เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 584 ไม่! เขาไม่อยาก!
บทที่ 584 ไม่! เขาไม่อยาก!
[ติ๊ง! เข้าร่วมการผ่าตัดซ่อมหลอดเลือดแดงใหญ่ ห้ามเลือดได้อย่างราบรื่น ได้รับทักษะทำงานด้วยตัวเอง เรียนรู้จากกัวอวิ๋นเฟยได้สำเร็จ: ได้ทักษะประสบการณ์จากการเย็บแผลเอออร์ตาส่วนขึ้น!]
เฉินชางผงะไปทันที! ขณะที่มองกัวอวิ๋นเฟยที่บนใบหน้าเปี่ยมล้นไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง เขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ!
โธ่…หมอกัวเป็นคนดีนี่! จะไปก็ไปสิ ยังมาให้ของขวัญผมชิ้นหนึ่ง คิดๆ ดูยังค่อนข้างเกรงใจเลยนะ มิน่าอาจารย์เมิ่งกับหัวหน้าเถาถึงอวยคุณ ถ้าเป็นผม…ผมก็อวย!
……
หลังจากเก็บกวาด เฉินชางจึงตามกลับไปที่บนสะพาน ตอนนี้หัวหน้าเหอทงจากศูนย์ฉุกเฉินยังอยู่ในที่เกิดเหตุ จัดการงานกู้ชีพในที่เกิดเหตุอย่างตึงเครียดแต่เป็นระเบียบเรียบร้อย พอเห็นเฉินชางเดินมาหาก็รีบเอ่ยถามว่า “เสี่ยวเฉิน เป็นไงบ้าง เคลื่อนย้ายผู้ป่วยหมดแล้วเหรอ”
เหอทงเริ่มทำงานจากการแพทย์คลินิก สมัยนั้นนิยมโยกย้ายระหว่างฝ่ายธุรการกับฝ่ายกิจการ จึงย้ายมาถึงศูนย์ฉุกเฉินเลย ทำไปทำมาก็สิบกว่าปี ตำแหน่งมีการปรับเปลี่ยน แต่ไม่เคยเปลี่ยนหน่วยงานมาก่อน ทำงานศูนย์ฉุกเฉินมาชั่วชีวิตจริงๆ!
แต่ละครั้งที่ได้พบเคสกู้ชีพสเกลใหญ่พวกนั้น หลักๆ แล้วมีเขามาสั่งการที่หน้างานเอง มิตรภาพระหว่างเขากับพวกหลีเป่าซาน หวังเซี่ยงจวินก็เกิดขึ้นจากตอนช่วยกู้ภัยแผ่นดินไหวด้วยกัน!
เหอทงมีอิทธิพลในศูนย์ฉุกเฉินมาก ไม่ใช่เพียงเพราะเขาเป็นหัวหน้า ที่สำคัญที่สุดก็คือทัศนคติในการทำงานของเขา!
เฉินชางพยักหน้า “ส่งไปโรงพยาบาลหมดแล้วครับ ทางพวกหัวหน้าเถาเริ่มเตรียมผ่าตัดแล้ว สถานการณ์จริงๆ ผมไม่รู้แล้ว ทางนี้เคสหนักไหมครับ หัวหน้าเหออยากให้ผมช่วยไหม”
เหอทงพิจารณาเล็กน้อยก็แล้วเอ่ยว่า “ไม่ต้องแล้ว คุณไปโรงพยาลบาลเลยเถอะ ดูเอาว่าห้องผ่าตัดมีอะไรต้องช่วยไหม ทางนี้ปัญหาไม่ใหญ่”
ในใจเหอทง เฉินชางควรไปทำงานที่ฉุกเฉินมากกว่าเหล่านั้นอยู่ดี เรื่องทางนี้พวกเขาก็จัดการได้
เฉินชางพยักหน้า ลุกออกไปขึ้นรถกลับโรงพยาบาลอันดับสองทันที เสื้อกาวน์เปื้อนเลือดสดๆ มากแล้ว เฉินชางถอดแล้วม้วนเป็นก้อน แต่ไม่ได้โยนทิ้ง ซักหน่อยก็ยังใส่ได้…ตกลงหนึ่งเดือนนี้เสียเสื้อกาวน์ไปแล้วกี่ตัวเนี่ย
เรื่องนี้แผนกฉุกเฉินโรงพยบาลอันดับสองยังมีมนุษยธรรมอยู่ เสื้อกาวน์เป็นค่าใช้จ่ายของแผนก ไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้อ เราใช้ชุดกาวน์เปลืองขนาดนี้ หัวหน้าพยาบาล ‘คุณแม่เถียน’ จะต้องบ่นอีกแล้ว ยังไงก็ทนไว้เถอะ ไม่แน่อาจจะซักให้สะอาดได้…อย่านึกว่าชุดกาวน์ของหมอขาวบริสุทธิ์จนสวยเหมือนชุดเจ้าสาวเด็ดขาด…
ความจริงแล้วบนเสื้อกาวน์มีรอยปากกา คราบน้ำมัน รวมถึงสารคัดหลั่งต่างๆ แน่นอนว่าอย่างมากที่สุดก็ยังมีคราบเลือดจางๆ นี่อาจจะเป็นทั้งสิ่งที่สะอาดที่สุดและสกปรกที่สุดเช่นกัน
ทุกๆ วันเฉินชางต้องเปลี่ยนชุดกาวน์หนึ่งชุด เพราะแต่ละวันบนชุดกาวน์ของเขามักจะมีคราบเลือดใหม่ ความจริงแล้วก็จนใจนัก แต่โรงพยาบาลรวมกันซักชุดกาวน์อาทิตย์ละครั้ง เฉินชางใส่ไปครั้งหนึ่งพอดี จึงยังเอามาใช้แทนได้!
เทียบกับอาจารย์เมิ่ง เฉินชางคิดว่าตนยังพอไหว สกปรกก็ยังซักได้ แต่ปัญหากระดุมหลุดนี่จะแก้ยังไงดี นี่ไซซ์ใหญ่แล้วด้วย…
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ คนเป็นนักเรียน…คิดกังวลไม่จบสิ้นจริงๆ เลย!
คนขับรถแท็กซี่เห็นเฉินชาง เอ่ยถามอย่างสงสัยทันทีว่า “ไอ้หนุ่ม เราเป็น…หมอใช่ไหม”
เฉินชางผงะไปแล้วพยักหน้า “ใช่ครับ”
“อุบัติเหตุเมื่อกี้มีคนตายไหม” คนขับรถแท็กซี่เอ่ยถามอย่างเป็นกังวล
เฉินชางส่ายหัว “ตอนนี้ยังไม่มีครับ ผมประเมินดูน่าจะช่วยกู้ชีพมาหมดแล้วมั้ง วางใจเถอะครับ”
คนขับรถแท็กซี่ถอนหายใจโล่งอกแล้วพยักหน้า “เฮ้อ…พวกเรานี่วิ่งรถอยู่บนถนนก็กลัวว่าจะเจออุบัติเหตุทางจราจร เจอเรื่องแบบนี้ทีไรก็รู้สึกจนใจมากทุกที ยังดีที่มีพวกคุณนะ แต่พวกคุณลำบากมากจริงๆ”
เฉินชางยิ้ม “ความเข้าใจจงเจริญ”
หลังจากถึงหน้าประตู ทำอย่างไรคนขับรถแท็กซี่ก็ไม่คิดเงิน เฉินชางมีเงินสดอยู่กับตัวพอดี จึงวางเงินไว้สิบหยวนแล้วก็ไป ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้เยอะ…แต่เพราะมีแค่สิบหยวน แถมยังเป็นเงินทอนจากตอนกินข้าวเช้าด้วย
พอถึงโรงพยาบาล เฉินชางก็เข้าไปในห้องผ่าตัดทันที ตอนนี้งานกู้ชีพดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบแล้ว หัวหน้าเถามี่มานำทีมด้วยตัวเอง ด้านหวังข่ายอันมีฐานะเป็นรองหัวหน้าแพทย์แผนกศัลยกรรมทรวงอก มีทักษะแข็งแกร่งมาก ทั้งสองสนับสนุนซึ่งกันและกัน
การกู้ชีพผู้ชายจึงราบรื่นมาก! แต่ในการผ่าตัดกะโหลกศีรษะถัดไป เฉินชางได้เห็นก็หัวใจพองโต!
พูดกันตรงๆ ไม่ว่าจะเป็นศัลยแพทย์คนไหนก็ต่างสนใจอยากเปิดสมองทั้งนั้น…ถึงอย่างไรตรงนี้ก็เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ทดสอบความสามารถของศัลยแพทย์!
เฉินชางก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน! ในใจแอบคิดว่าจะโชคดีเผื่อจะกระตุ้นทักษะขโมยท่าไม้ตาย เฉินชางมองดูการผ่าตัดทั้งหมด…เขาอยากเข้าไปแทรก แต่พบว่านอกจากส่งสายตาเป็นกำลังใจแล้วตนก็ไม่รู้จะทำอะไรจริงๆ!
การผ่าตัดกะโหลกมีความละเอียดอ่อนสูงมาก เครื่องมือหลายอย่างเป็นเครื่องมือเฉพาะทางทั้งนั้น ดีที่ผู้ชายเป็นเพียงกระดูกกะโหลกแตกร่วมกับเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง ระดับความยากในการผ่าตัดไม่สูงมาก การกู้ชีพจึงราบรื่น!
น่าเสียดาย…สายตาเห็นว่าความหวังที่จะได้รางวัลร่วมส่งสายตาเป็นกำลังใจริบหรี่เกินไป บวกกับวันนี้ตนยังได้ ‘เรียนรู้’ ทักษะจากกัวอวิ๋นเฟยมาอย่างหนึ่งแล้ว วันนี้ระบบจึงยังไม่ได้ออกฤทธิ์สักที
หลังจากผ่าตัดเสร็จสิ้น หัวหน้าแผนกศัลยกรรมประสาทหลู่ซิ่นมองดูเฉินชาง “เสี่ยวเฉิน เป็นอะไรไป สนใจมาแผนก ศัลยกรรมประสาทเหรอ”
เฉินชางพยักหน้า กำลังจะพูดออกไป
เถามี่ที่อยู่ข้างๆ เอ่ยเสียงแผ่วว่า “ไม่ เขาไม่อยาก!”
เฉินชางผงะไป เหลวไหล ทำไมผมจะไม่อยากล่ะ
หลู่ซิ่นอึ้ง จ้องเถามี่ครั้งหนึ่ง “ผมว่าเขาอยากมากนะ!”
……
ชั่วขณะเดียว หัวหน้าอาวุโสทั้งสองเริ่มปะทะฝีปากทันที แต่ทั้งสองก็ทำแบบนี้เอาสนุก หมอที่อยู่รอบๆ ชินมานานแล้ว เฉินชางทำได้เพียงถอนหายใจอย่างจนใจ ความจริงแล้ว…เขาอยากจริงๆ นะ…
แต่ข้าวต้องค่อยๆ กินทีละคำ การผ่าตัดก็เช่นกัน แผนกฉุกเฉินก็จำเป็นต้องมีหมอแผนกศัลยกรรมประสาท การบาดเจ็บภายนอกที่กะโหลกมีไม่น้อย มิหนำซ้ำอัตราการเสียชีวิตก็ยังสูง
การผ่าตัดราบรื่น เฉินชางกลับมาถึงแผนกฉุกเฉิน เข้าไปในห้องสังเกตอาการ
จู่ๆ ก็เห็นว่าตอนนี้เด็กหญิงสามขวบคนนั้นจ้องมารดาของตน ไม่พูดไม่จาสักคำ
เด็กชายอายุสิบขวบที่อยู่ข้างๆ ก้มหัวลงมามองเด็กหญิงตัวน้อย “ชู่…แม่ผ่าตัดเสร็จแล้ว เพิ่งหลับไป หนีหนีอย่าเสียงดังทำให้แม่ตื่น”
เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้าแล้วก็ยืนอยู่ตรงนั้นแบบนี้ สายตาจ้องมารดา ในใจไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
แต่มือของเธอจับนิ้วชี้ของพี่ชายไว้แน่น พลันรู้สึกมั่นคงขึ้นมาก
เฉินชางมองดูแล้วจึงเดินเข้าไป มองฉางลี่น่าแล้วเอ่ยถาม “ติดต่อครอบครัวรึยัง”
ฉางลี่น่าถอนใจ “ติดต่อได้แล้วค่ะ แต่คุณปู่คุณย่าของเด็กๆ อยู่นอกมณฑล จะนั่งรถไฟมาคืนนี้ พรุ่งนี้ถึงมาหาได้”
เฉินชางพยักหน้า ถามว่า “วันนี้ใครอยู่เวรดึกเหรอ ดูแลเด็กๆ หน่อย”
ตอนนี้เอง เล่อเล่อเดินหอบขนมกองหนึ่งเข้ามา
เฉินชางอึ้งไป “เล่อเล่อ คุณ…สมบูรณ์ขนาดนี้แล้ว ยังซื้อขนมเยอะขนาดนี้เหรอ ไม่กลัวไขมันน้ำตาลความดันสูงหรือไง!”
เล่อเล่อส่งเสียงเชอะ ทั้งยังไม่สนใจ กลับหัวเราะพลางพูดกับเฉินชางว่า “ฉันซื้อมาให้เด็กๆ ค่ะ เห็นว่าพวกเขาน่าสงสารมาก วันนี้ฉันอยู่เวรดึก ถึงยังไงก็ต้องกินอะไรซักอย่าง เลยซื้อมาเผื่อเด็กๆ ด้วยซะเลย”
เฉินชางเห็นว่าเป็นสิ่งที่เด็กๆ ชอบทั้งนั้น จึงยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
พยาบาลห้องฉุกเฉินเหล่านี้ต่างอายุไม่มาก ที่อายุยี่สิบห้ายี่สิบหกค่อนข้างเยอะ ยังเด็กกว่าเฉินชางเสียอีก
ห้องฉุกเฉินมักมีเด็กอยู่จำนวนหนึ่ง ปกติก็มีพวกเธอดูแลอย่างกระตือรือร้นและใส่ใจ
ถ้าต้องฝากเด็กๆ ให้คนหยาบๆ อย่างพวกเฉินชางดูแล ไม่แน่ว่าพอเริ่มยุ่งก็ลืมเสียแล้ว…