เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 518 ฉินเสี้ยวยวน ขายลูกสาวแลกเกียรติยศ
บทที่ 518 ฉินเสี้ยวยวน ขายลูกสาวแลกเกียรติยศ
จู่ๆ เฉียนเลี่ยงก็ตบโต๊ะดังปั้ง!
“ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว ว่าทำไมเฉินชางไม่ออกจากโรงพยาบาลอันดับสอง!”
เขาทำให้หวังเซี่ยงจวินตกใจ เมื่อเห็นเขามีท่าทีแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม หวังเซี่ยงจวินก็งงนิดหน่อย
“เพราะอะไร”
เฉียนเลี่ยงหรี่ตาตอบ “นายลองคิดดูสิ สำหรับเฉินชางแล้ว โรงพยาบาลอันดับสองที่ไม่มีการดูแล หรือสวัสดิการพิเศษ ถ้าเทียบกับผลงานของเสี่ยวเฉิน โรงพยาบาลอันดับสองเหมือนจะไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับเรื่องนี้ ถึงขนาดว่า…แม้แต่รางวัลที่ให้ก็ให้ตามกฎหมาย เขาไม่กลัวว่าเสี่ยวเฉินจะหนีไปเหรอ”
“ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ฉินเสี้ยวยวนนั่นเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์จริงๆ ด้วย! จิ้งจอกเฒ่าที่รู้หน้าไม่รู้ใจ!”
หวังเซี่ยงจวินงงทันที “เหล่าเฉียน พูดให้ชัดเจนหน่อย ทำไมฉันฟังไม่เข้าใจ!”
เฉียนเลี่ยงหัวเราะแห้งๆ แล้วชี้ไปที่สาวน้อยคนหนึ่งบนรูปภาพพร้อมบอกว่า “นายดูนี่สิ!”
หวังเซี่ยงจวินเพ่งมองอย่างตั้งใจ “อืม สวยมากเลย!”
เฉียนเลี่ยง “…”
“นายรู้ไหมว่าเธอเป็นใคร”
หวังเซี่ยงจวินส่ายหน้า อย่าบอกนะว่า…เบื้องหลังยังมีอะไรซ่อนอยู่อีก
เป็นอย่างที่คาดไว้ เฉียนเลี่ยงคายความลับออกมาอย่างช้าๆ “ฉินเยว่ เป็นลูกสาวคนเดียวของฉินเสี้ยวยวน!”
พอได้ยินคำตอบแบบนี้ หวังเซี่ยงจวินก็สูดหายใจเฮือกด้วยความตกตะลึง
โอ้ เด็กดีของฉัน!
ผู้อำนนวยการฉินคนนี้ควักทุนเก่ามาใช้ชัดๆ
อีกฝ่ายฝากฝังลูกสาวให้นายแล้ว นายยังจะต้องการอะไรอีกล่ะ
พอนึกถึงตรงนี้ หวังเซี่ยงจวินกับเฉียนเลี่ยงก็สบตากันแวบหนึ่ง มองออกเลยว่าในสายตาของพวกเขามีสิ่งที่เรียกว่า ‘ความหวาดกลัว’
โคตรโหดเลย!
โหดเกินไปจริงๆ
ในสายตาของทั้งสองตอนนี้ ฉินเสี้ยวยวนกลายเป็นมารร้ายที่ ‘ขายลูกสาวแลกเกียรติยศ’ และ ‘หน้าเนื้อใจเสือ’ ไปแล้ว!
หลังจากเงียบไปนาน…
จู่ๆ ทั้งสองก็พูดพร้อมกัน
“เหล่าเฉียน นายมีลูกสาวหรือเปล่า”
“เหล่าหวัง นายมีลูกสาวหรือเปล่า”
ทั้งสองชะงักพร้อมกัน!
เฉียนเลี่ยงกลอกตามองบน “ใช่ว่านายจะไม่รู้ ลูกสาวฉันแต่งงานงานไปหมดแล้วไม่ใช่หรือไง!”
หวังเซี่ยงจวินก็ยิ่งถลึงตาใส่ “ตอนที่ลูกชายฉันเกิด นายยังตั้งชื่อเล่นให้อยู่เลย จำไม่ได้หรือไง!”
ทั้งสองมองหน้ากันเลิกลั่ก แล้วก็ถอนหายใจอีก
จนใจ…จนปัญญา!
ผ่านไปครู่เดียว จู่ๆ หวังเซี่ยงจวินก็ถามอีกว่า “หรือไม่อย่างนั้น…ส่งเสี่ยวเมิ่งมาให้ฉัน ย้ายไปที่แผนกฉันเป็นไง”
เฉียนเลี่ยงกลอกตาใส่ “พอแล้วๆ เลิกทำเป็นเล่นได้แล้ว!”
หวังเซี่ยงจวินได้ยินแล้วถลึงตา “ฉันทำเป็นเล่นยังไง ฉันคำนึงถึงแผนกของพวกเรา คำนึงถึงโรงพยาบาลของพวกเราอยู่นะ!”
“ค่อยคิดหาวิธีอื่นแล้วกัน” เฉียนเลี่ยงส่ายหน้า
“ฉันมีอยู่วิธีการหนึ่ง!” จู่ๆ หวังเซี่ยงจวินก็พูดขึ้น
“วิธีการอะไร” เฉียนเลี่ยงถาม
หวังเซี่ยงจวินหรี่ตายิ้ม “วันนี้เช้าฉันจะไปรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินที่โรงพยาบาลอันดับสองสักรอบ ไม่ได้ ที่นั่นว่างจะตาย ที่นั่นเหมือนสถานที่พักผ่อนตอนเกษียณอายุสำหรับเสี่ยวเฉิน ไม่สู้ส่งตัวเขามาหาพวกเราดีกว่า พวกเราจะได้หาอะไรให้พวกเขาฝึกฝนสักหน่อย!”
“เดี่ยวฉันจะโทรหาหัวหน้าเหอฝั่งศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน 120 ให้เขาไปด้วยกัน บอกว่าช่วงนี้โรงพยาบาลเรางานยุ่งมาก ขอยืมตัวเสี่ยวเฉินมาช่วยงานสักระยะ!”
พอนึกถึงตรงนี้ หวังเซี่ยงจวินก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก!
…
…
เวลาประมาณสิบนาฬิกากว่าๆ หลี่เป่าซานรับโทรศัพท์ ได้ความว่าเหอทง หัวหน้าศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินกับหวังเซี่ยงจวิน หัวหน้าแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลตงต้ากำลังจะมาที่โรงพยาบาล พวกเขามีธุระสำคัญจะปรึกษากัน
หลังจากได้ข่าว หลี่เป่าซานก็พลันเกิดลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่เป็นมงคล!
เถามี่กับหลี่เป่าซานเพิ่งผ่าตัดเสร็จพอดี ขณะมองหลี่เป่าซานทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เขาก็ถามทันทีว่า “เป็นอะไรไป เหล่าหลี่”
หลี่เป่าซานขมวดคิ้วเล็กน้อย “หวังเซี่ยงจวินกับหัวหน้าเหอของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินกำลังจะมา ไม่รู้ว่ามีธุระอะไร”
พอเถามี่ได้ฟัง ก็ถามทันทีว่า “หืม ฉันกับเหล่าเหอก็สนิทกันอยู่นะ หรือจะให้ไปเจอด้วยกันไหมล่ะ”
หลี่เป่าซานพยักหน้า!
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็นั่งอยู่ในห้องทำงานของหัวหน้าแผนกฉุกเฉินแล้ว
หวังเซี่ยงจวินคิดแผนรับมือไว้เรียบร้อยแล้ว หลี่ถ่านดำ นายมีกลยุทธ์สาวงามของนาย ฉันก็มีกลยุทธ์ทุกข์กาย[1]ของฉันเหมือนกัน!
ถ้าไม่ได้ผลค่อยใช้กลยุทธ์ล่อเสือออกจากถ้ำ!
หวังเซี่ยงจวินกลั่นความรู้สึกอยู่นานมาก แต่…ก็ยังร้องไห้ไม่ออกอยู่ดี
เหอทงมองหวังเซี่ยงจวินที่กำลังพยายามแสดงออกทางสีหน้า มุมปากกระตุกทันที ขี้เหร่จริงๆ!
หลังจากผ่านไปนานจนทุกคนทยอยกันนั่งลงหมดแล้ว
หวังเซี่ยงจวินก็ถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่งแล้วพูดเข้าประเด็นเลย “เฮ้อ…เหล่าหลี่ครับ!”
ประโยคนี้ฟังดูเปี่ยมด้วยน้ำใสใจจริง ทำให้หลี่เป่าซานงงงวยทันที “หัวหน้าหวัง…คุณเป็นอะไรไป”
หวังเซี่ยงจวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง “ช่วงนี้เหนื่อยมาก ทั้งสัปดาห์ผมนอนไม่ถึงสี่สิบชั่วโมง เมื่อคืนก็ตีสองกว่าจะได้นอน งานยุ่งเกินไปแล้ว!”
หลี่เป่าซานเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง พอนึกถึงแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลตงต้าของหวังเซี่ยงจวิน ก็พยักหน้าอย่างเกรงใจเล็กน้อย “ใช่แล้ว แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลตงต้ารับหน้าที่หนักจริงๆ หัวหน้าหวังลำบากแล้ว”
พอเห็นว่าทำแบบนี้ได้ผล หวังเซี่ยงจวินก็ตาแดงทันที “ผมไม่กลัวลำบากหรอก ไม่กลัวเหนื่อยด้วย นี่คือคุณสมบัติพื้นฐานที่บุคลากรแผนกฉุกเฉินควรจะมี คุณว่าถูกไหมครับ เหล่าหลี่!”
“ไม่ผิดหรอก” หลี่เป่าซานพยักหน้า
หวังเซี่ยงจวินพูดต่อ “แต่พูดตามตรงนะ หมอแผนกฉุกเฉินก็ต้องฝึกฝนแบบนี้ นึกถึงพวกเราตอนนั้นเลย วันหนึ่งผ่าตัดตั้งหลายเคส ถูกไหมล่ะ ถ้าไม่มีผู้ป่วย ไม่มีการรักษาฉุกเฉิน ไม่มีเคสผู้ป่วย แล้วเราจะพัฒนาตัวเองได้ยังไงล่ะ คุณว่าไหมเหล่าหลี่”
หลี่เป่าซานเห็นด้วยอย่างลึกซึ้ง “ใช่แล้ว สมัยพวกเราน่ะ มีแผนกฉุกเฉินเยอะขนาดนี้ที่ไหนกัน แต่ผู้ป่วยมีเยอะขนาดนั้น ทุกวัน…แต่แบบนั้นก็เลื่อนตำแหน่งได้เร็วจริงๆ!”
หวังเซี่ยงจวินพยายามต่อไป “ดังนั้น ที่ผมมาวันนี้ ก็เพราะอยากจะร่วมงานกับหัวหน้าหลี่ ผมรู้สึกว่าโรงพยาบาลพี่น้องอย่างพวกเราควรเสริมความร่วมมือ ช่วยยกระดับซึ่งกันและกัน ผมกำลังคิดว่าจะพาแพทย์ผู้ช่วยของหัวหน้าหลี่ไปฝึกสักหน่อย พาไปฝึกฝนยกระดับความสามารถ หนึ่งคือจะช่วยยกระดับการรักษาฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองได้ สองคือช่วยลดความกดดันที่อยู่ตรงหน้าพวกเราได้”
“หัวหน้าหลี่ คุณว่าวิธีการนี้เป็นยังไงบ้างครับ”
พอหลี่เป่าซานได้ยิน สีหน้าก็ดำมืดทันที พูดมาตั้งนาน พูดจาอ้อมไปอ้อมมา ที่แท้ก็อยากได้คนไม่ใช่เหรอ
ถูกใจใครเข้าแล้วล่ะ
“อืม! ก็พูดถูก ถ้าอย่างนั้น ผมให้เสี่ยวเฉินไปฝึกสักหน่อยเป็นไง” หลี่เป่าซานให้ความร่วมมือมาก
หวังเซี่ยงจวินตบต้นขาอย่างอดไม่ไหว “ดีเลย! ผมว่าดีมากเลย ผมจะ…”
“ดีเหรอ ดีกับผีน่ะสิ!” หลี่เป่าซานแสยะยิ้ม
หวังเซี่ยงจวินหัวใจกระตุกวูบ แม่งเอ๊ย…ฉันเผยพิรุธแล้วเหรอ
เหอทงที่อยู่ข้างๆ เห็นท่าทางของทั้งสอง ก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ “พอแล้วๆ ทั้งคู่ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ที่จริงช่วงนี้โรงพยาบาลตงต้ามีแรงกดดันมากจริงๆ ที่ผมมาวันนี้…”
หลี่เป่าซานมองเหอทง “เหล่าเหอ ผมมองคุณผิดไป นึกไม่ถึงว่าจะเป็นคนแบบนี้! เป็นไปกับหวังเซี่ยงจวินด้วย…”
เหอทงยิ้มอย่างเก้อเขิน ก่อนจะบอกว่า “เป่าซาน คุณอย่าโกรธเลยนะ ฟังผมพูดให้จบก่อน!…
…จุดประสงค์ที่ผมมา ก็เพื่อจะถามความเห็นคุณสักหน่อย คุณว่าโรงพยาบาลอันดับสองจะสร้างทีมกู้ชีพที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้หรือเปล่า สาเหตุหลักเป็นเพราะเคสอุบัติเหตุทางรถยนต์จำเป็นต้องมีการผ่าตัดด่วน ยังไงตอนนี้ทรัพยากรในการกู้ชีพก็มีจำกัด ถ้าโรงพยาบาลอันดับสองลุกขึ้นมาสนับสนุนเรื่องนี้ ผมเชื่อว่าการกู้ชีพจะมีอัตราสำเร็จเพิ่มขึ้นไม่น้อยแน่! แบบนี้ผมจะได้วางใจให้ 120 ส่งผู้ป่วยมาเหมือนกัน…
…ทีมนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากแผนกศัลยกรรมหัวใจ แผนกศัลยกรรมกระดูก แผนกศัลยกรรมทั่วไปมาร่วมกันกู้ชีพ”
พอหลี่เป่าซานฟังถึงตรงนี้ ก็บอกว่า “หัวหน้าเหอ เอาอย่างนี้แล้วกัน พรุ่งนี้ผมจะให้คำตอบคุณ!”
[1] กลยุทธ์ทุกข์กาย 苦肉计 เป็นกลยุทธ์ยามพ่ายจากเรื่องสามก๊ก มีหลักการคือทำร้ายตัวเองให้บาดเจ็บเพื่อให้ศัตรูหลงเชื่อ
———————