เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 461 ผมขอสารภาพ!
บทที่ 461 ผมขอสารภาพ!
ทันทีที่เหล่าฉินเห็นเสื้อผ้าชุดนั้น โทสะพลันแล่นปราดจนศีรษะชาหนึบ!
เสื้อตัวบนที่ไอ้หนูนั่นใส่คือสูทของเขาไม่ใช่หรือไง
สูทตัวนั้นเป็นสูทแบรนด์หรูเพียงตัวเดียวที่เหล่าฉินมี ตอนนั้นเขาถึงกับต้องกัดฟันแน่น เจ็บปวดราวถูกกรีดเนื้อถึงจะตัดใจซื้อได้ลง เพราะตอนนั้นเขาได้รับรางวัลผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการเงินอุดหนุนจากคณะมนตรีรัฐกิจ จึงซื้อมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ!
ตอนนั้นเหล่าฉินปวดใจอยู่นานทีเดียว! พอกลับจากงานก็ทำใจใส่ไม่ได้เลยสักครั้ง ได้แต่จัดการให้เรียบร้อยแล้วเอาไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าอย่างดี!
จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า เสื้อที่ตนทำใจสวมไม่ลงจะถูกไอ้หนูนั่นเอาไปสวม คิดแล้วฉินเสี้ยวหยวนก็โกรธจนหายใจไม่ทั่วท้อง
ขณะที่เขาคิดจะหันไปบ่นกับจี้หรูอวิ๋นว่าลูกสาวเธอกลายเป็นคนอย่างไรไปแล้ว ทว่าพอหันไป กลับพบว่าบนใบหน้าของจี้หรูอวิ๋นประดับไปด้วยรอยยิ้ม ในดวงตาก็เต็มไปด้วยความชื่นชม
เมื่อเห็นฉินเสี้ยวหยวนหันมา จี้หรูอวิ๋นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เหล่าฉิน ดูสิคะ นั่นมันสูทตัวนั้นของคุณนี่!”
ฉินเสี้ยวหยวนพยักหน้าอย่างอัดอั้นตันใจ “ผมดูออกน่า!”
จี้หรูอวิ๋นพูดยิ้มๆ ว่า “คิกๆ ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่งจริงๆ นะคะ ปกติเห็นเสี่ยวเฉินใส่แต่ชุดลำลองมากไป พอมาสวมสูทแบบนี้ทำให้ดูมีสปิริตและหล่อเหลาจริงๆ! ถ้าจะให้ฉันพูดล่ะก็ เขาใส่สูทตัวนี้แล้ว ดูดีกว่าตอนคุณใส่มากเลยนะคะ!”
จี้หรูอวิ๋นพูดพลางยิ้ม ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำให้เส้นประสาททั้งยี่สิบเส้นของฉินเสี้ยวหยวนที่อยู่ข้างๆ กระตุกหนักเพียงใด!
เขาโมโหมาก!
ถ้าเขาทนเรื่องนี้ได้ ก็คงทนได้ทุกเรื่องแล้ว!
ไอ้เด็กเฉินชาง ฉันจะ…
ฉินเสี้ยวหยวนกำลังคิดว่าวันนี้จะจัดการเฉินชางอย่างไรดี จู่ๆ ก็พบว่าจี้หรูอวิ๋นหันมายิ้มมองเขาจนตาหยี “เป็นอะไรไปคะ โกรธเหรอ”
ฉินเสี้ยวหยวนแค่นเสียงออกมาครั้งหนึ่ง แสดงออกทางสีหน้าชัดเจนโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ!
จี้หรูอวิ๋นยิ้ม “เอาละค่ะ ไม่ใช่ว่าเสี่ยวเฉินตั้งใจใส่เสื้อของคุณสักหน่อย ถ้าคุณจะโทษก็ต้องโทษลูกสาวเรานะคะ”
ฉินเสี้ยวหยวนได้ยินคำว่าลูกสาวก็เงียบไปทันใด! ได้แต่พูดพลิกลิ้นไปว่า “ลูกผมไม่รู้สักหน่อย คงถูกไอ้หนุ่มนั่นทำให้เสียคนแน่ๆ! เยว่เยว่เป็นเด็กดี”
จี้หรูอวิ๋นถูกท่าทางเข้าข้างคนของตัวเองของอีกฝ่ายทำเอาขำกลิ้ง “ค่าๆ คุณจะโกรธไม่ได้นะคะ! ก็แค่สูทตัวเดียวไม่ใช่เหรอ วันหลังพวกเราค่อยไปซื้อกันอีกชุดก็พอ อีกอย่าง เสี่ยวเฉินก็ยืมคุณใส่แค่วันเดียวเอง ดูคุณสิ งกขนาดนี้ยังเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้อีก”
ฉินเสี้ยวหยวนอดถอนหายใจไม่ได้
เฮ้อ ต้องระวังให้ดีแล้ว มีขโมยอยู่ในบ้านนี่ป้องกันยากจริง!
แต่เมื่อมองลูกสาวที่สวมชุดกี่เพ้ายืนอยู่บนเวที ฉินเสี้ยวหยวนก็โกรธไม่ลง ทำได้เพียงถอนใจออกมาอีกครั้ง เฮ้อ…ลูกสาวโตแล้วเก็บไว้ไม่ได้จริงๆ พอโตแล้วก็เห็นคนอื่นดีกว่าครอบครัว
ทางด้านเฉินชางที่นั่งอยู่บนเวทีก็รู้สึกกระสับกระส่ายเช่นกัน…ความสามารถในการมองเห็นของเขาถูกพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงเห็นว่าที่พ่อตาแม่ยายที่นั่งอยู่ไกลๆ นั่นได้!
นี่ทำให้เขาทำตัวไม่ถูก! สูทตัวนี้ฉินเยว่ขโมยมาให้เขาใส่ หวังว่าผู้อำนวยการฉินเห็นแล้วจะไม่รู้สึกว่าสูทตัวนี้ดูคุ้นๆ นะ
เมื่อเฉินชางบรรยายเสร็จก็รีบลงจากเวทีทันที เดินถือน้ำสองขวดตรงไปยังที่นั่งด้านหลัง หวังนำน้ำไปให้ฉินเสี้ยวหยวนและจี้หรูอวิ๋น
เมื่อเห็นเฉินชางเดินเข้ามา จี้หรูอวิ๋นก็เผยรอยยิ้มงดงามราวกับดอกไม้ เธอจะเป็นแม่สามีที่ปฏิบัติต่อลูกเขยดีๆ ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจขึ้นเรื่อยๆ ถึงจะถูก
ส่วนฉินเสี้ยวหยวนแม้ในใจจะรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็เหมือนกับที่จี้หรูอวิ๋นกล่าว เรื่องนี้จะโทษเฉินชางไม่ได้ จึงทำได้แต่ฝืนยิ้มออกไปแล้วพยักหน้าให้
เฉินชางส่งขวดน้ำไปให้แล้วรีบปลีกตัวออกมาทันที คิดในใจว่าผู้อำนวยการฉินคงไม่รู้ว่าตนใส่เสื้อผ้าของเขาอยู่!
เวลาช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อการบรรยายจบลง งานสัมมนาประจำปีก็ดำเนินมาถึงส่วนสุดท้ายแล้ว การมาเยือนของฉินเสี้ยวหยวนทำให้เฉียนเลี่ยง จางโหย่วฝูและคนอื่นๆ ดีใจจนออกนอกหน้า
เมื่องานสัมมนาจบลง ทุกคนก็เดินเข้ามาทักทาย
เฉียนเลี่ยงพูดยิ้มๆ “ผู้อำนวยการฉิน ผมนับถือคุณมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ตอนนี้โรงพยาบาลอันดับสอง พัฒนาไปเร็วมาก โดยเฉพาะเรื่องการอบรมคนรุ่นใหม่ ไม่เลวเลยนะครับ!”
“ลองดูอย่างเสี่ยวเฉินสิครับ เป็นเด็กที่เก่งมากจริงๆ ต่อไปก็ให้เขาใส่ชุดทางการให้มากหน่อยเถอะ พอเขาแต่งตัวแบบนี้แล้วดูดีมาก แล้วก็หล่อมากซะด้วย!” เฉียนเลี่ยงชมเฉินชางได้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดปาก “เสียดายที่ลูกสาวผมแต่งงานแล้ว ไม่งั้นผมจะจับคู่ลูกผมกับเสี่ยวเฉินแน่!”
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมา หลิวซือฉีพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มบางๆ “ใช่แล้ว ตอนนี้ผมเสียใจแล้วละครับที่ตอนนั้นไม่ยอมดึงตัวเสี่ยวเฉินไป ไม่งั้นชื่อเสียงเกียรติยศพวกนี้คงเป็นของโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลของพวกเราไปแล้ว”
“ผู้อำนวยการฉิน การประเมินผลงานวิจัยของโรงพยาบาลพวกคุณในปีนี้คงทะลุเป้าแน่นอน ช่วงจัดอันดับปลายปี ลำดับก็อาจขยับขึ้นอีกนะครับ”
ฉินเสี้ยวหยวนได้ยินดังนั้นก็มีความสุขมาก แม้พวกเขาจะชมเฉินชางแต่ความสุขกลับอัดแน่นเต็มอกฉินเสี้ยวหยวน ชั่วขณะนี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่า…ต่อให้ใส่ชุดเขาแบบนี้ก็ไม่เป็นอะไรหรอก กลับรู้สึกภาคภูมิใจด้วยซ้ำ!
เสื้อตัวนั้นเขาเป็นคนซื้อ!
ลูกสาวเขาก็เป็นคนทำให้เกิดมา
ลูกสาวเอาไปให้เฉินชางใส่ ก็เท่ากับตนให้เฉินชางนั่นแหละ
ดังนั้นเกียรติเหล่านี้ก็ต้องเป็นของตน!
คิดแบบนี้แล้วเหล่าฉินก็โล่งใจ เฉินชางใส่เสื้อที่ตนซื้อมาขึ้นไปผจญสนามรบบนเวทีเพื่อนำเกียรติยศกลับมาให้ ดังนั้นชื่อเสียงเกียรติยศส่วนหนึ่งย่อมเป็นของตน
จู่ๆ เหล่าฉินก็รู้สึกราวกับใบหน้าของตนเปล่งแสงได้ เริ่มหัวเราะยิ้มแย้มไปกับทุกคน
โจวหงกวงมองเฉินชางยิ้มๆ “เสี่ยวเฉิน ถ้ามีเวลาก็มาที่โรงพยาบาล 301 สิครับ มาฝึกฝนฝีมือกัน คนหนุ่มจะต้องพยายามให้มากๆ จริงสิ ลูกสาวผมเรียนกฎหมาย วันหน้าผมจะแนะนำให้รู้จักกันนะครับ”
เฉินชางยิ้มตอบ “ขอบคุณครับหัวหน้าโจว”
ทว่าพอฉินเสี้ยวหยวนที่อยู่ข้างๆ ได้ยินประโยคนี้ ดวงตาพลันหดเกร็ง!
เจ้าคนแซ่โจวนี่ ต้องมีความคิดไม่ดีแน่ๆ …
ไม่ได้ๆ ต้องรีบหมั้นซะแล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี
เมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว ฉินเยว่ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้ามา กล่าวด้วยสีหน้าเบิกบานใจว่า “พ่อคะ แม่คะ มากันได้ยังไงคะเนี่ย”
ฉินเสี้ยวหยวนแอบค่อนขอดในใจว่า ถ้าพ่อไม่มา คงไม่รู้หรอกว่ามีหัวขโมยตัวน้อยขโมยเสื้อพ่อไปซักแล้วเอาไปให้คนอื่นใส่ หรือลูกจะบอกพ่อว่าแค่ซักแล้วเอาออกมาตากล่ะ?
ฉินเสี้ยวหยวนกลอกตา ส่วนจี้หรูอวิ๋นกลับพูดยิ้มๆ ว่า “วันนี้พ่อกับแม่อยู่บ้านเบื่อๆ ก็เลยออกมาดูพวกลูกกันน่ะ”
กล่าวจบจี้หรูอวิ๋นก็มองสำรวจเฉินชาง “เสี่ยวเฉิน เธอเก่งจริงๆ เก่งมากเลย”
เฉินชางฟังถึงตรงนี้ก็ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน เขาคิดจะสารภาพกับผู้อำนวยการฉินไปตามตรง
“ขอบคุณที่ชมนะครับคุณน้า”
“ผู้อำนวยการฉิน ผมมีเรื่องจะขอโทษคุณด้วยครับ”
ฉินเสี้ยวหยวนได้ยินดังนั้นก็ชะงักไป ไอ้หนูนี่ยังทำเรื่องผิดต่อฉันอีกหรือไง
เขามองเฉินชาง ยิ้มอย่างอบอุ่น “อ้อ พูดมาสิ”
เฉินชางเห็นผู้อำนวยการฉินไม่มีท่าทีโกรธเคืองจึงพูดไปว่า “คือผมมีสูทแค่ตัวเดียว แล้วเมื่อวานตอนช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บมันก็เปื้อนเลือดไปแล้ว เอามาใส่ไม่ได้แล้วครับ เมื่อคืนก็ไปซื้อไม่ทัน ก็เลย…ยืมเสื้อคุณมาใส่ เอ่อ…แต่คุณวางใจได้ เดี๋ยวกลับไปผมจะเอาเสื้อส่งร้านซักรีดให้สะอาดแน่นอนครับ”
ฉินเสี้ยวหยวนเห็นเฉินชางพูดเช่นนี้ก็อดยิ้มไม่ได้