เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 297 ผมเป็นอาจารย์ของพวกคุณ

บทที่ 297 ผมเป็นอาจารย์ของพวกคุณ

เก้าโมงเช้าวันจันทร์ หลังจากเปลี่ยนเวรแล้ว เฉินชางตรงไปที่ศูนย์ฝึกอบรมทันที

วันนี้ช่วงเช้ามีอบรมการเจาะปอด

กำหนดการอบรมคือเก้าโมงครึ่ง เฉินชางถือยูเอสบีเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อเตรียมความพร้อม

ในเวลานี้ยังไม่มีใครมา เฉินชางนำยูเอสบีไปเสียบเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ เขาเห็นฟู่จื้อฮุ่ยถือแบบฟอร์มเซ็นชื่อเข้าอบรมหนึ่งใบมาวางบนโต๊ะ

ฟู่จื้อฮุ่ยกล่าวกับเฉินชางว่า “หมอเฉิน มาเช้าจังเลยนะคะ งานที่แผนกฉุกเฉินไม่ยุ่งหรือคะ”

เฉินชางหัวเราะ “แน่นอนว่าผมจะต้องตั้งใจทำงานที่อาจารย์เสี่ยวฟู่มอบหมาย!”

ฟู่จื้อฮุ่ยหัวเราะแล้วก็หันหลังเดินจากไป

ความจริงแล้วงานบรรยายประเภทนี้ไม่ใช่งานการกุศล เป็นงานที่ได้ค่าตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ

สำหรับเฉินชางในอดีตแล้ว เงินจำนวนร้อยสองร้อยหยวนคือรักแท้ เป็นธรรมดาที่จะไม่พลาดโอกาสแม้แต่ครั้งเดียว

นักศึกษาแพทย์ปริญญาโทที่มาอบรมต่างก็ทยอยกันเข้ามาในสถานที่จัดอบรมแล้ว หลังจากที่นักศึกษาแพทย์เหล่านั้นเห็นเฉินชางต่างก็พากันประหลาดใจ!

ถึงอย่างไรเสียก็เรียนห้องเดียวกัน เวลามีประชุมห้องก็มักจะเห็นหน้ากันอยู่บ่อยๆ ถึงแม้เฉินชางจะเข้าเรียนน้อยมากก็ตาม

แต่…คนที่เกิดมาหน้าตาหล่อย่อมสร้างความประทับใจได้ดี!

หลังจากที่เห็นเฉินชางแล้ว นักศึกษาแพทย์หญิงสองคนที่มาฝึกอบรมก็พากันเข้ามาพูดคุยกับเฉินชาง

“เฉินชาง ทำไมคุณกระตือรือร้นขนาดนี้” โหวเถียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เฉินชางชะงัก เขายิ้มเล็กน้อย “จะขาด…จะขาดอบรมไม่ได้ครับ”

เมื่อผู้หญิงสองคนนั้นได้ยินเช่นนี้ก็พลันหัวเราะลั่น “คุณไม่อายหรือไงที่พูดแบบนี้”

“นั่นน่ะสิ ปกติคุณไม่ค่อยขาดอบรมหรือไง”

เฉินชางยิ้มกระอักกระอ่วน “ไม่เหมือนกัน อ้อ นั่นเป็นแบบฟอร์มเซ็นชื่อเข้าอบรม เซ็นชื่อก่อนเถอะ”

และในตอนนี้เอง เฉียนหลินกับผู้ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในสถานที่จัดอบรม หลังจากที่เห็นเฉินชางแล้ว เขาก็หัวราะออกมา “เอ๊ะ? โอ้แม่เจ้า คิดไม่ถึงว่าคุณจะมา! ผมยังคิดอยู่เลยว่าจะโทรหาคุณดีมั้ย”

เฉินชางหัวเราะ หยิบแบบฟอร์มเซ็นชื่อมาดูจำนวนคนที่มาแล้ว สิบสองคนมากันครบแล้ว งั้นเริ่มเลยแล้วกัน

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็มองทุกคน พยักหน้าเล็กน้อย “เอาละครับ ปิดประตูเลยครับ พวกเรามาเริ่มกันเลยนะครับ”

เฉียนหลินชะงัก “อาจารย์ยังไม่มาจะเริ่มได้ยังไงกัน!”

เฉินชางยิ้มเล็กน้อย เปิดสไลด์เพาเวอร์พ้อยท์ ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอคือ ‘การเจาะปอด ผู้บรรยาย: เฉินชาง’

เฉินชางมองเพื่อนนักศึกษาทั้งหลาย กล่าวด้วยแววตาที่แฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ ผมเป็นอาจารย์ของทุกคน มาบรรยายให้ทุกคนฟังในหัวข้อการเจาะปอดและข้อควรระวัง ตอนนี้เรามาเริ่มกันเลย”

ณ ขณะนี้ ทุกคนต่างพลันตกตะลึงจนตาค้าง

“ว้อท!”

“เยสเข้!”

“พูดจริงหรือพูดเล่นเนี่ย”

“อู้ว!”

…

ทุกคนต่างมองกันไปมาด้วยความตกตะลึง!

พวกเขามองเฉินชางด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความรู้สึกเหลือเชื่อ ทั้งยังเต็มไปความประหลาดใจ

เฉียนหลินยิ่งรู้สึกเหลือเชื่อกว่าใคร “เฉิน…เฉิน…”

เฉินชางยิ้มเล็กน้อย กล่าวอย่างสนิทสนม “ต่อไปเรียกผมว่าอาจารย์เฉินนะครับ!”

ทุกคนในสถานที่จัดอบรมส่งเสียงหัวเราะลั่นทันใด

แต่ไม่นานเฉินชางก็กล่าวขึ้นว่า “เอาละครับ ทุกคนเงียบเสียงด้วยครับ พวกเรามาเริ่มเรียนวิธีเจาะปอดกันครับ…

…อันดับแรกทุกคนต้องทำความเข้าใจก่อนว่าวัตถุประสงค์ในการเจาะปอดคืออะไร…ด้านหนึ่งเพื่อการวินิจฉัย อีกด้านหนึ่งเพื่อการรักษา!…

…เรามาเริ่มทำความเข้าใจการเจาะปอดจากสองด้านนี้ก่อน”

เฉินชางบรรยายละเอียดมาก และเนื่องจากทุกคนต่างก็มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ทุกคนก็เลยค่อนข้างคึกคักและสนุกสนาน การตั้งคำถามย่อมเยอะเป็นธรรมดา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฉินชางบรรยายลงลึกด้วยคำพูดที่เข้าใจง่าย เชื่อมโยงเข้ากับความเข้าใจของตนเอง ทั้งยังอธิบายหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่มีในตำราเรียน

การเจาะปอดเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างใช้บ่อยในการผ่าตัด เนื่องจากไม่ได้เป็นขั้นตอนการผ่าตัดที่ยากมากนัก แพทย์แผนกศัลยกรรมทรวงอกจึงมีความมั่นใจในขั้นตอนนี้

กล่าวตามความจริง สิ่งที่แผนกศัลยกรรมให้ความสำคัญคือคำว่ากล้าหาญ

ทุกสิ่งทุกอย่างยากในตอนเริ่มต้น หลังจากเริ่มลงมือแล้วก็จะง่ายขึ้นมาก

แต่ละขั้นตอน แต่ละตอน ตั้งแต่การฆ่าเชื้อ การปูผ้าคลุมผ่าตัด…

โดยพื้นฐานแล้ว การเจาะอวัยวะทุกรูปแบบไม่ต่างกัน สิ่งที่สำคัญคือข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัย รวมถึงความสะอาดปลอดเชื้อ

หลังจากที่บรรยายจบ เฉินชางดูทุกคนทดลองลงมือปฏิบัติจริงกับหุ่นจำลอง ให้คำชี้แนะ จากนั้นก็กล่าวถึงรายงานทางการแพทย์ใหม่ล่าสุดทั้งของในและต่างประเทศที่เกี่ยวกับการเจาะปอดและข้อควรระวังต่างๆ

โดยพื้นฐานความรู้ด้านการเจาะปอดครอบคลุมเนื้อหาค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่ความรู้ขั้นพื้นฐานไปถึงความรู้ที่มีความสำคัญ จนกระทั่งความรู้ใหม่ๆ

เฉินชางบรรยาทุกอย่างด้วยความตั้งใจ

ทั้งยังมีตัวอย่างเคสพิเศษต่างๆ กับเทคนิคพิเศษต่างๆ เป็นต้น

ความจริงแล้วไม่จำเป็นที่จะต้องสอนให้คุณจำได้และทำเป็นตั้งแต่ครั้งแรก แต่จำเป็นต้องทำให้คุณเกิดภาพความทรงจำ

สำหรับคำถามของทุกคน โดยพื้นฐานแล้วไม่มีอะไรที่เฉินชางรู้แล้วไม่พูด อะไรก็ตามที่เฉินชางรู้ เฉินชางจะพูดจนหมดเปลือก!

จู่ๆ ทุกคนก็สังเกตเห็นว่าไม่ว่าคำถามจะยากขนาดไหน เฉินชางก็อธิบายคำตอบได้อย่างสมเหตุสมผลมากพอเสมอ

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเฉินชางเก่งจนน่ากลัว!

เฉินชางเป็นเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขา?

คิดไม่ถึงว่าจะเก่งขนาดนี้!

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ทุกคนต่างก็เรียกเฉินชางอย่างเป็นธรรมชาติว่า “อาจารย์เฉิน!” “อาจารย์ชาง!”

ช่วงเวลาอบรมผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างกล่าวได้ว่าเก็บเกี่ยวความรู้ได้มากมาย ติดตาตรึงใจ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าการเข้าอบรมก็สนุกได้ถึงเพียงนี้!

หลังจากที่ทุกคนเดินออกจากสถานที่จัดอบรมไปแล้ว ทันใดนั้นเฉินชางก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ

[ติ๊ง! ยินดีด้วย ถ่ายทอดวิชาและไขข้อสงสัยด้วยความตั้งใจ ผ่านภารกิจทดสอบจรรยาบรรณแพทย์ ได้รับ: คะแนนทักษะ +1]

รางวัลน้อยนิดมาก แต่เฉินชางกลับรู้สึกมีความสุขมาก

อย่างน้อยที่สุดก็บอกได้อย่างชัดเจนว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนทุ่มเทไม่เสียเปล่า

เฉินชางครุ่นคิดอย่างละเอียดในใจว่ารางวัลที่ตนอยากได้จากภารกิจทดสอบจรรยาบรรณแพทย์นี้ อาจเป็นความซาบซึ้งจากใจจริงของผู้อื่น

…

…

ปีนี้โรงพยาบาลอันดับสองรับแพทย์เข้ามาฝึกอบรมเป็นครั้งแรก

แพทย์ที่เข้ามาฝึกอบรมค่อนข้างมาก นอกจากนักศึกษาแพทย์ปริญญาโทรุ่นเดียวกันกับเฉินชางแล้ว ก็ยังมีแพทย์ที่เข้ามาฝึกอบรมกลุ่มอื่นอีกหนึ่งชุดใหญ่ ดังนั้นเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการดำเนินการอบรมแพทย์มาฝึกอบรมหน้าใหม่ โดยไม่รบกวนเวลาการทำงานของหมอทุกคน แน่นอนว่าศูนย์ฝึกอบรมจะมีหมอที่ทำหน้าที่อบรมเพียงคนเดียวไม่ได้ ต้องมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน ทุกคนล้วนสับเปลี่ยนเวลาได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะไม่กระทบการทำงานและการเข้างานของหมอทุกคน

ในฐานะที่สือฉีเป็นอดีตหัวหน้าแผนกศัลยกรรมทรวงอก ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ศูนย์ฝึกอบรมจะต้องเรียนเชิญเขามาสักหน่อย ต่อให้เขาไม่มีเวลา คุณก็ต้องเชิญ

และสิ่งที่ทำให้ฟู่จื้อฮุ่ยต้องประหลาดใจคือคิดไม่ถึงว่าสือฉีจะตอบตกลง!

หรือว่าตำแหน่งรองหัวหน้าแผนกศัลยกรรมเต้านมจะว่างมากนะ

ความจริงแล้วศูนย์ฝึกอบรมไม่ค่อยชอบเชิญหมอที่มีตำแหน่งเหล่านี้มา เพราะค่อนข้างยุ่งยาก เรื่องมาก อีกทั้งยังชอบจ้องจับผิด แล้วหัวหน้าสือยิ่งเป็นคนที่โดดเด่นในเรื่องนี้มาก คนทั้งโรงพยาบาลต่างก็เคยได้ยินมากับหู

แต่ในเมื่อสือฉียินดีจะมาร่วมบรรยาย ก็ย่อมได้รับการต้อนรับ อย่างน้อยสือฉีก็มีประสบการณ์การทำงานงานในแผนกศัลยกรรมทรวงอกมาสองถึงสามปี มีความรู้ความเข้าใจในการเจาะปอดมากพอ

ทางศูนย์ฝึกอบรมคิดแล้วก็ตัดสินใจว่าถ้าสือฉีเต็มใจมาก็ให้เขามาแล้วกัน และด้วยเหตุนี้จึงให้สือฉีผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกับเฉินชาง บรรยายกันคนละวัน แบบนี้ก็สะดวกดี

วันอังคารเฉินชางทำงาน สือฉีรับผิดชอบหน้าที่บรรยาหัวข้อการเจาะปอด

วันนี้สือฉีอารมณ์ดี เขาตั้งใจเปลี่ยนชุดกาวน์เป็นตัวใหม่สะอาดเอี่ยม ใส่แว็กซ์จัดแต่งทรงผมเล็กน้อย ดูสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขาถือยูเอสบีไปที่ห้องอบรมการเจาะปอดของศูนย์ฝึกอบรมแต่เช้าตรู่ เตรียมความพร้อมทุกสิ่งอย่าง รอคอยการอบรมที่กำลังจะเริ่มขึ้น