เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 501 ผมจะยกลูกสาวให้แต่งงานกับเขา!
บทที่ 501 ผมจะยกลูกสาวให้แต่งงานกับเขา!
เจียงเทาวิ่งเหยาะๆ สองก้าวมาถึงตรงหน้าเฉินชาง พอขวางไว้แล้วก็จ้องเฉินชางพร้อมพูดอย่างจริงจังว่า “ผมผิดไปแล้ว!”
เฉินชางตอบยิ้มๆ “คุณดื่มเยอะไปแล้ว”
เจียงเทาตะโกนเสียงดังว่า “ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้ดื่มเยอะ! ศาสตราจารย์เฉิน ผมผิดไปแล้ว ผมไม่มีความรู้ ผมหลงระเริง ผมอวดดีลำพองใจ ผม…ผมขอโทษคุณครับ”
เฉินชางอึ้งไปเลย ขณะมองเจียงเทาตะโกนเสียงดังเหมือนแทบขาดใจขนาดนี้ เขาก็งงนิดหน่อย
เขาไม่ได้ถือสาเจียงเทาเลย เขารู้สึกเฉยๆ กับเรื่องพวกนี้ ไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ
เจียงเทาจ้องเฉินชาง “ศาสตราจารย์เฉิน อาจารย์ของผมคือกู้หงเหมย!”
…ผมอยากทำงานกับคุณ ผมอยากเดินบนเส้นทางที่พวกเธอเดินไม่สุดไปพร้อมกับคุณ!…
…มีแค่คุณเท่านั้นที่จะพาพวกเราเดินไปสู่ชัยชนะได้!…
…ศาสตราจารย์เฉิน ผมอยากติดตามคุณ!”
หลังจากเจียงเทาได้ฟังเรื่องในอดีตที่ศาสตราจารย์ทังเล่า ได้ฟังการฝ่าฟันต่อสู้ของคนรุ่นเก่า ฟังชีวิตยุครุ่งเรืองของพวกเขา ชั่วขณะนั้นก็ซาบซึ้งไปกับจิตวิญญาณของคนรุ่นเก่าแล้ว!
นี่คือเส้นทางงานสาธารณสุขของประเทศจีนที่คนรุ่นก่อนยังเดินไม่สุดทาง!
พวกเขามีเงื่อนไขจำกัด ใช้เวลาเดินนานมาก บางทีวันนี้อาจจะเดินไม่ไหวแล้ว!
ส่วนพวกเรา ในฐานะหมอรุ่นใหม่ พวกเราควรจะเดินไปบนเส้นทางนี้ให้สุดทาง
แม้จะเดินได้ไม่สุดทาง แต่ก็ควรจะเดินให้ไกล!
สร้างจุดเริ่มต้นที่สูงขึ้นให้ลูกหลานในอนาคตและนักเรียนของพวกเรา
เจียงเทารู้ว่าพวกเขาเดินอยู่บนบ่าของอาจารย์พวกเขา นึกย้อนไปถึงการสนับสนุนในหลายปีมานี้ของอาจารย์ ก็คิดได้ว่าอาจารย์อายุมากขนาดนี้แล้ว แต่ทุกวันก็ยังผ่าตัด ยังทำงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
พอคิดว่าอาจารย์กับหัวหน้าแผนกฉางหงเหล่ยยังทดลองและวิจัยทุกวัน…
จู่ๆ ตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเขาต้องทำอย่างนี้!
เพราะเป็นความรับผิดชอบ!
และเพื่อถ่ายทอดด้วย
อิงตามมโนทัศน์ของคนทั่วไป เขาเป็นถึงหัวหน้าแผนกโรงพยาบาลจีสุ่ยถานเชียวนะ เป็นบุคคลที่ยืนอยู่ระดับสูงสุดแล้ว สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ก็คือออกไปประชุม บรรยายในชั้นเรียน รับนักศึกษาทำหัวข้องานวิจัย…เดินมาถึงขั้นที่กินทุนเก่าได้แล้ว
จำเป็นต้องลำบากขนาดนี้ซะที่ไหนกัน อายุห้าสิบกว่าแต่ยังเป็นแนวหน้าในการวินิจฉัยโรค
เงินไม่พอใช้เหรอ
ไปเที่ยวมัลดีฟส์ไม่ผ่อนคลายกว่าเหรอ
อุ้มหลานไม่มีความสุขกว่าเหรอ
……
แต่พอฟังศาสตราจารย์ทังพูดจบ เขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที
นี่คือการสนับสนุนจากคนยุคพวกเขา เป็นของขวัญที่พวกเขามอบให้คนยุคนี้
เป็นเพราะคนกลุ่มนี้ ถึงได้มีจุดเริ่มต้นให้พวกเขา!
เจียงเทาตะโกนเสียงดังแทบขาดใจ เขาอยากจะควักหัวใจอันรุ่มร้อนของตัวเองออกมาแล้วบอกเฉินชางว่า ผม เจียงเทาก็มีอุดมการณ์นี้เหมือนกัน ผมยินดีมอบชีวิตให้อาชีพการงานที่ผมทำ!
เมื่อเห็นเจียงเทามีท่าทางแบบนี้ เฉินชางก็เงียบแล้ว
เขาก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน
เมื่อได้ฟังเรื่องราวของคนรุ่นก่อน ฟังเรื่องที่พวกเขาต่อสู้ฝ่าฟัน ฟังวันวานอันมีความหมายของพวกเขา…
เฉินชางจะไม่ซาบซึ้งได้อย่างไร
เฉินชางมองเจียงเทา “คุณอยากทำจริงเหรอครับ”
เจียงเทาอึ้งไปชั่วขณะ แล้วมองเฉินชาง “ผม…ผมทำได้เหรอครับ”
เฉินชางจ้องตาเขา แล้วย้อนถามเสียงเบาว่า “ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ”
เจียงเทามั่นใจมากขึ้นทันที เขาดึงแขนเฉินชาง “ผมจะทำให้ดีแน่นอนครับ!”
เฉินชางส่งเจียงเทากลับบ้าน
เห็นได้ชัดว่าเจียงเทาดื่มมากเกินไป พูดมากด้วย แต่ปากยังบอกว่าตัวเองไม่เมา
จากนั้นตัวเองถึงได้เดินกลับบ้าน
ระหว่างทางลมค่อนข้างเย็น แต่กลับดับไฟในใจของเฉินชางไม่ได้
ตอนที่ฟังศาสตราจารย์ทังพูด เฉินชางก็อิจฉามาก นั่นเป็นเรื่องราวของพวกเขา
บางที…
ฉันก็สร้างเรื่องราวของตัวเองได้เหมือนกัน!
บางที หลังจากนี้ไม่กี่สิบปี รอฉันแก่แล้ว ดื่มไปเยอะ ฉันก็จะอาศัยฤทธิ์เหล้าพูดเรื่องราวในอดีตของตัวเองได้เหมือนกัน…
ชีวิตยังดำเนินต่อไป แต่ไฟที่ถ่ายทอดมาไม่เคยดับมอด!
พอกลับถึงบ้าน เฉินชางก็เอนกายลงบนเตียง แล้วพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่กลับ
เขาส่งข้อความหาฉินเยว่ แต่เธอก็ไม่ตอบ
เฉินชางคิดว่าเธอหลับไปแล้ว
เขาคิดเยอะมาก คิดเรื่องทังจินโป คิดเรื่องหวังอวี้ซาน คิดเรื่องฉางหงเหล่ยด้วย ทั้งยังคิดเรื่องอันเยี่ยนจวิน ถานจงหลิน เจียงเทา ถึงขั้นคิดเรื่องหลี่อวี่ด้วย
พอคิดมาถึงช่วงท้าย จู่ๆ เฉินชางก็เกิดความคิดอะไรบางอย่าง
ทำไมตัวเองไม่ลองทำดูบ้างล่ะ
ในเมื่อตัวเองมีโอกาสนี้แล้ว ทำไมไม่พาคนหนุ่มสาวกลุ่มนี้เดินให้ไกลขึ้นอีกหน่อย
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องบางเรื่อง!
ลบความแตกต่างทางความคิดระหว่างคนรุ่นก่อน เพิ่มโอกาสรวมพลังของคนรุ่นใหม่
เชิญคนกลุ่มนี้มาแล้วนั่งคุยกันดีๆ พูดคุยเกี่ยวกับแนวคิดในอนาคตกันใหม่!
จากนั้น เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาหวังอวี้ซาน
จากนั้นก็เป็นฉางหงเหล่ย
สุดท้ายเป็นเจียงเทา เข้าไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของกู้หงเหมย จึงให้เจียงเทาติดต่อให้เสียเลย
จากนั้น เขาก็วางโทรศัพท์แล้วเตรียมตัวนอน
จู่ๆ เสียงแจ้งเตือนจากวีแชทก็ดังขึ้น
เฉินชางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พอดูก็พบว่าเป็นข้อความตอบกลับจากฉินเยว่ “เมื่อกี้พ่อฉันดื่มเยอะไป ตอนนี้อาเจียนกับร้องไห้อยู่ในห้องน้ำตลอด…
…ปากก็บ่นไม่หยุดว่า อาจารย์ครับ ผมทำได้ไม่ดี! ผม…”
เฉินชางอึ้งทันที พอคิดถึงสิ่งที่คุยกันคืนนี้ เขาก็เข้าใจแล้ว
เขายิ้มและตอบกลับว่า “ดูแลเขาให้ดี”
พอผ่านไปอีกครู่เดียว…
ฉินเยว่ก็ส่งอิโมติคอนแสดงความรู้สึก ‘หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก’ มา
“เป็นอะไรไปอีก” เฉินชางงง
“พ่อฉันไม่ร้องไห้แล้ว ตอนนี้กำลังหัวเราะด้วย” ฉินเยว่ตอบ
จากนั้น ฉินเยว่ก็ส่งข้อความเสียงมา
“ที่รัก! ผมจะบอกคุณให้นะ ผมไม่ได้ทำให้โรงพยาบาลอันดับสองเป็นโรงพยาบาลที่ดี! แต่…ผมเชื่อว่าลูกเขยของผมทำได้!”
“ผมไม่มีปัญหา! ผมจะยกลูกสาวให้แต่งงานกับเฉินชาง!”
“เจ้าเด็กคนนี้ ผมจะบอกคุณไว้นะ ว่าไม่มีปัญหา!”
“ผมเคยดื่มเหล้ากับเขามาก่อน รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ผมอยากยกลูกสาวให้แต่งงานกับเขา คุณอย่าขัดขวางผมนะ!”
“ถ้าเขาไม่มีบ้านผมก็จะซื้อให้ ถ้าเขาไม่มีรถผมก็จะซื้อให้ ขอเพียงเขาดีกับลูกสาวผม ไม่ว่าอะไรผมก็ยอมทั้งนั้น!”
“เจ้าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์แน่นอน ผมเชื่อว่าถ้าโรงพยาบาลอันดับสองมีเขาเป็นผู้นำ ก็จะกลายเป็นโรงพยาบาลอันดับหนึ่งของมณฑลตงหยางได้แน่นอน!”
“ถ้าผมหนุ่มกว่านี้สักสามสิบปี ผมจะไปสาบานเป็นพี่น้องกับเฉินชางเป็นอาจารย์แน่นอน…”
“อ้วก…เจ้าเด็กนี่ไว้หน้าฉัน!”
ตอนที่เฉินชางได้ฟังฉินเสี้ยวยวนพูด ก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี!
ฉินเยว่หัวเราะ “ได้ยินหรือยังคะ พ่อฉันจะยกฉันให้แต่งงานกับคุณนะ! ดีใจล่ะสิ”
“ดีใจครับ!” เฉินชางมีความสุขมาก
จี้หรูอวิ๋นมองฉินเสี้ยวยวนเดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็ร้องไห้ เธอก็ไม่ได้ห้ามปราม ได้แต่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ เขา คอยลูบหลังให้เขาอย่างระมัดระวัง ทำให้เขารู้สึกสบายขึ้นหน่อย
ขณะที่ฟังฉินเสี้ยวยวนพูดจาเหลวไหลเงียบๆ เธอก็นำน้ำอุ่นมาให้เขาดื่ม
ไม่รังเกียจกลิ่นเหม็นจากสิ่งที่อาเจียนออกมาด้วย
เธอรู้ว่าวันนี้เหล่าฉินมีความสุข
ผ่านมาหลายปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาดื่มจนกลายเป็นอย่างนี้
ฉินเยว่แอบมองไปข้างนอก พอเห็นพ่อแม่อยู่ด้วยกันแบบนั้น จู่ๆ เธอก็อิจฉาอยู่ในใจ
หวังว่าอนาคตของเราจะงดงามแบบนี้เหมือนกัน
พอคิดถึงตรงนี้ ฉินเยว่ก็ส่งข้อความไป “สามีคะ ฉันรักคุณ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ!”
“ผมรักคุณ ราตรีสวัสดิ์ครับ!” เฉินชางยิ้ม