต่างยุ่งจนไม่มีเวลาให้กับสิ่งอื่นแล้ว จะเสียสมาธิเพราะการมาถึงของคนเหล่านั้นไม่ได้ศัลยกรรมทรวงอกเป็นการผ่าตัดที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงมาก ต่อให้หลี่เป่าซานจะเก่งกว่านี้สักแค่ไหน แต่ก็ถูกจำกัดไว้ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
แล้วขั้นตอนนี้ล่ะ
ศัลยกรรมกระดูกเป็นสิ่งที่พวกเขาทำได้ยอดเยี่ยมมากที่สุดแล้ว
เฉินชางพยักหน้า “ครับ!”
เมื่อหมอหนุ่มทั้งสามคนได้ยินคำว่า ‘ครับ’ พวกเขาถึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ
ถึงจะได้ยินคำพูดนั้นจากปากของหลี่เจี้ยนเหว่ยผู้อำนวยการโรงพยาบาลแล้ว พวกเขาก็ยังไม่โล่งใจ แต่พอได้ยินจากปากของเฉินชาง พวกเขาถึงเบาใจได้
นี่คือพลังความนับถือที่แท้จริง
ในเวลานี้ เฉินชางเป็นราชาตัวจริงของเคสนี้!
จิ่งหรานหัวเราะแล้วก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ทันใดนั้นเขาซวนเซจนล้มลงไปบนพื้น พยาบาลที่ยืนอยู่ข้างรีบเข้ามาพยุงตัวเขา
“หมอจิ่ง หมอจิ่งไม่เป็นไรใช่มั้ย”
จิ่งหรานหัวเราะเก้อเขิน “ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรครับ! แค่ยืนไม่มั่นนิดหน่อย”
เฉินชางหัวเราะพร้อมกับหยิบเครื่องดื่มกลูโคสขึ้นมาสองขวด ยื่นให้กับยื่นให้จิ่งหรานหนึ่งขวด “ดื่มสักหน่อยครับ”
จิ่งหรานหัวเราะ มองเฉินชางพร้อมกล่าวว่า “ขอบคุณครับ!”
ทั้งสองต่างสบกันด้วยรอยยิ้ม ต่างคนต่างดื่มเครื่องดื่มกลูโคสสองร้อยห้าสิบมิลลิลิตรอึกๆ ลงท้องไป
สดชื่นขึ้นจริงๆ!
พวกเขาเหนื่อยจนแทบคลานแล้วจริงๆ
ตั้งแต่เก้าโมงเช้าจดหกโมงเย็น เก้าชั่วโมงแห่งความเหนื่อยล้า ระยะเวลากว่าเก้าชั่วโมงกับการทุ่มเทผ่าตัดรักษาชีวิตผู้บาดเจ็บอย่างสุดพลังความสามารถ น้ำสักหยดก็ไม่ได้ดื่ม ข้าวกลางวันไม่ตกถึงท้อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจดจ่อกับการผ่าตัดอย่างจริงจังเป็นระยะเวลายาวนาน เป็นใครก็ยากจะทนไหว!
เฉินชางนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองไปที่การผ่าตัดตรงหน้าด้วยความเหนื่อยล้าระโหยโรยแรงไปทั้งตัว
จิ่งหรานนั่งลงตรงที่เดิมที่ล้มลงไปเมื่อครู่นี้เลย ไม่หลงเหลือมาดใดๆ
ถึงแม้ว่าความเหน็ดเหนื่อยของหวังเชียนกับจางเสวียเลี่ยงจะเทียบไม่ได้กับสองคนนั้น แต่ตลอดช่วงระยะเวลาผ่าตัด พวกเขาก็เหนื่อยไม่น้อย
การยืนหยัดรักษาอย่างทรหดยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งเวลาสามทุ่มสามสิบนาที ระยะเวลาอันยาวนานสิบเอ็ดชั่วโมง การผ่าตัดที่ ‘ยากซับซ้อนและยาวนาน’ สิ้นสุดลงอย่างราบรื่น
การผ่าตัดในครั้งนี้เกี่ยวโยงกับความยาก ความซับซ้อนในการรักษาที่ต้องรวมหลายศาสตร์ไว้ด้วยกัน ได้แก่ เทคนิคการศัลยกรรมหัวใจและหลอดเลือด ศาสตร์แห่งการศัลยกรรมทรวงอกเพื่อเย็บซ่อมแซมปอด ศาสตร์แห่งการศัลยกรรมกระดูกเพื่อรักษาซ่อมแซมกระดูกหน้าอกและกระดูกซี่โครงที่หัก สำหรับทีมแพทย์แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องใช้ทักษะฝีมือในระดับสูงมาก
ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของการจัดตั้งกองกำลังวัยละอ่อนที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญของแต่ละศาสตร์ของแต่ละคนเข้าด้วยกันขึ้นชั่วคราวเช่นนี้ ก็เพื่อที่จะขับไล่พญามัจจุราชไป!
ตอนนี้ ทุกคนต่างมองหมอหนุ่มทั้งสี่ที่นั่งอิดโรยอยู่ไกล แล้วเสียงปรบมือก็ดังขึ้น!
ตอนนี้เกียรติยศเป็นของพวกเขา!
เกียรติเป็นสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ!
หลี่เป่าซานมองเฉินชางด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกว่าภาระหน้าที่อันหนักอึ้งเบาลงไปมาก