เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 510 ให้เขาทำ!
บทที่ 510 ให้เขาทำ!
ในห้องผ่าตัด ซย่าเกาเฟิงเป็นศัลยแพทย์หลัก เมิ่งซีเป็นแพทย์ผู้ช่วย เก่อฮว๋ายก็เป็นผู้ช่วยเช่นกัน เฉินชางสังเกตอยู่ข้างๆ
ซย่าเกาเฟิงมองเฉินชาง “เสี่ยวเฉิน การผ่าตัดของแผนกศัลยกรรมหัวใจ อันดับแรกคือต้องมีความเข้าใจต่อหัวใจและหลอดเลือดหัวใจมากพอ…
…เพราะแผนกศัลยกรรมบอกไว้ชัดเจนแล้ว ว่านี่คือการผ่าตัดโครงสร้าง ต้องแยกแยะโครงสร้างการทำงานของเนื้อเยื่อในร่างกายมนุษย์อย่างสมเหตุสมผล!…
…เป้าหมายสุดท้ายมีแค่สองอย่าง หนึ่งคือตัดเนื้อเยื่อทิ้ง สองคือซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย!…
…ที่จริงหัวใจก็เป็นอย่างนั้น ถ้าคุณจะบอกว่ามันอันตราย การผ่าตัดมันก็ยุ่งยากมากจริงๆ แต่ถ้าคุณผ่าตัดมาเยอะ คุณอาจรู้สึกว่าไม่ต่างจากเนื้อหมูเท่าไร ก็แค่เนื้อเยื่อไม่กี่ชั้น ค่อยๆ ผ่าตัดซ่อมแซมเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”
คำพูดของซย่าเกาเฟิงทำให้เฉินชางอดพยักหน้ายิ้มไม่ได้ เป็นคำพูดที่มีเหตุผลมาก แต่ก็เป็นเพราะสิ่งเล็กๆ พวกนั้นที่ทำให้คนบางกลุ่มต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อเรียนรู้มัน
หลังจากเริ่มผ่าตัด เฉินชางก็มองความแตกต่างออกแล้ว
ตอนที่อาจารย์เมิ่งลงมือผ่าตัด เธอมีสมาธิแน่วแน่ ไม่พูดมากสักประโยค
ส่วนซย่าเกาเฟิงก็เนิบนาบผ่อนคลาย ท่าทางสบายใจมาก เมื่อการผ่าตัดเคสยากอยู่ในมือเขา กลับดูง่ายเหมือนเป็นการผ่าตัดเล็กๆ!
ปากเขายังอธิบายไม่หยุดว่า “ถ้าคุณต้องการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจให้ดี ก็ต้องทำความเข้าใจหลอดเลือดแดงใหญ่ก่อน! เพราะนี่คือเส้นเลือดหลักของระบบไหลเวียนเลือด
เห็นหรือยัง ที่ออกจากหัวใจห้องซ้ายชื่อว่าเอออร์ตาส่วนขึ้น[1] พอออกมาได้ช่วงหนึ่ง ถึงตรงนี้…ก็คือส่วนโค้งเอออร์ติก คุณดูตรงตำแหน่งทางกายวิภาคของมัน อยู่ตรงกระดูกสันหลังตำแหน่ง L4 พอดี กลายเป็นเอออร์ตาส่วนลง[2]แล้ว
พอลงไปอีกก็คือหลอดเลือดแดงเอออร์ตาส่วนท้อง หลอดเลือดแดงกระดูกปีกสะโพกซ้ายและขวา…”
แม้เฉินชางจะเข้าใจระบบไหลเวียนเลือดดีมาก แต่ก็ยังฟังอย่างตั้งใจ
ตอนนี้ซย่าเกาเฟิงใช้มีดกำจัดเนื้องอกอย่างระมัดระวัง แต่ก็ยังมองเฉินชาง “คุณเห็นหรือยัง ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดของเอออร์ตาส่วนขึ้นกับเอออร์ตาส่วนลงก็คือ…เอออร์ตาส่วนขึ้นออกจากหัวใจห้องซ้าย ถ้าตรงนี้เสียหาย ก็จะทำให้เลือดคั่งในเยื่อหุ้มหัวใจ เกิดภาวะบีบรัดหัวใจ[3]ได้ง่ายมาก ดังนั้น…ถ้าเทียบกับเอออร์ตาส่วนลงได้รับความเสียหาย เอออร์ตาส่วนขึ้นอันตรายถึงชีวิตมากกว่า”
……
ซย่าเกาเฟิงอธิบายอย่างละเอียดมาก!
ในหัวของเฉินชางก็คิดตามที่ซย่าเกาเฟิงอธิบายเช่นกัน คอยทำความเข้าใจไม่หยุด
การผ่าตัดไม่ใช่การเรียนรู้ทีละอย่าง ทักษะซ่อมแซมหลอดเลือดแดงเอออร์ตาส่วนลงของเฉินชางถือเป็นระดับปรมาจารย์ แม้เขาไม่มีทักษะทักษะซ่อมแซมเอออร์ตาส่วนขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะผ่าตัดเอออร์ตาส่วนขึ้นไม่เป็น
เรียนรู้เข้าใจหนึ่งวิธีการเท่ากับกระจ่างร้อยวิธีการ!
หลังจากเข้าใจสิ่งที่ต้องระวังในการผ่าตัดเอออร์ตาส่วนขึ้นแล้ว เฉินชางผ่าตัดสำเร็จไปหนึ่งเคสโดยอาศัยความเข้าใจของตัวเอง แม้อาจจะมีรายละเอียดมากมายที่มองข้ามไปก็ตาม
ซย่าเกาเฟิงล้วนให้ความสำคัญกับรายละเอียด
เฉินชางรวบรวมสมาธิชื่นชมวิเคราะห์อย่างจริงจัง
เมื่อการผ่าตัดหนึ่งเคสจบลง จู่ๆ เฉินชางก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ!
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณตระหนักรู้ทักษะของแผนกศัลยกรรมหัวใจด้วยตัวเอง: ทักษะซ่อมแซมหลอดเลือดแดงเอออร์ตาส่วนขึ้น: ระดับต้น ได้รับคะแนนทักษะ +1]
เฉินชางปลาบปลื้มทันที!
ถึงจะเป็นแค่ทักษะระดับต้น แต่ถ้าระบบยอมรับ ก็ถือว่าผ่านการทดสอบของระบบแล้ว
นึกไม่ถึงว่าจะได้คะแนนทักษะอีกหนึ่งแต้มด้วย!
ไม่เลวเลยจริงๆ
การผ่าตัดจบไปหนึ่งเคส ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว ทุกคนพักผ่อนไม่นานก็เตรียมผ่าตัดเคสที่สองต่อ การผ่าตัดทั้งคืนนี้ สำหรับเฉินชางถือเป็นการได้ตระหนักรู้ทักษะครั้งแล้วครั้งเล่า
เมื่อการผ่าตัดเคสที่สามจบลงก็เป็นเวลาประมาณห้าทุ่ม ซย่าเกาเฟิงมองเฉินชางพลางเอ่ยอย่างจริงจัง “เสี่ยวเฉิน ที่จริงการผ่าตัดที่คุณเห็นวันนี้แตกต่างกับเคสที่คุณเคยเจอ!…
…การผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจของแผนกศัลยกรรมหัวใจ โดยส่วนใหญ่เป็นเคสภาวะเลือดออกในช่องอกที่แผนกฉุกเฉินของคุณพบบ่อย แต่การผ่าตัดแบบนั้น คุณจะไม่มีเวลาและโอกาสได้ดูเลย เพราะนั่นคือการผ่าตัดที่เวลากับชีวิตต้องแข่งกัน…
…เคสแบบนี้พบได้น้อยมาก แต่ถ้าพบแล้วก็จะถือเป็นการผ่าตัดที่อันตรายถึงชีวิต ดังนั้น วันหลังคุณต้องระวัง”
เฉินชางพยักหน้า
วันนี้เฉินชางถือว่าได้เรียนรู้อะไรมากมาย ได้ฟังรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่าตัดเยอะมาก ล้วนเป็นอาหารแห้งสำเร็จรูปที่ซย่าเกาเฟิงสรุปจากประสบการณ์การผ่าตัดหลายปีของตัวเอง
ความรู้นี้ไม่ได้เหมาะกับเฉินชางคนเดียวเท่านั้น เมิ่งซีกับเก่อฮว๋ายก็ได้ประโยชน์เยอะเหมือนกัน
บรรดาแพทย์เดินออกจากห้องผ่าตัด ซย่าเกาเฟิงกลับบ้านไปก่อน
เก่อฮว๋ายใส่ชุดกาวน์ไปที่ห้องผู้ป่วย
เฉินชางกับเมิ่งซีเดินไปด้วยกันสองคน หลังจากลงจากตึกแล้ว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงรถพยาบาลดังขึ้นติดๆ กัน
รถฉุกเฉินขับเข้ามาสามคัน!
เฉินชางกับเมิ่งซีสบตากันแวบหนึ่ง แล้วรีบเข้าไปทำการรักษาฉุกเฉิน
พวกเขาเห็นหวังเซี่ยงจวินกับหมออีกสี่ห้าคนเตรียมพร้อมรออยู่พอดี
“หัวหน้าแผนกหวัง มีภารกิจเหรอคะ” เมิ่งซีเป็นฝ่ายถามก่อน
หวังเซี่ยงจวินขมวดคิ้วตอบอย่างเร่งรีบ “อุบัติเหตุรถยนต์ รถเก๋งสองคันชนกัน มีผู้ประสบอุบัติเหตุสามคนถูกส่งมาที่โรงพยาบาลเรา อีกสองคนส่งไปที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลแล้ว”
หวังเซี่ยงจวินหันตัวไปมองเฉินชางแล้วพยักหน้าถามทันที “เสี่ยวเฉินก็อยู่ด้วยเหรอ”
เฉินชางพยักหน้า เห็นบนศีรษะหวังเซี่ยงจวินปรากฏเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ ในใจก็เกิดความคิดบางอย่างทันที พยักหน้าถามว่า “สวัสดีครับหัวหน้าแผนกหวัง ให้พวกเราอยู่ช่วยไหมครับ”
พอหวังเซี่ยงจวินได้ยินเฉินชางถามแบบนั้นก็รู้สึกดีขึ้นเป็นสองเท่า!
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของหวังเซี่ยงจวิน +5!]
หวังเซี่ยงจวินมองเฉินชางอย่างชื่นชมแวบหนึ่งแล้วพยักหน้าตอบ “งั้นก็รบกวนพวกคุณแล้ว”
[ติ๊ง! พบภารกิจ ช่วยหวังเซี่ยงจวินทำภารกิจกู้ชีพอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนี้ เมื่อภารกิจสำเร็จจะได้รับรางวัล: ทักษะแบบทำงานอัตโนมัติของหวังเซี่ยงจวิน: แตกฉานเรื่องยาที่ใช้สำหรับการรักษาฉุกเฉิน (ระดับปรมาจารย์)]
หลังจากเฉินชางได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ เขายังไม่ทันได้ดีใจ หมอที่ทำการรักษาฉุกเฉินก็วิ่งไปที่รถพยาบาลแล้ว
เฉินชางก็รีบตามไปเช่นกัน!
การกู้ชีพอุบัติเหตุทางรถยนต์ต้องทำงานแข่งกับเวลา
เฉินชางกับเมิ่งซีรีบตามหลังไป
ไม่นาน ผู้ป่วยทั้งสามคนก็ถูกส่งตัวไปในห้องฉุกเฉิน
พยาบาลเตรียมเครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจเรียบร้อยแล้ว กล่องกู้ชีพฉุกเฉินสามเครื่องวางอยู่ด้านข้าง เตรียมเครื่องมือกู้ชีพทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว!
ในฐานะที่โรงพยาบาลตงต้าเป็นศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินของเมืองอันหยาง จึงมีเคสฉุกเฉินเยอะมาก ภาระงานหนักกว่าของโรงพยาบาลอันดับสองเสียอีก!
พวกเขาเตรียมตัวกู้ชีพผู้ป่วยสามคนพร้อมกัน
บรรยากาศในห้องฉุกเฉินตึงเครียดถึงขีดสุด!
เสียงแจ้งเตือนของเครื่องมือแพทย์ดังติ๊ดๆๆ อย่างต่อเนื่อง
แพทย์กำลังสังเกตตัวเลขบนเครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจเรื่อยๆ เตรียมแจกจ่ายงาน
เฉินชางกับเมิ่งซียืนอยู่ข้างๆ ไม่ได้แทรกแซง
ไม่ใช่ว่าไม่อยากแทรกแซง แต่เพราะยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้หากบุ่มบ่ามเข้าไปร่วมด้วย ไม่เพียงแค่จะช่วยเหลืออะไรไม่ได้ กลับจะรบกวนขั้นตอนการกู้ชีพตามปกติของพวกเขาด้วยซ้ำ!
ส่วนหวังเซี่ยงจวินก็เดินไปเดินมาอยู่ในนั้นคนเดียว หลังจากตรวจเสร็จไปหนึ่งคน ก็แจกจ่ายและกำชับงานแต่ละด้านไม่หยุด
เฉินชางคิดไปคิดมา สุดท้ายก็เดินตามหลังหวังเซี่ยงจวิน แต่ตอนนี้เอง จู่ๆ ตรงเตรียงผู้ป่วยคนที่หนึ่งก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น!
หวังเซี่ยงจวินกับเฉินชางสีหน้าเปลี่ยนทันที รีบเข้าไปดูใกล้ๆ!
“ความดันเลือด 50/20mmHg!”
“หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน!”
“เตรียมทำซีพีอาร์!”
พอหวังเซี่ยงจวินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็หน้าเปลี่ยนสีทันที “มีภาวะบีบรัดหัวใจ! เตรียมเจาะถุงหุ้มหัวใจ! ทำซีพีอาร์ไม่ได้!”
พยาบาลรีบพยักหน้าแล้วถอยออกมา!
ตอนนี้เฉินชางรีบบอกว่า “ผมจัดการเองครับ!”
แพทย์กู้ชีพมองเฉินชาง แล้วมองหวังเซี่ยงจวินแวบหนึ่งอย่างสงสัยนิดหน่อย
หวังเซี่ยงจวินพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ให้เขาทำ!”
[1] เอออร์ตาส่วนขึ้น Ascending aorta เป็นส่วนหนึ่งของหลอดเลือดแดงใหญ่ เริ่มต้นที่ส่วนบนสุดของโคนของหัวใจห้องล่างซ้าย ในระดับเดียวกันกับขอบด้านล่างของกระดูกซี่โครงอ่อนลำดับสาม ด้านหลังครึ่งซ้ายของกระดูกสันอก ทอดผ่านอ้อมขึ้นไปทางด้านบนต่อเนื่องไปทางด้านขวาในทิศทางของแกนหัวใจ จุดสูงสุดเทียบเท่าขอบด้านบนของกระดูกซี่โครงอ่อนลำดับสองทางขวา กล่าวคือ โค้งลงเล็กน้อยในวิถีทางของมัน และเริ่มตั้งอยู่ประมาณ 6 เซนติเมตร (2.4 นิ้ว) ข้างหลังของพื้นผิวด้านหลังของกระดูกสันอก รวมความยาวได้ประมาณ 5 เซนติเมตร (2.0 นิ้ว)
[2] เอออร์ตาส่วนลง Descending aorta เป็นส่วนหนึ่งของเอออร์ตาซึ่งเป็นหลอดเลือดแดงที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ เอออร์ตาส่วนลงมีจุดเริ่มต้นต่อจากส่วนโค้งเอออร์ติก ทอดตัวลงไปตามอกและท้อง โดยลักษณะทางกายภาพของเอออร์ตาส่วนลงประกอบด้วยสองส่วน คือ เอออร์ตาอกส่วนลง (Descending thoracic aorta) และ เอออร์ตาส่วนท้อง (Abdominal aorta) ตามบริเวณโพรงขนาดใหญ่ที่หลอดเลือดนี้ทอดตัวผ่าน ภายในท้อง เอออร์ตาส่วนลงจะแยกออกเป็นแขนงสองแขนงเรียกว่า หลอดเลือดแดงร่วมตะโพก ซึ่งไปเลี้ยงเชิงกรานและส่วนขาทั้งสองข้าง
[3] ภาวะบีบรัดหัวใจ (cardiac tamponade) คือ ภาวะที่มีของเหลว (น้ำ หรือเลือด) ปริมาณมากอยู่ในถุง
เยื่อหุ้มหัวใจ ทำให้มีการเพิ่มขึ้นของแรงดันในถุงเยื่อหุ้มหัวใจและกดเบียดหัวใจ ทำให้เลือดดำไหล
กลับเข้าสู่หัวใจห้องขวาระหว่างที่หัวใจคลายตัว (ventricular diastolic filling) ไม่ได้ ส่งผลให้มีการลดลงของปริมาณ
เลือดที่ออกจากหัวใจห้องซ้าย (cardiac output) เกิดความดันเลือดต่ำและภาวะช็อคตามมา