เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 299 การร่วมกันวินิจฉัยด่วนของแผนกสูตินรีเวช
บทที่ 299 การร่วมกันวินิจฉัยด่วนของแผนกสูตินรีเวช
หลังจากที่หญิงสาวกล่าวออกไป ผู้คนโดยรอบต่างก็ชำเลืองตามอง
อาจารย์เฉิน?
ใครคืออาจารย์เฉิน
แม้แต่สือฉีเองก็ยังสงสัยมาก “อาจารย์เฉิน? คุณหมายถึงผู้เชี่ยวชาญท่านไหนหรือครับ”
หญิงสาวส่ายหน้าด้วยความกระอักกระอ่วน “อาจารย์สือคะ ไม่ใช่ค่ะ อาจารย์เฉินก็คือเฉินชาง คนที่บรรยายเรื่องการเจาะปอดให้พวกเราฟังเมื่อวานค่ะ”
สือฉีตะลึง!
เฉินชาง?
ชื่อคุ้นมาก…
ทันใดนั้นสือฉีก็นึกถึงเมื่อครั้งที่เฉินชางสอบแข่งบรรจุกับหลี่ซื่อเจี้ยนขึ้นมาได้
หมอหนุ่มแผนกฉุกเฉินคนนั้น?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สือฉีก็อดหัวเราะไม่ได้ “อืม ไม่เลว หมอเฉินพูดได้มีเหตุผลมาก นี่คือศักยภาพอย่างหนึ่งในการตรวจวินิจฉัยและการรักษาทางการแพทย์ ต่อไปนี้ทุกคนต้องอ่านบทบความทางการแพทย์ให้มากๆ คิดตรึกตรองให้ลึกซึ้ง!…
…แน่นอนว่าการเรียนรู้วิธีเจาะปอดจะอาศัยแค่การอ่านเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ยังต้องเพิ่มการฝึกปฏิบัติเข้าไปด้วย ลำดับต่อไป ขอให้ทุกคนตั้งใจฝึกฝนให้เต็มที่”
สือฉีไม่ใส่ใจอะไรกับเฉินชางมากนัก ทฤษฎีก็คือทฤษฎี ความจริงก็คือความจริง
การรักษาทางการแพทย์ไม่ได้ว่ากันด้วยตัวหนังสือกระดาษอย่างเดียว เขาสือฉีคนนี้ไม่ใช่คนที่หมอตัวเล็กๆ ในแผนกฉุกเฉินจะมาเทียบเคียงได้
ดังนั้นกล่าวได้ว่า สือฉีไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องของเฉินชางเลย
…
…
ทุกคนเริ่มลงมือฝึกฝน
เวลาประมาณสิบเอ็ดโมง โทรศัพท์มือถือของสือฉีก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล หัวหน้าสือ? ฉันจางเยียนแผนกสูตินรีเวชค่ะ” เสียงผู้หญิงดังขึ้นจากปลายสาย
สือฉีหยุดชะงักเล็กน้อย ความสัมพันธ์ระหว่างแผนกสูตินรีเวชกับแผนกศัลยกรรมเต้านมจัดว่าดีใช้ได้ ถึงอย่างไรเสียมารดาบางรายก็ไม่มีน้ำนมหลังคลอดบุตรด้วยสาเหตุต่างๆ บางครั้งก็เพราะเป็นฝีในเต้านม[1]…อะไรทำนองนี้ มักต้องมีการวินิจฉัยร่วมกันอยู่บ่อยครั้ง
สือฉีก็เลยหัวเราะออกมา “อ๋อครับ! หมอจาง มีอะไรหรือครับ”
จางเยียนค่อนข้างร้อนรน “คืออย่างนี้ค่ะหัวหน้าสือ แผนกของพวกเรารับผู้ป่วยใหม่เข้ามาหนึ่งราย”
“ผู้ป่วยเป็นผู้หญิงอายุยี่สิบแปดปี ตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว ช่วงไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์จู่ๆ ก็พบว่าการดิ้นของทารกในครรภ์ลดน้อยลง หลังจากที่หัวหน้าจางกับผู้เชี่ยวชาญสองท่านวินิจฉัยร่วมกันแล้วได้ข้อสรุปว่า ทารกในครรภ์น่าจะเป็นโรคหายากอย่าง ‘โรคหลอดน้ำเหลืองรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด[2]’ หลังจากตรวจอัลตราซาวด์แล้ว น้ำที่คั่งอยู่ในช่องเยื่อหุ้มปอดอยู่ที่ประมาณสองร้อยห้าสิบมิลลิลิตร ตอนนี้จำเป็นต้องอัลตราซาวด์เพื่อเจาะระบายของเหลวออกจากช่องเยื่อหุ้มปอด สถานการณ์อันตรายมาก จำเป็นต้องขอให้คุณมาร่วมวินิจฉัยด้วย มาช่วยพวกเราดูหน่อยนะคะ!”
สือฉีพลันชะงัก โรคหลอดน้ำเหลืองรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด?
“ผม…ผมจะลงไปดูให้ครับ”
สือฉีบอกตามตรงว่าเขาไม่อยากไปเลย เพราะเขารู้ที่ไหนกันว่าโรคหลอดน้ำเหลืองรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอดคือโรคอะไร
แต่ไม่ไปก็ไม่ได้อีก ทางนั้นเลือกเชิญให้คุณไปช่วย
หัวหน้าจาง หัวหน้าใหญ่แผนกสูตินรีเวช…หัวหน้าจางเป็นหมอที่มีชื่อเสียงก้องกังวานของโรงพยาบาล ไปก่อนค่อยว่ากัน
…
…
ในเวลานี้ ภายในห้องผู้ป่วยของแผนกสูตินรีเวช เครื่องอัลตราซาวด์ตั้งอยู่ข้างเตียง หัวหน้าแผนกสูตินรีเวชยืนรวมตัวกันอยู่ กำลังดูภาพผลตรวจอัลตราซาวด์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
จางเยียนวิ่งเข้าไปด้วยความรีบร้อน “หัวหน้าคะ ฉันโทรหาหัวหน้าสือแล้วค่ะ”
จางจิ้นเฟิงชะงัก “สือฉี…เขาจะช่วยได้? หรือว่าจะโทรหาผู้เชี่ยวชาญแผนกศัลยกรรมทรวงอกของโรงพยาบาลตงต้าหรือไม่ก็โรงพยาบาลประชาชนแห่งมลฑลดี”
หัวหน้าอีกสองท่านกล่าวว่า “ให้เขามาก่อนค่อยว่ากัน ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่เร่งด่วนมาก ถ้าพวกเราทำไม่ได้ค่อยติดต่อทางนั้น”
จางจิ้นเฟิงพยักหน้า แต่ก็ยังคงกล่าวขึ้นอีกว่า “เสี่ยวจาง ยังไงก็โทรหาแผนกศัลยกรรมทรวงอกโรงพยาบาลตงต้าสักหน่อยเถอะ ทางนั้นอยู่ใกล้ เชิญผู้เชี่ยวชาญสักหนึ่งคนให้รีบมาที่นี่ มาร่วมวินิจฉัยกับเรา”
จางเยียนรีบพยักหน้า
ในเวลานี้ สีหน้าของผู้ป่วยหยางซือฉีดูตื่นตระหนกหวาดกลัวจนแทบคลุ้มคลั่ง ส่งเสียงสะอึกสะอื้น ร้องไห้ฟูมฟาย “คุณหมอ…คุณหมอ จะต้องรักษาเด็กให้ได้นะคะ! กว่าฉันจะตั้งครรภ์ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยจริงๆ!”
เว่ยจวิ้นหมิงสามีของหยางซือฉีถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม เดินวนไปเวียนมาอยู่ในห้องผู้ป่วยด้วยท่าทางที่ดูกระสับกระส่ายร้อนรน
พวกเขาสองสามีภรรยาเรียกได้ฝ่าฟันอุปสรรคมากมายกว่าจะมีเด็กคนนี้!
แต่งงานกันมาสี่ปี ไม่ตั้งครรภ์เสียที ลองทำทุกวิถีทาง คิดหาเทคนิคต่างๆ นานา แต่สุดท้ายก็ยังไม่ตั้งครรภ์เสียที
สุดท้ายภายใต้การช่วยเหลือของแผนกสูตินรีเวชโรงพยาบาลอันดับสอง ใช้วิธีทางการแพทย์ทำให้ตั้งครรภ์ได้สำเร็จ
หลังจากที่ตั้งครรภ์แล้ว กล่าวได้ว่ามีความสุขมากกันทั้งครอบครัว ในที่สุดภรรยาก็ตั้งครรภ์แล้ว แบบนี้ใครจะไม่ดีใจล่ะ
กล่าวได้ว่ากว่าจะได้ลูกหัวแก้วหัวแหวนคนนี้ช่างยากเย็นแสนเข็ญ ด้วยเหตุนี้สองสามีภรรยาคู่นี้ก็เลยรักทะนุถนอมเจ้าตัวน้อยที่กำลังจะออกมาลืมดูโลกมากเป็นเท่าตัว
ทว่ายิ่งใกล้ถึงวันคลอดมากขึ้นเท่าไหร่ หยางซือฉีก็รู้สึกว่าจู่ๆ ช่วงนี้ลูกในท้องก็ดิ้นน้อยลงอย่างรู้สึกได้ชัดเจน
ทำให้หยางซือฉีถึงตกใจกลัวจนเสียขวัญ เธอรีบไปอัลตราซาวด์ที่โรงพยาบาลท้องถิ่นทันที
ผลตรวจอัลตราซาวด์พบว่าปอดข้างขวาของทารกมีของเหลวปริมาณมากคั่งอยู่
หมอโรงพยาบาลท้องถิ่นไม่เคยเจออาการเช่นนี้มาก่อน จึงตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นความพิการแต่กำเนิด แนะนำแค่ว่าต้องรีบคลอดก่อนกำหนดด้วยวิธีเร่งคลอด หรือไม่ก็ต้องไปตรวจและรักษาที่โรงพยาบาลในเมืองอันหยาง!
สำหรับครอบครัวนี้แล้ว ข่าวร้ายนี้เรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายที่โหดร้ายมากเรื่องหนึ่ง!
พวกเขารอคอยมาตั้งนานกว่าจะได้เด็กคนนี้มา พอใกล้จะถึงวันคลอดกลับต้องมาเจอกับสถานการณ์เช่นนี้!
หยางซือฉีทนไม่ได้อีกต่อไป!
เธอโทรเรียกสามีที่ออกไปปฏิบัติงานต่างถิ่นให้กลับมาบ้าน แล้วขับรถพาเธอไปโรงพยาบาลอันดับสองทันที
ข่าวร้ายนี้ทำเอาหญิงสาวอย่างหยางซือฉีกับชายหนุ่มอย่างเว่ยจวิ้นหมิงสองสามีภรรยาถึงกับตั้งรับไม่ทัน สองสามีภรรยาผู้ซึ่งไม่ยอมทิ้งความปรารถนาที่จะมีลูกไว้เพียงเท่านี้
…
…
แผนกสูตินรีเวชของโรงพยาบาลอันดับสองมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการรักษามากในมลฑลตงหยาง จางจิ้นเฟิง หัวหน้าใหญ่ของแผนกสูตินรีเวชได้รับสมญานามว่าเป็น ‘เจ้าแม่กวนอิมปางประทานบุตร’
จางจิ้งเฟิงเป็นผู้มีบทบาทในแผนกสูตินรีเวชของโรงพยาบาลอันดับสอง เธอให้ความสำคัญกับแผนกสูตินรีเวช เธอเริ่มพัฒนาหน่วยงานวิจัยทางการแพทย์ระดับชาติมาตั้งแต่ปี 2006 จนกระทั่งหลังศตวรรษที่ยี่สิบ เธอพบว่าปัจจุบันมีผู้ป่วยภาวะมีบุตรยากมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ!
ดังนั้นเธอจึงใช้พื้นที่ครึ่งหนึ่งของแผนกสูตินรีเวชก่อตั้งศูนย์เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ขึ้น การกระทำที่เฉียบแหลมเช่นนี้ของจางจิ้งเฟิงช่วยแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยากให้หลายครอบครัวจนนับไม่ถ้วน
จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ห้องทำงานหัวหน้า ห้องทำงานหมอ แม้กระทั่งห้องผู้ป่วยในแผนก ก็ยังแขวนธงแห่งชัยชนะเต็มไปหมดจนนับไม่ไหว!
‘เจ้าแม่กวนอิมปางประทานบุตร’ สมญานามที่แสนงดงามของจางจิ้นเฟิงเป็นที่เลืองลือในเวลาต่อมา
ในตอนที่หยางซือฉีกับเว่ยจวิ้นหมิงผู้เป็นสามีมาถึงโรงพยาบาลแล้ว จางเยียนเป็นผู้รับเคส เธอรีบตรวจอัลตราซาวด์ให้กับหยางซือฉีอีกครั้ง ผลตรวจยังพบว่าพบว่าปอดข้างขวาของทารกมีของเหลวปริมาณมากคั่งอยู่ หัวใจของทารกอ่อนแอลงเรื่อยๆ
จางเยียนเองก็ยังไม่เคยเจอสภาวะเช่นนี้มาก่อน เธอลงความเห็นอะไรไม่ได้เลย จึงให้หยางซือฉีทำเรื่องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทันที จากนั้นก็ให้หัวหน้ามาตัดสินเรื่องแนวทางรักษา
หลังจากที่ผู้ป่วยเข้าไปพักในห้องผู้ป่วยแล้ว ทีมผู้เชี่ยวชาญแผนกสูตินรีเวชก็ประชุมใหญ่เพื่อร่วมกันวินิจฉัยและวางแผนการรักษาด่วนทันที หลังจากที่การหารือเสร็จสิ้น จางจิ้นเฟิงก็เกิดความคิดขึ้นในใจ!นี่เป็นโรคที่พบได้น้อยมาก!
โรคหลอดน้ำเหลืองรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด นานๆ ทีจะเจอสักราย
หยางซือฉีร้องไห้สะอึกสะอื้นกล่าวเสียงสั่นเครือ “หัวหน้าจางคะ…ทำไมอยู่ดีๆ ถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ เด็ก…เด็กยังมีโอกาสรอดหรือเปล่าคะ…
…พวกเราต้องการเด็กคนนี้มากจริงๆ นะคะ ขอร้องหัวหน้าจางช่วยพวกเราด้วยนะคะ หัวหน้าจาง!”
ขณะที่อ้อนวอนอยู่นั้น หยางซือฉีก็ลงจากเตียงผู้ป่วย คิดจะคุกเข่าโน้มศีรษะแนบพื้น!
จางจิ้นเฟิงยืนสง่างามอยู่ตรงนั้น คำพูดที่เปล่งออกมาสุขุมเยือกเย็นมากจนทำให้คนที่ได้ยินถึงกับสงบลงทันที!
เป็นหญิงสูงวัยรูปร่างอ้วนท้วนที่ดูสง่างามจริงๆ!
มีราศีของความเป็นผู้นำเปล่งประกายออกมาจากหน้าผาก!
“เอ่อ เสี่ยวหยาง พวกคุณไม่ต้องกังวล ฉันจะบอกอาการของทารกให้คุณฟัง! ทารกน่าจะเป็นโรคที่พบยาก ‘โรคหลอดน้ำเหลืองรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด’ แต่ไม่ได้เป็นความพิการแต่กำเนิด ดังนั้นคุณวางใจได้”
ความพิการแต่กำเนิดเป็นสิ่งที่รักษายาก แต่ถ้าเป็นแค่โรคชนิดหนึ่งที่ไม่ได้เกิดจากความพิการแต่กำเนิดก็ยังมีโอกาสรักษาหาย
ถึงอย่างไรเสีย…การคลอดเด็กที่พิการแต่กำเนิดออกมา เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมกับเด็กนัก สำหรับครอบครัวนี้แล้วยิ่งเป็นเรื่องที่กระทบความรู้สึกหนักหน่วงมากเรื่องหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้ ปกติเวลาที่แผนกสูตินรีเวชเจอเคสทารกในครรภ์มีความพิการแต่กำเนิด ก็จะเป็นเรื่องที่ตัดสินยากมาก!
ไม่ว่าจะเกิดเรื่องกับนักมนุษยธรรมหรือใครก็ตามแต่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตัดสินเลือกได้ยากมาก
จางจิ้นเฟิงกล่าวต่อว่า “โรคหลอดน้ำเหลืองรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอดคือโรคอะไรน่ะหรือ ฉันจะอธิบายให้คุณฟัง…
…น้ำที่คั่งอยู่ในช่องเยื่อหุ้มปอดประมาณสองร้อยห้าสิบมิลลิลิตร ภาวะน้ำคั่งในช่องเยื่อหุ้มปอดเช่นนี้จะทำให้เกิดแรงดันมหาศาลจนปอดยุบตัวลง ถุงลมไม่เจริญเติบโต หัวใจถูกดันไปด้านข้าง ส่งผลให้หัวใจอ่อนแรงลง หรือพูดได้ว่าอันตรายที่เด็กกำลังเผชิญคือภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด!”
ในเวลานี้จู่ๆ หมอที่ตรวจอัลตราซาวด์ก็พบว่า “หัวหน้า สถานการณไม่ดีแล้ว ตอนนี้ทารก…หัวใจอ่อนแรงมากแล้ว ฉันกังวลว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ทารกจะหัวใจล้มเหลวได้ จำเป็นต้องรีบดำเนินการแล้ว!”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทุกคนต่างก็หน้าถอดสี!
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่อันตรายสูงเช่นนี้ ถ้าไม่รีบเจาะระบายของเหลวออกให้เร็วที่สุด ของเหลวก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทารกอาจหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิตในครรภ์ได้
ในกรณีที่ใช้วิธีคลอดธรรมชาติ มีแนวโน้มสูงมากว่าทารกจะเสียชีวิตเพราะหัวใจทนต่อแรงบีบตัวของมดลูกไม่ได้
แต่ต่อให้คลอดออกมาได้อย่างราบรื่น ถ้าปอดของเด็กแรกเกิดยังขยายตัวหลังคลอดไม่ได้ก็อาจทำให้เด็กเสียชีวิตเพราะขาดออกซิเจนได้
กล่าวโดยสรุปคือ สถานการณ์อันตรายมาก!
[1] ฝีในเต้านม เกิดจากภาวะแทรกซ้อนจากการอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อภายในเต้านม ซึ่งทำให้เกิดหนองจนกลายเป็นฝี
[2] โรคหลอดน้ำเหลืองรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด เกิดจากการคั่งของน้ำเหลืองในช่องปอด อาจเกิดจากการขัดขวางการไหลเวียนน้ำเหลืองที่ปอด พบประมาณ 1:10,000 ของการคลอด พบในทารกเพศชายเป็นสองเท่าของเพศหญิง