เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 595 บากบั่นไม่ย่อท้อ
ตอนที่ 595 บากบั่นไม่ย่อท้อ
ในใจหนิงเฮ่าเซินออกจะตื่นเต้น! กี่ปีแล้ว! ปีนี้ตนอายุตั้งสามสิบสี่ปีแล้ว! แม้จะไม่เคยเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศ แต่เขาไม่ร้อนใจสักนิด!
ดังคำที่ว่ากระบี่ล้ำค่าคมได้ด้วยหินลับ ดอกเหมยไซร้กลิ่นขจรด้วยเหมันต์!
แม้คนอื่นจะพูดว่าตนเป็นคนดวงจู๋ แต่หนิงเฮ่าเซินคิดว่าตนต่างหากที่เป็นจักรพรรดิแห่งความโชคดีที่แท้จริง
ไม่ผ่านความล้มเหลวจะเห็นสายรุ้งได้อย่างไร
เขาคิดว่าคนอย่างพวกกัวอวิ๋นเฟยทำให้ตนแกร่งขึ้นทั้งนั้น!
และวันนี้ตัวเขาเองก็…
ดาบออกจากฝัก มังกรน้ำแข็งคำราม เคลื่อนคล้อยไปตามคลื่นถาโถม!
หัวเราะเย้ยยุทธจักร เป็นอิสระท่ามกลางฝนหมอก ใครลิขิตชะตามิอาจรู้!
ฉัน หนิงเฮ่าเซิน เจ๋งสุดๆ! อืม!
หนิงฮ่าวเซินมีจิตใจเข้มแข็ง ไม่เคยกลัวความล้มเหลว หลังจากถูกกัวอวิ๋นเฟยเขี่ยตกรอบทุกครั้ง เขายังบากบั่นค้นคว้า บรรลุสิ่งใหม่ๆ ได้ทุกที!
ในความคิดของเขา ตัวเองย่อมโชคดี ไม่อย่างนั้นพระเจ้าจะมอบความยากลำบากให้เขามากมายเช่นนี้หรือ ผลแห่งชัยชนะจะต้องหอมหวานเป็นอย่างยิ่งแน่นอน!
พอคิดถึงนี้ ผลการจับฉลากรอบที่สองก็ออกมาแล้ว
ทันทีที่หนิงเฮ่าเซินเห็นว่าชื่อคู่แข่งคือเฉินชางก็อึ้งไปเลย
ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่…พอดูประวัติย่อ มาจากโรงพยาลอันดับสองแห่งมณฑล อายุ 27 ปี
เอ่อ…
หลังจากเห็นเข้า หนิงเฮ่าเซินก็ตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ปณิธานในใจเขาแน่วแน่ ไม่หวั่นไหวเพราะปัจจัยภายนอก เจอคนแข็งแกร่งถึงแข็งแกร่ง ไม่กลัวผู้แข็งแกร่งเลยสักนิด ในความคิดของเขา การได้ประชันกับผู้แข็งแกร่งถึงได้ท้าทายขีดจำกัด ยกระดับให้ตัวเอง! และเทียบกับเกียรติยศในการแข่งขันแล้ว พัฒนาการที่ได้ตนได้ต่างหากถึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า!
แต่หมอเสี่ยวเฉินคนนี้เพิ่งอายุ 27 ปี…
พอคิดถึงตรงนี้ หนิงเฮ่าเซินยังออกจะเกรงใจ…
ตอนเลี้ยวมาเตรียมรอแข่งที่นอกสนาม เขามองดูเฉินชางครั้งหนึ่ง ออกตัวทักทายเฉินชาง “สวัสดีครับหมอเฉิน!”
เฉินชางอึ้งไป มือทั้งสองข้างรีบจับมือทักทายกลับ “สวัสดีครับหมอหนิง”
ถึงยังไงอีกฝ่ายก็ซวยไปแล้ว ต้องทำให้เขาสบายใจหน่อยละมั้ง
ตอนนี้ด้านเฉินชางเสียใจนิดหน่อยที่ไม่ได้โจมตีชุยหยวนอู่ดีๆ…
เฮ้อ…
หนิงเฮ่าเซินพยักหน้า ลากเฉินชางมาถามสารทุกข์สุกดิบทั่วๆ ไป
เฉินชางก็กระตือรือร้นดี พูดถึงงาน พูดถึงความรัก
ทั้งสองคนต่างอยากให้อีกฝ่ายแฮปปี้ อย่างน้อยก็ผูกมิตรกันใช่มั้ยล่ะ ไม่อย่างนั้นถ้าชนะอีกฝ่าย จะต้องรู้สึกผิดเล็กๆ
ไม่นานนัก ทั้งสองก็รู้สึกเหมือนเพื่อนรู้ใจที่หาได้ยาก
เมื่อเจ้าหน้าที่นำทางที่อยู่ข้างๆ เห็นว่าทั้งสองเริ่มคุยกันเรื่องรางวัลก็หูผึ่งทันที คิดจะไปสืบเสียหน่อย แต่จู่ๆ ประตูก็เปิดออก ทั้งสองจึงจำเป็นต้องเข้าสนามทดสอบแล้ว
หนิงเฮ่าเซินเข้าไปก่อน เขามองเฉินชาง “หมอเฉิน คุยกับคุณถูกคอดีจัง เอาอย่างนี้มั้ย พรุ่งนี้เย็นผมขอเป็นเจ้ามือ พวกเราไปกินข้าวกันสักมื้อ ก็ถือซะว่าไม่สู้ไม่ได้รู้จักกัน”
หนิงเฮ่าเซินไม่ใช่คนชอบยิ้มนัก แต่จริงใจมาก ทำให้เฉินชางค่อนข้างรู้สึกผิด…
เฉินชางรีบเอ่ยว่า “ไม่เอาๆๆ พรุ่งนี้ให้ผมเป็นเจ้ามือ พวกเราเจอกันที่ไหตี่เลา พาภรรยาคุณมาด้วยนะครับ!”
หนิงเฮ่าเซินพยักหน้า “ได้ครับ ไม่สู้ไม่ได้รู้จักกัน พวกเราคนไหนได้เข้ารอบคนนั้นเลี้ยง!”
หนิงเฮ่าเซินรู้สึกว่าตนไม่มีปัญหา คิดแบบนี้แล้วก็ความหนักใจก็หายไป
พอเฉินชางได้ยินก็รู้สึกว่าเป็นไอเดียที่ดี “ไม่มีปัญหาครับ!”
หนิงเฮ่าเซินยิ้มน้อยๆ “ผมไม่ออมมือแน่”
เฉินชางก็ฉีกยิ้ม “คุณระวังอย่าให้แพ้จนน่าอนาถเกินไปนะ”
หนิงเฮ่าเซินหัวเราะอย่างหาได้ยาก ลุกขึ้นแล้วเข้าไปในสนามแข่งขัน
พูดตามตรง เขาประทับใจเฉินชางมาก เจ้าคนนี้นิสัยใช้ได้ ควรค่าแก่การสนิทด้วย รอหลังการแข่งขันจบลง คงติดต่อแลกเปลี่ยนกันดีๆ ได้
เริ่มผ่าตัด
เอออร์ตาส่วนขึ้นเลือดกระฉูดออกมาทันที! คอคอดเอออร์ตาส่วนขึ้นฉีกขาด นี่เป็นบาดแผลที่พบได้บ่อยที่สุด หนิงเฮ่าเซินไม่ร้อนรน เริ่มลงมือผ่าตัด
ทุกการเคลื่อนไหวคล่องแคล่วหาใดเทียบ ไหลลื่นตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าสมบูรณ์แบบเป็นธรรมชาติ
ขนาดผู้คุมการแข่งขันยังเลื่อมใส! พวกเขาต่างเป็นหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญจากมณฑลอื่น ย่อมมีโลกทัศน์ค่อนข้างไกล แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ พอเห็นการผ่าตัดของหนิงเฮ่าเซินยังต่างประหลาดใจอยู่บ้าง
เป็นคนหนุ่มที่ยอดเยี่ยมขนาดไหนกันนะ เวลาผ่านไปก็ต้องได้เป็นเจ้าพ่อสักแถบหนึ่งแน่!
พอคิดถึงตรงนี้ ผู้คุมการแข่งขันสองสามคนพยักหน้าซ้ำไปซ้ำมา คิดว่าหลังจากการแข่งขันสิ้นสุดลงจะทิ้งช่องทางการติดต่อไว้ ดูซิว่าจะดึงตัวเจ้านี่ไปทำงานด้วยได้รึเปล่า…
ไม่นานนักการผ่าตัดก็เข้าสู่ช่วงสุดท้าย การเย็บแผลของหนิงเฮ่าเซินทำให้ผู้คุมการแข่งขันสองคนชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
ผู้คุมการแข่งขันหลักในนั้นยังเอ่ยชมอย่างอดไม่อยู่ “ดี! เป็นเจ้าหนุ่มที่ยอดเยี่ยมเลย”
หนิงเฮ่าเซินพยักหน้าขอบคุณแล้วหันหลังจากไป
สง่างาม รอบคอบ มีมารยาท ไม่แข็งกร้าวหรือถ่อมตัวเกินไป
เป็นคนหนุ่มที่ดีมากเลยนี่
ให้คะแนน: 95 คะแนน!
ไม่นานนักหนิงเฮ่าเซินก็ออกมาแล้ว เขารู้สึกว่าตนแสดงความสามารถได้ยอดเยี่ยมมากแล้ว ตอนที่เจอเฉินชางจึงออกจะเป็นห่วง เอ่ยปลอบอย่างอดไม่ได้ว่า “หมอเฉิน สู้ๆ ครับ!”
เฉินชางพยักหน้ายิ้มน้อยๆ “ขอบคุณครับหมอหนิง!”
ขณะที่พูด เฉินชางก็เข้าไปในห้องผ่าตัด
หลังจากเข้ามาแล้ว ยังมีคนสองสามคนถกกันเรื่องหนิงเฮ่าเซิน เฉินชางโค้งตัวทักทาย เตรียมเริ่มผ่าตัด
เมื่อเขาเริ่มผ่าตัดก็ทำให้ผู้คุมการแข่งขันสองคนตะลึงไปทันที
ก็ดีมากนี่นา! มณฑลตงหยางถึงกับมีคนเก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร อัจฉริยะดันมารวมตัวกัน หมอเล็กที่หนุ่มขนาดนี้คนหนึ่งก็ผ่าตัดได้แบบนี้แล้ว แต่…น่าเสียดาย มีหยกงามปรากฏตัวก่อนแล้ว เสี่ยวเฉินก้าวข้ามได้ยากเลย
กาลเวลาผันผ่านไปทีละน้อย ผู้คุมการแข่งขันสองสามคนยิ่งดูยิ่งตกตะลึง ยิ่งดูยิ่งงุนงง
นะ…นี่จะ…เทพเกินไปแล้วไหม!
แน่นอนว่าผู้คุมการแข่งขันสองคนถึงกับพบว่าในแง่การจัดการรายละเอียดหลายอย่าง การผ่าตัดอวัยวะส่วนสำคัญ ความเข้าใจในการพิจารณาระบบโดยรวมและการผ่าตัดทั้งหมด เฉินชางยังเหนือกว่าพวกเขาเสียด้วยซ้ำ!
ชั่วขณะเดียว ทั้งสองตกตะลึงอ้าปากค้าง ออกจะทำใจเชื่อได้ยาก…
การผ่าตัดของไอ้หนุ่มคนนี้ถึงกับเก่งกว่าพวกเขาอีกเหรอ! ไม่ใช่! ไม่ใช่ประโยคคำถาม นี่มันประโยคอุทาน!
เฉินชางย่อมเก่งกว่าพวกเขาเสียอีก คิดถึงตรงนี้ ทั้งสองอายหน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้ รายละเอียดแต่ละอย่าง การลงมือผ่าตัดแต่ละครั้งต่างทำได้อย่างแม่นยำนัก เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ!
ทำให้ผู้คุมการแข่งขันทั้งสองคนไม่เจอข้อบกพร่องแม้แต่นิดเดียว ถ้าพยายามหาข้อตำหนิ อย่างนั้นก็พูดได้แค่ว่าทำไมไอ้หนุ่มนี่ถึงได้หล่อนัก ไม่รู้เหรอว่าเพอร์เฟ็คเกินไปเป็นความผิด
ไม่นานนักการผ่าตัดก็จบลง ผู้คุมการแข่งขันทั้งสองไม่ได้หันกลับไป
เฉินชางจึงกระแอมเรียกผู้คุมการแข่งขันทั้งสองอย่างอดไม่ได้ “อาจารย์ การผ่าตัดของผมเสร็จสิ้นแล้วครับ”
ตกลง…การผ่าตัดศึกษาที่น่าดูขนาดนี้ จบลงเร็วขนาดนี้แล้วหรือ
ผู้คุมการแข่งขันหลักกระแอมทีหนึ่ง “จบแล้วเหรอ อ้อ…ดี! ดี! ดี!”
ผู้คุมการแข่งขันรองก็รีบได้สติกลับมา “อ้อ! ดีเลย! ยอดเยี่ยมมาก!”
เฉินชางยิ้ม “ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านครับ”
แล้วเขาก็ลุกจากไป
ผู้คุมการแข่งขันหลักมองผู้คุมการแข่งขันรอง ลังเลอยู่รอบหนึ่ง “ให้คะแนนเท่าไร”
ผู้คุมการแข่งขันรองถอนใจ “เฮ้อ…ลำบากจังเลย ผมอยากให้คะแนนเต็ม เพราะ…ผมหาข้อบกพร่องไม่เจอ”
ผู้คุมการแข่งขันหลักนิ่วหน้า “ตอนนี้ยังไม่เคยมีใครได้คะแนนเต็มมาก่อน…98 มั้ย”
ผู้คุมการแข่งขันรองอึ้งไป “ทำไมต้องตัดสองคะแนน”
ผู้คุมการแข่งขันหลักสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง “ถึงยังไงก็เข้ารอบหมดละ 96 กับ 100 ก็ไม่ได้ต่างกันตรงไหน คุณให้ 100 ผมให้ 96 พอเฉลี่ยแล้วได้ 98 พอดี อีกอย่าง…98 ก็ได้น่า!”
สุดท้ายแล้วก็ขาดหนึ่งคะแนนเรื่องการแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน หักหนึ่งคะแนนก็เพราะ*****