เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 345 คู่แข่งความรัก
บทที่ 345 คู่แข่งความรัก???
ผู้ป่วยคนแล้วคนเล่าพากันปฏิเสธการใช้ออกซิเจนในการรักษา ทำเอาจางซูและเฉินชางมึนงง
เถียนชงก็แปลกใจเช่นกัน จึงอดถามไม่ได้ว่า “หมอครับ ออกซิเจนเป็นพิษได้จริงๆ เหรอครับ”
จางซูมองเถียนชง จากนั้นก็พูดว่า “คนเราขาดออกซิเจนไม่ได้ ในอากาศมีออกซิเจนเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว แต่ระดับความเข้มข้นของออกซิเจนสำคัญมาก เมื่อความดันออกซิเจนสูงกว่าครึ่งหนึ่งของความดันบรรยากาศ จะเริ่มเป็นพิษกับเซลล์ในร่างกาย หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความกดอากาศสูง ปกติมนุษย์เราจะมีชีวิตอยู่ได้มากที่สุด 24 ชั่วโมง แต่เมื่อในออกซิเจนมีค่าความกดอากาศอยู่ที่ 0.3 Mpa เพียงไม่กี่นาทีก็ทำให้คนตายได้แล้ว”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ผู้ป่วยทุกคนก็สับสน!
มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ
พวกเขาคิดว่ายิ่งออกซิเจนมากก็ยิ่งดีซะอีก!
ตอนนี้ดูแล้วคงไม่ใช่เช่นนั้น หากออกซิเจนเป็นพิษ…ต่อไปหากออกจากบ้านจะต้องอุดจมูกไว้บ้าง…
จางซูเห็นดังนั้นก็รีบอธิบายต่อไป “แน่นอนว่าการที่หมอให้พวกคุณสูดออกซิเจนที่มีค่าการไหลเวียนต่ำอย่างต่อเนื่องจะเป็นประโยชน์กับอาการป่วยของพวกคุณ! ดังนั้นเครื่องพวกนี้จะปรับเองไม่ได้ ไม่งั้นหากเกิดปัญหาขึ้นมา ไม่ว่าใครก็ช่วยพวกคุณไม่ได้แน่!”
เถียนชงถูกคำพูดนี้ของจางซูทำเอาขวัญหนีดีฝ่อไปแล้วจริงๆ!
ออกซิเจนเป็นพิษได้จริงๆ สินะ
“หมอ…อาการของแม่ผมเป็นยังไงบ้างครับ สาหัสหรือเปล่า” เถียนชงถามอย่างระมัดระวัง
จางซูส่ายหน้า “ไม่ร้ายแรงมากค่ะ แม่ของคุณมีอาการออกซิเจนในสมองเป็นพิษ อาการที่สำคัญซึ่งแสดงออกมาให้เห็นก็คือการชักและกล้ามเนื้อกระตุก แต่โชคดีที่ตอนนี้แม่ของคุณเพิ่งจะแสดงอาการขั้นต้น ไม่มีปัญหามาก และดีที่รู้ตัวเร็ว ไม่งั้นหากอาการพัฒนาไปถึงระยะสุดท้ายจนมีอาการชักและสติพร่าเลือนก็จะยุ่งยาก”
คำพูดนี้ทำให้เถียนชงหวาดกลัว!
ยังดี ยังดี ยังดีที่เจอเร็ว!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เถียนชงก็รีบโค้งตัวทำมุมเก้าสิบองศาเพื่อขอบคุณ “ขอบคุณมากจริงๆ ครับ หัวหน้าจาง! ขอบคุณคุณมากจริงๆ”
จางซูส่ายหน้า บอกไปว่า “หากอยากขอบคุณก็ขอบคุณหมอเฉินให้ดีเถอะค่ะ หากไม่ใช่เพราะเขา เป็นไปได้มากว่าอาการของคุณแม่คุณจะถูกยืดเยื้อออกไปอีกหลายนาที”
จางซูก็วินิจฉัยได้เช่นกัน แต่คงไม่เร็วขนาดนี้! ถึงอย่างไรเฉินชางก็ขึ้นชื่อเรื่องความเร็ว วินิจฉัยเร็ว เย็บเร็ว ผ่าตัดก็เร็ว แต่ในเวลาสั้นๆ แค่นี้ เขาถึงกับค้นพบอาการสำคัญของผู้ป่วยและหาสาเหตุของอาการออกมาได้ เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมและน่ากลัวมากเลยจริงๆ ความรู้ความเข้าใจที่มีต่อวิชาชีพของเขาน่าอัศจรรย์มาก
“เขาตรวจพบระยะเริ่มต้นของอาการได้ทันเวลา จากนั้นก็เลือกใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อดึงผู้ป่วยออกจากสภาพออกซิเจนสูงเกินกำหนด นี่เป็นสิ่งสำคัญที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอาการชักจากออกซิเจนเป็นพิษ ดังนั้นหมอเฉินช่วยได้มากจริงๆ ค่ะ”
เถียนชงรีบพยักหน้า จากนั้นก็หันไปขอบคุณเฉินชาง!
ไม่นานก็ควบคุมอาการของผู้ป่วยได้
หากต้องการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่เนื่องจากอยู่ในระยะต้น ไม่ได้มีความรุนแรงมาก จึงกำจัดพิษออกไปได้อย่างรวดเร็ว
อาการของผู้ป่วยเสถียรแล้ว แต่มารดาของเถียนชงก็ยังถูกส่งตัวไปดูอาการที่ห้องสังเกตอาการ
การที่เธอถูกย้ายห้อง ทำให้คนเฒ่าคนแก่ในห้องผู้ป่วยรู้สึกทอดถอนใจ
“อา…ตามยุคสมัยไม่ทันจริงๆ”
“ใช่แล้ว ออกซิเจนก็เป็นพิษได้ด้วย พวกเราล้าหลังแล้ว…”
“คนเราแก่แล้วก็แก่เลย จะต้องฟังคำพูดของลูกหลานให้มาก อย่าได้สร้างความยากลำบากให้ลูกหลาน”
“ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเด็กๆ เหนื่อยกว่าพวกเราในตอนแรกซะอีก หากพวกเราอยู่เฉยๆ ก็จะดีทุกเรื่องนั่นแหละ!”
……
ไม่มีใครตำหนิ ดูถูก หรือเหยียดหยามแม่ของเถียนชง เพียงแค่คิดว่าต้องระมัดระวังเรื่องการสูดออกซิเจนอะไรพวกนี้สักหน่อย นี่เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ หญิงคนหนึ่งเลี้ยงดูลูกสามคนจนเติบใหญ่ กว่าจะสร้างครอบครัว เป็นเรื่องยากลำบากขนาดไหนกัน
จะต้องประหยัดเงินทุกหยวน!
บางครั้งคนที่แอดมิทอยู่ห้องเดียวกันก็มักจะพูดคุยกันไปมาจนกลายเป็นเพื่อน หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ยังไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ แม่ของเถียนชงไม่รู้เรื่อง แล้วพวกเขารู้เรื่องหรืออย่างไร
ก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันนั่นแหละ!
หากไม่ใช่เพราะเรื่องของเธอ พวกเขาจะทำแบบนี้หรือเปล่า
แผ่นดินกว้างใหญ่ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็มีทั้งนั้น!
เฉินชางเพิ่งจะเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยก็เห็นจางซูกำลังมองตนด้วยสีหน้าแปลกๆ
เฉินชางชะงักไปเล็กน้อย “อาจารย์จาง…สีหน้าผมแย่มากเลยเหรอครับ”
จางซูชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มออกมา “เสี่ยวเฉิน ฉันว่าเธอเหมาะสมที่จะเป็นหมอจริงๆ เธอมีความสามารถในการสังเกตอันเฉียบคม มีความสามารถในการวินิจฉัยและพิจารณาข้อมูลอย่างมีตรรกะ จับจุดสำคัญของอาการผู้ป่วยได้ จากนั้นก็หาสาเหตุของอาการออกมาได้!”
“เธอไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวขนาดนั้น นี่คือความจริง! ไม่เลวเลย”
พูดจบจางซูก็เดินออกไป
……
……
ตอนบ่าย เฉินชางเข้างานเช่นทุกวัน เมื่อเลิกงานแล้วก็จะไปที่โรงพยาบาลตงต้า ไปแสดงฝีมือ ทำภารกิจอันสั่นสะท้านให้สำเร็จ
ช่วงบ่ายเฉินชางไม่ได้ยุ่งมาก ฉินเยว่ก็ไม่ยุ่ง ทั้งสองจึงช่วยกันวิเคราะห์ข้อมูลการผ่าตัดไส้ติ่งแบบแผลเล็ก
ตอนนี้เฉินชางกำลังเตรียมเขียนวิทยานิพนธ์อยู่ ต้องบอกว่าการวิเคราะห์ข้อมูลของฉินเยว่ทำได้ครบถ้วนรอบด้านและละเอียดมากด้วย ข้อมูลที่เลือกมาวิเคราะห์ก็เลือกได้ดี เพียงแค่การวิเคราะห์ข้อมูลนี้ก็ทำให้วิทยานิพนธ์อยู่ในระดับมาตรฐานแล้ว!
เพียงแต่มาตรฐานเท่านี้ยังเติมเต็มความต้องการของเฉินชางไม่ได้ ถึงอย่างไรเขาก็ต้องเอาวิทยานิพนธ์ไปดึงดูดชายที่มีคะแนนอยู่ในมือทั้งหมดสิบห้าคะแนน
ทันใดนั้นเฉินชางก็รู้สึกว่าการมีหมาขี้ประจบอย่างฉินเยว่อยู่ด้วย ทำให้ตัวเองไม่ต้องแบ่งสมาธิไปเรียนคำนวณเพิ่มเติม ดีจริงๆ
ตอนนี้เอง อยู่ๆ พยาบาลน้อยก็เดินเข้ามาพูดยิ้มๆ ว่า “หมอฉิน มีใครบางคนมาขอเปลี่ยนยากับคุณค่ะ!”
ฉินเยว่ขมวดคิ้วแน่น “ให้เขาไปรอฉันที่ห้องตรวจเลยค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
เฉินชางเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที “ใครเหรอครับ”
พยาบาลน้อยหัวเราะออกมา “หมอเสี่ยวเฉิน คุณไม่รู้หรือคะ เขามาหลายครั้งแล้ว!”
เฉินชางชะงักไป “หมายความว่ายังไงครับ”
ฉินเยว่สีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน “อย่าพูดจาไร้สาระน่ะ!”
พยาบาลน้อยแลบลิ้นออกมา
หลังจากฉินเยว่เดินออกไปแล้ว นางพยาบาลน้อยก็พูดต่อไปว่า “หมอเสี่ยวเฉิน คุณต้องพยายามหน่อยนะคะ! คนที่มาขอเปลี่ยนยากับหมอฉินยังหนุ่มอยู่เลย แถมยังหล่อมากด้วย ผิวขาวสะอาดสะอ้าน เพียงแต่เป็นแผลที่หน้า เวลามาเปลี่ยนยาก็มักจะระบุชื่อฉินเยว่ ทุกครั้งที่มาก็เอาผลไม้มาฝากหมอและพยาบาลด้วย”
พยาบาลน้อยยังพูดต่อไป “ชายคนนั้นดูแล้วอายุไม่มาก แต่ท่าทางมีเงิน มาโรงพยาบาลสองครั้งแล้วก็เปลี่ยนรถสปอร์ตที่ขับทุกครั้ง! คงจะเป็นทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง!”
เฉินชางชะงักไป เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี!
นี่มันเกิดอะไรขึ้น
แต่ว่า…
“หมอเสี่ยวเฉิน คุณต้องพยายามนะคะ อย่าให้ดอกไม้งามแห่งแผนกของพวกเราถูกคนอื่นแย่งไปนะคะ!”
เฉินชางเกิดความรู้สึกหวาดระแวงขึ้นมาทันที! อยู่ๆ ก็รู้สึกหัวใจถูกบีบรัด
คู่ต่อสู้หรือ
ไม่ใช่!
ทำไมผมถึงมีความคิดแบบนี้นะ
กับฉินเยว่…ผมไม่ได้สนใจสักหน่อย
เฉินชางรู้สึกสงสัยขึ้นมาแล้ว คิดไปคิดมา อยู่ดีๆ ก็ทนความสงสัยในใจไม่ไหว อยากออกไปดูสักหน่อย
เพิ่งจะเดินออกไปก็เห็นใบหน้าอันคุ้นเคย!
โอ้ นี่ไม่ใช่ผู้ป่วยที่ผมเย็บแผลให้หรือ