เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 520 คนขับรถเก่าแก่แผนกฉุกเฉิน
บทที่ 520 คนขับรถเก่าแก่แผนกฉุกเฉิน
ตอนที่ฉินเสี้ยวยวนกับหลี่เป่าซานกำหนดรายชื่อสมาชิกแล้ว พวกเขาก็ประกาศทันที
นับว่าก่อตั้งทีมนี้ยังเป็นทางการแล้ว
มีเฉินชางเป็นผู้รับผิดชอบ ผู้ช่วยมีทั้งหมดสี่คนได้แก่ หวังข่ายอัน จางเหวินฟู่ หวังเชียน โจวเสี่ยวตง
หลังจากประกาศรายชื่อ ในโรงพยาบาลก็มีกระแสฮือฮาเกิดขึ้นไม่บ่อย
เป็นทีมแพทย์ที่อายุน้อยจริงๆ ตั้งแต่ผู้รับผิดชอบทีมไปยันสมาชิกทีม ทุกคนอายุน้อยหมด
เฉินชางก็ยิ่งอายุไม่เกินสามสิบปี!
ขณะที่คนกำลังทอดถอนใจ ก็ต้องมีคนสงสัยและกังวลอยู่บ้างเช่นกัน
เนื่องจากแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองไม่ได้เข้มแข็ง ไม่อย่างนั้นคงไม่นานๆ ทีค่อยส่งผู้ป่วยฉุกเฉินมาหรอก
นอกเสียจากจะยืนยันได้ว่าหัวหน้าแผนกแต่ละคนเข้าร่วมการผ่าตัดได้ ถึงจะมีการส่งผู้ป่วยฉุกเฉินมา
ซึ่งก็คือห้องผ่าตัดหมายเลขสามก่อนหน้านี้นั่นเอง
แต่ตอนนี้โรงพยาบาลอันดับสองสร้างทีมกู้ชีพฉุกเฉินนี้ขึ้นมาแล้ว สถานการณ์แตกต่างออกไปแล้ว!
หมายความว่าต้องรับงานที่แบ่งมาจากศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน รับตารางงานและและงานกู้ชีพฉุกเฉินได้ทุกเมื่อ
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การทดสอบแผนกฉุกเฉินเท่านั้น แต่เป็นการทดสอบที่เข้มงวดสำหรับทั้งโรงพยาบาลอันดับสอง
มีการทดสอบแบบนี้ แต่ดันส่งทีมที่อายุน้อยขนาดนี้ออกไป!
และผู้รับผิดชอบก็คือเฉินชางที่ตอนนี้กำลังเป็นจุดสนใจ!
เรื่องนี้ทำให้ทุกคนค่อนข้างเป็นห่วงว่า เขา…จะทำไหวเหรอ
ไม่ใช่ว่าดูถูก แต่เป็นห่วงด้วยความจริงใจ!
ถึงอย่างไร งานกู้ชีพแบบนี้ก็ไม่เหมือนงานของแผนกฉุกเฉินในเวลาปกติ การกู้ชีพแบบนี้ล้วนเป็นผู้ป่วยวิกฤตที่มีอันตรายถึงชีวิตทั้งนั้น
หลี่เป่าซานมองเฉินชาง “คุณมีความมั่นใจหรือเปล่า”
เฉินชางสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ใครจะพูดได้ว่าตัวเองมั่นใจ ยามเผชิญหน้ากับชีวิต ไม่มีใครกล้าพูดเสียงดังทั้งนั้น!
แต่เฉินชางตอบอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ผมมีความตั้งใจแน่วแน่ครับ!”
หลังจากหลี่เป่าซานได้ฟัง ก็ตบบ่าเฉินชางพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สู้ๆ คุณยังมีพวกเรา!”
หลังจากพูดจบ หลี่เป่าซานก็ลุกขึ้นเดินออกไป แต่ยังหันตัวกลับมาพูดเสริมอีกว่า “ไม่ต้องกลัว มีเรื่องอะไรผมจะแบกรับให้คุณเอง ถ้าเกิดปัญหาขึ้น ผมจะรับผิดชอบแทนคุณ!”
เฉินชางได้ฟังแล้วอดตัวสั่นไม่ได้ ในใจเกิดความซาบซึ้งมากขึ้นหลายส่วน
ตอนมองเงาหลังที่บอบบางของหัวหน้าหลี่ เฉินชางกำหมัดแน่น
….
….
ทหารใหม่ออกรบ มักจะมีน้ำเย็นสาดหน้าเรียกสติ ทำให้พวกเขารับรู้อย่างชัดเจน ว่าตัวเองก็เป็นแค่ทหารใหม่เท่านั้น
นี่ก็คือ ‘การรังแกคนใหม่’ ที่มีอยู่ทุกวงการอาชีพ!
แผนกฉุกเฉินก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น หลังจากตั้งทีมกู้ชีพฉุกเฉินแล้ว ตอนเที่ยงของวันนั้นศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินก็โทรศัพท์เข้ามา
เขตก่อสร้างของเฉาหยางใต้เกิดอุบัติเหตุขึ้น คนขับรถเหล่าหยางเตรียมตัวออกเดินทางทันที ส่วนเฉินชางก็เป็นแนวหน้า นำหวังเชียนก้าวขึ้นรถพยาบาล
ส่วนคนอื่นๆ ก็วางตะเกียบและชามข้าวในมือทันที เริ่มเตรียมตัวทำงานแล้ว
ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงพอดี หลี่เป่าซานกำลังกินมื้อเที่ยง หลังจากได้ข่าวก็ตามมาทันที
ถึงอย่างไรก็เป็นครั้งแรก เขาย่อมมีความกังวลนิดหน่อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนเถามี่กับซย่าเกาเฟิงก็กำลังปรึกษากันเรื่องการแข่งขันทักษะผ่าตัดของปีนี้ คุยไปคุยมาก็คุยไปถึงเรื่องของเฉินชางพอดี แล้วจู่ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากหลี่เป่าซาน
“เหล่าเถา มาที่โรงพยาบาล พวกเขารับเคสผ่าตัดหนึ่งเคส!”
เถามี่ได้ยินแล้ววางตะเกียบทันที แล้วบอกซย่าเกาเฟิงว่า “หัวหน้าแผนกซย่า ผมจะกลับโรงพยาบาลก่อนครับ มีผ่าตัด”
ซย่าเกาเฟิงพยักหน้า แล้วถามว่า “มีผ่าตัดอะไรครับ”
เถามี่ใส่ชุดกาวน์ไปพลางลุกขึ้นยืน “โรงพยาบาลเพิ่งจะตั้งทีมกู้ชีพขึ้นมา เป็นทีมเล็กๆ ที่มีสมาชิกอายุน้อยเกินไป เสี่ยวเฉินเป็นผู้รับผิดชอบ ผมไม่ค่อยวางใจ ก็เลยจะไปดูสักหน่อยครับ!”
ซย่าเกาเฟิงได้ยินแล้วอยากรู้อยากเห็นนิดหน่อย จึงบอกว่า “ให้ผมไปด้วยเถอะครับ”
ขณะที่พูดคุยกัน ทั้งสองก็เก็บของไปด้วย เหลืออาหารที่ยังกินไปได้ไม่เท่าไรไว้เต็มโต๊ะ หลังจากจ่ายเงินแล้ว ก็บอกพนักงานว่า “รบกวนห่อให้ด้วยครับ ส่งไปที่แผนกศัลยกรรมหัวใจของโรงพยาบาลอันดับสอง”
กลัวเปลือง?
ไม่ใช่หรอก
……
……
ระหว่างทางตอนที่อยู่ห่างจากเฉาหยางใต้ไม่ถึงห้านาที เฉินชางก็มองหวังเชียนอย่างสงสัยนิดหน่อย
ในสายตาของเขา หวังเชียนเป็นคนที่ไม่น่าจะเข้ามาอยู่ในทีมกู้ชีพนี้มากที่สุดแล้ว ถึงอย่างไรก็เพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน ฐานะทางบ้านก็ดี ตามหลักแล้วมาที่โรงพยาบาลก็เพื่อหางานที่ภูมิฐานมั่นคง จะมาลำบากเข้าทีมนี้ทำไม
แต่หวังเชียนกลับเข้าร่วมทีมนี้แล้ว
เรื่องนี้ทำให้เฉินชางค่อนข้างสงสัย แต่ตอนนี้ทุกคนไม่มีอารมณ์จะมาพูดคุยกันเรื่อยเปื่อย
ถ้านั่งรถของคนขับรถเหล่าหยางจนชินแล้ว ก็จะรู้สึกว่าการเรียกรถทำให้กระวนกระวายใจเป็นพิเศษ เพราะเหล่าหยางขับรถเร็วแต่มั่นคงมาก ทั้งยังไม่ต้องรอไฟจราจร นี่ก็คือคนขับรถเก่าที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่ง
ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เขาก็คือพนักงานทีมกู้ชีพฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองเหมือนกัน
รถขับเข้ามาในเขตก่อสร้าง ทุกจุดที่ขับผ่านมีฝุ่นดินปลิวว่อน
มองผ่านกระจกกั้น เห็นผู้ชายคนหนึ่งถูกคนล้อมอยู่ตรงกลางพอดี ทุกคนชูมือขึ้นอย่างทำอะไรไม่ถูก
รถเพิ่งเบรคอย่างกะทันหันแต่มั่นคง เฉินชางถือกล่องปฐมพยาบาลวิ่งลงไปพร้อมกับหวังเชียน
เฉินชางพูดกับกลุ่มคนงานว่า “ทุกคนรีบหลีกทางหน่อยครับ!”
พวกพี่ใหญ่กรรมกรรอบๆ รีบหลีกทางให้
ตอนนี้ผู้ป่วยยังไม่สลบ กำลังนอนหายใจอย่างยากลำบากอยู่บนพื้น เขาหลับตา สองมือกุมหน้าอก สีหน้าค่อนข้างน่ากลัว หน้าผากมีเหงื่อไหลไม่หยุด…ไหลหยดลงบนพื้น!
เฉินชางรีบเข้าไปดู ถอดหูฟังแพทย์ออกแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้นครับ เขาบาดเจ็บได้ยังไง!”
ตอนนี้ความรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงทำให้เขาพูดลำบากมาก กำลังอ้าปากหายใจถี่กระชั้น จะมีแรงพูดได้อย่างไรกัน
ตอนนี้กรรมกรคนหนึ่งที่ใส่ชุดลายพรางทหารสีเขียวตอบว่า “ตอนที่เขาเข็นรถเข็นดินลงเนิน จู่ๆ รถก็ชนกับหิน ตัวเองก็เลยชนเข้ากับรถ…
“ตรงนี้ครับ!” กรรมกรชี้ไปที่หน้าอกของผู้ชายคนนี้ แล้วก็ชี้ไปที่รถเข็นดินข้างหน้า “ตอนแรกพวกเราคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆ เขาก็ล้ม พวกเราก็เลยรีบโทรเรียกรถพยาบาลครับ”
พอได้ฟังผู้ชายคนนั้นตอบ ในหัวของเฉินชางก็รีบตรวจสอบและไตร่ตรองว่าเกิดสถานการณ์อะไรขึ้นกันแน่!
ตามที่คนรอบข้างบรรยายมา น่าจะเป็นการบาดเจ็บที่ชนกระแทกตรงหน้าอก…
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฉินชางก็รีบเปิดกล่องปฐมพยาบาล นำกรรไกรออกมาตัดเสื้อของชายคนนี้ออกทันที!
ตอนนี้หน้าอกของเขาเผยออกมาแล้ว!
เขาคือผู้ชายคนหนึ่งที่ผอมจนเห็นหนังหุ้มกระดูก นี่คือความรู้สึกแรกของเฉินชาง เห็นกระดูกซี่โครงแต่ละแถวชัดเจนมาก!
แต่ว่า…สิ่งที่ทำให้เฉินชางเกดเห็นได้ชัดเจนกว่านั้นก็คือ กระดูกซี่โครงข้างซ้ายแถวที่สอง แถวที่สามและแถวที่สี่ล้วนมีการแตกหักในระดับความรุนแรงที่ต่างกัน มีจุดหนึ่งที่เป็นรอยเว้าลงไปชัดมาก
จากนั้นก็…ตรงจุด PMI[1]
เฉินชางอึ้งไปครู่หนึ่ง!
เพราะอิงตามรูปร่างของผู้ป่วยคนนี้ ตอนนี้น่าจะสังเกตตรงจุด PMI ได้เลย แต่ผู้ป่วยไม่มีอาการบอกเหตุใดๆ!
พอคิดได้แบบนี้ เฉินชางก็รีบบอกหวังเชียนว่า “ตรวจความดันเลือด!”
หวังเชียนพยักหน้า ส่วนเฉินชางก็หยิบหูฟังแพทย์ขึ้นมา เราเริ่มตรวจบริเวณหัวใจของผู้ป่วย!
ตรงจุด PMI เสียงหัวใจเบามาก เสียงหัวใจ S1 เบาและมีเสียงแทรก…ตรวจฟังบริเวณหลอดเลือดแดงพัลโมนารี อาร์เทอรี[2]…ตรวจฟังบริเวณหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตา…
เฉินชางพลันหน้าเปลี่ยนสี!
ตอนที่เขาตรวจฟังบริเวณหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตา ก็ได้ยินเสียงแทรกอย่างชัดเจน
ทันใดนั้น หลายเบาะแสก็เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน เฉินชางหน้าเปลี่ยนสีอีกแล้ว
และตอนนี้เอง หวังเชียนก็วัดความดันเลือดเสร็จเช่นกัน!
“ความดันเลือดแค่ 70/30mmHg ครับ!”
[1] จุด PMI หรือ Point of maximum impulse คือตำแหน่งที่มีการเต้นของหัวใจแรงที่สุด ปกติจุดนี้จะอยู่ประมาณเส้นกึ่งกลางอกซ้าย ช่องซี่โครงที่ 5
[2] หลอดเลือดแดงพัลโมนารี อาร์เทอรี (Pulmonary artery) หลอดเลือดที่นำเลือดจากส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นเลือดที่มีปริมาณแก๊สออกซิเจนต่ำจากหัวใจห้องล่างขวา (right ventricle) ไปยังปอด