เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 397 หนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤต
บทที่ 397 หนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤต
เวลาประมาณสามทุ่ม เป็นช่วงเวลาระมัดระวัง และเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งที่สุดของแผนกฉุกเฉิน
เฉินชางเพิ่งเสร็จงานที่ห้องผู้ป่วยในแผนกฉุกเฉินก็ได้รับโทรศัพท์จากศูนย์ฉุกเฉิน 120 แจ้งให้เตรียมการกู้ชีพ พวกเขาจะส่งตัวผู้ป่วยหญิงที่กินยานอนหลับฆ่าตัวตายมาที่โรงพยาบาล
จิตใจอันตึงเครียดของเฉินชางถูกกระตุ้นขึ้นอีกครั้ง!
เฉินชางถามไปประโยคหนึ่ง “นานแค่ไหนแล้วครับ!”
ศูนย์ฉุกเฉินกล่าวว่า “มากสุดประมาณห้าชั่วโมงครับ ตอนแม่ของผู้ป่วยพบตัวเธอก็หมดสติไปแล้ว นอกจากนี้เธอก็มีแผลทั่วตัวด้วยครับ”
เมื่อวางโทรศัพท์ไปแล้ว เฉินชางก็รีบเตรียมห้องฟอกไตอย่างเร่งร้อน ปกติผู้ป่วยที่กินยานอนหลับเพื่อฆ่าตัวตายเช่นนี้จะถูกพบตัวหลังจากกินยาไปแล้วหกถึงสิบสองชั่วโมง ดังนั้นควรล้างกระเพาะทันทีเพราะตัวยายังไม่ถูกดูดซึมไปทั้งหมด
แต่กับผู้ป่วยที่หมดสติไป หรือไม่ได้ปัสสาวะออกมา ต้องเตรียมการฟอกไตให้เร็วที่สุดจึงจะดี
เมื่อพูดจบ เฉินชางก็รีบหันไปมองเสี่ยวเยี่ยนและเล่อเล่อ “เดี๋ยวจะมีผู้ป่วยกินยานอนหลับฆ่าตัวตายมานะครับ ตอนนี้หมดสติไปแล้ว สถานการณ์อันตรายมาก ต้องเตรียมล้างกระเพาะ”
เล่อเล่อไปเตรียมอุปกรณ์ล้างกระเพาะ ส่วนเสี่ยวเยี่ยนไปเตรียมยาสำหรับล้างพิษ
ทั้งสองทำงานอยู่ที่แผนกฉุกเฉินมาสองสามปีแล้ว พบเจอเรื่องเช่นนี้มาไม่ต่ำกว่าแปดครั้งสิบครั้งจึงจัดการงานได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและรวดเร็ว
เวลาผ่านไปประมาณสามสิบนาที รถฉุกเฉินที่แล่นมาอย่างรวดเร็วก็จอดลงตรงประตูของแผนกฉุกเฉิน หมอประจำรถและคนขับรถรีบเข็นเตียงผู้ป่วยเข้ามา ด้านหลังมีคนเดินตามมาด้วยสามคน คาดว่าเป็นญาติผู้ป่วย
หญิงอายุประมาณห้าสิบกว่าปีคนหนึ่งร้องไห้จนดวงตาทั้งสองบวมเป่ง ส่วนชายอายุประมาณเดียวกันใบหน้าบูดบึ้งเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เอาแต่เงียบงันไม่พูดจาแม้เพียงประโยคเดียว น่าหวาดกลัวเป็นที่สุด
เมื่อเทียบกันแล้ว ชายอีกคนหนึ่งที่เดินตามมาด้านหลัง ท่าทางยังอายุน้อย ประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปี สวมเครื่องแบบนักเรียน เขายังมีสีหน้าร้อนอกร้อนใจและไม่สบายใจมากกว่า
ตอนนี้เฉินชางเห็นผู้ป่วยชัดแล้ว เธออายุไม่มาก ใบหน้าขาวซีด แต่ว่า…อาจดูซีดเซียวเพราะอาการป่วย นี่เป็นความคิดแรกของเขา
หมอประจำรถฉุกเฉินดึงเฉินชางไว้แล้วเริ่มอธิบายสภาพผู้ป่วย
“อาการค่อนข้างซับซ้อนเลยครับ”
หมอประจำรถยังอายุไม่มาก ประมาณสี่สิบปีเท่านั้น คำพูดนี้ทำให้เฉินชางชะงักไป
เฉินชางถามไปว่า “เป็นอะไรเหรอครับ”
หมอคนนั้นกล่าวว่า “บนตัวมีบาดแผลหลายแห่ง ต้นขาด้านในมีรอยช้ำรุนแรง นอกจากนี้ยังมีแผลเปิดอีกหลายจุด มีอาการกล้ามเนื้อกดทับหลายที่และปัสสาวะไม่ออก คุณต้องลองคิดถึงอาการกล้ามเนื้อสลายดูหน่อยนะครับ ตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อน ไม่งั้น…อาจเกิดปัญหาได้”
พูดจบ หมอวัยกลางคนที่เพิ่งสังเกตเห็นว่าเฉินชางยังอายุไม่มากเท่าไหร่ก็พูดเสริมไปอีกประโยคหนึ่ง “ระวังเรื่องอารมณ์ความรู้สึกของญาติผู้ป่วยหน่อยนะครับ สถานการณ์มัน…ค่อนข้างซับซ้อน!”
หญิงวัยกลางคนมาถึงโรงพยาบาลแล้ว เมื่อเห็นเฉินชางก็เหมือนกับเห็นฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย เธอรีบวิ่งเข้ามา คุกเข่าลงกับพื้นจนเกิดเสียงดัง ดวงตาทั้งสองมีน้ำตาไหลออกมาจนเลอะเต็มหน้า!
“ขอร้องละค่ะ ขอร้องละค่ะคุณหมอ ช่วยลูกสาวฉันด้วย เธอเพิ่งจะอายุยี่สิบหกเอง! ขอร้องละค่ะ คุณต้องช่วยเธอนะคะ เธอยังอายุน้อยอยู่เลย!”
เฉินชางไม่สนใจปลอบใจญาติผู้ป่วย รีบหันไปพูดกับนางพยาบาลเล่อเล่อว่า “ส่งไปที่ห้องฉุกเฉิน สังเกตอาการให้ดี และตรวจเลือดด่วนด้วยนะครับ…”
หลังจากสั่งงานเสร็จแล้ว เฉินชางก็หันไปมองชายวัยกลางคน “คุณดูแลเรื่องอารมณ์กันหน่อยนะครับ พวกเราต้องไปช่วยผู้ป่วยก่อน”
ชายคนนั้นพยักหน้า “ครับ รบกวนด้วยนะครับคุณหมอ”
ขณะที่ชายคนนั้นอ้าปากพูด เฉินชางจึงค่อยเห็นว่าที่ฟันของอีกฝ่ายมีเลือดไหลออกมา คงเป็นเพราะเขากัดฟันจนเลือดไหล บริเวณตาขาวก็เต็มไปด้วยเส้นเลือด สภาพร่างกายคล้ายกับเดือดดาลมาก เพียงแต่โทสะนี้ถูกสติสัมปชัญญะของเขากดเก็บเอาไว้ภายในอย่างสุดความสามารถ
เฉินชางเห็นดังนั้นก็หนังตากระตุก
ตอนนี้เอง เด็กหนุ่มก็วิ่งออกไปข้างนอก “ไอ้เวรเอ๊ย กูจะฆ่ามึง! แม่งทำพี่สาวกูเป็นแบบนี้แล้ว ถ้าพี่สาวกูตาย กูจะฆ่ามึงทั้งครอบครัว!”
ชายวัยกลางคนเห็นดังนั้นก็ตะโกนออกมาอย่างโมโห “หยุดเดี๋ยวนี้!”
เด็กหนุ่มตัวแข็งทื่อ หันกลับมาตะโกนเสียงดังว่า “ที่นอนอยู่บนเตียงนั่นคือพี่สาวผมนะ!”
ชายวัยกลางคนได้ยินดังนั้นก็ตบหน้าอกตัวเองเสียงดัง “นั่นก็ลูกสาวฉันเหมือนกัน!”
……
……
ภายในห้องฉุกเฉิน
“รูม่านตาขยาย!”
“การตอบสนองต่อแสงไฟลดลง!”
“อัตราการหดตัวหายไป!”
……
“ความดันโลหิต 60/30 mmHg! ลดลงต่อเนื่อง!”
“หัวใจเต้นเร็ว! 120 ครั้งต่อนาที!”
ตอนนี้ผลตรวจเลือดมาแล้ว!
ขณะที่เฉินชางเห็นค่า ATP ก็ต้องชะงักไปทันที หนึ่งแสนหนึ่งหมื่น!
สูงเกินไปแล้ว!
ATP เป็นแสนเช่นนี้ ต้องรีบฟอกเลือดให้เร็วที่สุด
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็รีบโทรไปที่ห้องฟอกไต บอกให้พวกเขาเตรียมอุปกรณ์สำหรับฟอกไตฟอกเลือด
ขณะที่เฉินชางกำลังตรวจสอบอยู่นั้น เขาก็จับปากของผู้ป่วยหญิงให้อ้าออก ทว่าทันใดนั้นก็มีกลิ่นยาอันเข้มข้นโชยออกมาจากปากเธอ เฉินชางถึงกับใจกระตุก
นี่กินเข้าไปเท่าไหร่กันแน่
อย่างน้อยก็สามสิบห้าสิบเม็ดได้
กลิ่นยานอนหลับถาโถมออกมา เฉินชางเห็นคนกินยาฆ่าตัวตายมามากแล้ว แต่…ส่วนใหญ่เป็นการแสร้งทำเป็นฆ่าตัวตาย จะกินเข้าไปแค่สิบเม็ดแปดเม็ดเพื่อให้คนอื่นตกใจกลัวเท่านั้น แต่คนที่กินเข้าไปสามสิบห้าสิบเม็ดเช่นนี้เป็นพวกที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายอย่างแท้จริง!
ผู้หญิงอายุยี่สิบหกปี ทำไมถึงตัดสินใจโหดเหี้ยมเช่นนี้ได้
สภาพของผู้ป่วยถูกจัดอยู่ในภาวะอันตรายขึ้นมาทันที รวมกับที่บนร่างกายมีแผลกดทับหลายแห่ง มีภาวะกล้ามเนื้อสลาย ทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันและโพแทสเซียมสูงได้ง่าย จึงพูดได้ว่าตอนนี้สภาพของผู้ป่วยยังไม่เสถียร
ในตอนนี้ ความดันโลหิตยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง สูงสุดเพียงหกสิบ ต่ำสุดเกือบสามสิบ!
เฉินชางสีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน รีบเพิ่มโดปามีนให้ผู้ป่วยโดยฉีดโดปามีนสองร้อยสิบกรัมจนความดันโลหิตค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง อัตราการเต้นของหัวใจก็เริ่มลดลงจนมาถึงประมาณหนึ่งร้อยครั้งต่อนาที
ภายในห้องฉุกเฉินเต็มไปด้วยบรรยากาศตึงเครียด!
เล่อเล่อกำลังล้างกระเพาะ ส่วนเสี่ยวเยี่ยนคอยช่วยเหลือ ทว่า…แม้จะพยายามกันถึงขั้นนี้แล้ว เฉินชางก็ยังไม่มั่นใจว่าจะช่วยชีวิตผู้ป่วยกลับมาได้หรือไม่ เพราะแค่พิษจากยานอนหลับมากมายเหล่านั้นก็อันตรายพอแล้ว เป็นอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว แถมตอนนี้ยังมีภาวะกล้ามเนื้อสลายและโพแทสเซียมสูงร่วมด้วย…
มีภาวะอาการมากเกินไป! ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างนี้มารวมอยู่ด้วยกัน! คงพูดได้คำเดียวว่า ผู้ป่วย…อยู่ระหว่างความเป็นความตาย
ปัญหาสำคัญที่สุดก็คือผู้ป่วยอยากตาย และดูเหมือนความปรารถนานี้จะรุนแรงมากเสียด้วย
บางครั้ง พอได้มาอยู่ในแผนกฉุกเฉินแล้วอาจได้เห็นอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง ของอย่างเช่นความปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ก็เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงๆ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่เทคโนโลยีในปัจจุบันตรวจสอบไม่ได้
ทว่า…เฉินชางเห็นคนเหล่านี้ในแผนกฉุกเฉินมามากจริงๆ เช่นชายที่ถูกเหล็กเสียบทะลุอกในตอนนั้น หากเป็นคนปกติคงมีอัตราการตายสูงมาก แต่…ชายคนนั้นก็ยังรอดมาได้
บางทีอาจเป็นเพราะในหัวใจของเขาเต็มไปด้วยครอบครัว! หรืออาจเป็นเพราะจิตใจของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า แต่…สำหรับคนที่คิดฆ่าตัวตายก็พูดยาก
โบราณกล่าวว่า ยารักษาได้เพียงคนที่ต้องการความช่วยเหลือ พระพุทธเจ้าช่วยได้เพียงผู้มีบารมี อันที่จริงคำพูดนี้ยังอธิบายได้อีกอย่างหนึ่งว่า มีเพียงผู้ที่ไม่อยากตายเท่านั้นจึงจะรักษาได้ และสำหรับคนอยากตาย ไม่ว่ายาอะไรก็รักษาไม่ได้!
มีหลายคนที่รู้ชัดว่าช่วยไม่ได้แล้ว แต่เพราะสิ่งที่เรียกว่าความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ทำให้พวกเขาดีขึ้น
เฉินชางเดินถือเอกสารแจ้งอาการออกมาให้ญาติผู้ป่วยเซ็นเพื่อแสดงการรับรู้และยินยอม
ญาติผู้หญิงขดตัวร้องไห้อยู่ในมุมหนึ่ง ส่วนชายหนุ่มโกรธจนตัวสั่น ถือโทรศัพท์อยู่ในมือ ไม่รู้ว่ากำลังพิมพ์อะไร มีเพียงชายวัยกลางคนเท่านั้นที่ยืนไม่พูดไม่จาอยู่ตรงนั้น และเป็นเพราะแผนกฉุกเฉินไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ เขาจึงทำได้เพียงคาบบุหรี่มวนหนึ่งเอาไว้ในปากซึ่งตอนนี้ถูกขบจนเละ มีเลือดไหลออกมาตามก้นบุหรี่ ย้อมบุหรี่จนเป็นสีแดง
เฉินชางมองไปที่เขา “สวัสดีครับ นี่คือ…หนังสือแจ้งภาวะเจ็บป่วยวิกฤต เดี๋ยวผมอธิบายให้ฟังนะครับ”
ชายคนนั้นได้ยินก็ชะงักไปโดยพลัน แทบจะยืนไม่ไหว!