เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 354 ความแตกต่างของกล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูดกับพูดแต่ไม่กล้าโกรธ
- Home
- เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
- บทที่ 354 ความแตกต่างของกล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูดกับพูดแต่ไม่กล้าโกรธ
บทที่ 354 ความแตกต่างของกล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูดกับพูดแต่ไม่กล้าโกรธ
ด้วยเหตุนี้ พริบตาเดียว เฉินชางก็มีลูกค้าหญิงที่ต้องการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกเพิ่มอีกหกคนในสัปดาห์หน้า
เขารู้สึกภาคภูมิใจจนตัวพอง
ถึงอย่างไร…นี่ก็เป็นเงินหกล้านเลยทีเดียว ไม่ว่าผู้ป่วยจะตกลงกับโรงพยาบาลอย่างไร เฉินชางก็ไม่ต้องรอเงินผ่อน เงินเหล่านั้นทางคลินิกศัลยกรรมจื้อซินจะเป็นผู้ส่งมอบให้เฉินชางเต็มจำนวน
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็รู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมา!
หากคุณเป็นหมอธรรมดา จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะหาเงินได้ขนาดนี้ บางทีแม้จะใช้เวลาชั่วชีวิตก็อาจจะหาไม่ได้ด้วยซ้ำ
คิดได้ดังนี้ เฉินชางก็รู้สึกฮึกเหิม
ตอนนี้เฉินชางยังไม่รู้ตัวว่าผลกระทบที่เกิดจากเขาเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น แม้จะเริ่มมีคนมาให้ทำศัลยกรรมถึงคลินิกมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ทว่าช่วงนี้ลูกค้ากลุ่มแรกเพิ่งออกไป รอให้ลูกค้ากลุ่มแรกสร้างแรงกระเพื่อมขึ้นเสียก่อน ตอนนั้นเฉินชางถึงจะรุ่งโรจน์ขึ้นมาจริงๆ
งานด้านการรักษาพยาบาลแตกต่างจากอาชีพอื่นตรงที่การโฆษณาที่ดีที่สุดของพวกเขาก็คือคำพูดของคนไข้ ซึ่งก็คือการบอกกันปากต่อปาก
……
……
เมื่อตัดสินใจว่าจะเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมแล้วจึงต้องวางแผนเตรียมตัวก่อนผ่าตัดให้ดี มีหลายเรื่องที่ต้องประสานงาน
คราวนี้โค้ชมาแปลก เธอไม่ได้ต่อต้าน และไม่ปฏิเสธคนที่ต้องการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก แม้จะต้องเสียเวลาซ้อมไปบ้าง แต่เมื่อเทียบกับการซ้อมแล้ว เธอคิดว่าสิ่งสำคัญกว่าก็คือการระเบิดเสน่ห์ของร่างกายออกมาให้เห็น! จะอย่างไรระดับฝีมือและเทคนิคของเด็กๆ กลุ่มนี้ก็ไม่เลวอยู่แล้ว
ทางเฉินชาง พอจะยุ่งขึ้นมาก็ยุ่งมากจนอยากจะพัก แต่พอว่างขึ้นมา ก็ว่างจนน่าตกใจ
เฉินชางขลุกตัวอยู่ในบ้านได้วันหนึ่งก็ทนว่างไม่ไหว เขาลุกขึ้นมาเก็บของ ตัดสินใจว่าจะออกไปดูบ้านดูห้องสักหน่อย จากนั้นก็ถือโอกาสซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าด้วยเลย พยายามทำภารกิจให้สำเร็จเร็วๆ
ราคาบ้านในเมืองอันหยางค่อนข้างอยู่ตัว หลายปีที่ผ่านมาราคาเปลี่ยนแปลงไปไม่มากจริงๆ
เฉินชางที่อยู่บนรถใช้โอกาสนี้เปิดดูรางวัลที่ได้รับจากระบบ
[ทักษะระดับต่ำของเมิ่งซีแบบสุ่มหนึ่งรายการ!]
เฉินชางกดใช้งานโดยไม่ได้คาดหวังกับเรื่องนี้มากนัก
ถึงอย่างไร สุ่ม + ทักษะระดับต่ำ = ?
ต้องไม่ใช่ของดีแน่นอน
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับทักษะการตรวจและปรับแก้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเทียม: ระดับปรมาจารย์!]
เฉินชางชะงักไปแล้ว!
เขาตะลึงพรึงเพริดไปทันที
ชะ…ช่างเป็นทักษะที่ซับซ้อนจริงๆ
ทักษะการตรวจและปรับแก้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเทียม! เรียกได้ว่าเป็นทักษะควบคุมระบบหัวใจเทียมอย่างหนึ่ง! ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเทียมหลายคนมักจะมีปัญหาเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเทียมผิดปกติจากสาเหตุต่างๆ นานา และต้องได้รับการบำรุงรักษาอยู่บ่อยๆ พูดให้ชัดเจนก็คือเปรียบหมอเหมือนโปรแกรมเมอร์นั่นเอง
เป็นทักษะการผ่าตัดระดับสองของแผนกศัลยกรรมหัวใจ
นี่…เป็นทักษะที่อธิบายยากจริงๆ หากว่ากันตามปกติ ผู้ป่วยจะไม่มาแผนกฉุกเฉินเพราะเครื่องกระตุ้นหัวใจ พวกเขาจะไปหาหมอที่คอยดูแลเครื่องกระตุ้นหัวใจของตนโดยตรง หมอคนใดเป็นคนใส่ ไปหาหมอคนนั้นจะสะดวกที่สุด
อันที่จริงคุณจะค่อยๆ ค้นพบเรื่องบางอย่าง นั่นก็คือผู้ป่วยจะเรียนรู้ไปช้าๆ มีผู้ป่วยหลายคนที่ป่วยจนเข้าใจอาการของตนเองเป็นอย่างดี บางคนก็เชี่ยวชาญยิ่งกว่าหมอเสียอีก ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าปัญหาของตนอยู่ตรงไหน โดยเฉพาะผู้ป่วยแผนกอายุรกรรมประสาทและผู้ป่วยแผนกโรคหัวใจ พวกเขาเข้าใจอาการของตนเป็นอย่างดี…เข้าใจจนแนะนำเรื่องการใช้ยาให้กับผู้อื่นได้ด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าเรื่องเช่นนี้ควรให้ความสำคัญและพิถีพิถันเสียหน่อยย่อมดีกว่า
……
……
เมื่อนั่งรถมาถึงหมู่ตึกที่ใหม่ที่สุดแล้ว พนักงานฝ่ายขายก็เดินออกมารอต้อนรับลูกค้า
ตอนนี้ความคิดของเฉินชางค่อนข้างไร้เดียงสา เขาไม่คิดจะซื้อห้องที่แพงเกินไป ต้องการเพียงห้องชุดแบบสามห้องที่ราคาเหมาะสม
หากจะให้ซื้อห้องใหญ่ๆ แล้วมาอยู่คนเดียวคงเกินความจำเป็นไปสักหน่อย
ห้องชุดขนาดสามห้อง แม้จะแต่งงานแล้วก็ยังพออยู่
เมื่อแจ้งความต้องการของตนแล้ว เฉินชางก็ได้ไปดูห้องชุดหลายห้อง จนพอจะมีความคิดคร่าวๆ แล้ว ขนาดได้ยินคำพูดหวานหยดย้อยของพี่สาวฝ่ายขาย เฉินชางก็ยังกลับไปตัวเปล่า
การซื้อของจะต้องเปรียบเทียบราคาเสียก่อน ในละแวกนี้มีตึกที่พักอาศัยมากมาย เฉินชางคงไม่ดูแค่ที่เดียวแล้วซื้อเลยแน่นอน
ในขณะที่เดินไปเดินมา จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าเดินดูห้องคนเดียวช่างน่าเบื่อเสียจริง คิดดูแล้วจึงตัดสินใจหาคนมาดูห้องเป็นเพื่อนสักหน่อย สุดท้ายก็หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายไปยังเบอร์โทรศัพท์อันคุ้นเคย
“ฮัลโหล วันหยุดแท้ๆ ยังโทรมากวนเวลานอนของฉันอีก มีโทษสมควรตายเป็นหมื่นครั้งเลยนะรู้ไหม” เสียงง้องแง้งงัวเงียของฉินเยว่ดังขึ้น ดูเหมือนเธอกำลังหลับอยู่จริงๆ
เฉินชางหัวเราะ “นอนอะไรกันครับ ลุกได้แล้ว มาทำธุระเป็นเพื่อนผมหน่อย!”
ฉินเยว่สวมชุดนอนอยู่ในท่านอนแขนขาชี้เป็นรูปอักษร 大 เธอแค่นเสียงเย็น “ธุระหรือคะ”
เฉินชางเงียบไปพักใหญ่ “ธุรกิจหลายล้าน!”
ฉินเยว่เด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันใด “โอ้โห! คุณจะไปปล้นธนาคารหรือ”
เฉินชาง “รีบมาเถอะครับ จะบอกอะไรให้ เดี๋ยวตอนเที่ยงผมจะเลี้ยงหม้อไฟกับชานมคุณด้วย! เดี๋ยวผมรอใต้ตึกคุณนะครับ”
พูดจบเฉินชางก็วางสาย จากนั้นก็เรียกรถมุ่งไปยังตึกที่พักอาศัยซึ่งเป็นสวัสดิการของโรงพยาบาลทันที
ฉินเยว่กระโดดลงจากเตียง สวมรองเท้าแตะวิ่งตรงไปยังห้องน้ำ เริ่มอาบน้ำอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงกว่าแล้ว ฉินเสี้ยวหยวนนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก ส่วนภรรยากำลังวุ่นวายกับมือถือ ดูคลิปอะไรบางอย่าง
เมื่อเห็นว่าอยู่ดีๆ ฉินเยว่ก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำ ฉินเสี้ยวหยวนก็ชะงักไป
“ทำไมวันนี้ตื่นเช้าขนาดนี้ได้ล่ะ”
ภรรยาขมวดคิ้วเล็กน้อย ยุ่งอยู่กับมือถือ ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ “ไม่รู้สิคะ โอ๊ย คุณอย่าเพิ่งกวนฉัน ฉันยุ่งอยู่”
ฉินเสี้ยวหยวนวางรีโมทแล้วยืดตัว ทำไมเขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาเองก็บอกไม่ถูก มันเป็นสัญชาตญาณคนเป็นพ่อ…
จริงดังคาด เขาเห็นฉินเยว่วิ่งไปวิ่งมา เดินไปเดินมาจัดการตัวเองและเก็บของให้เรียบร้อย เห็นดังนั้นฉินเสี้ยวหยวนก็ใจเต้น
ลูกคนนี้นี่ ใช้เวลาอาบน้ำนานกว่าปกติเท่าตัว ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน!
คิดได้ดังนั้นฉินเสี้ยวหยวนก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วสวมรองเท้าแตะ เดินไปยังห้องนอนของฉินเยว่อย่างไร้สุ้มไร้เสียง หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู กดเปิดหน้าจอ
……
รหัสอะไร
ดูเหมือนว่าจะเป็น %@??
จะดูดีหรือเปล่า
ฉินเสี้ยวหยวนลังเลไปครู่หนึ่ง ยังคงรู้สึกไม่วางใจ ความคิดในใจแบ่งแยกเป็นสองฝั่ง!
ฉินเสี้ยวหยวน A: ดู! ทำไมจะไม่ดูล่ะ ถ้ามีเรื่องใหญ่อะไรขึ้นมาจะทำยังไง
ฉินเสี้ยวหยวน B: ดูอะไรกัน นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของลูกสาว
หลังจากความคิดตบตีกันมานาน จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฉินเสี้ยวหยวนตกใจจนสะดุ้ง เขาวางโทรศัพท์ลงแล้วย่องออกไปด้านนอกด้วยกลัวว่าฉินเยว่จะมาเห็น
ภรรยาเห็นดังนั้นก็แค่นเสียงเย็นชาออกมา “เกินไปแล้วนะคะ! รู้จักแอบดูความลับของลูกสาวด้วย!”
ฉินเสี้ยวหยวนหน้าแดง “พูดอะไรของคุณ จะเรียกว่าแอบดูความลับของลูกสาวได้ยังไง ผมเป็นคนมีการศึกษา อย่างผมเรียกว่าใส่ใจลูกสาว! อีกอย่างผมก็ไม่ได้ดูด้วย!”
พูดจบฉินเสี้ยวหยวนก็มองภรรยา “คุณไม่สนใจเลยสักนิดหรือครับ ลูกสาวของพวกเราโตขนาดนี้แล้ว คุณไม่ร้อนใจเลยหรือ”
ภรรยากลอกตาใส่ “คุณจะร้อนใจไปทำไมล่ะคะ ถ้าฉันร้อนใจขึ้นมาจะได้อะไรล่ะคะ! พวกเราแต่งงานแทนลูกได้หรือ คลอดลูกแทนพวกเขาได้หรือไง ถ้าฉันร้อนใจคงตายไปนานแล้วละค่ะ จะบอกอะไรให้นะคะ ฉินเสี้ยวหยวน ผู้หญิงอย่างเราประจำเดือนมาแล้วก็ต้องหมดไป ไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะผ่านมันไปได้ คุณอย่าทำให้ฉันโมโหจนประจำเดือนกลับเลยค่ะ!”
ฉินเสี้ยวหยวนทอดถอนใจ รู้สึกขุ่นเคืองแต่ไม่กล้าพูด