เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 367 คำชี้แนะ!
บทที่ 367 คำชี้แนะ!
ชายชราและอู๋อวี้ซู่เดินเข้าห้องตรวจพร้อมกัน
อู๋อวี้ซู่นั่งลงตรงข้ามเฉินชาง “สวัสดีครับหมอ”
เฉินชางพยักหน้า จากนั้นจึงเข้าประเด็นทันที “ครับ สวัสดีครับ รู้สึกไม่สบายตรงไหนครับ”
อู๋อวี้ซู่พูดไปตามจริง “เช้านี้ผมรู้สึกแน่นหน้าอกจนทนไม่ไหว หายใจลำบาก ต้องนั่งพักถึงจะรู้สึกดีขึ้น ก่อนหน้านี้ผมก็เคยเป็นแบบนี้นะครับ เป็นทุกปี แต่ผ่านไปช่วงหนึ่งอาการก็ดีขึ้นเอง”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ อู๋อวี้ซู่ก็กล่าวต่อไปว่า “ปกติผมสูบบุหรี่จัดมาก อย่างน้อยก็ต้องห่อหนึ่ง บางครั้งก็สองห่อ สู้แบบนี้มาสิบกว่าปีแล้วครับ”
เฉินชางกำลังจะถาม แต่จู่ๆ อู๋อวี้ซู่ก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ใช่แล้ว ผมคิดว่าระยะนี้ท้องผมมันป่องๆ ความอยากอาหารก็ไม่ค่อยมี เป็นเพราะกระเพาะไม่ดีหรือเปล่าครับ! อีกอย่างบางทีก็เจ็บหน้าอก แล้วก็ไม่สบายตรงนี้ด้วย!”
อู๋อวี้ซู่คลำบริเวณชายโครงด้านขวามือใกล้ๆ กับตับ
ผู้ป่วยมีอาการหลายอย่าง อาการป่วยก็มีหลายอย่าง แต่อาการที่สำคัญก็คือหายใจลำบาก
เฉินชางฟังจบก็รู้สึกว่าอาการของเขาเหมือนโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง แต่ว่า…อาการหายใจลำบาก พอนั่งลงแล้วค่อยหายใจคล่องขึ้น นี่คงไม่ใช่อาการป่วยที่เกี่ยวกับระบบหายใจเพียงอย่างเดียวแน่นอน อาจมีความเกี่ยวข้องกับหัวใจ
ภาวะหัวใจล้มเหลวก็ทำให้เกิดอาการที่ผู้ป่วยบรรยายมาข้างต้นได้เช่นกัน
เฉินชางพิจารณาครู่หนึ่งแล้วหยิบหูฟังแพทย์ขึ้นมา คิดว่าจะยังไม่ตัดอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจออกไป เขาพูดกับอู๋อวี้ซู่ว่า “คุณนั่งลงบนเตียงนะครับ ให้ผมฟังดูหน่อย”
อู๋อวี้ซู่พยักหน้า
เฉินชางหยิบหูฟังแพทย์ขึ้นมาแล้วฟังตรงหัวใจ
ความรู้สึกแรกก็คือเสียงหัวใจอ่อนแรง และได้ยินเสียงเส้นเลือดเอออร์ตาเต้นอย่างสับสน…บริเวณซี่โครงซี่ที่สามและสี่มียินเสียงหัวใจคลายตัวในระยะต้น
นี่หมายถึงอะไร เฉินชางไม่ค่อยเข้าใจนัก การตรวจผู้ป่วยด้วยหูฟังแพทย์เป็นเพียงการตรวจระยะต้นเท่านั้น เฉินชางรู้ข้อมูลเพียงปลายขน
แต่ต้องมีปัญหาแน่นอน
เมื่อคิดได้ดังนี้ เฉินชางก็ใช้นิ้วสัมผัสไปตรงบริเวณที่มีเสียงชีพจรเต้นดังที่สุด รู้สึกว่า…สัมผัสชีพจรได้ยากมาก
นี่มันสถานการณ์อะไรกัน
จากนั้นเฉินชางก็เริ่มใช้นิ้วเคาะเพื่อตรวจอาการของหัวใจ เสียงสะท้อนที่ดังออกมามีขอบเขตค่อนข้างกว้าง
ทำยังไงดี
ตอนนี้เอง เฉินชางพลันเกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมา
ในเมื่อผู้ป่วยมีอาการเกี่ยวกับหัวใจก็คุยกันง่ายแล้ว
เขาเป็นชายที่มีทักษะอาชีพของแผนกอายุรกรรมหัวใจ แผนกศัลยกรรมหัวใจ และแผนกวิจัยรวมสามสาขาอยู่ในคนคนเดียว
เขากดเลือกหนังสือทักษะของแผนกอายุรกรรมหัวใจขึ้นมา ทันใดนั้นเฉินชางก็พบว่ามีชื่อทักษะพื้นฐานมากมายปรากฏอยู่ เช่น [ทักษะฟังเสียงหัวใจ] [ทักษะเคาะตรวจหัวใจ] เป็นต้น
เฉินชางยินดีขึ้นมาทันที
จากนั้นก็เลือกใช้ [ทักษะฟังเสียงหัวใจ]
พริบตานั้นก็มีข้อมูลจำนวนมากก็หลั่งไหลเข้าสู่สมองของเฉินชาง ความรู้มหาศาลเกี่ยวกับการฟังเสียงหัวใจ รวมไปถึงการวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวข้องปรากฏขึ้นในความทรงจำของเฉินชาง
เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้เรียนวิชาความรู้เกี่ยวกับการฟังเสียงหัวใจมาแล้วครั้งหนึ่ง
[ติ๊ง! ทักษะฟังเสียงหัวใจ: ระดับปรมาจารย์: ทักษะวินิจฉัยแบบทำงานอัตโนมัติ]
เฉินชางฟังเสียงหัวใจผู้ป่วยอีกครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ในสมองก็ปรากฏข้อมูลแต่ละอย่างขึ้นมา เขาจึงเอาแต่ละข้อมูลไปเทียบกับสภาพอาการของผู้ป่วย
เมื่อฟังเสียงหัวใจเสร็จแล้ว เฉินชางก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมเสนอให้ไปทำกราฟหัวใจก่อนนะครับ จากนั้นก็เอกซเรย์ทรวงอก เพราะอาการของคุณในตอนนี้ค่อนข้างซับซ้อน อาจไม่ได้มีปัญหาแค่เรื่องหายใจลำบากอย่างเดียว”
อู๋อวี้ซู่ได้ยินดังนั้นก็ชะงักไป
“ไม่มั้งครับหมอ ผมรู้สภาพของตัวเองดี ร่างกายของผม ผมเข้าใจมันดี อาการแบบนี้ผ่านไปอีกสองวันก็ดีขึ้นแล้ว ก่อนหน้านี้ผมก็เคยเป็น”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ อู๋อวี้ซู่ก็พูดต่อไป “ผมยังต้องไปทำงานอีก จริงสิ ผมรู้สึกท้องป่องด้วย ไม่ค่อยมีความอยากอาหาร เป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือเปล่าครับ ไม่งั้นคุณก็เขียนใบสั่งยาให้ผมเถอะ! พวกยาช่วยย่อยน่ะครับ”
ผู้ป่วยพูดพลางลุกขึ้นยืน แต่ในตอนนั้นเอง ชายชราก็ยื่นมือออกมาจับแขนของอู๋อวี้ซู่เอาไว้ “อย่าใจร้อนสิครับ”
ชายชราขมวดคิ้ว “ไม่งั้นหมอก็ตรวจค่าความดันโลหิตให้เขาก่อนก็ได้นะครับ!”
ผู้ป่วยชายชะงักไป ความดันโลหิตของเขาก็ปกติมาตลอด แต่จะให้ตรวจความดันโลหิตตอนนี้ก็คงไม่เป็นอะไร
เฉินชางมองชายชรา เขาชะงักไปเล็กน้อย ก็ดี ตรวจความดันโลหิตดูหน่อยแล้วกัน
เฉินชางสวมปลอกแขนวัดความดันให้อีกฝ่าย แล้วลองตรวจวัด ทันใดนั้นเฉินชางก็ต้องเบิกตากว้าง!
ความดันโลหิตค่อนข้างต่ำ! ที่สำคัญก็คือ…นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องความดันโลหิต! แต่เป็นปัญหาอื่นต่างหาก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที!
เขาพบว่าความดันเลือดสูงสุดขณะหัวใจช่องล่างบีบรัดตัวทั้งสองครั้งไม่เหมือนกัน ทันใดนั้นเฉินชางก็เกิดระแวงขึ้นมา เขาสังเกตการหายใจของอีกฝ่ายพลางวัดความดันไปอย่างระมัดระวัง
ครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงความดันโลหิต (Korotkoff) ก็รีบจดค่าความดันเลือดสูงสุดเอาไว้ จากนั้นก็สังเกตการหายใจของอู๋อวี้ซู่อย่างระมัดระวังแล้วก็วัดความดันอีกครั้ง!
ทันใดนั้นเขาก็พบปัญหาร้ายแรง!
ขณะที่อู๋อวี้ซู่หายใจเข้า เสียงความดันโลหิตจะหายไป พอหายใจออกค่อยปรากฏออกมา!
ในสมองของเฉินชางมีคำนี้ปรากฏขึ้นมาทันที นี่มันอาการ Pulsus paradoxus[1]!
เฉินชางเลื่อนสายตาไปมองชายชราที่บอกให้เขาวัดค่าความดันโลหิตเมื่อครู่นี้ทันที
ในดวงตาเต็มไปด้วยความเลื่อมใสและนับถือ!
สุดยอด!
เป็นคนที่สุดยอดจริงๆ!
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องจุกจิกหยุมหยิม เฉินชางต้องตรวจให้แน่ใจ
อาการ Pulsus paradoxus ของผู้ป่วย ทำให้เฉินชางต้องขอให้อู๋อวี้ซู่เข้ารับการตรวจอื่นๆ เพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะอาการ Pulsus paradoxus เช่นนี้เป็นลักษณะชีพจรที่ค่อนข้างพิเศษ! มันคืออาการที่ความดันโลหิตจะลดลงเมื่อหายใจเข้า แล้วจะกลับมาเป็นปกติเมื่อหายใจออก ดังนั้นหากจะตรวจชีพจรเช่นนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
ทำไมเฉินชางถึงคิดว่าชายชราคนนั้นสุดยอดไปเลยน่ะหรือ นี่เป็นเพราะเมื่อครู่ชายชราบอกว่า ‘วัดความดันโลหิตดูก่อนเถอะ!’
ประโยคนี้แฝงความหมายไว้อย่างลึกล้ำ! ทั้งยังแฝงไปด้วยความรู้มากมาย!
ประการแรก การใช้เครื่องวัดความดันโลหิตไปสังเกตอาการชีพจรผิดปกติจะให้ผลชัดเจนมากกว่าใช้นิ้วคลำชีพจร ถ้าหากเป็นหมอที่มีประสบการณ์จะพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ตอนตรวจความดันโลหิตอย่างจริงจังแล้ว
จะดูถูกค่าความดันโลหิตไม่ได้เลย เพียงแค่ค่าความดันโลหิตนี้ก็ทำให้พบอาการหลายอย่างแล้ว
Pulsus paradoxus ไม่ใช่ชื่อเรียกเส้นชีพจรหลักทั้งแปด แต่เป็นชื่อเรียกภาวะผิดปกติของอัตราการเต้นชีพจรอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจเรียกอาการนี้ได้อีกอย่างหนึ่งว่า ‘ชีพจรเข้าหยุด’ ซึ่งหมายถึงตอนหายใจเข้าชีพจรจะหยุดเต้น
นี่เป็นอาการที่ค่อนข้างอันตราย สาเหตุของอาการมีหลายอย่าง เช่นมีของเหลวสะสมอยู่ในเยื่อหุ้มหัวใจเป็นจำนวนมากและมีภาวะบีบรัดหัวใจร่วมด้วย หรือไม่ก็ภาวะหัวใจตีบตันที่เกิดร่วมกับภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ รวมไปถึงอาการที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อหัวใจต่างๆ นานา แน่นอนว่าอาจมีภาวะของเหลวสะสมในปอดเป็นจำนวนมากจนเกิดอาการปอดบวมด้วยก็เป็นได้ จะต้องวินิจฉัยให้ลึกลงอีกระดับหนึ่ง
แต่ไม่ว่าจะเป็นอาการป่วยแบบใด เมื่อเกิดชีพจร Pulsus paradoxus แล้ว มักจะไม่ใช่เรื่องดี!
เมื่อครู่ชายชราบอกให้เฉินชางลองตรวจวัดค่าความดันโลหิตดู คิดไม่ถึงว่าจะได้พบเจออะไรมากมายเช่นนี้ คิดได้ดังนั้นเฉินชางก็รู้สึกซาบซึ้งใจ
นี่เป็นคนเก่งมากๆ คนหนึ่ง!
ต้องใช่แน่นอน ไม่ใช่แค่จับชีพจรเท่านั้น ยังบอกให้เฉินชางวัดค่าความดันโลหิตอีกด้วย
แค่ประโยคง่ายๆ ก็ทำให้เฉินชางได้ข้อมูลหลักของการวินิจฉัยโรคมาแล้ว
[1] Pulsus paradoxus – คำศัพท์ทางการแพทย์ที่ใช้เรียกอาการที่ความดันโลหิตลดลงเมื่อหายใจเข้า