เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 432 ไม่ง่ายขนาดนั้น!
บทที่ 432 ไม่ง่ายขนาดนั้น!
เก้าโมงเช้า แม่ลูกคู่หนึ่งมาที่แผนกฉุกเฉิน!
ลูกสาวอายุสี่สิบกว่าปี ร่างกายซูบผอม ประคองหญิงชราเข้ามาคนหนึ่ง ปากก็บ่นกับหญิงชราคนนั้นอย่างรังเกียจมาตลอดทาง “ไม่ให้กินแม่ก็จะกินให้ได้ ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ ทั้งอ้วกทั้งถ่าย! อายุขนาดนี้แล้ว ดูตัวเองเถอะ!”
ดูเหมือนหญิงคนนี้เป็นพวกปากไวและพูดแรง บ่นหญิงชราที่มาด้วยกันไม่จบไม่สิ้น
“พวกของที่ทิ้งไว้จนเย็นแล้วจะเอามากินไม่ได้นะคะ กินเข้าไปก็ท้องเสียจนต้องมาโรงพยาบาล! ดูเอาเถอะ แม่กำลังทำให้ฉันลำบากใจ ทำงานอยู่ดีๆ ก็ต้องกลับมาพาแม่มาหาหมออีก! ให้เวลาฉันอยู่สงบบ้างไม่ได้เลยหรือไง”
หญิงชรายอมจำนน ไม่ท้วงติงอะไร ผ่านไปนานจึงค่อยพูดขึ้นประโยคหนึ่งว่า “แม่แค่คิดว่า…เหลือไว้ก็เสียดาย ก๋วยเตี๋ยวเหลียงเฝิ่นดีๆ แบบนั้นคงยังไม่เสียหรอก!”
หญิงชราผู้เป็นแม่มีอายุประมาณแปดสิบปีแล้ว ทั่วทั้งหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น ผมขาวโพลน แม้จะผอมไปบ้าง แต่โครงกระดูกใหญ่กว่าลูกสาว ลูกสาวประคองมาเช่นนี้ต้องใช้แรงมากทีเดียว!
เข้ามาถึงแผนกฉุกเฉินแล้ว ลูกสาวก็หอบหายใจ แต่ยังคงประคองหญิงชราอย่างระมัดระวัง กลัวจะทำให้อีกฝ่ายล้มหัวกระแทก
เฉินชางและสวีตงตงกลับมาจากตรวจเยี่ยมคนไข้พอดี เฉินชางเห็นดังนั้นก็รีบพูดว่า “เสี่ยวหลิน เข็นเตียงออกมาหน่อยครับ”
เสี่ยวหลินเห็นดังนั้นก็รีบพยักหน้า เขาทำงานคล่องแคล่ว ไม่นานก็วิ่งเข็นเตียงมา
เฉินชางและสวีตงตงเข้าไปช่วยพยุงหญิงชราขึ้นเตียง ลูกสาวร่างผอมจึงค่อยๆ สงบลมหายใจของตนได้บ้าง เพียงแต่ยังไม่ทันพักผ่อน ก็ต้องรีบไปต่อแถวรับคิวแผนกฉุกเฉิน
เฉินชางรีบถามขึ้นว่า “เป็นอะไรมาครับคุณยาย”
หญิงชราหลับตาไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่นอนลงกับเตียง ดูเหมือนร่างกายจะล้าจนทนไม่ไหวแล้ว
หญิงร่างผอมตอบว่า “คิดว่าน่าจะท้องเสียนะคะ เช้านี้ฉันไปทำงานแล้วคุณพ่อก็โทรหาฉัน บอกว่าแม่ท้องเสียทั้งเช้าแล้วก็อาเจียนด้วยค่ะ หลายรอบเลย ฉันถามดูแล้วถึงได้รู้ว่าคุณแม่กินก๋วยเตี๋ยวเหลียงเฝิ่นของเมื่อคืนเข้าไป! ต้องเป็นเพราะกินของผิดสําแดงแน่เลยค่ะ”
เฉินชางฟังจบก็พยักหน้า “อ้อ! ก่อนหน้านี้มีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่าครับ”
อีกฝ่ายพยักหน้า “เป็นเบาหวานกับความดันโลหิตสูงค่ะ กินยาลดความดันอยู่ตลอด เรื่องโรคเบาหวานก็มีฉีดอินซูลินด้วยค่ะ ส่วนโรคความดันโลหิตสูงก็กินไนเฟดิปีนวันละครั้ง อินซูลินก็ใช้…ตอนเช้าแปดยูนิต…”
เธอบอกได้ละเอียดมาก นี่ทำให้เฉินชางถึงกับต้องเปลี่ยนมุมมอง “คุณเป็นหมอเหรอครับ”
เธอส่ายหน้า ทอดถอนใจออกมา “ไม่ใช่หรอกค่ะ แม่ฉันป่วยมาหลายปีแล้ว ฉันคอยดูแลมาตลอด แม่ไม่ยอมกินยาให้ดี ชอบคิดว่ายามันแพง ฉันเลยต้องคอยเตือนให้แม่กินยาให้ตรงเวลาทุกวัน”
พูดถึงตรงนี้ เฉินชางก็อดมองเธอไม่ได้ ถึงอย่างไร…ลูกหลานที่ทำได้ถึงขนาดนี้ก็มีไม่มากนัก
เมื่อครู่ที่บ่นไม่หยุดหย่อนก็คงเหมือนกับมารดาพร่ำบ่นลูกๆ ตอนยังเด็ก
ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร
เมื่อคนเราแก่ตัวลง บทบาทจึงสลับกันเป็นธรรมดา แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ เมื่อฟังคำของคนเป็นลูกจบเฉินชางก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมด เขาหยิบหูฟังแพทย์ขึ้นมาฟังบริเวณท้องด้วยความเคยชิน มีเสียงดังตรงลำไส้อยู่บ้าง
ตอนนี้หญิงชราลืมตาขึ้นแล้ว
เฉินชางถาม “คุณยายครับ รู้สึกไม่สบายตรงไหนครับ บอกผมหน่อยนะครับ”
หญิงชรากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรงคล้ายเหน็ดเหนื่อยจนหมดแรงแล้ว “ฉันไม่สบายท้อง แล้วก็เหมือนไม่มีแรง รู้สึกเจ็บไปหมดทั้งตัว อ้อ…รู้สึกใจสั่นเล็กน้อยด้วยค่ะ”
เฉินชางฟังถึงตรงนี้ก็ลังเล
ภาวะอิเล็กโทรไลต์ผิดปกติ[1]หรือ
หากโพแทสเซียมในร่างกายต่ำ อาจเป็นปัจจัยทำให้เกิดสภาวะต่างๆ ที่แสดงออกมาข้างต้น เช่นร่างกายหมดแรง หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรืออาจมีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาทจำพวกกล้ามเนื้ออ่อนแรง
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็พูดกับพยาบาลว่า “เสี่ยวหลิน ตรวจน้ำตาลในเลือดให้ผมหน่อยครับ แล้วก็ตรวจเม็ดเลือดกับอิเล็กโทรไลต์ด้วยนะครับ”
ผู้สูงอายุเป็นช่วงวัยที่ต้องเติมอิเล็กโทรไลต์ ในจุดนี้ต้องใส่ใจให้ดี พวกเขาอ่อนไหวกว่าคนหนุ่มสาวมาก
จากนั้นหญิงชราก็ถูกเข็นเข้าไปยังห้องสังเกตอาการ
ปกติแล้วอาการเช่นนี้พบเห็นได้บ่อยมาก ผู้สูงอายุกินของผิดสำแดงจนท้องเสีย ทำให้เกิดภาวะอิเล็กโทรไลต์ผิดปกติ เรื่องแบบนี้ถือว่าธรรมดามาก
สวีตงตงที่อยู่ข้างๆ เห็นเฉินชางสั่งตรวจก็ถามว่า “อาจารย์เฉิน นี่เป็นภาวะอิเล็กโทรไลต์ผิดปกติเหรอครับ แบบนี้จะทำให้โซเดียมและโพแทสเซียมต่ำ ถ้าเสริมผ่านน้ำเกลือก็คงไม่เป็นไรแล้วใช่ไหมครับ!”
เฉินชางมองสวีตงตงแล้วส่ายหน้า “ถึงจะเสริมให้ก็จะเสริมตามใจไม่ได้ครับ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เราไม่มีเซรุ่มที่ให้ผลช่วยกระตุ้นอิเล็กโทรไลต์ ถ้าเสริมโซเดียมโพแทสเซียมเข้าไปก็อาจส่งผลเสียได้!”
หมอชายหลายคนที่อยู่ห้องพักหมอเดียวกับสวีตงตงเห็นผู้ป่วยก็พากันรุมล้อมเข้ามา เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินชาง แต่ละคนก็มีความคิดแตกต่างกันไป
เฉินชางเดินเข้าไปในห้องสังเกตอาการ หมอชายคนหนึ่งมองสวีตงตงยิ้มๆ “ทำเป็นวางมาด มันยากขนาดนั้นที่ไหนกันล่ะ ตอนผมอยู่ที่โรงพยาบาล ผู้ป่วยแบบนี้มีเยอะแยะ! แค่ให้น้ำเกลือก็พอ!”
ถึงสวีตงตงจะคิดว่าคำพูดของอีกฝ่ายไม่มีเหตุผล แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน ได้แต่เดินเข้าไปในห้องสังเกตอาการ
ชายคนนั้นอดยิ้มไม่ได้ เขามองสวีตงตงและเฉินชางก่อนส่ายหน้า “เฮ้อ…พวกหนุ่มๆ ชอบทำอะไรลึกลับซับซ้อนจริง เรื่องมันลึกลับซับซ้อนขนาดนั้นที่ไหนกันล่ะ!”
การตรวจน้ำตาลในเลือดใช้เวลาไม่นาน ไม่ทันไรก็ได้ผลออกมาแล้ว น้ำตาลในเลือดคือ “16.4!”
เมื่อเฉินชางเห็นค่าน้ำตาลในเลือดก็ต้องขมวดคิ้วทันที!
จากคำพูดของผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยจึงทราบว่าผู้ป่วยตรวจน้ำตาลในเลือดหนึ่งชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร แต่…ค่าน้ำตาลในเลือดยังสูงไปบ้าง
เฉินชางมองลูกสาวผู้ป่วยแล้วถามว่า “คุมน้ำตาลในเลือดของคุณยายได้ไม่ดีเลยนะครับ ตอนนี้อยู่ที่ 16.4 mmol/L”
ลูกสาวได้ยินดังนั้นก็หน้าแดง “ขอโทษด้วยค่ะคุณหมอ เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือดของที่บ้านไม่ค่อยแม่น แล้วก็ไม่ได้ซ่อมเลยค่ะ ไม่ได้วัดค่าน้ำตาลในเลือดมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ฉีดอินซูลินทุกวันนะคะ”
ตอนนี้เอง จู่ๆ หญิงชราก็หายใจลำบาก เธออ้าปากพยายามสูดหายใจเข้าไป
อาการนี้ดึงดูดความสนใจของเฉินชาง
เฉินชางรีบถามว่า “ก่อนหน้านี้คุณยายไม่ได้เป็นโรคหัวใจ โรคปอด หรือโรคไตใช่ไหมครับ”
ลูกสาวเห็นอาการผู้เป็นแม่ก็ตกใจแทบสิ้นสติ รู้สึกร้อนใจขึ้นมาแล้ว เธอรีบส่ายหน้า “ไม่ค่ะ ไม่มีแน่นอน!”
เฉินชางเห็นดังนั้นก็รีบต่อออกซิเจนให้ผู้ป่วย จากนั้นก็หยิบหูฟังแพทย์ขึ้นมา ฟังบริเวณปอดและหัวใจของผู้ป่วย เขาได้ยินเสียงลมหายใจอ่อนมาก และหัวใจก็เต้นช้ามาก!
เฉินชางไม่เข้าใจ
“แสดงค่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจบนจอด้วยครับ!”
ตอนนี้หญิงชรายังคงหายใจลำบาก ดูเหมือนการสูดออกซิเจนจะไม่ช่วยอะไรนัก เธอยังหายใจทางปากอยู่
ตอนนี้เฉินชางเครียดขึ้นมาแล้ว!
เสี่ยวหลินต่อเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้ผู้ป่วยอย่างเชี่ยวชาญ เฉินชางหันไปพูดกับสวีตงตงว่า “พาญาติผู้ป่วยไปรอข้างนอก”
สวีตงตงเห็นดังนั้นก็เรียกให้ลูกสาวผู้ป่วยออกไปรอนอกห้องสังเกตอาการ
เฉินชางมองตัวเลขบนเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ค่าความดันโลหิตต่ำลงเรื่อยๆ!
70/40 mmHg
อัตราการเต้นของหัวใจก็ช้าลงเรื่อยๆ!
43 ครั้งต่อนาที!
เสียงหอบหายใจทำให้บรรยากาศในห้องตึงเครียด
เฉินชางเห็นดังนั้นก็รีบพูดว่า “กราฟหัวใจ!”
จากนั้นก็คลายเสื้อของผู้ป่วยออกอย่างร้อนรน!
ตอนนี้เฉินชางรู้แล้วว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เห็น!
[1] ภาวะอิเล็กโทรไลต์ผิดปกติ (Electrolyte Imbalance หรือภาวะไม่สมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย) เป็นภาวะที่อิเล็กโทรไลต์ในร่างกายไม่สมดุล ซึ่งอาจเกิดจากปริมาณของอิเล็กโทรไลต์ที่มากหรือน้อยจนเกินไป อิเล็กโทรไลต์เป็นชื่อที่ใช้เรียกแร่ธาตุที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาระดับของเหลวในร่างกาย และช่วยให้ระบบที่สำคัญอื่นๆ ทำงานได้อย่างปกติ เมื่ออิเล็กโทรไลต์ไม่สมดุล อาจทำให้เกิดอาการอย่างหัวใจเต้นผิดปกติ เหนื่อยล้า ชัก และกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ สาเหตุของภาวะนี้อาจเกิดจากการสูญเสียน้ำในร่างกายเป็นจำนวนมาก เช่น การเสียเหงื่อ ท้องร่วง หรืออาเจียน