เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 568 คำเชิญของเจิ้งกั๋วถาน
การแสดงความรักที่ประณีตละเอียดอ่อนนี้ ทำให้สถานการณ์เสียการควบคุมทันที
คนไข้หรือญาติคนไข้บางคนที่ฮือฮาอยู่ในห้องผู้ป่วยถึงขั้นเริ่มตบมือขึ้นมา ยังคงโห่ร้องกันว่า “แต่งเลย แต่งเลย!”
ทำให้เฉินชางสีหน้าเปลี่ยนไปทันที จำต้องจับแยก และรีบไล่ทั้งสองคนไป!
จะมาแสดงความรักกันในแผนกฉุกเฉินไม่ได้
ตอนที่ทั้งสองขอบคุณแล้วขอบคุณอีกเตรียมจะจากไป จู่ๆ เฉินชางก็เรียกตัวชายหนุ่มไว้ พูดกับชายหนุ่มว่า “อืม คือ คุณรอเดี๋ยว!”
ชายหนุ่มชะงักไปทันที “มีอะไรครับคุณหมอ”
เฉินชางโบกมือ “ผมมีเรื่องจะถามครับ”
ชายหนุ่มเห็นเฉินชางดูลับๆ ล่อ จึงเดินเข้าไปหา “มีอะไรครับ”
เฉินชางยิ้มอย่างเก้อเขิน “แหวนเพชรของคุณซื้อที่ไหนเหรอครับ”
ชายหนุ่มได้ยินแล้วอดยิ้มไม่ได้ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแนะนำร้านให้เฉินชางหลายร้านก่อนจะจากไป
ตอนนี้ชายหนุ่มมีความสุขมาก ถึงอย่างไรแฟนสาวก็ตั้งครรภ์แล้ว เรื่องสำคัญหลังจากนี้คือรีบแต่งงาน
ตลอดคืนหลังจากนั้นก็สงบมาก
นานๆ ทีเฉินชางจะเจอเวรดึกแบบนี้ เขาทำตัวไม่ถูกนัก จึงกลับห้องเวรไปหลับสักตื่น
เช้าตรู่วันถัดมา อารมณ์สดชื่นแจ่มใส
ฉินเยว่รู้ว่าเฉินชางเข้าเวรดึก จึงเอาอาหารเช้ามาให้แต่เช้า มีไข่ทอดที่ทอดเองและน้ำเต้าหู้ที่ซื้อมา
เพิ่งเจ็ดโมงกว่าก็เร่งรีบวิ่งออกจากบ้านมาส่งอาหารให้เฉินชาง
ฉินเสี้ยวยวนได้ยินว่าฉินเยว่ทำอาหารก็ดีใจมาก ตะโกนว่าลูกสาวโตแล้ว
แต่หลังจากออกมาเห็นโต๊ะว่างเปล่า แม้แต่ขนมปังที่ซื้อไว้เมื่อคืนก็หายไปด้วย พลันชะงักไป
“ภรรยาครับ…คุณกินหมดเลยเหรอ”
จี้หรูอวิ๋นชะงัก “ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยนะคะ”
ฉินเสี้ยวยวนถลึงตา “เมื่อกี้ผมได้ยินเยว่เยว่ทำอาหาร แล้วอาหารล่ะ”
จี้หรูอวิ๋นเหลือบตามองบน “คุณคิดว่าทำให้คุณเหรอคะ”
“เมื่อคืนเสี่ยวเฉินเข้าเวรดึก ลูกสาวคุณปวดใจจนนอนไม่หลับทั้งคืน ตื่นมาเตรียมอาหารเช้าด้วยความรักแต่เช้า คุณคิดว่าจะเผื่อคุณเหรอครับ คิดมากไปแล้ว…”
ฉินเสี้ยวยวนอึ้งไป มองอย่างโง่งมทันที
ครู่ใหญ่จึงส่ายหน้า “ภรรยาครับ ผมอุ่นนมให้นะครับ เฮ้อ…”
……
……
เช้าตรู่คนไข้ไม่เยอะมาก ฉินเยว่กลัวเฉินชางจะเริ่มยุ่งแล้ว จึงวิ่งเหยาะๆ ไปถึงแผนกฉุกเฉิน อากาศค่อนข้างหนาว ในมือถือไข่ทอด ฉินเยว่กลัวว่าจะเย็นจึงใช้สองมือกุมเอาไว้
หลังจากเข้ามา เฉินชางชนเข้ากับเธอพอดี “มีอะไรหรือเปล่าครับ รีบร้อนขนาดนี้”
พวงแก้มฉินเยว่แดงระเรื่อ “ฉันทำอาหารเช้ามาให้คุณค่ะ กลัวว่าจะเย็น…”
เฉินชางมองมือเล็กที่เย็นจนแดงก่ำของฉินเยว่ อดกุมไว้ในมืออย่างปวดใจไม่ได้ “ขอบคุณครับ!”
ฉินเยว่หัวเราะแฮะๆ ก่อนพูดว่า “รีบไปกินข้าวเถอะค่ะ เดี๋ยวจะเย็น ฉันไปดูสักหน่อยว่ามีงานอะไรไหม”
เห็นอาหารเช้าในมือยังอุ่นอยู่ จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าทุกอย่างล้วนมีความสุขมาก
ตอนเช้าหลังจากเปลี่ยนเวรเสร็จ เขาได้พักพอดี เฉินชางเตรียมไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อเลือกของขวัญวันเกิดให้ฉินเยว่
เพิ่งออกจากโรงพยาบาลก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือ
เฉินชางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเห็นว่าเป็นสายจากเจิ้งกั๋วถานก็รับสายทันที
“สวัสดีครับประธานเจิ้ง”
เจิ้งกั๋วถานหัวเราะฮ่าๆ “เสี่ยวเฉิน วันนี้คุณว่างไหมครับ”
เฉินชางพยักหน้า “อืม ตอนนี้หยุดพอดีครับ”
เจิ้งกั๋วถานได้ยินแล้วยิ้มขึ้นมาทันที “งั้นดีมากเลยครับ ทีมแพทย์เวชศาสตร์ความงามจากอเมริกามาถึงก่อนกำหนด เราผ่าตัดวันนี้เลยดีไหมครับ”
เฉินชางได้ยินแบบนี้พลันตอบรับทันที การผ่าตัดเคสหนึ่งใช้เวลาไม่มากนัก อีกอย่างความจริงเฉินชางในตอนนี้ผ่าตัดให้ภรรยาของเจิ้งกั๋วถานเพียงลำพังได้แล้ว
ผ่าตัดรอยแผลเป็นเก่าบวกกับปลูกถ่ายผิวหนัง
เฉินชางในตอนนั้นยังเป็นแค่ไก่อ่อนที่ทำเป็นแค่เย็บแผล แต่เขาในตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมแล้ว จากปืนลูกซองกลายเป็นปืนใหญ่ตั้งนานแล้ว!
เจิ้งกั๋วถานได้ยินแบบนี้พลันยิ้มพูด “งั้นผมส่งคนไปรับคุณนะครับ!”
เฉินชางส่ายหน้าพูด “ผมโบกแท็กซี่ไปดีกว่าครับ ถึงแล้วจะโทรหา”
เจิ้งกั๋วถานยิ้มอย่างอึดอัด “ไม่ต้องครับ ผมอยู่บ้านเดี่ยวอีกหลัง คุณไม่เคยมา ผมส่งคนไปรับคุณนะครับ?”
เฉินชางได้ยินแล้วละอายจนเหงื่อตกทันที ชีวิตคนรวยน่าเบื่อจริงๆ บ้านก็ช่างเยอะจริงๆ
……
ตอนที่เฉินชางเห็นบ้านหลังนี้ก็อดตะลึงไม่ได้ บอกว่าเป็นบ้านเดี่ยวคงเข้าใจผิด นี่มันคฤหาสน์เลยมั้ง
กว้างใหญ่เกินไปแล้ว!
ตอนนี้ในห้องโถงมีคนอยู่เจ็ดแปดคนแล้ว
เพียงแต่ ชายหัวโล้นรูปร่างกำยำคนหนึ่งสะดุดตามาก เขากำลังพูดคุยอย่างออกรสกับเจิ้งกั๋วถาน
เห็นเฉินชางมาถึง เจิ้งกั๋วถานพลันแนะนำพร้อมรอยยิ้ม “ท่านนี้คือเฉินชาง คุณหมอเฉินที่ผมเคยพูดถึงครับ!”
ภาษาอังกฤษของเจิ้งกั๋วถานไม่เลวเลย ถึงอย่างไรเจิ้งกั๋วถานมักเข้าร่วมการประชุมและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศตลอดทั้งปี แม้ล่ามหาง่ายมาก แต่การรู้ภาษาต่างประเทศสำหรับเขาแล้วถือว่ามีประโยชน์มาก
“เสี่ยวเฉิน นี่คือคุณเลน่าคอร์น-ซิตตันที่ผมเคยพูดถึง เป็นประธานบริษัทการลงทุนที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ” เจิ้งกั๋วถานใช้ภาษาจีนแนะนำโดยเฉพาะ
เลน่าคอร์นสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบกว่าเซนติเมตร รูปร่างที่กำยำเหมือนนักลงทุนรายใหญ่เสียที่ไหน เขาทักทายเฉินชางพร้อมรอยยิ้ม “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เฉินชางจับมือตอบรับ “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เลน่าคอร์นได้ยินคำพูดของเฉินชาง ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “ผมชอบสำเนียงของคุณมาก เรียกผมว่าซิตตันก็พอครับ ผมชอบเป็นเพื่อนกับคนที่มีความสามารถมากครับ”
เฉินชางยิ้ม ดูเหมือนว่า นักลงทุนรายใหญ่คนนี้ไม่ได้วางมาดนัก
ขณะนี้เอง เจิ้งกั๋วถานก็พาเฉินชางมาอยู่ตรงหน้าคนกลุ่มใหญ่ ก่อนจะแนะนำว่า “ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ความงามของบริษัทกลุ่มเวชศาสตร์ความงาม CIS จากอเมริกา เดี๋ยวคุณลองคุยกับพวกเขานะครับ”
เฉินชางพยักหน้า
หลังจากแนะนำกันแล้ว เฉินชางรู้ว่าคนที่เป็นแกนนำชื่อว่า ปีเตอร์-โธบี เหมือนจะเป็นคนที่เก่งมาก
ทว่าเห็นได้ชัดมากว่า ตอนแรกทุกคนคิดว่าเฉินชางเป็นเพื่อนของเจ้านายจีนคนนี้
แต่หลังจากนั้น ตอนที่เจิ้งกั๋วถานบอกว่าเฉินชางรับหน้าที่เย็บรอยแผลตอนท้าย ทุกคนก็ตะลึงงันไปทันที
หลังจากพักผ่อนกันครู่หนึ่ง ทุกคนก็ขึ้นไปที่ชั้นสอง
จางอ้ายเซียงเห็นเฉิงชาง พลันเป็นฝ่ายเอ่ยคำทักทายก่อนทันที
ตอนนี้เธอรวบผมขึ้นเป็นการเฉพาะ แต่เมื่อทำแบบนี้ รอยแผลเป็นขรุขระขนาดประมาณ 4×5 เซนติเมตรบนหน้าผากก็เปิดเผยออกมา ทำให้ดูน่ากลัวเล็กน้อย
แผลเป็นนี้เห็นได้ชัดว่าเกิดขึ้นนานมากแล้ว เฉินชางไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงยื้อมาถึงตอนนี้ ไม่จัดการเสียที
ทว่า…นี่ไม่ใช่ปัญหาที่ตนกังวล
ทีมปีเตอร์ทั้งห้าคน เริ่มวินิจฉัยรอยแผลเป็นของจางอ้ายเซียงอย่างละเอียด
พวกเขาหยิบอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นมา ถ่ายรูปจางอ้ายเซียง…
ต้องยอมรับว่า แค่ท่าทางก็ดูออกแล้วว่านี่เป็นทีมที่ชำนาญมาก อย่างน้อย…อุปกรณ์ก็ครบครันมากทีเดียว