เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 321 ให้ตายเถอะ จริงๆ เลย!
บทที่ 321 ให้ตายเถอะ จริงๆ เลย!
เฉินชางไม่พอใจกับค่าความรู้สึกดีที่ได้รับในวันนี้เลย! อาจเรียกได้ว่าแค่ค่อนข้างพอใจเท่านั้น เพราะได้ค่าความรู้สึกดีเพิ่มขึ้นมาแค่ห้าคะแนน
ค่าความรู้สึกดีสามสิบสามคะแนนมีประโยชน์อะไร
เฉินชางเพิ่งคิดถึงตรงนี้ เมิ่งซีก็หันมามองเขาแล้วพูดว่า “สองวันนี้คุณก็มาบ่อยหน่อยนะคะ ฉันจะให้คุณทำเคสผ่าตัดถุงเยื่อหุ้มหัวใจที่มีในสองวันนี้”
เฉินชางพลันดวงตาสว่างวาบ “ผมหรือครับ ผม…ให้ผมทำได้หรือ”
น้ำเสียงของเมิ่งซีไม่มีสะดุดเลยสักนิด ยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบดุจสายลม “ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ช่างเถอะค่ะ”
เฉินชางสีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน “ผมทำได้! ผมทำได้ ทำได้แน่นอน!”
เฉินชางจะพูดว่าตัวเองทำไม่ได้ได้ด้วยหรือ ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งจริงๆ
เขายังขาดการผ่าตัดอีกสี่เคส หากไม่มีภารกิจนี้ เฉินชางก็เตรียมใช้คะแนนทักษะแล้ว
อดทนไว้!
เมื่อเห็นสายตาที่คล้ายกับกำลังดูเรื่องสนุกของคนทั้งสาม เฉินชางก็ไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด “ผมทำได้จริงๆ นะ!”
เมิ่งซีเห็นดังนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา
ทางด้านเก่อฮว๋ายและหัวหน้าแผนกซย่าเกาเฟิงมองเฉินชางด้วยสายตาใคร่ครวญ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
เฉินชางชะงักไปเล็กน้อย ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็มีสีหน้าประหลาดใจ
หลังเดินออกมาจากห้องผ่าตัดแล้ว เฉินชางก็รู้สึกว่าสิ่งที่ค่าความรู้สึกดีสามสิบคะแนนนำมาให้ดูจะแตกต่างไปจริงๆ ก่อนหน้านี้ตอนที่มีค่าความรู้สึกดียี่สิบคะแนน อาจารย์เมิ่งซีไม่ค่อยวางใจเขาเท่าไหร่นัก ไม่ต้องพูดถึงการผ่าตัดเลย ขนาดจะช่วยก็ยังต้องต่อสู้แย่งชิงมา แต่ตอนนี้เมื่อค่าความรู้สึกดีผ่านด่านสามสิบคะแนนไปแล้ว ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างแตกต่างไปเล็กน้อย เธอให้เฉินชางทำการผ่าตัดบ้างแล้ว
ดูท่าทางค่าความรู้สึกดีคงซับซ้อนมาก เฉินชางคาดหวังจริงๆ ว่าค่าความรู้สึกดีของอาจารย์เมิ่งจะเพิ่มขึ้นไม่หยุด จะได้เผยเบาะแสอะไรใหม่ๆ ให้เขารู้บ้าง
……
……
เพิ่งจะลงลิฟท์มา เฉินชางก็พบว่าจิ่งหรานวิ่งตรงมาทางนี้จึงกล่าวทักทายไป แต่อีกฝ่ายคล้ายจะหูหนวก เหมือนไม่ได้ยินเสียอย่างนั้น
เฉินชางรู้สึกแปลกใจมาก รีบร้องเรียกไปว่า “หมอจิ่งครับ”
คราวนี้จิ่งหรานจึงค่อยหันมามอง จากนั้นสีหน้าก็แปรเปลี่ยนไปเป็นตกตะลึงเล็กน้อย “หมอเฉิน คุณมาที่โรงพยาบาลตงต้าได้ยังไงครับ”
เฉินชางยิ้ม “ผมก็มาเรียนต่อเฉพาะทางไงครับ อาจารย์ของผมก็คือเมิ่งซี”
เมื่อจิ่งหรานได้ยินชื่อเมิ่งซีก็พยักหน้าเล็กน้อย เป็นเธอหรอกหรือ
ขณะที่จิ่งหรานมองไปทางเฉินชางก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “หมอเฉิน พอดีเลย ที่แผนกฉุกเฉินมีผู้ป่วยเคสประหลาดอยู่คนหนึ่ง ผมกำลังจะไปดู คุณจะไปด้วยกันไหมครับ”
เมื่อเฉินชางได้ยินคำว่าผู้ป่วยเคสประหลาดก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที เขารีบพยักหน้าแล้วตอบว่า “ไปครับ!”
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณบ่ายโมงแล้ว อีกนานกว่าจะเข้างาน หากเทียบกับอาการป่วยที่ทำให้จิ่งหรานรู้สึกสนอกสนใจแล้ว อาหารมื้อเดียวดูเหมือนจะไม่มีค่าให้พูดถึงจริงๆ
เมื่อได้ยินเฉินชางตอบรับ จิ่งหรานก็มีสีหน้ายินดี อารมณ์สงบลงมาก
ในใจของจิ่งหรานจัดให้เฉินชางอยู่ในตำแหน่งค่อนข้างสูงมาตลอด เขารู้สึกว่าเฉินชางสุดยอดมาก เป็นหมอที่เก่งกาจประเภทนั้นเลย อย่างน้อยก็อยู่ในระดับเดียวกับตน หรืออาจจะเก่งกว่าตนด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อเห็นว่าเฉินชางตกลงแล้วจึงเกิดความรู้สึกปลอดภัยขึ้นมา
เพราะลักษณะพิเศษของอาการป่วยประเภทต่างๆ มีมากมาย เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะเชี่ยวชาญและมั่นใจทุกอย่าง!
ทั้งสองเดินไปด้วยกันจนมาถึงแผนกฉุกเฉิน เมื่อเข้ามาแล้วหมอเวรก็รีบเดินเข้ามาหาทันที
“หัวหน้าจิ่ง คุณมาแล้ว!” หมอเวรชื่อหยางหลิน ยังอายุไม่มาก เพิ่งจะสามสิบต้นๆ เมื่อเห็นจิ่งหรานก็มีท่าทางเคารพนอบน้อม เรียกแต่ละคำก็หัวหน้าจิ่งๆ
เมื่อมาดูทางจิ่งหราน ก็คล้ายว่าเขาจะชินกับฐานะและคำเรียกนี้แล้ว เขาผงกศีรษะเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้นครับ”
หยางหลินเดินเข้ามาพลางกล่าวว่า “ผู้ป่วยมีอาการไอมาครึ่งเดือนกว่าแล้วค่ะ ไอรุนแรงมาสิบวัน พวกยาแก้ไอก็ไม่ได้ผลอะไรเลยค่ะ”
จิ่งหรานชะงักไปเล็กน้อย ผู้ป่วยที่มีอาการไอแบบนี้ควรไปที่แผนกอายุรกรรมไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมาปรึกษาแผนกศัลยกรรมทรวงอกได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้จิ่งหรานก็เอ่ยถามว่า “มีหมอแผนกทางเดินหายใจมาดูหรือยังครับ”
หยางหลินพยักหน้า “มาแล้วค่ะ แต่เขาตรวจเสร็จก็บอกว่าไม่ใช่โรคของแผนกอายุรกรรม ยิ่งไปกว่านั้นการตรวจทางสรีรวิทยาและการตรวจทางเคมีก็บ่งชี้ให้เห็นชัดเจนว่าทุกอย่างเป็นปกติ”
“แต่…ดูจากผลซีทีสแกนของทรวงอกแล้วดูเหมือนจะมีจุดแปลกๆ อยู่นะคะ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หยางหลินก็ยื่นผลซีทีสแกนทรวงอกมาให้
เมื่อจิ่งหรานรับมาดูแล้วก็ต้องชะงักไปทันที!
เขาพบว่าในผลซีทีสแกนมีเงาดำอยู่!
จิ่งหรานพลันตื่นตะลึง นี่มันอะไรกัน ดูไม่เหมือนเนื้องอกและไม่เหมือนหลอดลมติดเชื้อ และยิ่งไม่เหมือนปอดอักเสบ มีอาการไอรุนแรงมาครึ่งเดือน การตรวจทางสรีระวิทยาและการตรวจทางเคมีก็บอกว่าปกติ หรือว่าจะ…มีสิ่งแปลกปลอมกีดขวาง?
จิ่งหรานแปลกใจ ตกลงมีอะไรไปอุดอยู่กันแน่ เป็นเคสตัวอย่างที่แปลกประหลาดจริงๆ!
เมื่อดูเสร็จแล้วก็ส่งผลซีทีสแกนไปให้เฉินชาง “หมอเฉินลองดูสิครับ”
เฉินชางตอบอืมไปทำหนึ่งแล้วรับผลซีทีสแกนมาดู ไม่นานก็เห็นเงาดำๆ ในนั้น
เมื่อวินิจฉัยจากตำแหน่งและรูปร่างแล้ว…จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกคุ้นตา เหมือนกับภาพในความทรงจำมากจริงๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นเฉินชางก็เกือบจะหลุดยิ้มออกมา
ดีที่ไม่ได้สวมเสื้อกาวน์ ทุกคนเลยไม่ให้ความสนใจกับเฉินชางมากนัก แต่จิ่งหรานกลับนิ่งไปแล้ว
มันน่าหัวเราะหรือ
เฉินชางรีบกระแอมแก้เขิน “ปัญหาอยู่ที่หลอดลมซ้าย มีสิ่งแปลกปลอมอุดอยู่ครับ!”
เสียงของเฉินชางเต็มไปด้วยความมั่นใจ ท่าทางแน่วแน่
เมื่อจิ่งหรานได้ยินดังนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง “หลอดลมซ้ายหรือครับ”
เฉินชางพยักหน้า “ไปห้องส่องกล้องกันเถอะครับ ดูกันว่าเป็นอะไร”
จิ่งหรานมองไปทางหยางหลินแล้วพูดว่า “อาจจะมีสิ่งแปลกปลอมไปกีดขวางอยู่ในหลอดลมด้านซ้าย เราจะใช้กกล้องสอดไปที่หลอดลมเพื่อตรวจสอบ ดูให้แน่ใจว่าเป็นอะไรกันแน่”
หลังพูดจบจิ่งหรานก็มองไปที่ผู้ป่วย เธอเป็นหญิงสาวอายุยี่สิบกว่าปีคนหนึ่ง กำลังนอนอยู่บนเตียง ไอออกมาเป็นพักๆ เสียงไอค่อนข้างแห้ง เสียงก็ฟังดูแหบๆ
ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะสงบลมหายใจได้ เธอถามด้วยหน้าตาเคร่งเครียดว่า “หมอคะ นี่ฉัน…เป็นอะไรหรือคะ”
จิ่งหรานครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วถามกลับว่า “อาการไอของคุณมีสาเหตุมาจากอะไรหรือครับ คุณได้ยัดอะไรเข้าไปที่จมูกหรือปากของตัวเองหรือเปล่า ตอนกินข้าวมีอาการสำลักอาหารไหมครับ”
สิ่งแปลกปลอมในหลอดลมไม่ใช่อาการที่หายาก สถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
เธอคิดครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า “ไม่มีค่ะ ไม่มีเลย อาการสำลักก็เกิดหลังจากมีอาการไอแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่มีนะคะ”
แปลกจริงๆ!
หรือว่าไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม
จิ่งหรานมองไปทางเฉินชางด้วยสายตาสงสัย เฉินชางก็ยิ้มบางๆ แล้วกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูเขา
นั่นทำให้จิ่งหรานตกตะลึงจนนิ่งไปเลย!
เขาเบิกตากว้าง มองไปทางเฉินชาง สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
คนกลุ่มหนึ่งพาผู้ป่วยมาที่ห้องส่องกล้อง เตรียมส่องกล้องเพื่อตรวจสอบดูว่าเป็นอะไรกันแน่
หยางหลินก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน ชายหนุ่มคนนี้กระซิบอะไรกับจิ่งหรานกันแน่ถึงได้ทำให้หัวหน้าจิ่งคนนั้นถึงกับตะลึงพรึงเพริดได้
ไม่นานหมอส่องกล้องก็สอดกล้องเข้าไปดูของที่อยู่ด้านในหลอดลม ทำเอาเกือบหัวเราะออกมาจริงๆ
เป็นของพิสดารจริงๆ เลย!
หมอที่เป็นผู้ส่องกล้องดูหลอดลมทำงานมาหลายปีแล้ว ไม่ว่าจะเคสเล็กเคสใหญ่ก็เคยเห็นทั้งนั้น แต่มีเพียงเรื่องน่าสนใจและพิสดารแบบนี้เท่านั้นที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
โลกใบนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่มีจริงๆ
หยางหลินหมอแผนกฉุกเฉินที่ยืนอยู่ด้านหลังก็เห็นของที่ปรากฏบนหน้าจอแล้ว เธอถึงกับมึนงงไปเลย
ส่วนจิ่งหรานก็มีสีหน้าตะลึงพรึงเพริด ในใจอุทานออกมาว่า
ให้ตายเถอะ จริงๆ เลย!