เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 499 แปลคำว่าหมื่นกระบี่หวนคืนยังไง
บทที่ 499 แปลคำว่าหมื่นกระบี่หวนคืนยังไง
เมื่อไม่มีการเปรียบเทียบ ก็ไม่มีการบาดเจ็บ
หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว สายตาที่ทั้งสองมองกันและกันก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว!
สงครามระหว่างนักพรตขั้นรอรับทัณฑ์อัสนีกับนักพรตขั้นเหาะเหิน ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้บริสุทธิ์ได้ง่ายมาก
การถกเถียงแบบนี้ก็ทำให้เกิดผลลัพธ์แบบฝ่ายศัตรูตายแปดร้อย ฝ่ายตัวเองตายหนึ่งพันเช่นกัน
ดังนั้น…
สองมหาเทพกับสอง ‘ผู้ติดตาม’ ที่ยังอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด ตอนนี้กำลังนั่งมองหน้ากันอย่างเลิกลั่กเงียบๆ อยู่ในห้องทำงานจิตใจสงบเยือกเย็น
ในที่สุด เฉินชางก็เป็นคนเปิดประเด็น “ศาสตราจารย์ทัง พูดตามตรงนะครับ ผมมีความรู้เรื่องวิธีการเย็บเส้นเอ็นแบบทังของคุณไม่เพียงพอจริงๆ ส่วนวิธีการเย็บแบบทังที่คุณปรับปรุงแล้ว มีความก้าวหน้ามากขึ้นจริงๆ ครับ”
ทังจินโปถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ศาสตราจารย์เฉิน คุณไม่ต้องเกรงใจแล้วครับ เราต่างก็ทำอาชีพเดียวกัน ต่างก็รู้อยู่แก่ใจ ก็อย่างที่คุณบอก พวกเรามานั่งอยู่ด้วยกันตรงนี้ก็เพื่อถกเถียงกันด้วยดี เพื่อทำให้วิธีการเย็บเส้นเอ็นของแผนกศัลยกรรมมือก้าวหน้า!”
เมื่อเห็นทั้งสอง ‘กลับมาคืนดีกัน’ ในที่สุดฉินเสี้ยวยวนก็โล่งอกแล้ว ส่วนหัวหน้าแผนก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและเลขาคนอื่นๆ ก็หายกังวลแล้ว
ถึงอย่างไร ถ้าสู้กันขึ้นมาจริงๆ…พวกเขาจะช่วยใครดีล่ะ
ส่วนหลี่อวี่ก็มองเจียงเทาแล้วมอบรอยยิ้มนอบน้อมให้ เก็บปากกาในมือใส่ในกระเป๋าเสื้ออย่างแนบเนียน
เจียงเทาเองก็พยักหน้าอย่างเจตนาดี เก็บค้อนเคาะเข่าไว้ในชุดกาวน์ มือที่กำหูฟังแพทย์ก็คลายออกแล้วเช่นกัน
เฉินชางบอกย่วนย่วนว่า “ย่วนย่วน คุณเปิดคลิปผ่าตัดเถอะ ผมกับศาสตราจารย์ทังจะอภิปรายกันสักหน่อย”
ทังจินโปพยักหน้า เขาเองก็มีความตั้งใจเหมือนกัน
นี่คือเป้าหมายของทั้งสอง ส่งเสริมกันและกัน สื่อสารพูดคุยกัน
ระดับที่สมบูรณ์แบบเป็นเพียงการตั้งหัวข้อที่ไม่สอดคล้องกับความจริง เป็นเพียงวิธีเย็บที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบเมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันเท่านั้น
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นการเย็บที่ดีที่สุด
ทุกความสมบูรณ์แบบล้วนเกิดจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และสาเหตุที่วิธีการเย็บเส้นเอ็นของเฉินชางได้รับขนานนามว่าเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบ ก็เพราะซึมซับวิธีการมาจากผู้เชี่ยวชาญหลายคน ปรับจุดแข็งของอีกฝ่ายให้เป็นฝีมือของตัวเอง
แต่วิธีการเย็บเส้นเอ็นแบบทังที่ค้นคว้าวิจัยโดยศาสตราจารย์ทังก็ถือว่าสมบูรณ์มากแล้ว ดังนั้นก็หมายความว่ามีจุดแข็งใหม่ๆ มากมาย ไม่จำเป็นต้องพัฒนาต่อเนื่องอีกแล้ว
ขณะมองคลิปผ่าตัดในทีวี เฉินชางก็เริ่มวิเคราะห์และวิจารณ์
ศาสตราจารย์ทังก็ดูอยู่เช่นกัน จากนั้นก็อธิบายสิ่งที่เฉินชางถาม
ตอนแรกบรรยากาศยังปรองดองมาก
เพียงแต่…
วิธีการสื่อสารแบบ ‘คุณถามผมตอบ’ กลายเป็น ‘ถามกลับและแย่งตอบ’ อย่างรวดเร็ว!
เฉินชางชี้รายระเอียดการเย็บบนทีวีแล้วเริ่มโต้เถียงกับศาสตราจารย์ทัง
ตอนแรกศาสตราจารย์ทังยังหนักแน่น ตอนหลังก็ลุกขึ้นเดินไปยืนข้างทีวีแล้วเริ่มออกท่าทางอธิบายภาพที่ปรากฎในจอทีวีเสียเลย
อืม!
ทั้งสองต่างก็อยากจะโน้มน้าวอีกฝ่าย
แต่ทั้งสองก็ดันเป็นคนที่ถูกโน้มน้าวไม่ได้ง่ายๆ
แม้จะเป็นวิธีการที่เกิดจากการฝึกอบรมเสริม แต่สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ เฉินชางผ่านการฝึกมานับหมื่นครั้ง มีความรู้และความมั่นใจเรื่องวิธีการเย็บเส้นเอ็นมากพอ
ศาสตราจารย์ทังก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน!
ทีวีไม่อาจรองรับคววามเสียหายได้ตลอดเวลา ย่วนย่วนกังวลมาก และจนใจมากเช่นกัน ทำไมทุกครั้งที่ทีวีเกิดปัญหาจะต้องตรงกับเวรของฉันตลอด
เธอมองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฉินเสี้ยวยวนแวบหนึ่งอย่างรู้สึกไม่ยุติธรรม
ฉินเสี้ยวยวนงงไปชั่วขณะ ก่อนจะพยักหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว เด็กน้อย ไม่เป็นอะไรหรอก! ถ้าเกิดเรื่องขึ้นฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง!
ทั้งสองถกเถียงกันจนยากจะตัดสินแพ้ชนะ
แต่จะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ ว่า ‘ศึกเทพ’ ครั้งนี้เป็นโอกาสที่หาพบได้ยากของหลี่อวี่ เจียงเทาและอันเยี่ยนจวิน นี่คือวิธีการเย็บเส้นเอ็นแบบทังที่วิเคราะห์ได้ค่อนข้างลึก
ทั้งสองต้องถกเถียงกันในทุกรายละเอียด จากนั้นก็เลือกวิธีการที่เหมาะสมมากกว่า แล้วอธิบายทุกขั้นตอนแยกเป็นข้อๆ…
การถกเถียงดำเนินไปอย่างนั้น สุดท้ายการผ่าตัดเคสแรกที่ศาสตราจารย์ทังลงมือเองก็ได้ข้อสรุปแล้ว
บุคลากรแผนกศัลยกรรมมือที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยกระดับความสามารถตัวเองอีกครั้ง
เมื่อภาพในจอทีวีเปลี่ยนไป ก็ปรากฏคลิปการผ่าตัดของเฉินชางขึ้นมา ตอนนี้ทุกคนต่างก็เริ่มจดจ่อสมาธิแล้ว
เพราะพวกเขาไม่รู้เลยว่าวิธีการเย็บของเฉินชางมีที่มาจากไหนกันแน่!
เรียนมาจากอาจารย์ท่านไหน
แม้แต่ศาสตราจารย์ทังก็ยังสะท้อนใจอยู่บ้าง ขณะที่เขามองภาพการผ่าตัดในจอก็เริ่มเกิดคำถามขึ้นมาทีละข้อ
เฉินชางย่อมพูดสิ่งที่รู้ออกมาหมดอยู่แล้ว พูดถึงแนวคิดและวิธีคิดเรื่องการเย็บของตัวเองออกมาอย่างจริงจัง
เพราะเฉินชางก็ไม่รู้เช่นกันว่าวิธีการของตัวเองมีจุดบกพร่องตรงไหน แต่ศาสตราจารย์ทังกลับช่วยให้เขารู้ถึงจุดบกพร่องของตัวเองได้
แต่…
เฉินชางยิ่งพูด เจียงเทากับหลี่อวี่ก็ยิ่งอ้าปากค้าง จินตนาการตามไม่ออก!
แม้แต่ศาสตราจารย์ทังเองก็เริ่มเงียบแล้วเช่นกัน
เขานึกไม่ถึงว่าหมอเฉินที่อายุยังน้อยจะเข้าใจวิธีการเย็บเส้นเอ็นได้ล้ำลึกขนาดนี้!
“นี่เป็นแนวคิดของบันเนลล์กับวิธีคิดของเคสเลอร์….ตรงนี้ก็เป็น…
ผมรู้สึกว่าไม่มีวิธีการเย็บที่ถูกต้องเสมอไป มีแค่วิธีการเย็บที่ดีที่สุดเท่านั้น เหมือนกับสีที่สุ่มผสมกันไม่หยุด จนได้เป้าหมายการผ่าตัดที่เหมาะสมกว่า…”
หลังจากเฉินชางพูดจบ ศาสตราจารย์ทังก็นำปรบมือ!
เขามองเฉินชางด้วยสีหน้าตื่นเต้น ในดวงตาเต็มไปด้วยความฮึกเหิม “ศาสตราจารย์เฉิน คุณกำลังทำเรื่องที่…พวกเราอยากทำแต่ไม่กล้าทำ!”
พอพูดถึงตรงนี้ แววตาของทังจินโปก็หม่นมัวลงหลายส่วน “บางที เรื่องนี้อาจจะมีแค่คนรุ่นคุณที่ทำได้ พวกเราแก่กันหมดแล้ว ถึงยังไงเป็นเส้นทางที่ยาวนาน ผมหวังว่าคุณจะพากลุ่มคนหนุ่มสาวพวกนี้เดินไปได้ไกลกว่านี้!…
…คุณพูดได้น่าคิดมาก ตอนนั้นผมกับศาสตราจารย์หวังอวี้ซาน ศาสตราจารย์ฉางหงเหล่ยเคยร่วมงานและวิจัยด้วยกัน พวกเราต่างก็เคยตั้งใจศึกษาวิธีการพวกนี้ ศาสตราจารย์ฉางเธอทุ่มเทสติปัญญาฝึกวิธีการเย็บแบบดั้งเดิมมาทั้งชีวิต ผู้อำนวยการหวังก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ใช่ว่าพวกเราจะไม่เคยคิดมาก่อน แต่มันยากเกินไป แนวคิดของคุณกลับดีมาก มีความหวังมาก!”
พอพูดถึงตรงนี้ ทังจินโปก็มองเฉินชางด้วยแววตาเปล่งประกาย
“ตอนนี้จู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าแผนที่พวกเรายอมแพ้และดองไว้ตอนแรก เหมือนจะเริ่มใหม่แล้ว!…
…ผมรู้สึกว่าพวกเรานั่งคุยเรื่องนี้กันดีๆ ได้ เรื่องนี้มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ต่อวงการศัลยกรรมมือในประเทศเรา!”
หลังจากพูดจบ หลี่อวี่ก็เงยหน้ามองอาจารย์ตัวเอง นึกไม่ถึงว่าอาจารย์จะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้
คิดมาตลอดว่าศาสตราจารย์ทังทำอะไรก็ราบรื่นเหมือนใช้โปรแกรมโกง แต่…ไม่เคยได้ยินอาจารย์พูดถึงเรื่องในอดีตมาก่อน
ส่วนเจียงเทาก็มองเฉินชางพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ นึกย้อนไปถึงวันแรกๆ ที่ตัวเองเพิ่งมาที่นี่พร้อมความรู้สึกเหนือกว่าคนอื่นเพราะกลับจากเมืองหลวง
แต่พอลองคิดให้ดีๆ
เฉินชาง…ไม่ใช่สิ! ควรจะเป็นศาสตราจารย์เฉิน เขาไม่อยากได้คนที่มีความรู้พื้นๆ อย่างฉันหรอก
เราแตกต่างกันเกินไป!
ทังจินโปมองเฉินชาง “วิธีการเย็บแบบนี้เรียกว่าอะไรครับ”
“วิธีเย็บของเฉิน” เฉินชางยิ้มบางๆ
ทังจินโปฟังจบแล้วอดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ เขาเริ่มหยอกว่า “ผมนึกว่าชื่อหมื่นกระบี่หวนคืนเสียอีก”
ประโยคนี้ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้หัวเราะออกมาแล้ว
แต่…เฉินชางนึกขึ้นได้ถึงปัญหาอีกอย่างหนึ่ง!
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าประโยคนี้อยู่ในวารสาร SCI ควรจะแปลยังไงดี
เฉินชางจมดิ่งอยู่ในภวังค์ความคิด!
———————————————–