เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 463 โทรหาเฉินชาง!
บทที่ 463 โทรหาเฉินชาง!
จี้หรูอวิ๋นเห็นฉินเยว่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่เช่นนั้นก็ร้อนใจ เธออยากเข้าไปช่วย แต่กลับถูกอีกฝ่ายดันออกมาจากห้องครัว!
จี้หรูอวิ๋นและฉินเสี้ยวหยวนนั่งอยู่บนโซฟา สีหน้าดูกระวนกระวาย…
ลูกคนนี้นี่ ตกลงไปโดนอะไรกระตุ้นมากันแน่
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าจะอร่อยหรือไม่อร่อยแล้วกัน…สิ่งที่พวกเขาคิดถึงเป็นอันดับแรกก็คือ ยัยเด็กนี่ต้องกินยาหรือเปล่า…
เหล่าฉินมองจี้หรูอวิ๋น “ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ”
จี้หรูอวิ๋นถลึงตาใส่ “ฉันจะไปรู้หรือคะ คุณถามฉัน แล้วฉันจะไปถามใคร”
ฉินเสี้ยวหยวนรีบพูดขึ้นว่า “ก็ไปถามเฉินชางไงครับ! เกี่ยวข้องกับไอ้เด็กนั่นหรือเปล่า ไม่งั้นเยว่เยว่จะมีท่าทางไร้สติขนาดนี้ได้ไง กลับมาถึงก็เอาตัวเองไปขลุกอยู่ในครัวเลย”
ดวงตาจี้หรูอวิ๋นเป็นประกาย จะต้องเกี่ยวข้องกับเฉินชางแน่นอน!
“ฉันไม่มีวีแชทเฉินชาง!”
ฉินเสี้ยวหยวนก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาทันใด เหมือนว่าเขาเองก็ไม่มีวีแชทอีกฝ่ายนะ
ไม่ได้การ พรุ่งนี้พอไปถึงโรงพยาบาลแล้วจะต้องขอเพิ่มเพื่อนทางวีแชทกับเฉินชางให้ได้
จี้หรูอวิ๋นย้อนคิดดูอีกครั้งก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ที่จริง…นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนะคะ เรียนทำอาหารก็เป็นเรื่องดี! ยังไงก็ปล่อยให้สองคนนั้นซื้อกินทุกวันไม่ได้หรอก มันไม่สะอาด”
ฉินเยว่พอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่ประเด็นคือขั้นตอนที่เขียนอยู่บนอินเทอร์เน็ตมีมากเกินไป เธอจึงทำอาหารง่ายๆ ออกมาสองสามอย่าง อย่างน้อยก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น
ฉินเยว่ชิมอาหารที่ตัวเองทำ คิดว่ารสชาติพอใช้ได้
เธอถือกล่องอาหารเดินออกมาเตรียมเอาไปให้เฉินชาง เตรียมเสร็จก็เดินออกจากบ้านไป “พ่อคะ แม่คะ กินกันเลยนะคะ เดี๋ยวหนูจะไปกินกับเฉินชาง”
ทั้งสองสบตากันแล้วพากันถอนใจออกมา!
พลังของความรักจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
……
……
ฉินเยว่เพิ่งออกไปไม่นาน ทั้งสองก็เริ่มกินอาหารที่ฉินเยว่ทำ รสชาติพอใช้ได้ หน้าตาก็ดูน่ากิน
แต่ในขณะนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จี้หรูอวิ๋นมองไปพบว่าเป็นโทรศัพท์มือถือของตัวเองจึงหยิบขึ้นมาดู พบว่าเป็นเบอร์เจ้านายเก่าของเธอ!
จี้หรูอวิ๋นรีบกดรับทันที “สวัสดีค่ะหัวหน้า มีอะไรหรือคะ”
เสียงชายวัยกลางคนดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์
“พี่จี้ ผมหวงเหว่ยเหยียนนะครับ”
จี้หรูอวิ๋น “อ้อ! เหว่ยเหยียน มีอะไรหรือ”
หวงเหว่ยเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงกังวล “พี่ครับ คือแบบนี้นะครับ วันนี้พ่อผมกินข้าวแล้วรู้สึกเสียดท้อง เขาอาเจียนเป็นเลือดด้วยครับ! ผมก็ไปดูอุจจาระของพ่อ เห็นว่ามันมีสีดำด้วย! ผมกังวลน่ะครับ…ไม่ทราบว่าจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า!”
แม้หวงเหว่ยเหยียนจะไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ แต่ยุคสมัยนี้เป็นสมัยที่ข้อมูลข่าวสารพัฒนาไปอย่างกว้างขวาง พ่อของเขาอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว จู่ๆ ก็มีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร หากจะบอกว่าไม่กลัวก็คงโกหกแล้ว!
เขากลัวว่าผู้เฒ่าหวงจะป่วยเป็นโรคร้ายแรงอะไร!
คิดแล้วหวงเหว่ยเหยียนก็กินข้าวไม่ลง จึงโทรหาจี้หรูอวิ๋นทันที
จี้หรูอวิ๋นได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว รีบถามว่า “เหว่ยเหยียนรอก่อนนะ สามีฉันอยู่ข้างๆ นี่เอง เดี๋ยวเธอคุยกับสามีฉันก็แล้วกัน!”
จี้หรูอวิ๋นส่งโทรศัพท์ไปให้ฉินเสี้ยวหยวนพร้อมบอกว่า “เหว่ยเหยียนน่ะค่ะ”
ฉินเสี้ยวหยวนกดเปิดลำโพงแล้วนำโทรศัพท์มาจ่อที่ปาก “เหว่ยเหยียน ฉันเอง มีอะไรหรือ”
หวงเหว่ยเหยียนรีบพูดไปว่า “สวัสดีครับ พ่อผมถ่ายหนักเป็นสีดำ แล้วก็อ้วกเป็นเลือดด้วยครับ ผมถามพ่อแล้วเขาบอกว่าจำไม่ได้ว่าเป็นมานานเท่าไหร่แล้ว ผมเป็นห่วง กลัวว่าจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า!”
ฉินเสี้ยวหยวนได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วทันที
มีเลือดออกที่ระบบทางเดินอาหารส่วนบนหรือ
เดิมทีฉินเสี้ยวหยวนเป็นหมอที่เริ่มจากหมอด้านเนื้องอก ดังนั้นจึงคิดค่อนข้างมาก เขากล่าวไปว่า “อืม เหว่ยเหยียน อย่าเพิ่งคิดมาก แล้วก็ไม่ต้องสร้างภาระให้คนเฒ่าคนแก่ไปล่ะ เอาแบบนี้แล้วกัน อีกเดี๋ยวเธอขับรถมาส่งเขาที่โรงพยาบาลได้เลย เดี๋ยวพวกเราจะส่องกล้องดูกระเพาะอาหารกันว่าเป็นยังไง”
หวงเหว่ยเหยียนได้ยินดังนั้นก็รีบตอบรับทันที “ได้ครับ ผมจะพาพ่อไปเดี๋ยวนี้เลย”
เมื่อวางโทรศัพท์ไปแล้ว ฉินเสี้ยวหยวนก็หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายหาเซียวเหอซึ่งเป็นหมอประจำห้องส่องกล้องของโรงพยาบาล “หัวหน้าเซียว ผมเองครับ ฉินเสี้ยวหยวน”
เซียวเหอได้ยินดังนั้นก็รีบตอบทันที “ผู้อำนวยการฉิน มีอะไรครับ”
ฉินเสี้ยวหยวนกล่าวไปว่า “ผู้ใหญ่ที่ผมรู้จักอาจมีเลือดออกที่ระบบทางเดินอาหารส่วนบน ตอนนี้เตรียมมาส่องกล้องดูกระเพาะแล้วนะครับ คุณพอจะว่างหรือเปล่าครับ”
เซียวเหอได้ยินดังนั้นแล้ว ต่อให้เขาไม่ว่างก็ต้องว่าง! ด้วยเหตุนี้จึงรีบตอบทันที “ผู้อำนวยการ ผมจะรีบไปภายในยี่สิบนาทีครับ”
ฉินเสี้ยวหยวนและจี้หรูอวิ๋นไม่มีอารมณ์กินข้าวกันแล้ว พวกเขารีบเก็บของแล้วออกเดินทางทันที
บิดาของหวงเหว่ยเหยียนเป็นเจ้านายเก่าของจี้หรูอวิ๋นชื่อว่าหวงหย่งอี้ เขาเกษียณจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประจำมณฑลตงหยางแล้ว
หวงหย่งอี้ดูแลจี้หรูอวิ๋นเป็นอย่างดี หากไม่ใช่เพราะเขา เธอคงไม่ได้เป็นหัวหน้าศูนย์ประกันสุขภาพอย่างราบรื่นเช่นนี้แน่ กระทั่งฉินเสี้ยวหยวนที่ได้เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากเขา
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวค่อนข้างดีเลยทีเดียว เมื่อได้ยินว่าหวงหย่งอี้ไม่สบาย ทั้งสองจึงร้อนใจ
เก็บของเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็รีบเดินทางไปยังโรงพยาบาลทันที
ไม่นานเซียวเหอก็มาถึง พอเจอฉินเสี้ยวหยวนก็รีบกล่าวทักทาย “ผู้อำนวยการฉิน”
ฉินเสี้ยวหยวนพยักหน้า “รบกวนคุณหน่อยนะครับหัวหน้าเซียว ดึกขนาดนี้แล้วยังต้องให้มาช่วยงานอีก”
เซียวเหอรีบโบกมือปฏิเสธ
ขณะนั้นเอง หวงเหว่ยเหยียนก็พาหวงหย่งอี้ผู้เป็นบิดามาถึงแผนกฉุกเฉินแล้วเช่นกัน เมื่อเขาเห็นฉินเสี้ยวหยวนและเซียวเหอก็รีบเข้ามาทักทาย
หวงเหว่ยเหยียนอารมณ์ไม่ค่อยดีนักเพราะเขากังวลเรื่องพ่ออยู่ ทว่าหวงหย่งอี้กลับหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “เสี่ยวจี้ เสี่ยวฉิน มารบกวนพวกเธอดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ ฉันเกรงใจจริงๆ”
ฉินเสี้ยวหยวนรีบพูดขึ้นว่า “อาหวงเกรงใจเกินไปแล้วครับ เดี๋ยวผมจะไปทำเรื่องตามระเบียบการให้คุณนะครับ หรูอวิ๋น เหว่ยเหยียน อาหวง พวกเธอตามหัวหน้าเซียวไปที่ห้องส่องกล้องได้เลย”
หวงหย่งอี้ยิ้ม “ผมไม่เป็นไรหรอก ร่างกายผม ผมรู้ดี”
กล่าวจบก็เดินตามทุกคนไปยังห้องส่องกล้อง ส่วนฉินเสี้ยวหยวนรั้งอยู่ที่เดิมเพื่อทำเรื่องตามระเบียบการเข้ารักษา
อันที่จริงเมื่อมีตำแหน่งระดับหวงหย่งอี้แล้ว ปกติจะตัดบัญชีเพื่อแอดมิดไปก่อนได้เลย และไม่จำเป็นต้องพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายให้มากความ แต่สิ่งที่พวกเขากังวลก็คือผู้ป่วยจะเป็นโรคร้ายแรงหรือไม่ ถึงอย่างไรก็อายุมากแล้ว ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้
……
……
ภายในห้องส่องกล้อง หวงหย่งอี้เข้ารับการส่องกล้องที่กระเพาะอาหาร
ฉินเสี้ยวหยวนจัดการขั้นตอนต่างๆ เสร็จแล้วก็ตามเข้ามาในห้องส่องกล้อง พบว่าหวงหย่งอี้ถูกรมยาแล้ว และกำลังจะเริ่มส่องกล้องในอีกไม่นาน
เมื่อส่งเทสโพรบ (Test probe) เข้าไปถึงหลอดอาหารจึงพบว่ามีแผลขนาดใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง
ทุกคนชะงักไปทันที
บางทีอาจเรียกว่าเป็นแผลไม่ได้ เพราะเนื้อเยื่อบางส่วนขาดเลือดจนตายไปแล้ว รอบๆ ก็มีรอยเลือดอยู่ด้วย เซียวเหอรีบตรวจดูรอบๆ ไม่พบอะไรผิดปกติ พอตรวจไปถึงกระเพาะอาหารก็ไม่พบอย่างอื่นอีก
ดูท่าทาง สาเหตุที่เลือดออกคงอยู่ตรงนี้แล้ว!
ฉินเสี้ยวหยวนพูดกับหวงเหว่ยเหยียนว่า “ไม่ใช่ตรงนั้น”
แต่เซียวเหอกลับขมวดคิ้ว “ผู้อำนวยการฉิน ผมว่ารีบไปเอ็กซเรย์เถอะครับ จากนั้นก็โทรหาหัวหน้าเถากับเฉินชาง บอกให้พวกเขารีบมาที่โรงพยาบาลเลย!”
ฉินเสี้ยวหยวนชะงักไปทันที “ทำไมครับ เรียกพวกเขา…มาทำไม”
เซียวเหอกล่าวขึ้นว่า “ผมสงสัยว่าเลือดไม่ได้มาจากหลอดอาหาร แต่น่าจะมาจากหลอดเลือดแดงเอออร์ต้า!”
ประโยคนี้ทำให้ฉินเสี้ยวหยวนถึงกับหน้าเปลี่ยนสี