เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 536 พ่อแม่วัยรุ่นต้องระวัง
บทที่ 536 พ่อแม่วัยรุ่นต้องระวัง
วันนี้เฉินต้าไห่ภูมิใจมาก!
เหล้าเหมาไถสองขวดที่ฉินเยว่นำมาเป็นของขวัญทำให้เขามีความสุขทั้งคืน ไม่ใช่เพราะราคาแพง
แต่สาเหตุหลักเป็นเพราะฉินเยว่มอบของขวัญได้ตรงใจ ถ้าให้เฉินต้าไห่ซื้อเอง เขาจะต้องรู้สึกเสียดายเงินแน่!
ต่อให้ฉินเยว่ไม่พกอะไรติดไม้ติดมือมาด้วย เขาก็มีความสุขมากอยู่ดี แต่…การที่เธอนำเหล้าเหมาไถสองขวดมาด้วย ทำให้เฉินต้าไห่ที่เดิมทีก็มีหน้ามีตาอยู่แล้วรู้สึกภาคภูมิใจสุดๆ
ตอนบ่ายของวันนั้น เขาเรียกเพื่อนกินเพื่อนดื่มมาที่บ้าน แล้วนำเหล้าเหมาไถออกมาโอ้อวด
“นี่ เห็นหรือยัง ลูกสะใภ้ของฉันมาเอามาฝาก ทั้งชีวิตนี้ฉันยังไม่เคยดื่มเหล้าเหมาไถเลยนะ!” เฉินต้าไห่โอ้อวดพร้อมรอยยิ้ม
เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ หยกเหล้าเหมาไถขึ้นมาดู “โอ้ เหล่าเฉิน แกดูสิ นี่มันเหล้าของปี 1999 เลยนะ!”
เหล่าเฉินอึ้งทันที เมื่อครู่ยังไม่สังเกตตรงนี้ เขารีบยกมันขึ้นมาดูให้ละเอียด!
แล้วก็สังเกตเห็นโลโก้ปี 1999 ทันที
หลังจากเห็นแล้ว เหล่าเฉินก็สีหน้าเปลี่ยนฉับพลัน โอ้ลูกรัก นี่เก็บรักษามายี่สิบปีแล้วเหรอ ของล้ำค่าชัดๆ!
พอนึกถึงตรงนี้ เหล่าเฉินก็รีบแย่งขวดเหล้ากลับมาจากมือเพื่อนอย่างระมัดระวัง
“เหอะๆ วันนี้พวกเราไม่ต้องดื่มเหล้าหรอก!”
พอพูดจบเขาก็รีบลุกขึ้น นำเหล้าเหมาไถเก็บใส่กล่องอย่างระมัดระวัง จากนั้นวิ่งเข้าไปในบ้าน ยัดไว้ในอุโมงค์ใต้ดินแล้วล็อกกุญแจไว้อย่างดี พอขึ้นมาแล้วเห็นว่าไม่มีใครเห็นถึงได้โล่งใจ
ลูกรักของพ่อ เหล้าดีแบบนี้ ถ้าให้พวกแกดื่มก็เปลืองแย่น่ะสิ รอให้เฉินชางแต่งงานค่อยเปิดดื่มสักขวด พอลูกอายุครบเดือนก็ดื่มอีกขวด
ใช่แล้ว!
ตอนนั้นค่อยดื่มกับพ่อตา
พอกลับเข้ามาในบ้าน พวกเพื่อนๆ วงเหล้าก็จ้องเหล่าเฉิน “แกเรียกพวกเรามา…แค่เพื่อให้พวกเราดูเหล้าเนี่ยนะ”
เฉินต้าไห่หน้าแดง “ไม่ใช่อยู่แล้ว!”
ขณะที่พูด เขาก็ลุกขึ้นคว้าถั่วลิสงกำใหญ่ “กินถั่ว กินไปคุยไป!”
พวกเพื่อนๆ อับอายจนโมโหทันที!
“ดีจริง ๆ นะ เฉินต้าไห่ ตอนลูกเขยฉันเอาเหล้าอู่เหลียงเย่มาให้ ก็มีแกนี่แหละที่ดื่มบันเทิงสุด”
“ใช่ๆ เหล้าเหล่าเจี้ยวที่ลูกสาวฉันเอามาฝากปีที่แล้ว แกก็ดื่มไปไม่น้อยไม่ใช่เหรอ”
“นั่นเป็นเหล้าเฝินจิ่ว[1]ที่ฉันเก็บสะสมมาสามสิบปีเชียวนะ…”
เฉินต้าไห่หัวเราะลั่น เขาไม่ได้ใส่ใจเลย ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเหล้าเหมาไถที่หมักยี่สิบปี แค่คิดก็มีความสุขแล้ว
“ไม่ใช่ว่าจะไม่ดื่ม แต่สองวันนี้ไม่เหมาะ ฉันบอกแล้วไงว่าลูกสะใภ้ฉันมาบ้านครั้งแรก ถ้าเธอมาเห็นพวกเราดื่ม มันก็จะดูไม่ดีนะ รอให้ถึงวันดีๆ ก่อน แล้วพวกเราค่อยมาดื่มกันสักสองจอก!”
……
……
วันนี้เป็นวันเกิดของหยางจยาฮุ่ย แม่ของเฉินชาง ตอนค่ำคนในครอบครัวมารวมตัวกัน แม้จะไม่มีเค้กวันเกิด แต่ก็มีบะหมี่อายุยืน
ทั้งยังมีอาหารที่เฉินต้าไห่ทำไว้เต็มโต๊ะ
ตอนค่ำ เฉินหลัวโทรศัพท์มาหาแล้วเปิดกล้องคุยกันนานมาก
ทำให้หยางจยาฮุ่ยกับเฉินต้าไห่รู้สึกว่าลูกโตแล้วเช่นกัน
หยางจยาฮุ่ยจูงมือฉินเยว่มาคุยกันสองคน ส่วนเฉินต้าไห่กับเฉินชางก็ดื่มเหล้าขาวนิดหน่อย
ตอนนี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูแรงๆ ดังอยู่พักหนึ่ง
ตามด้วยเสียงร้องไห้งอแงของเด็กน้อย เสียงร้องดังจนแม้จะมีลานบ้านกั้นก็ยังได้ยินชัดเจน
เฉินต้าไห่รีบลุกขึ้นวิ่งไปเปิดประตู เห็นผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กเดินเข้ามา
“ลุงเฉินคะ เฉินชางอยู่บ้านไหม”
เฉินต้าไห่เห็นแล้ว พบว่าเป็นเฉินเยี่ยนนี คนในหมู่บ้าน
“อยู่สิ อยู่สิ รีบเข้ามาในบ้านก่อน เด็กเป็นอะไรไป”
เฉินเยี่ยนนีร้อนใจแทบแย่แล้วเช่นกัน “ลูกฉันข้อแขนหลุดค่ะ แต่เหมือนไม่ได้หลุดปกติ พอฉันไปแตะโดนลูกก็เจ็บมาก”
หมอในหมู่บ้านตอนนี้เป็นหญิงสาวอายุน้อยทั้งนั้น หลังจากหมอเท้าเปล่า[2]รุ่นก่อนแก่ตัวลงแล้วเกษียณ หมออายุน้อยเหล่านั้นก็จะตรวจให้คนไข้แทน งานในแต่ละวันก็ไม่มีอะไรมากนอกจากบันทึกประวัติโรคเรื้อรัง ติดตามอาการผู้ป่วย ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ อะไรทำนองนั้น คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ถ้าไม่สบายก็จะไปโรงพยาบาล
นี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมลูกหลานจึงรับคนแก่ที่อายุมากเกินเข้าไปอยู่ในเมือง เพราะไม่อย่างนั้นถ้าป่วยขึ้นมาจะทำอย่างไร
หมู่บ้านหนานฉวนก็เป็นแบบนี้เช่นกัน เดิมทีมีหมอเท้าเปล่าหนึ่งคน เป็นหมอแพทย์แผนจีน มีทักษะทางการแพทย์สูงมาก แต่หลังจากแก่ตัวลงก็ดูแลตัวเองไม่ได้ ลูกหลานจึงรับไปอยู่ในเมือง ในหมู่บ้านจึงเหลือแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่คอยกรอกประวัติและจัดยา ซึ่งเธอเองก็ไม่เคยเข้าเรียนโรงเรียนแพทย์มาก่อน ได้แต่ฝึกอบรมความรู้ไม่กี่วันเท่านั้น แล้วเธอจะตรวจผู้ป่วยได้อย่างไร
หลังจากอธิบาย เฉินเยี่ยนนีก็รีบบอกว่า “เสี่ยวเฉิน รีบมาดูเร็วเข้า”
ตอนนี้เด็ดร้องไห้ไม่หยุด หลังจากเฉินชางตรวจดูอาการแล้วก็อึ้งทันที
เป็นโรคที่พบได้บ่อยมาก!
‘ข้อศอกเคลื่อนจากการดึง’ หรือเรียกอีกอย่างว่า ‘ข้อศอกหมุน’
ถ้าเรียกให้ดูเป็นมืออาชีพหน่อยก็คือ ‘หัวกระดูกเรเดียสเคลื่อน’!
สถานการณ์แบบนี้พบบ่อยมาก ส่วนใหญ่เป็นเพราะผู้ปกครองไม่ระวัง ไม่ระวังตอนจูงเด็กเดินหรือขึ้นบันได หรือไม่ก็ตอนที่เด็กเผลอสะดุดล้ม ผู้ปกครองดึงมือเด็กไว้อย่างแรงและกะทันหัน ก็จะทำให้เกิดภาวะนี้ได้ง่ายมาก!
ตอนนี้มีผู้ปกครองวัยรุ่นหลายคนที่ไม่ดูลูกเลย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เฉินชางเจอสถานการณ์นี้บ่อยมากตอนอยู่แผนกฉุกเฉิน
อีกทั้งกระดูกของเด็กก็ยังไม่เติบโตเต็มที่ ถ้าหัวกระดูกเรเดียสเคลื่อนไปไกล ตอนที่กลับมาอยู่ตำแหน่งเดิม ครึ่งบนของเอ็นแอนนูลาร์ก็จะหดกลับไม่ทัน ติดอัดอยู่ในข้อต่อกระดูกแขน กลายเป็นหัวกระดูกเรเดียสเคลื่อน
เมื่อเวลานานไปก็จะเกิดปัญหาได้ง่ายมาก!
แต่ตอนที่เด็กเติบโตขึ้นทีละน้อย หัวกระดูกเรเดียสเจริญเติบโตได้ดี เอ็นแอนนูลาร์ก็จะหนาและแข็งแรง ในภายหลังก็จะไม่เกิดภาวะข้อเคลื่อนอีก
เฉินชางมองเด็กพร้อมบอกว่า “วางเด็กลงเถอะครับ”
เฉินเยี่ยนนีรีบพยักหน้า เด็กยังคงร้องไห้โวยวาย ไม่ยอมให้เฉินชางจัลแขนตัวเองเลย
ฉินเยว่รีบหยิบช็อกโกแลตออกมาหนึ่งชิ้น “ไม่ร้องนะ ไม่ร้องครับ น้าจะให้หนูกินอันนี้”
เฉินเยี่ยนนีก็บอกเช่น “คุณอาเป็นหมอ เดี๋ยวก็หายปวดแล้ว ไม่ดื้อนะ”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแรงดึงดูดของช็อกโกแลตหรือเพราะกลัวหมอ เด็กหยุดร้องไห้แล้วจริงๆ
ตอนที่เบี่ยงเบนความสนใจเด็กได้ เฉินชางก็ฉวยโอกาสหงายแขนแล้วดึงข้อศอกก่อน!
จากนั้นใช้นิ้วหัวแม่มือกดตรงหัวเล็กๆ ของกระดูกเรเดียสหน้าข้อศอกอย่างชำนาญ จัดกระดูกข้อต่อศอกให้เข้าที่!
มีเสียงกร๊อบดังขึ้นทันที!
ตอนนี้เด็กน้อยไม่ร้องไห้แล้ว
เฉินชางนำปลอกหมอนผืนหนึ่งในบ้านมาดามแขนให้เด็ก
ตอนนี้เอง พ่อแม่ของเฉินเยี่ยนนีรีบวิ่งเข้ามา พอเห็นว่าเด็กไม่ร้องไห้แล้ว พวกเขาถึงได้โล่งใจ
แต่เฉินชางกลับบอกว่า “กระดูกของเด็กยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ ต่อไปเวลาจูงเด็กก็อย่าออกแรงเยอะนะครับ ไม่อย่างนั้นจะทำให้กลายเป็นข้อเคลื่อนซ้ำซากได้ง่าย แล้วถ้าเกิดข้อเคลื่อนเป็นเวลานานก็ทำใหเกิดภาวะแทรกซ้อนมากมาย ไม่เป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของกระดูกเด็ก ต่อไปก็ระวังหน่อยนะครับ”
เฉินเยี่ยนนีที่กำลังเครียดพยักหน้าซ้ำๆ “ขอบคุณค่ะหมอเฉิน!”
พ่อแม่เฉินเยี่ยนนีงที่ยืนอยู่ข้างหลังก็พยักหน้าเช่นกัน “ได้สิ ได้ๆ เสี่ยวเฉิน เธอนี่ยอดเยี่ยมจริง ประเดี๋ยวเดียวก็รักษาหายแล้ว”
เฉินชางส่ายหน้า “กลับไปดามกระดูกสักหนึ่งสัปดาห์นะครับ อย่าขยับมั่วซั่ว ถึงยังไงเส้นเอ็นก็ถูกดึงจนบาดเจ็บ ถ้าระยะหลังฟื้นตัวได้ไม่ดี ก็จะส่งผลกระทบเยอะมาก!”
เฉินเยี่ยนนีพยักหน้ารัวๆ
เฉินชางถอนหายใจอย่างจนใจ วัยรุ่นสมัยนี้ไม่ใส่ใจดูแลเด็กเท่าคนแก่ ‘ภาวะข้อศอกเคลื่อนจากการดึง’ แบบนี้พบได้น้อยมากถ้าให้คนรุ่นก่อนดูแล แต่ตอนที่อยู่แผนกฉุกเฉิน เขาเจอวัยรุ่นอุ้มลูกวิ่งเข้ามาด้วยอาการนี้บ่อยมาก
เป็นเพราะตอนที่วัยรุ่น ‘เล่นกับเด็ก’ หรือพาเด็กออกไปเล่นมักไม่ระวัง พอออกแรงนิดเดียว ก็ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย ตอนที่จูงเด็กก็สะเพร่ามาก พอเด็กล้มก็กระชากขึ้นมาเลย สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดภาวะหัวกระดูกเรเดียสเคลื่อนได้ง่ายมาก
พ่อแม่วัยรุ่นยุคนี้เลี้ยงลูกประมาทจริงๆ
[1] เฝินจิ่ว เป็นเหล้าขาวจีนที่มีประวัติเก่าแก่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน มีความหอมของสมุนไพรนานาชนิด มีความซับซ้อนของกลิ่นและรสชาติสูงมาก
[2] หมอเท้าเปล่า 赤脚医生 คือ เกษตรกรที่ได้รับการฝึกการแพทย์และผู้ช่วยแพทย์พื้นฐานขั้นต่ำและทำงานในหมู่บ้านชนบทในประเทศจีน