เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 376 ผม...จิตใจไม่มั่นคงแล้ว
บทที่ 376 ผม…จิตใจไม่มั่นคงแล้ว
เมื่อผ่าตัดเสร็จ เฉียนหลินและสหายตัวประกอบ A ก็รู้สึกเหมือนมีอารมณ์นับร้อยผสมปนเป!
พวกเขามองเฉินชาง อยากพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูดออกไป
เฉินชางหันมา อยากพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูดออกไป
ทั้งสองทอดถอนใจกับตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างคงไม่มีอะไรต้องพูด
จางเหวินฟู่กำลังจะเรียกเฉินชางเอาไว้ เขาอยากคุยเกี่ยวกับประสบการณ์การเป็นผู้ช่วยสักหน่อย แต่เมื่อเห็นเถามี่มองเฉินชางด้วยสายตาแปลกๆ อีกทั้งยังทำท่าทางอ้ำอึ้งอยู่พักใหญ่ จึงไม่ได้เรียกตัวไว้
จางเหวินฟู่เห็นหัวหน้าเถาพาเฉินชางเดินออกไปก็ได้แต่มองแผ่นหลังของเถามี่อย่างไม่สบอารมณ์ บ่นพึมพำอย่างไม่พอใจว่า
หึ! คุณเสียผู้ช่วยที่มีความกระตือรือร้นไปแล้วคนหนึ่ง!
ถ้าผมเรียนรู้ทักษะการเป็นผู้ช่วยจากเฉินชาง คนที่ได้เปรียบก็คือพวกหัวหน้าแพทย์อย่างคุณไม่ใช่หรือไง
มีตาหามีแววไม่!
……
……
เถามี่พาเฉินชางมาที่ห้องทำงานหมอของแผนกศัลยกรรมหัวใจแล้วบอกให้เฉินชางนั่งลง
เฉินชางไม่เข้าใจว่าเถามี่เรียกตนมาทำไม สุดท้ายก็อดถามไม่ได้ว่า “หัวหน้าเถา คุณมีอะไรก็พูดกับผมตรงๆ ได้เลยนะครับ”
เถามี่ยิ้มบางๆ “ไม่รีบๆ นั่งก่อนสิ ดื่มชากันก่อน”
จากนั้นก็เปิดลิ้นชักแล้วหยิบชาชั้นดีออกมาสองกล่อง มองเฉินชางแล้วยิ้มจนตาหยี “เสี่ยวเฉิน คุณดื่มชาหลงจิ่งหรือว่าเจิ้งซานเสียวจ่ง”
เฉินชางไม่สบายใจ
นี่มันทำดีเพื่อหวังผลชัดๆ!
หรือว่าหัวหน้าเถาเป็นผู้ช่วยที่ผู้อำนวยการฉินเชิญมา
คิดถึงตรงนี้เฉินชางก็รีบพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องหรอกครับ ไม่ต้อง หัวหน้า ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับแผนกฉุกเฉินก่อนนะครับ”
เถามี่รีบพูดว่า “นั่งก่อนๆ แผนกฉุกเฉินขาดคุณไปคนหนึ่งก็ยังต้องวิ่งไปวิ่งมาเหมือนเดิมนั่นแหละ ไม่ต้องรีบ! เสี่ยวเฉิน ที่ผมเรียกคุณมาเพราะอยากคุยกับคุณเรื่องการผ่าตัดวันนี้น่ะครับ”
เฉินชางได้ยินคำว่าผ่าตัดก็นั่งลง
เถามี่มองเฉินชาง มีท่าทางคล้ายกำลังใคร่ครวญอะไรบางอย่าง สุดท้ายก็พูดไปว่า “เสี่ยวเฉิน คุณผ่าตัดโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบแบบบีบรัดได้สินะครับ”
เฉินชางพยักหน้าแล้วบอกไปตามตรง “ครับ ผมทำได้ครับ”
เมื่อเถามี่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าอีกครั้ง “อ้อ! ถ้างั้นคุณเห็นการผ่าตัดของผมในวันนี้แล้วมีความคิดเห็นอะไรไหมครับ”
เฉินชางแทบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาดูการผ่าตัดในวันนี้อย่างจริงจัง ดูอย่างละเอียด ย่อมตัดสินได้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น…สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ทักษะของเถามี่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเฉินชางแล้ว ทั้งยังผสานรวมไปกับทักษะของเฉินชางจนกลายเป็นหนึ่งเดียวแล้วด้วย ถ้าไม่เข้าใจก็แปลกแล้ว!
เฉินชางพูดไปตามตรงว่า “เยี่ยมมากครับ!”
เถามี่ปากกระตุก!
ผมขอให้คุณมาประจบประแจงหรือไง
“ขอแบบละเอียดหน่อย!”
เฉินชางกลอกตาใส่
ตาเฒ่าคนนี้นี่ รังเกียจที่ผมอวยคุณไม่มากพอหรือไง
เชื่อหรือเปล่าว่าผมจะไปเรียกตาแก่ที่บ้านมาปะทะคารมกับคุณซะเลย
คิดจบเฉินชางก็พูดขึ้นว่า “ผมคิดว่าคุณมองภาพรวมเป็นสำคัญ จากผลการตรวจของผู้ป่วยจะเห็นได้ว่ามีส่วนที่เป็นพังผืดอยู่มาก ส่วนที่เป็นหินปูนก็ค่อนข้างมาก คุณเลือกกรีดแนวขวางบริเวณหน้าอกทั้งสองจึงทำให้ผ่าตัดสะดวกขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ที่สำคัญก็คือตอนผ่าตัด มือคุณนิ่งมากครับ แล้วก็พิจารณาได้รอบด้านมากๆ ผมคิดว่าการผ่าตัดของคุณช่วยเรื่องการฟื้นตัวของผู้ป่วยหลังผ่าตัดได้ดีและช่วยลดผลข้างเคียงอีกด้วย เรียกได้ว่ามีประโยชน์มหาศาลเลยทีเดียว!”
เมื่อเฉินชางพูดจบ เถามี่ก็สบายไปทั้งตัว!
ฟังจนเคลิ้มไปหมดแล้ว
เถามี่สาบานเลยว่าเฉินชางต้องพูดออกมาจากใจแน่นอน มิฉะนั้นคงไม่ฟังดูจริงใจขนาดนี้หรอก
แต่ว่า…
ผมมาฟังคุณอวยหรือไงล่ะ
ถึงคุณจะอวยได้ดีก็เถอะ…
แต่ผมอยากฟังข้อเสนอแนะต่างหาก
หลังจากวันนี้ เขาจะต้องไปผ่าตัดสาธิตที่โรงพยาบาลตงต้า จึงตัดสินใจจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นสักหน่อย ทางที่ดีควรหาข้อบกพร่องของตัวเองให้เจอ
“เสี่ยวเฉิน คุณไม่มีข้อเสนอแนะอะไรที่จะช่วยให้การผ่าตัดดีขึ้นเหรอครับ เช่นพวกจุดอ่อนข้อบกพร่อง หรือส่วนที่เปลี่ยนแปลงได้น่ะ” เถามี่ถามยิ้ม
เฉินชางชะงักไป สูดหายใจลึกๆ คิดในใจว่า นี่ผมอวยคุณไปสองรอบแล้วนะ…
หัวหน้าเถา ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้อีกผมจะไปแล้วนะ เสพติดคำอวยหรือไง!
เฉินชางพูดขึ้นว่า “นี่คุณ…จริงจังเหรอครับ”
เถามี่ตบขาดังฉาด!
“แน่นอนสิครับ พวกเรามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเถอะ!”
เฉินชางยิ้ม รีบพูดหน่อยแล้วกัน!
คิดได้ดังนี้เฉินชางก็กระแอมออกมาเพื่อทำให้ลำคอโล่ง “เอ่อ หัวหน้าครับ ผมคิดว่ามีหลายประเด็นเลยทีเดียว อย่างแรกก็คือจุดที่คุณเลือกกรีด คุณเลือกบริเวณหน้าอกทั้งสอง ตรงนี้เปลี่ยนไปใช้ ‘การกรีดบริเวณอกซ้ายร่วมกับการกรีดแนวขวางบริเวณหน้าอกทั้งสอง’ ได้ แบบนี้จะไม่ทำให้ปอดเสียหาย ยิ่งไปกว่านั้น…”
“ส่วนที่สอง ตอนที่คุณแยกเส้นประสาท…”
“ส่วนที่สามคือการแยกและตัดส่วนที่เป็นหินปูนออกไป ตอนนั้นคุณอยู่ในสภาพที่ต้องลงมีดโดยที่มองไม่เห็นกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งตรงนี้คุณสามารถ…”
……
เมื่อเฉินชางพูดถึงข้อบกพร่องก็พูดออกมาไม่ยอมหยุด! สาดคำพูดออกมานับพันคำ ไหลลื่นไม่ติดขัดเลยสักนิด เพียงอ้าปากพูด ก็พูดออกมาตามแต่ใจนึก!
พวกเราเป็นคนมีการศึกษา เชี่ยวชาญอะไรที่สุดล่ะ
การค่อนแคะ!
เฉินชางพูดออกมารวดเดียวจนรู้สึกคอแห้ง ในที่สุดก็ผ่อนลมหายใจออกมา ยกชาเจิ้งซานเสียวจ่งขึ้นมาจิบไปคำหนึ่ง ให้ความรู้สึกชุ่มคอ!
สบายจัง…
ที่แท้การค่อนแคะมันสบายใจขนาดนี้เชียวหรือ
เฉินชางมองท่าทางหน้าดำคร่ำเครียดของเถามี่ จิบชาไปอย่างสบายอารมณ์
เถามี่ตกตะลึงจนตาค้างไปแล้ว ถึงแม้คำพูดของเฉินชางมันจะ…ฟังไม่เข้าหู ไม่ได้รู้สึกสบายใจเหมือนตอนประจบประแจง แต่ความจริงเขาก็ได้ประโยชน์มากมาย
เขาพัฒนาตัวเองมาถึงระดับนี้แล้ว เรื่องพื้นฐานต่างๆ ก็ต้องเคยผ่านมาบ้าง
ความรู้ที่สะสมมาหลายปีทำให้เขามีระดับฝีมือเกินกว่าขั้นพื้นฐานไปแล้ว ตอนนี้ได้เฉินชางชี้แนะ ย่อมพัฒนาตัวเองได้อย่างดี!
แต่ว่า…แรกเริ่มเดิมทีเถามี่รู้สึกกระตือรือร้นมาก จะอย่างไรเฉินชางก็พูดได้มีเหตุผล ทำให้เขาก้าวหน้าได้จริงๆ
แต่ว่า…ยิ่งพูดเฉินชางก็ยิ่งอธิบายอย่างละเอียด ยิ่งพูดก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่
เถามี่แทบจะทนไม่ไหวแล้ว! เขารู้สึกว่าจิตใจของตัวเองยังไม่มั่นคง แทบจะพังทลายอยู่รอมร่อ
ไม่ง่ายเลยกว่าจะเห็นเฉินชางหยุดพัก ในที่สุดเถามี่ก็ผ่อนคลายลงได้
ยังดี…ยังดี…
ในที่สุดก็พูดจบแล้ว
แต่คำพูดเหล่านี้ก็มีเหตุผลจริงๆ พอกลับไปแล้วจะต้องไตร่ตรองดูให้ดีสักหน่อย ดูว่าจะเพิ่มพูนความสามารถได้อย่างไร
เถามี่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นเฉินชางดื่มชาเสร็จแล้วก็รู้สึกเหมือนอีกฝ่ายกลับไปมีท่าทางเช่นเดิม ก่อนจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “หัวหน้าเถา พวกเรามาคุยกันต่อเถอะครับ ความจริงยังมีอีกหลายอย่างที่ปรับปรุงและพัฒนาได้!”
เถามี่ชะงักไปทันที
เฉินชางพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น “ตอนคุณผ่าตัด โดยเฉพาะตอนที่แยกเยื่อหุ้มหัวใจและเส้นเลือดออกจากกัน คุณติดนิสัยบางอย่าง ดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ก็ทำให้เส้นประสาทเสียหายได้ง่าย ผมคิดดูแล้ว น่าจะ…”
ยิ่งพูดเฉินชางก็ยิ่งรู้สึกทรงพลัง!
ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกกระตือรือร้น!
แต่เถามี่รู้สึกว่าตัวเองจะยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้ว รู้สึกเหมือนเป็นโรคไตวาย เหงื่อไหลออกมาจนท่วมตัว!
เขานั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อน เหงื่อเม็ดโตไหลลงพื้นไม่หยุด
เถามี่กัดฟัน
ไม่ได้ ฟังไม่ไหวแล้ว!
ถ้ายังฟังต่อไป จิตใจผมคงแหลกสลายเป็นผุยผง!
แต่เมื่อเห็นเฉินชางพูดไม่หยุดเช่นนั้น เถามี่ก็ทำได้เพียงแสร้งทำเป็นยกโทรศัพท์ขึ้นมา “ฮัลโหลๆๆ อ้อ! มีผู้ป่วยมาเหรอครับ ได้ๆๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”
จากนั้นก็ทำเป็นกดวางสายแล้วยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “เสี่ยวเฉิน คือ มีผู้ป่วยครับ ผมต้องไปดูสักหน่อย…คุณว่าวันหลังพวกเราค่อยคุยกันดีไหมครับ”
เฉินชางพยักหน้าแล้วพูดยิ้มๆ ว่า “คุยกับหัวหน้าเถาทำให้ผมมีความสุขมากเลยครับ!”
เถามี่เหงื่อตก
แต่ผมไม่มีความสุข!
เฉินชางยิ้ม “หวังว่าต่อไปจะมีโอกาสได้คุยกันแบบนี้อีกนะครับ”
เถามี่ได้ยินดังนั้นก็รีบส่ายหน้า
อย่าเลย ก่อนที่จิตใจของผมจะแข็งแกร่ง คุณอย่ามาเลย
เมื่อเห็นเฉินชางเดินจากไป เถามี่ก็ผ่อนคลายลงได้ในที่สุด
เหนื่อยจริงเว้ย!