เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 334 เฉินชางเรียนกับใคร
บทที่ 334 เฉินชางเรียนกับใคร
วันนี้ห้องผ่าตัดหมายเลขสามของโรงพยาบาลอันดับสองมีผ่าตัดผู้ป่วยจากอุบัติเหตุรถยนต์เคสหนึ่ง ผู้ป่วยมีอาการกระดูกหักในตำแหน่งสำคัญหลายแห่ง ม้ามแตก และมีเลือดออกในช่องท้องมาก
การผ่าตัดในเคสนี้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลอันดับสองและโรงพยาบาลตงต้าไว้มากมาย ใช้เวลาไปหกชั่วโมงกว่า ในที่สุดการผ่าตัดก็เสร็จสิ้น
หลี่เป่าซาน หวังเซี่ยงจวิน เถามี่ หลี่เจี้ยนเหว่ย จางโหย่วฝู คนทั้งห้าเพิ่งจะเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย การผ่าตัดที่ใช้เวลาหกชั่วโมงยากลำบากมาก ทุกคนรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีเวลาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันด้วยซ้ำ
ไม่ทันไรก็พบว่าพยาบาลของแผนกฉุกเฉินวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางตื่นตระหนกปนยินดี!
เมื่อเธอเห็นหลี่เป่าซานก็วิ่งมาเบื้องหน้าแล้วรีบร้อนกล่าวว่า “หัวหน้าคะ ตอนนี้หมอเสี่ยวเฉินกำลังผ่าตัดเร่งด่วนอยู่ในห้องฉุกเฉินค่ะ!”
เมื่อคำนี้ถูกกล่าวออกมา แพทย์ระดับหัวหน้าทั้งห้าคนพลันสีหน้าเปลี่ยนไปทันที!
เมื่อหลี่เป่าซานได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้าง “อะไรนะ ผ่าตัดในห้องฉุกเฉินหรือ!”
กล่าวจบหลี่เป่าซานก็ไม่สนใจจะเปลี่ยนชุด วิ่งไปข้างนอกทั้งๆ ที่สวมเสื้อผ่าตัดสีม่วงเลย! ตอนนี้เขากระวนกระวายใจแทบตายแล้ว! ความเหน็ดเหนื่อยที่มีถึงกับหายเป็นปลิดทิ้ง!
ต้องทราบว่าการผ่าตัดในห้องฉุกเฉินจะต้องมีข้อปฏิบัติทางการผ่าตัดที่เข้มงวด มิฉะนั้นไม่ว่าการผ่าตัดจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็จะมีปัญหาตามมา!
เฉินชางคนนี้จะใจกล้าเกินไปแล้ว! จะต้องเป็นเพราะช่วงนี้เขาปล่อยปละอีกฝ่ายเกินไปแน่นอน ถึงได้ทำอะไรตามใจขนาดนี้!
ยิ่งคิดหลี่เป่าซานก็ยิ่งโกรธ สีหน้าก็ยิ่งดำมืด!
ทำไมไอ้หนุ่มนี่ถึงได้ทำตัวเหลวไหลแบบนี้ ปกติก็ทำตัวได้ดี ทำไมถึงได้ทำเรื่องเลอะเลือนออกมาได้
เรื่องนี้เกี่ยวข้องพัวพันไปถึงหลักการของหลี่เป่าซานและกฎของโรงพยาบาล! มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลี่เป่าซานก็ยิ่งสับเท้าเร็วขึ้น!
แพทย์ระดับหัวหน้าอีกสี่คนก็ไม่ได้ไปไหน ทุกคนต่างเป็นศัลยแพทย์ ย่อมมีความสนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก! เนื่องจากการผ่าตัดในห้องฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นแผนกใดก็ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย
จางโหย่วฝูชะงักไปเล็กน้อย “เสี่ยวเฉินไม่ใช่คนบุ่มบ่ามนะครับ เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เถามี่เงียบไปครู่หนึ่ง “ผมก็คิดว่าเสี่ยวเฉินคงไม่ทำเรื่องเหลวไหลแบบนี้แน่ จะต้องเกิดอะไรบางอย่างแน่นอน ไปกันเถอะ พวกเราไปดูด้วยกันเถอะครับ!”
หลี่เจี้ยนเหว่ยพยักหน้า “ไปเถอะ ขออย่าให้มีเรื่องอะไรเลย ผ่าตัดในห้องฉุกเฉินมีความอันตรายสูงมาก ไปดูกันเถอะครับว่าพวกเราช่วยอะไรได้หรือเปล่า”
หวังเซี่ยงจวินเป็นหมอที่มาจากแผนกฉุกเฉิน ดังนั้นในใจจึงรู้สึกเคร่งเครียดตามไปด้วย
รีบร้อนผ่าตัดโรคฉุกเฉินหรือ ตกลงเป็นโรคอะไรกันแน่
แต่ก็…ไม่กล่าวไม่ได้ว่าหมอคนนี้ใจกล้ามากจริงๆ
ที่โรงพยาบาลตงต้าไม่มีการผ่าตัดเร่งด่วนในห้องฉุกเฉินแบบนี้มาหลายปีแล้ว
ว่าแต่เฉินชางเป็นใคร ทำไมรู้สึกคุ้นหูแบบนี้นะ
ทันใดนั้นเอง…ในสมองของหวังเซี่ยงจวินก็ปรากฏภาพชายหนุ่มผู้สวมเสื้อกาวน์ของโรงพยาบาลอันดับสองที่ไปช่วยกำหนดส่วนผสมน้ำยาฟอกไตที่โรงพยาบาลตงต้า
เขาเองหรือ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หวังเซี่ยงจวินก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที ความจริงเขารู้สึกดีกับชายหนุ่มคนนี้มาก ป็นชายหนุ่มที่ ‘มากความสามารถ มากไหวพริบ’
อืม คำที่หวังเซี่ยงจวินคิดออกก็มีแค่ ‘มากความสามารถ มากไหวพริบ’ เท่านั้น หมอแผนกฉุกเฉินคนไหนบ้างที่ต้องเรียนรู้วิธีการผสมน้ำยาฟอกไต
คิดถึงตรงนี้ แพทย์ระดับหัวหน้าทั้งสี่คนก็รีบเร่งฝีเท้า วิ่งไปยังห้องฉุกเฉินโดยไม่ได้เปลี่ยนชุด
หัวหน้าพยาบาลเห็นแพทย์ระดับหัวหน้าทั้งห้าคนเดินออกไปจากห้องผ่าตัดก็รู้สึกขุ่นเคืองแต่ไม่กล้าพูดอะไร ทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาเดินออกไป
……
……
ภายในห้องผ่าตัดฉุกเฉิน แพทย์ระดับหัวหน้าทั้งห้าคนเห็นหัวใจสีม่วงที่ปรากฏให้เห็นนอกถุงเยื่อหุ้มหัวใจแล้วต่างก็รู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง รู้สึกขนลุกจนตัวสั่น
ภาวะหัวใจบีบรัดรวมกับโรคเลื่อนที่ถุงหุ้มหัวใจ! ไม่ว่าจะเป็นโรคใดก็ทำให้ผู้ป่วยตายได้อย่างรวดเร็วทั้งนั้น และเมื่อสองอาการนี้มารวมกันจะหมายถึงอะไรได้
อันตราย + อันตราย = โคตรอันตราย!
การผ่าตัดนี้จำเป็นต้องเร่งดำเนินการในห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็วที่สุด ไม่สิ ไม่ใช่แค่ต้องทำในห้องฉุกเฉินของแผนกฉุกเฉินเท่านั้น ขอเพียงอยู่ในสถานที่ปลอดภัยใดๆ ก็ต้องผ่าตัดแล้ว! เพราะมันอันตรายเกินไป!
ไม่มีกฎเกณฑ์ใดสำคัญไปกว่าการช่วยเหลือผู้คน
ตอนนี้แพทย์ระดับหัวหน้าทั้งห้าคนมองไปที่เฉินชาง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสั่นสะท้าน!
ชายหนุ่มคนนี้ต้องมีความเด็ดเดี่ยวแค่ไหน ต้องมีความกล้าขนาดไหนกัน!
หากว่ากันตามจริง คนที่กล้าผ่าตัดฉุกเฉินเช่นนี้ ไม่เพียงจะต้องมีเทคนิคการรักษาพยาบาลที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่จะต้องมีความเด็ดขาดกล้าหาญพร้อมเผชิญหน้ากับอันตรายด้วย
ตอนนี้หลี่เป่าซานยังจะมีความขุ่นเคืองได้อีกหรือ เขารู้สึกว่าเป็นโชคดีด้วยซ้ำ!
ยังดีที่เป็นเฉินชาง หากเป็นหมอคนอื่น…หลี่เป่าซานไม่กล้าคิดเลยว่าจะมีผลลัพธ์อย่างไร เขารู้จักหมอในแผนกฉุกเฉินดีเกินไป รู้ว่านี่เป็นเรื่องที่เฉินชางทำได้คนเดียว
เมื่อเห็นหัวใจที่เริ่มมีสีเข้มดวงนั้น หลี่เป่าซานก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆ
……
……
ตอนนี้การผ่าตัดยังคงดำเนินต่อไป เฉินชางไม่เสียสมาธิแม้แต่น้อย เขาไม่มีเวลาไปสนใจสิ่งรอบตัว ทำเพียงยกมีดผ่าตัดขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มกรีดเปิดถุงเยื่อหุ้มหัวใจ! ขยับหัวใจกลับสู่ตำแหน่งเดิมอย่างระมัดระวัง เมื่อถุงเยื่อหุ้มหัวใจถูกกรีดเปิดแล้วก็ต้องทำการซ่อมแซมหลอดเลือดที่เสียหายด้วยความระมัดระวังต่อไป
หลังจากถุงเยื่อหุ้มหัวใจเสียหายจะต้องมีหลอดเลือดเล็กๆ เสียหายตามไปด้วยแน่นอน
เมื่อเฉินชางกรีดเปิดถุงเยื่อหุ้มหัวใจ เบื้องหน้าก็ปรากฏตัวอักษรสีแดงจำนวนมากขึ้นมาทันที
หลอดเลือดที่ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ถุงเยื่อหุ้มหัวใจที่เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ต้องจัดการทั้งหมด
เฉินชางผ่าตัดต่อไปอย่างระมัดระวัง เย็บเส้นเลือดแต่ละเส้นด้วยความใส่ใจ จากนั้นก็ผูกปม…ขั้นตอนนี้กินเวลาไปถึงครึ่งชั่วโมงกว่า เฉินชางทำงานอย่างละเอียดประณีต!
เนื่องจากต้องป้องกันไม่ให้ถุงเยื่อหุ้มหัวใจเสียหายอีกครั้ง และต้องทำให้ถุงเยื่อหุ้มหัวใจฟื้นตัวจนทำงานได้ตามปกติ จึงจำเป็นต้องซ่อมแซมเส้นเลือดที่เสียหายอย่างประณีต เพราะพวกมันก็คือระบบหล่อเลี้ยงถุงเยื่อหุ้มหัวใจ!
นี่เป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความละเอียดสูง แพทย์ระดับหัวหน้าหลายคนที่ยืนดูอยู่ด้านหลังถึงกับทอดถอนใจด้วยความชื่นชม
หากอยากผ่าตัดใหญ่ได้ดี สิ่งสำคัญก็คือต้องเริ่มลงมือจากรายละเอียดต่างๆ จัดการส่วนที่มองข้ามได้ง่ายให้หมดทุกส่วน ซึ่งดวงตาของเฉินชางก็เป็นสูตรโกงที่ดีที่สุด
ดวงตาทำให้เขามองหาและค้นพบความเสียหายได้ทุกแห่ง ทำให้เขารักษาซ่อมแซมโดยไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดส่วนใดไป เมื่อเป็นเช่นนี้ อัตราความผิดพลาดก็จะลดต่ำลงมาก โอกาสความสำเร็จโดยรวมก็จะเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย
หวังเซี่ยงจวินมองเฉินชาง กล่าวออกมาด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “นี่…เสี่ยวเฉินทำงานได้ละเอียดจริงๆ!”
หลี่เป่าซานพยักหน้า เขาย้อนคิดไปถึงงานรักษาและการผ่าตัดในยามปกติของเฉินชาง สุดท้ายก็อดกล่าวไม่ได้ว่า “นี่เป็นพรสวรรค์”
คนอื่นๆ ชะงักไป ไม่มีใครปฏิเสธ มีแต่คนพยักหน้า
เรื่องพรสวรรค์นี้ คุณจำเป็นต้องเชื่อ ถึงหลี่เป่าซานจะไม่พูด แต่ทุกคนก็มีความคิดนี้ในใจเช่นกัน
พวกเขาไปมาหาสู่และแลกเปลี่ยนกับเฉินชางบ่อยๆ ผ่าตัดร่วมกันก็ไม่น้อย ดังนั้นจึงเข้าใจในตัวเฉินชางอย่างลึกซึ้ง
จางโหย่วฝูอดพูดไม่ได้ว่า “พรสวรรค์ของเขาไม่ได้มีเพียงความละเอียดเท่านั้น…”
เถามี่ตอบอืมออกมาคำหนึ่ง “ดูการรักษาโรคเยื่อหุ้มหัวใจของเขาเถอะครับ นั่นเป็นหัวใจสำคัญของการผ่าตัดรักษาโรคเลื่อนที่เกิดบริเวณถุงเยื่อหุ้มหัวใจเลย ความจริง…ทำไมผมไม่รู้นะครับว่าเสี่ยวเฉินผ่าตัดหัวใจได้ด้วย แผนกฉุกเฉินของพวกคุณไม่มีใครผ่าตัดหัวใจได้ไม่ใช่หรือครับ แล้วเขาเรียนมากับใคร”
เมื่อคำถามนี้ถูกกล่าวออกมา คนใหญ่คนโตทั้งหลายก็ต้องตื่นตะลึง!
ใช่แล้ว!
ตกลงเสี่ยวเฉินไปเรียนการผ่าตัดหัวใจมากับใครกันแน่
แผนกฉุกเฉินฝ่ายศัลยกรรมของโรงพยาบาลอันดับสองไม่มีหมอแม้แต่คนเดียวที่เชี่ยวชาญ หรือมีความรู้ในด้านศัลยกรรมหัวใจ!