เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 379 ก้างปลาหายไปแล้ว!
บทที่ 379 ก้างปลาหายไปแล้ว!
ผู้ป่วยถูกย้ายไปยังห้อง ICU เพื่อจับตาดูอาการอย่างใกล้ชิดภายในวันนั้น หมอต้องคอยสังเกตสัญญาณชีพของเขาอย่างใกล้ชิด!
เมื่อผู้ป่วยและภรรยารู้ว่าอาการของเขาอันตรายขนาดนี้ก็หวาดผวาอย่างหนัก! สองวันที่ผ่านมา ทั้งสองควรกินอะไรก็กิน ควรดื่มอะไรก็ดื่ม ควรทำอะไรก็ทำ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันก็ไม่ได้ขาดไปแม้แต่เรื่องเดียว ทว่าตอนนี้เมื่อผู้ป่วยถูกส่งตัวมาที่ห้อง ICU ผู้เป็นภรรยาตามเข้าไปไม่ได้ จึงทำได้เพียงอธิษฐานและสำนึกผิด!
หากพาสามีมาหาหมอเร็วกว่านี้ บางทีอาจไม่อันตรายขนาดนี้
เป็นเช่นนั้นจริงๆ! ถ้ามาหาหมอเร็วกว่านี้ ก้างปลาคงไม่แทงลงไปลึกขนาดนั้นแน่นอน นี่เป็นเรื่องจริงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
หลายครั้งที่อาการป่วยรุนแรงขึ้นในช่วงเวลาที่คนเราไม่ได้ใส่ใจ!
……
……
อาการของผู้ป่วยชายได้รับความสนใจจากทางโรงพยาบาลทันที โรงพยาบาลรีบเปิดประชุมฉุกเฉินตามสภาพอาการของผู้ป่วยอย่างเร่งรีบ การประชุมรวบรวมแพทย์จากแผนกฉุกเฉิน แผนกศัลยกรรมหัวใจ แผนกศัลยกรรมทั่วไป แผนกหู คอ จมูก แผนกส่องกล้อง แผนก ITD[1] และแผนกวิสัญญีมาร่วมหารือ!
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินชางเป็นประธานในการวินิจฉัยและรักษาร่วม! ทั้งยังเป็นการรักษาร่วมขนาดใหญ่ขององค์กรอีกด้วย
ในห้องประชุมอันกว้างใหญ่เงียบงันหาใดเปรียบ ทุกคนเอาแต่จ้องมองเฉินชาง บ้างก็จ้องไปยังภาพเอ็กซเรย์ที่ปรากฏอยู่บนจอขนาดใหญ่ เมื่อเห็นภาพที่แฝงไปด้วยความอันตรายนั้นแล้ว ทุกคนก็พากันขมวดคิ้วแน่น สีหน้าตึงเครียด
ทั้งห้องเงียบสงัด! บรรยากาศเคร่งเครียดและหนักอึ้งครอบคลุมไปทั่วทั้งห้อง
นี่ไม่ใช่เวลามาล้อเล่น การรักษาในคราวนี้เกี่ยวพันและพาดพิงไปถึงหลายแผนกสาขามากมาย ด้วยเหตุนี้จึงต้องจัดตั้งทีมรักษาและทำงานร่วมกับแผนกต่างๆ ให้ดีที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อปรึกษาหารือร่วมกับทุกคนแล้ว จะต้องตัดสินใจวางแผนการรักษา และดำเนินการรักษาผู้ป่วยให้เป็นไปอย่างเป็นระบบขั้นตอนอีกด้วย
เถามี่ หลี่เป่าซาน จางโหย่วฝู เซียวเหอ และหลิวเจี้ยน…ทุกคนต่างจ้องไปที่เฉินชาง!
ผู้ที่นั่งอยู่ในห้องล้วนเป็นบุคคลมีหน้ามีตา เรียกได้ว่าเป็นเสาหลักของโรงพยาบาลอันดับสองเลยก็ว่าได้ มีเพียงเฉินชางที่อายุน้อยที่สุด แต่กลับไม่มีใครกล้าดูถูกเขาแม้แต่คนเดียว ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเฉินชางใช้ผลงานของตนพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นถึงความสามารถครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้พวกเขาไม่มีอะไรกังขา
หมอระดับหัวหน้าและรองหัวหน้าแพทย์เจ็ดแปดคนจับจ้องเฉินชาง เฉินชางสูดหายใจลึก หากบอกว่าไม่ตื่นเต้นเลยคงเป็นเรื่องโกหก
เมื่อครั้งอดีต เฮนรี่ นอร์แมน เบธูน ต้องอุทิศร่างกายและจิตวิญญาณของตัวเองกว่าจะก่อตั้งกลุ่มแพทย์เพื่อกู้ชีพผู้ป่วยที่ถูกเหล็กแทงทะลุหน้าอกได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด ครั้งนี้แม้จะเป็นเพียงก้างติดคอ แต่ความเสียหายและผลร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นไม่น้อยไปกว่าการถูกเหล็กแทงทะลุหน้าอกในครั้งนั้นเลย!
ดังนั้นหากจะบอกว่าเฉินชางไม่เครียดคงเป็นไปไม่ได้! แต่เครียดก็เรื่องหนึ่ง อย่างไรงานก็ยังต้องดำเนินไปตามปกติ
การประชุมหารือผ่านไปสิบกว่านาทีแล้ว ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็นของตน รวมถึงเสนอแผนผ่าตัดที่จะใช้รับมือกับสภาพอาการของผู้ป่วยด้วย
เฉินชางมองเถามี่ ถามไปตามตรงว่า “หัวหน้าเถา คุณคิดว่าจากอาการของผู้ป่วย ต้องทำยังไงถึงจะดึงก้างปลาออกมาโดยไม่สร้างความเสียหายให้กับเอออร์ต้าส่วนนอกครับ”
เถามี่พยักหน้า จากนั้นจึงก็ตอบอย่างจริงจัง “อันที่จริง จากผลเอกซเรย์ในปัจจุบัน ถึงจะไม่เห็นสภาพด้านนอกของหลอดเลือด แต่ผมขอพูดสักหน่อยนะครับ จากประสบการณ์ของผม ผู้ป่วยก้างติดคอมาสองวันแล้ว นี่เป็นปัญหาที่ค่อนข้างร้ายแรง เพราะเป็นไปได้ว่าแผลบริเวณหลอดเลือดอาจติดเชื้อและเริ่มเน่าแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้สภาพหลอดเลือดจะต้องแย่ลงเรื่อยๆ แน่นอน
พูดได้เลยว่าเรื่องเร่งด่วนในตอนนี้ และก็เป็นเรื่องสำคัญและอันตรายที่สุดด้วยก็คือ การรักษาความปลอดภัยของหลอดเลือดนี่แหละครับ ในสถานการณ์แบบนี้ หากต้องการอุดหลอดเลือดให้ดีก็ใช้หลอดเลือดส่วนเอออร์ตาเป็นแกนสำหรับสอดขดลวด ทำแบบนี้จะเหมาะสมกว่านะครับ”
เซียวเหอได้ยินดังนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า “ถ้ารักษาความปลอดภัยของหลอดเลือดเอออร์ตาส่วนนอกได้ก็ง่ายแล้วครับ แบบนี้ก็ใช้วิธีส่องกล้องดึงก้างปลาออกมาได้เลย”
หลิวเจี้ยนแผนกวิสัญญีก็พยักหน้าเห็นด้วย…
……
ผลของการประชุมค่อนข้างชัดเจนแล้ว ไม่นานทุกคนก็คิดแผนผ่าตัดร่วมกันได้! ด้วยเหตุนี้ เวลาห้าโมงเย็นของวันเดียวกัน หลังจากจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หลิวเจี้ยนผู้เป็นวิสัญญีแพทย์ก็ทำหน้าที่คุมสถานการณ์ การผ่าตัดใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว!
หากอิงตามแผนผ่าตัด หัวหน้าเถามี่ซึ่งเป็นหมอจากแผนกศัลยกรรมหัวใจจะเป็นผู้ลงมือด้วยตัวเอง และเป็นผู้ลงมือคนแรก เพราะหัวใจหลักของการผ่าตัดครั้งนี้อยู่ที่ความปลอดภัยของเอออร์ตาส่วนนอก เถามี่จำเป็นต้องรับมืออย่างเข้มงวดและจริงจัง!
การผ่าตัดเริ่มขึ้นแล้ว นี่เป็นการใส่ขดลวดไปตามหลอดเลือดแดงเออร์ตาเพียงอย่างเดียวจึงไม่นับว่ายาก รวมกับที่มีเถามี่เป็นศัลยแพทย์หลักโดยมีรองหัวหน้าแผนกเป็นผู้ช่วย ไม่นานการสอดขดลวดก็ประสบความสำเร็จ!
เท่ากับว่าความอันตรายของการผ่าตัดในครั้งนี้ลดลงแล้ว การผ่าตัดดำเนินไปตามแผน ตอนนี้เซียวเหอหั วหน้าฝ่ายส่องกล้องเปลี่ยนตัวขึ้นมา เริ่มส่องกล้องเพื่อตรวจระบบทางเดินอาหาร ตรวจลึกลงไปในหลอดอาหาร เตรียมจะดึงก้างปลาออกมา!
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึงก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน!
หลังจากสอดกล้องเข้าไปแล้ว จู่ๆ ก็พบว่าก้างปลาหายไป!
เกิดอะไรขึ้น
เซียวเหอนิ่งอึ้งไปทันใด เขาใช้กล้องตรวจหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่หยุดหย่อน หาบริเวณตำแหน่งเดิมไปก็หลายรอบ แต่สุดท้ายก็ยังไม่พบก้างปลาที่ควรอยู่ที่เดิม!
ทุกคนในห้องผ่าตัดพากันสับสน หลูเสี่ยวจวินที่เป็นคนส่องกล้องตรวจให้ผู้ป่วยด้วยตัวเองเป็นคนแรกถึงกับมึนงง
“เมื่อกี้ยังอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมหายไปได้ล่ะ”
เซียวเหอขมวดคิ้วโดยพลัน
หาไม่เจอแล้ว ความหวังที่จะดึงก้างปลาด้วยวิธีการส่องกล้องถูกทำลายจนย่อยยับ!
ตอนนี้ผู้ป่วยยังคงอยู่บนเตียงผ่าตัด! แต่ก้างปลากลับหายไป!
ทำยังไงดี
ทุกคนเริ่มหารือกันอีกครั้ง!
“เป็นเพราะก่อนผ่าตัด หลอดอาหารเกิดการบีบรัดตัวจนทำให้ก้างปลาทะลุเข้าไปในช่องอกหรือเปล่าครับ!” จางโหย่วฝูกล่าวด้วยท่าทางครุ่นคิด
เถามี่พยักหน้า “อืม เป็นไปได้นะครับ พวกคุณลองดูทางนี้!”
ขณะพูดเถามี่ก็ชี้ไปยังภาพ CT Scan บนกำแพงแล้วพูดต่อไปว่า “ดูนะครับ ก้างปลาแทงทะลุไปถึงช่องอกและเข้าสู่หลอดเลือดเอออร์ตาจากมุมนี้ ทิศทางการไหลเวียนโลหิตในหลอดเลือดเอออร์ตาบริเวณช่องอกคือทิศทางนี้ ซึ่งไปประจวบเหมาะกับทิศทางการบีบรัดของหลอดอาหารเข้าพอดี ถ้าเป็นแบบนี้ก็อธิบายได้พอดีเลย!”
“ก้างปลาอาจจะถูกแรงดันเลือดบริเวณหลอดเลือดเอออร์ตาผลักดัน เมื่อรวมกับการบีบตัวของหลอดอาหาร จึงทำให้มันทะลุผ่านหลอดอาหารจนไปถึงช่องอก สุดท้ายก็เข้าไปอยู่ในหลอดเลือดเอออร์ตา!”
หลังจากทีมแพทย์หารือกันแล้วก็พบว่าสถานการณ์ในตอนนี้ซับซ้อนเข้าไปอีก ในตอนนี้จะใช้การส่องกล้องเพื่อนำก้างปลาออกมาไม่ได้แล้ว! จะต้องผ่าเปิดทรวงอกเพื่อตรวจสอบและใช้แผนผ่าตัดอื่นแทน
ผู้เชี่ยวชาญทุกคนร่วมมือกัน ไม่นานก็ปรับเปลี่ยนแผนการผ่าตัดออกมาได้! เรื่องนี้ทำให้เฉินชางกลายเป็นหัวใจหลักของทีมแพทย์ไปแล้ว! เพราะเขาเชี่ยวชาญการผ่าตัดเปิดช่องอกอย่างยิ่ง เรื่องนี้ทุกคนทราบดี
ในตอนนี้ สายตาของทุกคนทอดมองไปที่เฉินชาง ในดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
การผ่าตัดก็เป็นเช่นนี้เอง จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคอย่างห้าวหาญ ทุกคนต่างก็มีหน้าที่ความรับผิดชอบเป็นของตัวเอง! เช่นหัวหน้าเถามี่ที่มีหน้าที่สอดขดลวด ทำให้รักษาหลอดเลือดสำคัญไว้ได้ในพริบตา
แม้เฉินชางจะเผชิญหน้ากับอุปสรรคอันยากลำบากก็ไม่ได้หวาดกลัว เขาพยักหน้าอย่างมั่นใจแล้วรับมีดผ่าตัดมา!
ชั่วขณะนี้ การผ่าตัดจึงจะนับว่าเริ่มต้นอย่างแท้จริง!
เฉินชางเลือกตำแหน่งผ่าเปิดโดยอิงตามผลเอกซเรย์ จากนั้นก็กรีดผ่าทันที
เขาผ่าเปิดอกอย่างช่ำชองโดยมีเถามี่รับหน้าที่ช่วยเหลืออยู่ข้างๆ หลิวเจี้ยนที่เป็นวิสัญญีแพทย์เตรียมรับสถานการณ์อีกครั้ง หมอฝ่ายเอกซเรย์เริ่มวิเคราะห์ตำแหน่งภายในร่างกายอย่างละเอียด…
บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนล้วนทำหน้าที่ของตนเองอย่างเคร่งครัด
ในการผ่าตัด ไม่เคยมีวีรบุรุษที่ต่อสู้เพียงลำพัง ทุกการผ่าตัดเกิดจากการร่วมมือกันของทีมที่ยอดเยี่ยม!
เมื่อเฉินชางผ่าเปิดช่องอกแล้ว ทุกคนพลันสูญหายใจเอาไอเย็นในห้องผ่าตัดเข้าไปอย่างอดไม่อยู่ เนื่องจากมีการติดเชื้อ ช่องอกจึงเละเทะ เกิดพังผืดอย่างรุนแรง และมีหนองอยู่เต็มช่องอก
เมื่อทุกคนเห็นภาพนี้ก็พากันขมวดคิ้วทันที ยังดีที่ตัดสินใจผ่าเปิด มิฉะนั้นต้องมีปัญหาเรื่องการฟื้นตัวและการรักษาในภายหลังแน่นอน!
อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้ดีว่าเพียงพริบตาเดียว ภาระทั้งหมดก็ถูกโยนลงสู่บ่าของเฉินชางไปเสียแล้ว!
เฉินชาง…จะทำได้หรือไม่
[1] แผนก ITD (Invasive Technology Department) คือแผนกที่มุ่งเน้นการวินิจฉัยหาต้นตอสาเหตุของอาการปวดที่แท้จริงก่อนการรักษาโดยมีเทคนิคการรักษาอาการแบบไม่ต้องผ่าตัด เช่น ฉายรังสี ใช้ขดลวดดึงสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย เป็นต้น