เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 516 บอกมา คุณเคยใช้มากี่ครั้งแล้ว
บทที่ 516 บอกมา คุณเคยใช้มากี่ครั้งแล้ว
ทีแรกตัดสินใจจะใช้วิธีส่องกล้องดูกระเพาะแบบธรรมดา แต่เมื่อพิจารณาถึงความร่วมมือในการรักษาของเด็ก วิธีนี้ต้องไม่ดีแน่!
นอกจากนี้ หากต้องการจะนำห่วงฝากระป๋องออกมา ก็ยิ่งให้เขาขยับมั่วซั่วไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจวางยาสลบก่อนแล้วค่อยว่ากัน
หลังจากสอดกล้องส่องกระเพาะเข้าไปในหลอดอาหารแล้ว ก็ตรวจดูรอบๆ อย่างระมัดระวัง ตรวจสอบบนหลอดอาหารอย่างละเอียดว่ามีการบาดเจ็บหรือไม่
เฮ่อจื้อเฉียงยังอายุไม่มาก ประมาณสามสิบเท่านั้น เป็นคนค่อนข้างระมัดระวัง หลอดอาหารของเด็กเดิมทีก็ไม่ได้ยาวมากอยู่แล้ว เขาสอดไปสอดกลับดูสามรอบ แล้วถึงได้บอกว่า “ไม่มีปัญหา ไม่มีการบาดเจ็บที่หลอดอาหาร”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ผู้ปกครองของเด็กถึงได้โล่งใจ
เฮ่อจื้อเฉียงส่องกล้องต่อไป สุดท้ายก็เห็นห่วงฝากระป๋องโลหะชิ้นหนึ่งตรงกระเพาะอาหารส่วนต้นแล้ว เนื่องจากห่วงฝากระป๋องถูกบิออก สถานการณ์จึงค่อนข้างพิเศษ แต่มุมขอบโดยรอบชัดเจน ถึงขั้นว่าจุดที่หักยังมีปลายแหลมที่ค่อนข้างคมกระดกขึ้นมาด้วย
สิ่งนี้ทำให้เฮ่อจื้อเฉียงเริ่มขมวดคิ้วทันที!
ตอนนี้ผู้ปกครองกำลังมองภาพบนหน้าจออยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะกลัวว่าจะรบกวนการพิจารณาของหมอ
แต่เมื่อเห็นว่าเฮ่อจื้อเฉียงไม่พูดอะไรเสียที หญิงสาวยังอดถามเสียงเบาไม่ได้ว่า“คุณหมอคะ…คุณแค่นำมันออกมาเฉยๆ ไม่ได้เหรอคะ”
เฮ่อจื้อเฉียงชะงักทันที ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ “ถ้าง่ายอย่างนั้นก็คงดีสิครับ!”
“ตอนนี้รอบห่วงฝากระป๋องคมมาก ถ้าตอนนี้ผมดึงมันออกมาเลย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะทำให้ผนังด้านในบาดเจ็บ ตอนนั้นกลับตอนนี้ไม่เหมือนกัน ด้วยความลื่นของนมกับการบีบรูดของหลอดอาหาร ตอนที่กลืนมันลงไป มันอาจไม่ทำร้ายผนังด้านใน แต่ถ้าคุณจะฝืนดึงมันออกมา นั่นก็พูดยากแล้ว…
…ถ้าทำให้หลอดอาหารเสียหาย ก็ต้องผ่าตัดรักษาหลอดอาหารอีก แบบนั้นก็จะยุ่งยากมากครับ”
เมื่อได้ยินเฮ่อจื้อเฉียงอธิบาย พ่อแม่ของเด็กชายก็หน้าเปลี่ยนสีทันที
ฉินเยว่กับเฉินชางก็กำลังจ้องหน้าจอทีวีเช่นกัน เฉินชางเริ่มครุ่นคิดว่าจะเปลี่ยนมุมเพื่อดึงฝากระป๋องโลหะออกมาได้หรือไม่
แต่…เนื่องจากการใช้กล้องแหย่เข้าไปไม่นิ่งเท่ากันใช้คีม ตอนที่ดึงออกมา ถ้าทิศทางเบี่ยงเบนไปนิดเดียวก็จะเกิดปัญหาได้ง่าย
แล้วจะทำยังไงดี
คงไม่ซับซ้อนถึงขั้นผ่าตัดเปิดหน้าท้องเพราะต้องนำห่วงฝากระป๋องชิ้นเดียวออกมาหรอกใช่ไหม
แบบนั้น…ไม่จำเป็นเลย!
ดังนั้น ตอนนี้ทุกคนจึงเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ลำบาก
แล้วควรจะทำยังไงกันแน่
เฉินชางเองก็ไตร่ตรองไม่หยุดเช่นกันว่าควรจะทำอย่างไรดี อย่าบอกนะว่าต้องเสียหินจำลองหนึ่งก้อน แล้วลองนำมันออกมาด้วยตัวเอง
แต่…แบบนี้ไม่ค่อยจำเป็นนะ!
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็ก้มหน้า เห็นถุงมือของเฮ่อจื้อเฉียงพอดี…
เฉินชางตาเป็นประกายทันที ราวกับเจอเบาะแสอะไรบางอย่างแล้ว
ใช่แล้ว!
ถ้านำของบางอย่างไปห่อห่วงฝากระป๋องที่แหลมคมไว้ จากนั้นก็ค่อยดึงออกมาได้หรือเปล่า
มีอะไรที่ห่อได้…
ทั้งยังทำให้ไหลลื่นด้วย ทำให้เกิดการหล่อลื่นระหว่างห่วงฝากระป๋องกับผนังหลอดอาหาร ลดการเสียดสี
ตอนนี้ จู่ๆ เฉินชางก็นึกขึ้นได้ถึงของดีบางอย่าง!
เขาตาเป็นประกายทันที แล้วบอกเฮ่อจื้อเฉียงว่า “เหล่าเฮ่อ คุณรอผมสักครู่ สองนาที”
เฉินชางลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปข้างนอก
ใต้ตึกห้องส่องกล้องเป็นแผนกตรวจร่างกายครบวงจร ข้างในมีห้องอัลตร้าซาวด์
ที่จริงแม้จะยังไม่ถึงเวลาเข้างาน แต่ตรงประตูห้องอัลตร้าซาวด์ก็มีคนมายืนต่อแถวเต็มแล้ว
เฉินชางให้พยาบาลเปิดประตูแล้วเข้าไปทันที
แพทย์เวรคือหมอสาวคนหนึ่ง เธอชื่อจางตันนี พอเห็นเฉินชางวิ่งเข้ามา เธอก็ยิ้มทักทายทันที “หัวหน้าแผนกเฉิน ทำไมมีเวลาว่างมาแผนกพวกเราได้คะ”
เฉินชางยิ้มตอบ “หมอจาง มีห่วงคุมกำเนิดให้ผมสักสองอันไหมครับ”
จางตันนีตะลึงทันที “คุณจะเอาไปทำอะไร”
ขณะที่พูดก็เปิดลิ้นชักแล้วฉีกส่งมาให้เจ็ดแปดอัน “เอาไปให้หมดเลยก็ได้ค่ะ”
เฉินชางยิ้มเขินๆ “ไม่ต้องใช้เยอะขนาดนั้นครับ! ห้องส่องกล้องต้องใช้ เอามาแค่สองอันก็พอ!”
จางตันนีได้ฟังแล้วนึกสงสัย “ห้องส่องกล้อง? พวกเขาจะเอามันไปทำอะไรคะ”
โดยปกติห้องอัลตราซาวด์ต้องทำอัลตราซาวด์เยอะมาก ในจำนวนนั้นรวมถึงการตรวจอัลตร้าซาวด์ทางช่องคลอดซึ่งต้องใช้ห่วงคุมกำเนิดด้วย
ตอนแรกเฉินชางก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมห้องอัลตร้าซาวด์ต้องมีสิ่งนี้ จนกระทั่งได้เห็นเองกับตาถึงได้เข้าใจ
เฉินชางเล่าสถานการณ์ให้ฟังคร่าวๆ จางตันนีตาเป็นประกายทันที เบิกตากว้างมองเฉินชาง “คุณนี่มีพรสวรรค์จริงๆ เลยนะคะ!”
เฉินชางยิ้มเรียบๆ “แค่ลองดูครับ!”
จางตันนีเกิดความคิดชั่ววูบ เริ่มสนใจแล้วเหมือนกัน “ไปค่ะ ไปดูด้วยกัน”
เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเข้างาน จางตันนีจะออกไปข้างนอกก็ไม่เป็นอะไร
ทั้งสองเดินเคียงกันมาจนถึงห้องห้องส่องกล้อง พอเฮ่อจื้อเฉียงเห็นจางตันนีมาด้วยก็งงทันที “หมอจาง คุณมาได้ยังไง”
“ฉันมาดูหัวหน้าแผนกเฉินสร้างปฏิหารย์ค่ะ!” จางตันนีตอบยิ้มๆ
ตอนนี้เฉินชางฉีกถุงห่อห่วงคุมกำเนิดแล้ว บอกเฮ่อจื้อเฉียงว่า “เหล่าเฮ่อ ผมคิดว่าพวกเราควรเปิดสิ่งนี้ออก แล้วก็ใช้เครื่องแหย่ยัดเข้าไปในท้อง จากนั้นยัดห่วงฝากระป๋องโลหะเข้าไป แล้วค่อยใช้ห่วงคุมกำเนิดนำมันออกมา ด้านนอกของมันมีน้ำมันหล่อลื่นอยู่หนึ่งชั้นพอดี ใช้เป็นสารหล่อลื่นให้ผนังหลอดอาหารได้!”
หลังจากเฮ่อจื้อเฉียงได้ยิน ก็ถูกสยบด้วยความคิดที่มีพรสวรรค์ของเฉินชางแล้วเหมือนกัน!
เขาตาเป็นประกาย “ใช้ได้เลย!”
ขณะที่พูด เขาก็นำกล้องส่องออกมา จากนั้นเปิดห่วงคุมกำเนิด แล้วยัดเข้าไปตามหลอดอาหารของเด็กชาย ยังดีที่ในกระเพาะมีพื้นที่ว่างค่อนข้างมาก มีพื้นที่ให้ทำงาน!
เฮ่อจื้อเฉียงขยับไปมา ยัดห่วงฝากระป๋องโลหะเข้าไปในห่วงคุมกำเนิดด้วยความระมัดระวัง
ขั้นตอนนี้ค่อนข้างทดสอบฝีมือ เฮ่อจื้อเฉียงขยับไปมาอยู่หลายครั้ง ไม่ง่ายเลยกว่าจะจัดห่วงฝากระป๋องยัดเข้าไปในห่วงคุมกำเนิดได้!
คนที่อยู่รอบๆ ดีใจไปกับเขาทันที!
สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว!
ต่อจากนั้น เฮ่อจื้อเฉียงก็ดึงห่วงคุมกำเนิดที่บรรจุห่วงฝากระป๋องออกมาด้วยความระมัดระวัง
ต้องกล่าวว่าการหล่อลื่นมีประโยชน์มาก ไม่เกิดอุปสรรคแม้แต่น้อย
ทั้งขั้นตอนราบรื่นมาก ไม่นานก็นำห่วงฝากระป๋องออกจากกระเพาะของเด็กชายได้แล้ว!
ชั่วขณะนั้น คนที่อยู่รอบๆ พากันดีใจแล้ว!
ขณะมองห่วงคุมกำเนิดที่บรรจุห่วงฝากระป๋องโลหะ ทุกคนก็อดดีใจไม่ได้
ใครจะไปคิดว่าห่วงคุมกำเนิดเล็กๆ จะกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่กลืนลงไปได้
พอนึกถึงตรงนี้ เฮ่อจื้อเฉียงก็อดถามไม่ได้ว่า “เฉินชาง คุณเจ๋งสุดๆ เลย!”
จางตันนีได้เห็นเองกับตา ก็อดชมไม่ได้เช่นกัน “การที่คิดวิธีนี้ได้ เฉินชาง คุณนี่ช่างมีพรสวรรค์จริงๆ!”
ยัยฉินขี้ประจบมองเฉินชางตาเขม็ง ในใจเริ่มส่งเสียงเชียร์แล้ว เฉินชางอันดับหนึ่งในใต้หล้า!
ต้องบอกเลยว่าวิธีการนี้ของเฉินชางเป็นวิธีการที่มาจากพรสวรรค์จริงๆ จะมีใครบ้างที่คิดได้ว่าห่วงคุมกำเนิดจะมีวิธีการใช้งานที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้
ผู้ปกครองอุ้มเด็กขึ้นมา แล้วเดินตามเฉินชางกับฉินเยว่กลับไปที่ห้องสังเกตอาการ ทีเหลือก็รอให้เด็กฟื้นขึ้นมา
ระหว่างทางเขากล่าวขอบคุณเฉินชางไม่หยุด!
อย่างไรเสีย ถ้าไม่ใช่เฉินชางที่คิดถึงวิธีการนี้ได้ ก็ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะจัดการอย่างไรดี
แม้อีกฝ่ายจะกำลังชมเฉินชาง แต่ในใจฉินเยว่ก็รู้สึกดีมาก เหมือนตัวเองกำลังถูกชม!
หลังจากทั้งสองจัดการผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกจากห้องสังเกตอาการ
ฉินเยว่หันตัวมา เบิกตากว้างมองเฉินชาง “คุณเก่งจริงๆ!”
เฉินชางยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “คุณเพิ่งรู้เหรอ? ฮ่าๆๆ…”
แต่พอผ่านไปครู่เดียว ฉินเยว่ก็จ้องเฉินชางอีก เธอพูดสิ่งที่สื่อความหมายล้ำลึก “ตอบมาซะดีๆ คุณไปหาแรงบันดาลใจมาจากไหน!”
เฉินชางตะลึงงัน!
ฉินเยว่หรี่ตา “บอกมาค่ะ คุณเคยใช้ไปกี่ครั้งแล้ว!”
เฉินชาง “…”
ควรจะตอบยังไงดีล่ะ?
เฮ้อ…
ผู้หญิงนะผู้หญิง!