เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 410 ผมแม่งโคตร...เหนื่อย
บทที่ 410 ผมแม่งโคตร…เหนื่อย…
คำพูดนี้ของฉินเสียง ทำเอาครอบครัวฉินสับสนมึนงงไปหมดแล้ว
หมายความว่าอะไร
อะไรคือหมอศัลย์ฯ ล้านหยวน
ทั้งสามยิ่งฟังก็ยิ่งสับสน
ฉินเสี้ยวหยวนถึงกับพึมพำออกมาว่าฉินเสียงจำคนผิดหรือเปล่า
สุดท้ายก็อดพูดไม่ได้ว่า “หัวหน้าฉิน คุณกำลังบอกว่า…”
ฉินเสียงตบหน้าผากตัวเองแล้วมองไปที่เฉินชางครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดอย่างเนิบนาบ “อ่า ผู้อำนวยการฉิน ดูท่าทางคุณคงจะไม่ทราบจริงๆ สินะครับ! ตอนนี้เฉินชางเป็นสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ความงามแห่งประเทศจีนแล้ว ท่านรองกงเป็นคนเชิญด้วยตัวเอง อีกอย่าง ตอนนี้ค่าตัวของเฉินชางคงสูงสุดในเมืองอันหยางแล้วละครับ จะผ่าตัดกับเขา อย่างน้อยก็ต้องใช้เงินสามแสน เมื่อวานเขาก็เพิ่งผ่านตัดเคสละหนึ่งล้านหยวนไปห้าเคส!
ตอนนี้เฉินชางเป็นศัลยแพทย์ความงามระดับล้านหยวนในเมืองอันหยางของพวกเราแล้วครับ จริงสิ เมื่อวานท่านรองกงอยากดูการผ่าตัดของเฉินชางจนต้องบินมาที่อันหยางด้วยตัวเองเลย แถมยังเชิญเฉินชางเข้าร่วมการวิจัยของเธอด้วย โดยให้เขาเข้าร่วมในฐานะที่ปรึกษาด้านเทคนิคและเป็นสมาชิกลำดับสาม การวิจัยนั้นมีมูลค่าสามสิบล้านหยวน เป็นหัวข้อวิจัยที่อยู่ภายใต้โครงการศัลยกรรมของรัฐบาล”
พูดถึงตรงนี้ ฉินเสียงก็ส่ายหน้า “ดังนั้นผมถึงได้บอกว่า คุณมีคนเก่งพร้อมใช้งานอยู่แล้วแต่ไม่ใช้ กลับจะมาหาผม นี่ไม่ใช่ว่า…เส้นผมบังภูเขาหรือครับ”
คำพูดนี้ทำเอาทั้งสามอึ้งและทึ่งมาก!
เหล่าฉินมีสีหน้าตกตะลึง จี้หรูอวิ๋นมีสีหน้าแปลกใจ ยัยขี้ประจบฉินมีสีหน้าเลื่อมใส
ฉินเสี้ยวหยวนไม่อยากจะเชื่อ
เมื่อวาน…ผ่าตัดเคสละล้านหยวนไปห้าเคส ให้ตายสิ สิบปีผมจะหาเงินได้ถึงห้าล้านหรือเปล่าเถอะ
คิดถึงตรงนี้ ฉินเสี้ยวหยวนก็รู้สึกชาวาบไปถึงหนังศีรษะ
เขาทราบดีว่าศัลยแพทย์ความงามหาเงินได้มาก แต่…เคสละล้านหยวน นี่มันเรียกว่าหาเงินที่ไหนกัน นี่มันปล้นกันชัดๆ
เมื่อครู่ตนเพิ่งพูดว่าเฉินชางลดภาระไปได้ยี่สิบปี แต่…เมื่อวานอีกฝ่ายผ่าตัดไปห้าเคส ไม่ทันไรก็ซื้อบ้านได้แล้ว! แล้วสิบปีจะหาเงินได้เท่าไหร่
เหล่าฉินไม่ไหวจะนับ
สิ่งที่จี้หรูอวิ๋นสนใจฟังไม่ใช่เรื่องที่ว่าหาเงินได้หรือไม่ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าว่าที่ลูกเขยคนนี้จะสุดยอดขนาดนี้!
เป็นศัลยแพทย์ความงามที่เจ๋งที่สุดในเมืองอันหยาง!
มิน่าล่ะ เมื่อครู่เขาถึงพูดว่าตัวเองเชี่ยวชาญ
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง!
เช่นนั้น…ต่อไปเรื่องรักษาความงามบนใบหน้าตนและอะไรพวกนี้ก็พูดกันง่ายน่ะสิ
ตอนนี้จี้หรูอวิ๋นรู้สึกว่ายิ่งมองเฉินชางก็ยิ่งสบายตา อย่างไรก็ตาม…จู่ๆ ฉินเสี้ยวหยวนก็คิดถึงปัญหาบางอย่างขึ้นมาได้!
เฉินชางพูดว่าเขาเพิ่งเรียนมาสองเดือนกว่า เพิ่งสองเดือนก็สร้างผลงานได้ขนาดนี้แล้วหรือ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร
เหล่าฉินรีบพูดว่า “หัวหน้าฉิน คุณล้อเล่นหรือเปล่าครับ เฉินชางเพิ่งเรียนรู้ด้านศัลยกรรมความงามไปได้แค่สองเดือนกว่า จะเก่งขนาดนั้นที่ไหนกัน”
ตอนนี้ฉินเสียงยังอดถอนใจไม่ได้ “ผู้อำนวยการฉิน ผมจะพูดกับคุณตามจริงเลยนะครับ งานประเภทศัลยกรรมความงามไม่ได้ดูแค่เรื่องเทคนิคเท่านั้น ที่สำคัญกว่าคือพรสวรรค์ เสี่ยวเฉินราวกับเกิดมาเป็นผู้ตรัสรู้ทางด้านศัลยกรรมความงาม เป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมาเลย! ดังนั้นเรื่องกำจัดริ้วรอยของผู้อำนวยการจี้ ผมว่าคุณให้เสี่ยวเฉินทำให้จะเหมาะสมกว่า!”
ฉินเสียงอวยเฉินชางได้โดยไม่สิ้นเปลืองความคิดสักนิด เรียกว่าอวยยศกันเต็มที่!
ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตัวพอง เลือดลมพลุ่งพล่าน!
ที่แท้โอปป้าเฉินของเธอเก่งขนาดนี้เชียว!
ที่ผ่านมาเธอคิดว่าเฉินชางเก่งแค่ผ่าตัดตามปกติ เก่งแค่เรื่องในแผนกฉุกเฉิน คิดไม่ถึงเลยว่า…ด้านศัลยกรรมความงามเขาก็เก่งขนาดนี้ด้วย
เป็นหมอศัลย์ฯ ล้านหยวนเชียวนะ!
คิดดูแล้วก็รู้สึกมีหน้ามีตาขึ้นมาเสียอย่างนั้น อีกอย่าง…เขายังหาเงินได้ด้วย
หนึ่งล้านหยวนเท่ากับหม้อไฟกี่หม้อ ซื้อชานมได้กี่แก้ว
ฉินเยว่ตกอยู่ในภาวะเพ้อฝัน รู้สึกตัวพองขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
พอคิดถึงชีวิตต่อจากนี้ก็ต้องยิ้มออกมาอย่างอดไม่อยู่
เฉินชางโคตรเจ๋ง!
ตอนนี้สายตาที่ฉินเยว่ใช้มองเฉินชางเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ
เขายังซ่อน ‘ทักษะ’ อะไรที่ฉันไม่รู้เอาไว้อีกหรือเปล่า
ความอยากรู้อยากเห็นของฉินเยว่ปกคลุมไปทั้งใจ รู้สึกคันยุบยิบจนทนไม่ไหว แทบจะเป็น‘โรคเผือกเกาะกินหัวใจเรื้อรัง’ ไปแล้ว! (เผือกที่ไม่ใช่เผือกน่ะนะ!)
……
ฉินเสียงนั่งอยู่สักพักหนึ่งแล้วกลับไป อย่างไรเสียเขาก็มากินข้าว มีคนรอเขาอยู่อีก
ฉินเสี้ยวหยวนและคนอื่นๆ ไม่สะดวกใจที่จะรั้งไว้นาน หลังจากพูดจาปราศรัยกันสักพักก็บอกลากัน
สุดท้ายฉินเสียงจึงคุยกับเฉินชางครู่หนึ่งแล้วกลับไป
……
……
พอคนนอกไปแล้ว ครอบครัวฉินทั้งสามก็จับจ้องเฉินชาง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
อันที่จริงทั้งสามถูกท่าทางสามัญธรรมดาของเฉินชางหลอกเข้าเสียแล้ว!
ใช่!
ทุกคนคิดว่าเฉินชางเป็นแค่หมอธรรมดาสามัญที่พึ่งพาได้ เป็นหมอที่ค่อนข้างมีพรสวรรค์ในเรื่องผ่าตัด คิดไม่ถึงว่าเฉินชางจะซ่อนความลับไว้ได้อย่างมิดชิดขนาดนี้
หากว่ากันตามตรง เรื่องผ่าตัดหนึ่งวันได้เงินห้าล้านหยวนนั่นทำเอาพวกเขาตกใจกันทั้งครอบครัวจริงๆ
ในเมืองอันหยางจะมีใครหาเงินได้มากขนาดนี้อีก!
ฉินเสี้ยวหยวนรู้สึกว่าไอ้หนุ่มนี่แสร้งทำเป็นหมูหลอกกินเสือ
ทั้งสามถูกเฉินชางทำเซอร์ไพรส์แล้วจริงๆ!
พวกเขาคิดจะซื้อบ้านให้ฉินเยว่เพื่อช่วยลดความกดดันให้เฉินชางสักหน่อย ไม่นึกว่าคนอื่นเขาทำงานวันเดียวก็ซื้อบ้านได้แล้ว…
เหล่าฉินเข้าใจคำพูดของฉินเสียงแล้ว ที่บอกว่าต่อไปเขาคงมีความสุข…ชีวิตในภายภาคหน้าจะมีแต่ความสุขสมหวัง
ทุกคนล้วนมีความสุข
ยัยหมาน้อยขี้ประจบฉินรินชาให้เฉินชางอย่างรู้ความ ช่างเป็นกุลสตรีจริงๆ
เห็นดังนั้นฉินเสี้ยวหยวนก็เอาแต่กลอกตามองบน
นังลูกคนนี้นี่ เกลือเป็นหนอน เห็นคนอื่นดีกว่า รังเกียจคนจนเชิดชูคนรวย…จริงๆ เลย
จี้หรูอวิ๋นพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการลบเลือนริ้วรอยกับเฉินชาง เฉินชางก็อธิบายอย่างอดทน จากนั้นจึงนัดหมายเวลาให้จี้หรูอวิ๋นมาจัดการริ้วรอยบนใบหน้า และถือโอกาสรักษาสภาพผิวไปด้วยเลย
จี้หรูอวิ๋นกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่ง เธอดีใจมาก
ฉินเยว่ก็เช่นกัน
มีเพียงฉินเสี้ยวหยวนคนเดียวที่เอาแต่นั่งจิบชาอย่างโดดเดี่ยว ทอดถอนใจเงียบๆ: ฐานะในครอบครัว -1!
……
……
เมื่อทุกคนออกมาจากร้านอาหาร ฉินเสี้ยวหยวนและจี้หรูอวิ๋นก็เตรียมตัวกลับบ้าน ส่วนฉินเยว่มองเฉินชางด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น เดินกุมมือใหญ่ของเขาอย่างไร้ยางอาย ฉินเสี้ยวหยวนเห็นดังนั้นก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น แต่เมื่อเห็นสายตาจี้หรูอวิ๋นที่เดินอยู่ข้างๆ แล้วก็คิดว่าช่างมันเถอะ
มีโทสะแต่ไม่กล้าพูด!
ตอนนี้เฉินชางเป็นคนโปรดของจี้หรูอวิ๋นไปแล้ว จะล่วงเกินไม่ได้…รอให้ไปทำงานที่โรงพยาบาลก่อนเถอะ ตอนนั้นค่อยจัดการเขาแล้วกัน คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรที่จะเอาเรื่องงานมาแก้แค้นส่วนตัว คงไม่มีผลเสียหรอก
เมื่อคิดดีแล้ว ฉินเสี้ยวหยวนก็หัวเราะออกมา อารมณ์หม่นหมองในใจเบาสบายขึ้นมาก
ความจริงตอนนี้ฉินเยว่มีคำถามมากมายอยากถามเฉินชาง คำถามอัดแน่นเต็มท้องจนอึดอัดไปหมด แต่ตอนนี้อยู่กับพ่อแม่จึงไม่พูดไม่ได้
ขณะนี้ฉินเสี้ยวหยวนและจี้หรูอวิ๋นกำลังจะขึ้นรถแล้ว
“เฉินชาง วันวันหนึ่งคุณทำอะไรบ้างคะ คุณผ่าตัดอะไรได้ดีที่สุดคะ” ฉินเยว่ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เฉินชางคิดอยู่นาน เขาคิดถึงการผ่าตัดสองอย่างที่อยู่ในขั้นสมบูรณ์แบบของตน สุดท้ายก็พูดไปตามตรง “อืมมม…ผ่าตัดไส้ติ่งดีที่สุด รองมาก็เย็บพวกเย็บกล้ามเนื้อเส้นเลือดเส้นเอ็น”
ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นก็กลอกตาใส่ “ฉันหมายถึงศัลยกรรมความงามค่ะ! จริงสิ…คุณผ่าตัดอะไรที่ได้เงินล้านหยวนคะ!”
เฉินชางกระแอมออกมา เขาลังเล จะพูดดีหรือเปล่า จะพูดได้ไหมเนี่ย
แต่เมื่อเห็นฉินเยว่มองมาที่ตนด้วยใบหน้ากระตือรือร้น จึงได้แต่ตอบไปว่า “ไม่เหมาะกับเด็ก”
ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นก็โมโหขึ้นมาทันที “คุณสิเด็ก!”
ขณะพูดก็ยืดอกขึ้นมาด้วย!
เฉินชางปรายตามอง พึมพำกับตัวเองว่า อืม…ใหญ่ขึ้นนิดเดียวเอง
“รีบพูดมาเร็วๆ สิคะ ผ่าตัดอะไรกันแน่ หรือว่าเป็นการทำรีแพร์!” ฉินเยว่ได้ยินคำว่าไม่เหมาะกับเด็กก็ยิ่งกระตือรือร้นเข้าไปใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง ถามด้วยลมหายใจกระชั้นถี่
เฉินชางเห็นท่าทางอยากรู้อยากเห็นของฉินเยว่ก็ถามไปว่า “คุณอยากรู้จริงหรือ”
ฉินเยว่กะพริบตาปริบๆ พยักหน้าอย่างจริงจัง!
เฉินชางตอบ “ผ่าตัดเสริมหน้าอก!”
ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นก็ก้มหน้าลงมองตัวเองโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เห็นเฉินชางมองตนอย่างหยอกล้อ เธอถึงกับหน้าแดงด้วยความเขินอาย
“ตาบ้า!”
พูดจบฉินเยว่ก็เดินตรงไปข้างหน้าทันที
เฉินชางชะงักไปเล็กน้อย รีบเดินไล่ตามไป “นี่ๆๆ ทำไมถึงโกรธได้ล่ะครับ!”
ฉินเยว่ไม่หันกลับมา ไม่พูดอะไรสักคำ
เฉินชางรีบพูดขึ้นอีกครั้ง “การผ่าตัดนี้ของผมน่ะ…เป็นเรื่องการแพทย์ ในสายตาของหมอก็เป็นเพียงคนไข้ ไม่แตกต่างอะไรกันหรอก…อ่า ทำไมผมกลายเป็นคนบ้าไปได้ล่ะ!”
เฉินชางเดินตามไปด้านหลัง แต่ฉินเยว่ไม่หันมามอง
ในที่สุด ไม่รู้ว่าเดินกันไปนานเพียงใด หลังจากเฉินชางซื้อชานมมาง้อ ฉินเยว่ถึงหายโกรธ
“ฟ้าดินเป็นพยานได้ ผมไม่ได้คิดฟุ้งซ่านอะไรจริงๆ นะครับ มันก็เหมือนการผ่าตัดอื่นๆ ไม่ใช่เหรอ” เฉินชางหอบเล็กน้อย รีบอธิบายให้เข้าใจ
ฉินเยว่สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “มันเหมือนกันได้ด้วยเหรอ”
เฉินชางสาบาน “แน่นอน!”
ฉินเยว่กล่าวเสียงเบา ถามไปด้วยสีหน้าเหม่อลอย “คนเห็นเยอะขนาดนั้นแล้ว ไม่มีอาการ…นั่นเลยเหรอ”
ขณะพูดก็ยื่นมือขวาออกไป ขยับนิ้วเล็กน้อย…บอกใบ้เป็นสัญญาณ
เฉินชางเหงื่อแตก ตกลงใครลามกกันแน่
เฉินชางตบหน้าอกตัวเอง “ฟ้าดินเป็นพยานได้ คนเป็นหมอมีจิตใจเหมือนพ่อแม่ ไม่มีคิดอะไรแบบนั้นแน่นอน อาเจ๊ คิดอะไรของคุณเนี่ย!”
ฉินเยว่หน้าเปลี่ยนสี “คุณเรียกฉันว่าอาเจ๊! รังเกียจที่ฉันแก่สินะ!”
เฉินชางแทบจะร้องไห้ “เปล่าครับ! คุณก็แค่เท่านี้ กำลังน่ารัก จะแก่ได้ยังไง!”
ฉินเยว่สีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง “คุณรังเกียจที่ฉันเล็ก! ฉันจะฆ่าคุณเฉินชาง!”
เฉินชางจนปัญญา
ผมแม่ง…โคตรเหนื่อย…