เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 486 คุณ! คุณ! แล้วก็คุณ!
บทที่ 486 คุณ! คุณ! แล้วก็คุณ!
ในห้องผ่าตัด หัวหน้าแผนกศัลยกรรมมือและแผนกศัลยกรรมกระดูกของโรงพยาบาลใหญ่แต่ละแห่งในมณฑลมารวมตัวกัน
สิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญหน้าด้วยก็คือมือขวาข้างหนึ่งที่ขาดออกไปทั้งมือ จะผ่าตัดต่ออวัยวะให้เป็นจริงได้อย่างไร!
ถ้าไปที่เมืองหลวง อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสี่ห้าชั่วโมง ไปเซี่ยงไฮ้ก็ยิ่งใช้เวลามากกว่า นี่ยังไม่นับเวลาที่ใช้เดินทางในระหว่างนั้น
ในใจข่งเสียงหมินกระวนกระวาย!
ไม่ว่าเขาจะตำแหน่งสูงขนาดไหน หรือมีเงินมากเท่าไร แต่เวลาเกิดเรื่องแบบนี้กับลูกตัวเอง เหนือสิ่งอื่นใด เขาก็คือพ่อคนหนึ่ง คือสามีคนหนึ่ง
ภรรยายืนอยู่ข้างกาย การอบรมบ่มเพาะที่ดีทำให้เธอไม่ถึงขั้นควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ ร่างกายที่สั่นเทาก็ยังพิงอยู่บนตัวของข่งเสียงหมินเนิ่นนาน
“เอาละ ที่รัก ไม่เป็นอะไรหรอก!…
…จริงๆ นะครับ ขนาดผู้อำนวยการหวังของโรงพยาบาลหมัวตูซื่อลิ่วยังบอกเลยว่ามีหมอเฉินอยู่น่าเชื่อถือกว่ามีเขาอยู่อีก คุณไม่ต้องกังวลแล้ว!”
ภรรยาชื่อชีเหวิน เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เป็นศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีตงหยาง
ชีเหวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ทำให้ตัวเองสงบลง
“เหล่าข่ง ประเด็นก็คือเขาเพิ่งอายุสามสิบ แถมนั่นยังเป็นมือขวาด้วย! ถ้าต่อได้ไม่ดี เขาก็จะพิการแล้วจริงๆ!” ชีเหวินกล่าวเสียงสั่น
มีหรือที่ข่งเสียงหมินจะไม่รู้เรื่องนี้
ตอนนี้ ถานจงหลินกับฉินเสี้ยวยวนพาเฉินชางเดินเข้ามาแล้ว
“นี่คือหมอเฉินใช่ไหมครับ!”
เฉินชางยังไม่ทันได้ทักทาย ข่งเสียงหมินก็หันตัวมาเป็นฝ่ายจับมือก่อนแล้ว “หมอเฉิน สวัสดีครับ ผมคือพ่อของผู้ป่วย”
ประโยคนี้ทำให้ระดับความรู้สึกดีของเฉินชางเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ความหมายแฝงในคำพูดก็คือ คุณไม่ต้องเครียด คุณเป็นหมอ ผมเป็นคนในครอบครัว ผู้ป่วยอยู่ในห้องผ่าตัดแล้ว คุณไม่ต้องแบกรับภาระทางจิตใจอะไรทั้งนั้น!
เฉินชางไม่พูดพร่ำทำเพลง จับมือแล้วเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาแน่วแน่ “ผมจะพยายามสุดความสามารถครับ”
ข่งเสียงหมินพยักหน้า เนื่องจากงานยุ่งมาก เขาที่อายุเกือบหกสิบปีจึงมีผมหงอกแซม ดวงตาเต็มไปด้วยความขุ่นมัว บอกไม่ถูกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน แต่กลับเต็มไปด้วยการเฝ้าคอยและฝากฝัง “ขอร้องล่ะครับ! หมอเฉิน”
หลัวจากเขาพูดจบ เฉินชางก็พาถานจงหลินเข้าไปในห้องผ่าตัด
ฉินเสี้ยวยวนไม่ได้ตามเข้าไป แต่นั่งเป็นเพื่อนข่งเสียงหมินกับภรรยานอกห้องผ่าตัด
……
……
เฉินชางเดินไปพลางถามถานจงหลินว่า “นานแค่ไหนแล้ว”
ถานจงหลินครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “มือขาดได้ประมาณชั่วโมงครึ่ง เกือบสองชั่วโมงแล้ว ตอนที่มาถึงโรงพยาบาล พวกเราก็พยามตรวจเลือดโดยเร็วที่สุด ถ่ายภาพเอกซเรย์แล้วด้วย”
เฉินชางฟังจบแล้วเริ่มไตร่ตรอง คำนวณตามเวลาสองชั่วโมง ตอนนี้ยังทนต่อการขาดเลือดและขาดออกซิเจนไหว
ไม่ว่าจะเป็นนิ้วขาด หรือแขนขาด เมื่ออยู่ในสภาวะที่หลุดออกจากร่างกายและขาดออกซิเจน เซลล์เม็ดเลือดขาวฮีสติโอไซต์[1]จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาจากเบาไปหนัก จนกระทั่งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโดยสมบูรณ์
ยิ่งนานก็จะยิ่งร้ายแรง!
ในอวัยวะที่ขาด เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อมีกระบวนการสลายและสร้างใหม่ (metabolism)[2] มากที่สุด มันทนต่อสภาวะขาดออกซิเจนได้น้อยมาก ยิ่งเซลล์กล้ามเนื้อเปลี่ยนแปลงเร็ว กระบวนการนี้ก็ยิ่งร้ายแรงขึ้น
เมื่ออวัยวะอยู่ในสภาพสมบูรณ์ภายใต้อุณหภูมิปกติ แม้จะเป็นเวลาสี่ถึงหกชั่วโมง อวัยวะที่ขาดก็ยังทนต่อสภาวะขาดเลือดได้
แต่คุณต้องพิจารณาถึงหลายปัจจัย ยกตัวอย่างเช่นเนื้อเยื่อมีการติดเชื้อ ขั้นตอนการผ่าตัด สภาวะการฟื้นฟู ความแตกต่างของแต่ละบุคคล!
ดังนั้น เวลาที่ปลอดภัยที่สุดของอวัยวะที่ขาด เป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่ในภาวะปกติและไม่มีปัจจัยอื่นรบกวนเท่านั้น
เฉินชางบอกได้แค่ว่า ยิ่งเร็วยิ่งดี!
หลังจากเฉินชางเข้ามาแล้ว ก็ตรงไปหาผู้ป่วยทันทีโดยไม่ได้ล้างมือก่อน
หลังจากคนที่อยู่รอบๆ เห็นเฉินชางเข้ามาก็ทยอยหลีกทางให้
แม้เฉินชางจะไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับบรรดาหัวหน้าแผนก แต่ทุกคนต่างก็เห็นว่าศัลยแพทย์หลักในครั้งนี้ก็คือแพทย์หนุ่มเสี่ยวเฉิน!
แต่ละคนพากันเผยสีหน้าประหลาดใจ ในใจเต็มไปด้วยความสงสัยว่าหมอเฉินคนนี้เก่งกาจขนาดไหนกันแน่ ถึงทำให้อีกฝ่ายมาส่งคนไข้ให้ด้วยตัวเองได้
แต่คนที่อยู่ตรงนี้เป็นระดับหัวหน้าแผนกในโรงพยาบาลทั้งนั้น แค่ละคนเป็นหัวกะทิ ย่อมไม่พูดอะไรซี้ซั้ว
พยาบาลย่วนย่วนเดินตามหลังเฉินชาง เพิ่งจะเห็นเฉินชางเข้ามา ทุกคนก็ทยอยกันหลีกทางให้ เมื่อฉากนี้ปรากฏสู่สายตา ก็ถือว่าน่าตกตะลึงจริงๆ!
อย่างกับพระราชาเสด็จกลับมาจากสนามรบ!
ชั่วขณะนั้น ย่วนย่วนก็ตะลึงนิดหน่อยเช่นกัน
ผู้ป่วยยังมีสติดีมาก นี่คือความรู้สึกแรกของเฉินชาง ที่มาพร้อมกันกับเฉินชางคือฮั่วกว๋อชิ่ง หัวหน้าแผนกศัลยกรรมมือโรงพยาบาลตงต้า ตอนนี้เขากำลังเก็บรักษามือที่ขาดอยู่
หลังจากข่งเจียฮุยเห็นเฉินชางแล้ว ก็ยิ้มยิงฟันทันที “หมอเฉิน ลำบากคุณแล้ว!”
เฉินชางพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้กล่าวทักทายปราศัย แต่พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมขอดูอาการก่อน”
เฉินชางแกะผ้าก๊อซที่พันตรงตำแหน่งปลายกระดูกเรเดียสที่เดิมทีควรจะเป็นมือ ทันใดนั้น บาดแผลตัดที่นับว่ายังสมบูรณ์ก็ปรากฏสู่สายตาเฉินชาง หลังจากใช้แหนบคีบผ้าก๊อซมาตรวจดูครู่หนึ่ง เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกทันที!
ค่อยยังชั่ว!
นี่อาจจะเป็นความโชคดีในความโชคร้ายก็ได้
ไม่ใช่เคสมือขาดจากการบดอัด หรือบีบอัด ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะยุ่งยากมาก ถ้าเทียบบาดแผลประเภทนี้กับบาดแผลตัดตรงจากอาวุธคม บางทีอาจเป็นเคสที่มีเงื่อนไขการผ่าตัดต่ออวัยวะดีกว่าก็ได้!
เพราะกุญแจสำคัญของการผ่าตัดต่ออวัยวะให้สำเร็จก็คือการเชื่อมต่อเส้นเลือด ยิ่งการสร้างการไหลเวียนเลือดมีอัตราสำเร็จมากเท่าไร การฟื้นฟูเส้นเลือดก็จะยิ่งสมบูรณ์ การผ่าตัดต่ออวัยวะก็จะมีอัตราความสำเร็จสูงเท่านั้น การฟื้นฟูการทำงานของอวัยวะในภายหลังก็จะดีขึ้นด้วย!
ดังนั้นตอนที่เห็นบาดแผล เฉินชางก็โล่งอกแล้ว จากนั้นก็บอกถานจงหลินว่า “เอาภาพถ่ายเอกซเรย์มาให้ผมทีครับ”
ถานจงหลินพยักหน้าซ้ำๆ นำภาพถ่ายเอกซเรย์ที่เตรียมไว้แล้วส่งให้เฉินชางทันที ขั้นตอนนี้เขาทำได้คล่องมากเหมือนเป็นผู้ช่วยมาจนชินแล้ว!
สิ่งนี้ทำให้หัวหน้าแผนกโดยรอบประหลาดใจขึ้นมาทันที
หมอเฉินคนนี้เป็นเทพมาจากไหนกันแน่
ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แล้ว…ทำไมหัวหน้าแผนกถานนับถือเขาขนาดนี้
หลังจากนั้นสามนาที ในหัวของเฉินชางก็เข้าใจอาการของผู้ป่วยค่อนข้างครบถ้วนแล้ว เขามองทีมแพทย์พร้อมบอกว่า “เตรียมผ่าตัด!”
หลังจากทุกคนได้ยินประโยคนี้ ก็เผยสีหน้าฮึกเหิมทันที อยากจะลงสนามแล้ว!
โอกาสแบบนี้พบเจอได้แต่ไม่อาจไขว่คว้า เพราะสุดท้ายก็ยังต้องดูว่าศัลยแพทย์หลักจะเลือกอย่างไร
เฉินชางเพียงหมุนตัวมามองคนที่อยู่รอบๆ แล้วชะงักไปครู่หนึ่ง แม้จะเป็นหัวหน้าแผนกทั้งหมด แต่เฉินชางก็ไม่คุ้ยเคย ไม่สู้ไม่ต้องใช้งานพวกเขาเลยดีกว่า
เขาจึงเรียกชื่ออย่างรวดเร็วฉับไว “หัวหน้าแผนกถาน หัวหน้าแผนกอัน แล้วก็…คุณ”
เฉินชางชี้ฮั่วกว๋อชิ่งที่กำลังถือมือที่ขาดพร้อมบอกว่า “พวกเรามาผ่าตัดด้วยกันเถอะครับ”
ฮั่วกว๋อชิ่งเลิกคิ้วทันที เขาอดใจรอไม่ไหวตั้งนานแล้ว รีบเดินออกมาพร้อมรอยยิ้มเพื่อล้างมือเตรียมผ่าตัด
ส่วนอันเยี่ยนจวินก็ยิ้มบางๆ สงสัย ‘ผู้อำนวยการเฉินจะยังไม่ลืมศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจอย่างฉัน
ส่วนหัวหน้าแผนกอีกเจ็ดแปดคนที่เหลืออยู่ก็ค่อนข้างเหม่อลอย…
ในใจเกิดความรู้สึกมากมาย ซับซ้อนเกินไปแล้ว!
ไม่น่าเชื่อว่าในใจแต่ละคนจะรู้สึกเปรี้ยวๆ ฝาดๆ ราวกับว่าการไม่ถูกเฉินซางเลือกทำให้พวกเขารู้สึกผิดหวังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน!
ถึงยังไงโอกาสนี้ก็หายาก!
หัวหน้าแผนกแต่ละคนปวดร้าวใจอยู่พักหนึ่ง มองหัวหน้าแผนกสามคนที่ได้รับเลือกจากเฉินชางด้วยความอิจฉาริษยา
ส่วนฮั่วกว๋อชิ่งก็แทบจะยิ้มออกมาตอนล้างมือ แต่เขาก็รีบหุบยิ้ม ถ้าคนอื่นสังเกตเห็นขึ้นมา แล้วถูกรายงานว่ามีความสุขบนความทุกข์คนอื่นก็คงไม่ดี
[1] ฮีสติโอไซต์(Histiocyte) เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรค มีหน้าที่จับกินสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่หลุดลอดเข้าสู่ร่างกายและช่วยเกี่ยวกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรค
[2] กระบวนการสร้างและสลาย หรือ เมแทบอลิซึม (metabolism) เป็นกระบวนการสันดาปของร่างกาย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีของสารประกอบเคมีในสิ่งมีชีวิตในระดับเซลล์