เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 597 เทพเซียนสู้กันเหรอ
ตอนที่ 597 เทพเซียนสู้กันเหรอ
เมื่อผู้เข้าแข่งขันรอบที่สองออกมาจากข้างใน ก็ดูผลการแข่งขันได้จากสีหน้า!
ชุยหยวนอู่มองดูด้านหน้าแล้วก็อึ้งไปทันที “ให้ตายสิ ต้าหนิงถูกเสี่ยวเฉินเขี่ยตกรอบจริงด้วย!”
“หัวหน้าเถา ที่คุณเดาไว้จะแม่นไปแล้วมั้ง!”
หยางเจี้ยนซู่ชำเลืองมองเจ้าลูกศิษย์ไม่เอาถ่านคนนี้ของตน “อย่าเหลวไหล หมอหนิงเขาไม่ได้ดีใจมากหรือไง ตอนนี้…ผลยังไม่ออกเลยนะ คุณรู้ได้ไงว่าเขาแพ้แล้ว!”
ชุยหยวนอู่กลอกตา “เหล่าหยาง คุณไม่รู้จักเจ้าหนิงเฮ่าเซินคนนั้น ถ้าเขาชนะมาจะไม่ยิ้มแบบนั้นเด็ดขาด หลักๆ คงมีสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนตอนผมแพ้ ถ้าเขาแพ้จริงๆ นะ ดีใจยิ่งกว่าชนะการแข่งขันอีก!”
พอทุกคนได้ยินคำพูดของชุยหยวนอู่ก็อึ้งไปทันที
แบบนี้ก็ได้เหรอ ยังมีคนแพ้แล้วดีใจด้วยเหรอ
ชุยหยวนอู่คนนี้ ‘ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน’ ไปมาหาสู่กับหลายคนตั้งแต่หัวหน้ายันอินเทิร์น ความสัมพันธ์โดยทั่วไปดีมาก เขาจึงเล่าเรื่องของหนิงเฮ่าเซินให้ทุกคนฟัง พอทุกคนฟังจบ ไม่เพียงแต่ไม่หัวเราะ กลับสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่งแล้วส่ายหัว! นี่ถึงเป็นคุณสมบัติที่แพทย์คนหนึ่งพึงมี
เถามี่ทอดถอนใจ “เป็นหมอที่ดีจริงๆ นะ เจ้าหนุ่มนี่ต่อไปอนาคตจะต้องไม่มีขีดจำกัด!”
ชุยหยวนอู่ยิ้มพลางพูด “ถ้าผมเปิดโรงพยาบาลจะต้องเชิญเหล่าหนิงไปเป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมหัวใจควบตำแหน่งผู้อำนวยการ คนคนนี้มีความคิดมาก”
ซย่าเกาเฟิงเอ่ย “ก็ไม่รู้ว่าเสี่ยวเฉินกับหนิงเฮ่าเซินสอบได้กี่คะแนน”
หยางเจี้ยนซู่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “น่าจะต่างกันไม่มาก”
ตอนนี้เอง ภาพเปลี่ยนไป ผลการแข่งขันกับรายชื่อผู้เข้ารอบปรากฏขึ้นบนจอทันที
พิธีกรพูดว่า “ตอนนี้ทุกคนพักผ่อนนิดหน่อยก็จะออกไปได้แล้วครับ พวกเราเตรียมอาหารฟรีไว้ที่ห้องอาหารบุฟเฟต์ชั้นสาม อีกเดี๋ยวจะให้เจ้าหน้าที่บริการแจกคูปองนะครับ”
“ขอให้ผู้เข้าแข่งขันที่เข้ารอบมาจับฉลากการแข่งขันรอบบ่ายเวลาบ่ายสองโมงตรงนะครับ!”
หลังจากพูดจบ รายชื่อผู้เข้ารอบก็ปรากฏขึ้นบนจอ ทุกคนมองดูอย่างละเอียด หาอันดับของตัวเองเจอในทันที
เช้าวันเดียวคัดคนออกไปแล้วเกินครึ่ง ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบคนเหลือเพียงสามสิบคนในพริบตาเดียว แต่ละกลุ่มมีแค่สิบคน ดังนั้นการแข่งขันรอบบ่ายจึงสำคัญมาก หลักๆ แล้วจะดูคนที่จะได้แชมป์กลุ่มออกแล้ว! ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกคัดออกมองดูรายชื่อแล้วพากันถอนหายใจ สุดท้ายหลายคนก็สิ้นสุดการแข่งขันที่มีปีละครั้งลงตรงนี้แล้ว แต่คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านดูรายชื่อ หาเพื่อนสนิทเหล่านั้นว่าเข้ารอบหรือไม่ พอเห็นว่าเพื่อนเข้ารอบ บ้างอิจฉา บ้างริษยา บ้างก็สงสาร ทว่าเมื่อทุกคนเห็นรายชื่อผู้เข้ารอบกลุ่ม C ก็อึ้งไปทันที!
“หนิงเฮ่าเซินตกรอบแล้ว!”
“อะไรนะ หนิงเฮ่าเซินเหรอ แพ้ใครน่ะ!”
“เป็นไปไม่ได้น่า หนิงเฮ่าเซินเก่งมากนะ!”
……
พอทุกคนเห็นว่าหนิงเฮ่าเซินตกรอบก็งุนงงทันที
ถึงอย่างไรทุกคนก็ได้ข่าวมาไม่มากก็น้อย เช่นเรื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เทพเซียนสู้กัน จึงแยกกัวอวิ๋นเฟย เมิ่งซีและหนิงเฮ่าเซินออกไปอยู่ในสามกลุ่มล่วงหน้า ต่อให้เก็บเป็นความลับ แต่ทุกคนก็เคยเข้าร่วมการแข่งขันที่ผ่านมาทั้งนั้น จึงรู้เรื่องวงในบางเรื่องอยู่ดี มิหนำซ้ำนี่ก็เป็นเรื่องที่รู้กันโดยไม่ต้องพูดของแต่ละมณฑล
ด้วยเหตุนี้เอง ทุกคนจึงยิ่งตกตะลึง ควรรู้ว่าหนิงเฮ่าเซินเป็นถึงมือวางอันดับต้นๆ ถึงกับ…ถูกคัดออกในรอบที่สองเสียแล้ว!
นี่จะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วมั้ง
ทุกคนพากันมองที่รายชื่อผู้แข่งขัน พบว่าคู่ต่อสู้ที่เอาชนะหนิงเฮ่าเซินคือเฉินชาง!
นี่ใครกัน
ทุกคนไม่คุ้นชื่อนี้เป็นอย่างมาก ความจริงแล้วคนที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกปีส่วนมากเป็นคนหน้าคุ้นตาทั้งนั้น ถึงกับเรียกได้ว่ารู้ไส้รู้พุง หน้าใหม่ก็มีแต่ไม่ได้เยอะ
ด้วยความสงสัยจึงเปิดบันทึกการแข่งขันของทั้งสองคน คราวนี้ทุกคนงงไปหมด!
นี่มันเทพเซียนสู้กันหรือไง หนิงเฮ่าเซินได้เก้าสิบห้าคะแนน! เฉินชางได้เก้าสิบแปดคะแนน! คะแนนแบบนี้ควรเกิดขึ้นในรอบที่สองของการแข่งขันระดับมณฑลเหรอ ไม่ใช่ว่าน่าจะเกิดขึ้นในการแข่งขันระดับประเทศหรือไง
พอคิดถึงตรงนี้ ทุกคนก็ออกจะเหลือเชื่อ
เฉินชางนี่เป็นเทพเซียนแดนไหนกันแน่! ถึงกับเอาเก้าสิบแปดคะแนนมาได้!
ชั่วพริบตาเดียว ทุกคนพากันพูดคุยถกเถียง ตอนนี้เอง นอกจากกลุ่ม C สมาชิกกลุ่ม A กับ B ก็เริ่มมาสืบข่าวด้วยความสงสัยว่าตกลงเฉินชางเป็นใครกันแน่ เพราะวันนี้ในกลุ่ม A กับ B ของพวกเขายังไม่มีใครได้เก้าสิบแปดคะแนนสักคน! ขนาดเมิ่งซียังได้แค่เก้าสิบสี่คะแนน พอเทียบกันแบบนี้แล้ว เก้าสิบสี่คะแนนของเฉินชางจึงดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที
ขนาดกัวอวิ๋นเฟยยังมองดูจอด้วยความใคร่รู้ เปิดคะแนนของเฉินชางมาดูอย่างละเอียด ตัวเลขเก้าสิบแปดคะแนนเตะตาขนาดนี้ ทำให้เขาต้องให้ความสำคัญ เขากับหนิงเฮ่าเซินเป็นคู่แข่งกันมาสามปี เขารู้ความแข็งแกร่งของหนิงเฮ่าเซินดี คนคนนี้เป็นคนที่ทุ่มเททั้งกายใจให้กับงานคนหนึ่ง และยังอายุน้อยกว่าตนหนึ่งปี
ด้วยเหตุนี้เอง กัวอวิ๋นเฟยจึงยิ่งอยากรู้เรื่องเฉินชางเสียแล้ว เขาความจำดี นึกย้อนถึงที่เกิดเหตุอุบัติเหตุสะพานยกระดับคราวนั้น เฉินชางช่วยตนผ่าตัดสำเร็จไปครั้งหนึ่ง ชายหนุ่ม…คนนั้น…เก่งขนาดนี้จริงๆ หรือ
พอนึกย้อนไปถึงการผ่าตัดของเฉินชางในคราวนั้นดีๆ การลงมีดอย่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยวกับการห้ามเลือดอย่างเฉียบคม ทุกๆ ขั้นตอนทำได้อย่างแม่นยำ แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเฉินชางจะก้าวล้ำตัวเองไปได้!
กัวอวิ๋นเฟยมีความมั่นใจของตัวเอง พอเปิดรายการการแข่งขันของเฉินชาง เขาก็อึ้งไป
“การผ่าตัดรักษาเออร์ตาส่วนขึ้นฉีกขาด!”
เหมือนกับที่ตนทำในที่เกิดเหตุของอุบัติเหตุรถยนต์ตอนนั้น
ด้วยความสงสัย กัวอวิ๋นเฟยจึงไม่มีแก่ใจกินข้าว นั่งลงเปิดคลิปดูเสียเลย
เพื่อนที่มาด้วยเห็นเขาเปิดคลิปจึงเอ่ยอย่างอดไม่ได้ว่า “เหล่ากัว ไปกินข้าวก่อนมั้ย”
กัวอวิ๋นเฟยพยักหน้ายิ้มให้แล้วโบกมือ “พวกคุณไปเถอะ เดี๋ยวผมดูจบก็ไป”
หลังจากเพื่อนที่มาด้วยพยักหน้าก็ลุกออกไป
กัวอวิ๋นเฟยรู้สึกกดดันเพราะการผ่าตัดของเฉินชางตั้งแต่เริ่มผ่าตัด! รายละเอียดในตอนแรกก็ทำให้เขารู้สึกถึงความห่างชั้น! ทำไมถึงพูดแบบนี้ เพราะยอดฝีมือจะวางแผนตั้งแต่เริ่มจนจบ นี่เป็นความสามารถในการควบคุมอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ถึงจุดหนึ่งจะสัมผัสความห่างชั้นแบบนั้นไม่ได้อยู่แล้ว เขายิ่งดูยิ่งตกตะลึงและประหลาดใจอย่างช้าๆ ก็ในตอนที่เย็บแผลนี้เอง กัวอวิ๋นเฟยงุนงงไปเสียแล้ว
ทะ…ทำไมการเย็บแผลนี่มันคุ้นขนาดนี้ เหมือนมีกลิ่นอายของเราอยู่รึเปล่า แต่…นี่ต้องไม่ใช่กลิ่นอายของเราแน่ เทียบกันแล้วเก่งกว่าเราอีก
พอคิดถึงตรงนี้ กัวอวิ๋นเฟยก็ตั้งใจขึ้นทันที
เพราะนี่ก็เป็นทิศทางที่เขาพยายามมุ่งหน้าไปเหมือนกัน
พอคิดถึงตรงนี้ เขาก็เริ่มดูอย่างตั้งใจ ยิ่งดูยิ่งจดจ่อ ยิ่งดูยิ่งทอดถอนใจ นึกถึงการผ่าตัดบนรถฉุกเฉินของตนในตอนนั้น ยังมีความคิดอยากแสดงฝีมือ…
ตอนนี้พอนึกย้อนไป กัวอวิ๋นเฟยถึงกับอยากหัวเราะอย่างอดไม่ได้
เทคนิคของเฉินชางเขาเหนือกว่าเราไปมาก เรา…เราถึงกับอยากสอนจระเข้ว่ายน้ำ! แค่คิดยังอายเลย…