เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 618 นี่พ่อสามีฉัน
ตอนที่ 618 นี่พ่อสามีฉัน
Ink Stone_Fantasy
สถานการณ์ภายในห้องฉุกเฉินวุ่นวายไปหมด!
เฉินชางพูดกับสือน่า “อาจารย์สือครับ ผมจัดการเอง!”
สือน่าที่กำลังพยายามอยู่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะลงมาจากด้านบน เธอยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อ รวมถึงน้ำตา…? บนใบหน้า
เฉินชางเห็นน้ำตาของสือน่าแล้วอึ้งไปทันที “อาจารย์สือ…คุณ”
สือน่าส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ จ้องกล้องส่องตรวจกล่องเสียงจนตาล้านิดหน่อย”
พูดจบ สือน่าก็ขยับออก
เฉินชางไม่ติดใจสงสัย เขาลุกไปข้างหน้า
คนไข้ที่คอสั้นแบบนี้ความยากในการใส่ท่อช่วยหายใจสูงเกินไป ไม่แปลกที่ทำเอาสือน่าเหงื่อท่วมตัว
ทุกคนเห็นเฉินชางมาถึงก็เผยสีหน้าดีใจทันที ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่จู่ๆ เฉินชางก็กลายเป็นเสาหลักของแผนกฉุกเฉิน พึ่งพาได้ในสถานการณ์อันตราย!
เฉินชางถือกล้องส่องตรวจกล่องเสียงไว้ด้วยมือข้างเดียว ไม่กล้าประมาทเลยสักนิด
หลังจากสงบสติอารมณ์ครู่หนึ่ง กำลังจะเริ่มลงมือ จู่ๆ สือน่าก็ขมวดคิ้ว “คุณดื่มเหล้ามาเหรอ”
เฉินชางส่ายหน้า “ไม่เป็นไรครับ ไม่ส่งผลกระทบ กินกับแกล้มเหล้าน่ะ”
สือน่า “…”
ทุกคนรอบข้างเองก็จนคำพูด
ถ้าดื่มดื่มแอลกอฮอล์แล้วยังทำการรักษาต่อ ทุกคนย่อมเป็นกังวลมาก
การใส่ท่อช่วยหายใจจะบอกว่าไม่มีอันตรายเลยสักนิดก็ไม่ได้ อันตรายจากการดำเนินการที่ไม่เหมาะสมถือว่าสูงมาก
ความจริงเฉินชางเองก็จนคำพูดมาก หลังจากใช้ยาบำรุงพลัง แม้สร่างเมาจริง แต่ไม่รู้ทำไมในปากยังคงมีกลิ่นเหล้าหลงเหลืออยู่ หงุดหงิดชะมัด…
ต้องเป็นเพราะสินค้ายังไม่สมบูรณ์แน่!
เฉินชางตั้งสติ ถือกล้องส่องตรวจกล่องเสียงส่องจากปากลงไปถึงคอ สำรวจอย่างระมัดระวัง
หมอจากแผนกระบบทางเดินหายใจที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างระมัดระวัง “หมอเฉิน เจอเส้นเสียงไหม”
นี่คือคำพูดกับดักของทุกคน
เพราะตอนที่ใส่ท่อช่วยหายใจ ถ้ามองเห็นเส้นเสียง ก็เหมือนกับการมองเห็น ‘โอกาสรอด’!
ถูกต้อง สำหรับการใส่ท่อช่วยหายใจ เส้นเสียงก็คือโอกาสรอด!
เฉินชางขมวดคิ้ว ส่ายหน้าพูดเสียงต่ำ “มองไม่เห็น!”
ความยากสูงมากจริงๆ
เฉินชางกลั้นหายใจ สอดลึกเข้าไปอีก ทุกคนเห็นเพียงแค่เขายกมือซ้ายขึ้น มือขวาออกแรงเล็กน้อย ในที่สุดเส้นเสียงก็ปรากฏแล้ว!
กระบวนการนี้ดูเหมือนเบา พูดขึ้นมายิ่งง่าย ความจริงมือขวาของเฉินชางต้องออกแรงมากพอจึงจะยกเส้นเสียงขึ้นมาได้
เฉินชางถอนหายใจ!
โชคดีที่มีกล้องส่องตรวจกล่องเสียง ไม่อย่างนั้นความยากจะยิ่งสูง
พวกสือน่ามองดูอย่างระมัดระวัง เห็นเฉินชางเห็นเส้นเสียงแล้ว ก็อดออกแรงโบกหมัดด้วยความตื่นเต้นไม่ได้!
เล่อเล่อตะโกนเสียงลั่น “ไม่ไหวแล้วๆ เปลี่ยนคน มือฉันไม่มีแรงแล้ว”
เป็นความจริงที่ว่า ตั้งแต่เฉินชางเข้ามา การปั๊มหัวใจก็ไม่หยุดเลยแม้แต่นาทีเดียว
โชคดีที่เล่อเล่อร่างกายแข็งแรงกำยำ ถ้าเป็นคนอื่นไม่แน่ว่าจะไหว
เสี่ยวหลินได้ยินแล้วรีบเข้าไป เริ่มปั๊มต่อ!
ความจริงรูปร่างของเสี่ยวหลินบางกว่า เมื่อเทียบกับชายที่นอนอยู่บนเตียงตอนนี้ เธอผอมเหมือนไม้กระดานอย่างไรอย่างนั้น
แต่เสี่ยวหลินเรี่ยวแรงไม่น้อย
การปั๊มหัวใจของเธอก็ได้มาตรฐานมาก
หน้าอกกระเพื่อมอย่างต่อเนื่อง!
ไขมันบนร่างกายของผู้ป่วยก็สั่นอย่างต่อเนื่อง แม้ดูเป็นจังหวะมาก แต่…แบบนี้ ความยากในการใส่ท่อช่วยหายใจก็เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
การปั๊มหัวใจจะหยุดไม่ได้เด็ดขาด!
แต่การใส่ท่อช่วยหายใจก็ต้องดำเนินการทันที
หมอแผนกระบบทางเดินหายใจที่อยู่ข้างๆ เห็นถึงความยากลำบากก็อดพูดไม่ได้ “หมอเฉินครับ ให้ผมช่วยคุณยึดไว้ไหมครับ”
เฉินชางพูด “คุณส่งสายสวนมา”
ทั้งสองฝ่ายพยักหน้า ยื่นมือเข้ามา!
เฉินชางมือไวตาไว มือหนึ่งยึดศีรษะของผู้ป่วยไว้ มือขวาถือสายสวน ใส่สายสวนเข้าไปอย่างรวดเร็ว!
ทั้งกระบวนการไม่ถึงห้าวินาที!
เฉินชางกลับหลังหัน “เครื่องช่วยหายใจ!”
เล่อเล่อตาเป็นประกาย มองเฉินชางแล้วอดพูดไม่ได้ “คุณหมอเฉินสุดยอดมาก!”
ระหว่างที่พูดก็รีบเชื่อมต่อเครื่องช่วยหายใจ
หมอแผนกระบบทางเดินหายใจที่อยู่ข้างหลังก็อดชื่นชมไม่ได้
ส่วนสือน่าอดถอนหายใจไม่ได้ “ขอบคุณนะคะ เสี่ยวเฉิน”
ทันใดนั้นสือน่าก็พบว่าตนตกใจจนแผ่นหลังเปียกชุ่มหมดแล้ว
พยาบาลเริ่มการดำเนินการหลังจากนั้นอย่างรวดเร็ว เชื่อมต่อเครื่องช่วยหายใจ ปรับพารามิเตอร์ของเครื่องช่วยหายใจ ส่วนพวกเสี่ยวหลินกับเล่อเล่อผลัดกันปั๊มหัวใจ
ในที่สุดสือน่าเองก็ตั้งสติได้ เริ่มออกคำสั่ง
“อะดรีนารีน!”
หนึ่งเข็ม…
สองเข็ม…
……
หลังใช้อะดรีนารีนไปทั้งหมดห้าเข็ม ปั๊มหัวใจต่อเนื่องสิบนาที!
ทันใดนั้นเล่อเล่อก็ตะโกน “มาแล้วๆ!”
ทุกคนมองไปตามเสียง เห็นเพียงว่าบนจอภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจปรากฏชีพจรหัวใจ
สือน่าตาเป็นประกายทันที
ในที่สุดก็ช่วยชีวิตกลับมาได้แล้วเหรอ
เฉินชางรีบหยิบไฟฉายมา เริ่มตรวจดูรูม่านตาของผู้ป่วย เห็นเพียงว่ารูม่านตาทั้งสองข้างขยายออกและแสงสะท้อนหายไป!
เฉินชางลอบสบถ พูดกับทุกคนว่า “รูม่านตาเบิกกว้างไม่ตอบสนองต่อแสง แย่แล้ว! เกิดอะไรขึ้นกับคนไข้กันแน่”
สือน่าได้ยินก็ทรงตัวไม่อยู่ทันที เล่อเล่อรีบเข้าไปพยุง “พี่น่าคะ เป็นอะไรไปคะ”
สือน่าจับเตียงไว้แล้วนั่งลงข้างๆ “ไม่เป็นไร เหนื่อยนิดหน่อย ฉันสงสัยว่าตอนนี้คนไข้เลือดออกในสมอง!”
หนึ่งประโยค ทำให้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ
เลือดออกในสมองและหัวใจหยุดเต้น ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดก็ต่ำขนาดนี้ การพยากรณ์โรคดีก็แปลกแล้ว!
แม้ทุกคนไม่ได้พูดออกมา แต่…
สถานการณ์แบบนี้ การพยากรณ์โรคจะต้องแย่มากอย่างแน่นอน และอาจจะต้องเตรียมใจแล้ว
หมอแผนกระบบทางเดินหายใจเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วก็ขอตัวจากไป ถึงอย่างไรเขาก็ต้องเข้าเวร
เฉินชางเห็นสภาพของสือน่าก็อดพูดไม่ได้ “อาจารย์สือครับ ผมไปคุยกับญาติคนไข้ คืนนี้อาจารย์รีบพักผ่อนนะครับ ผมอยู่เวรแทน”
ใช่แล้ว!
แม้ไม่รู้ว่าทำไมสือน่าเหนื่อยล้าขนาดนี้ แต่สภาพแบบนี้อยู่เวรดึกไม่ไหวแน่
พูดจบเฉินชางก็จะลุกขึ้นเดินออกไป แต่ตอนนี้เองจู่ ๆ สือน่าก็ส่ายหน้าพร้อมพูดว่า “เสี่ยวเฉิน นี่…พ่อสามีฉันเองค่ะ ฉันไปคุยกับญาติคนไข้เอง”
ประโยคนี้ ทำให้ทุกคนตะลึงไปทันที!
ทุกคนมองสือน่าอย่างเหลือเชื่อ
ถึงว่าสือน่าดูร้อนรนเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ แบบนี้ไม่ว่าใครก็คงลนลาน
ดั่งคำโบราณที่ว่า หมอห้ามรักษาตนเอง
ตอนที่เผชิญกับญาติคนไข้ หลายคนก็ยังคงกระวนกระวายเล็กน้อย
เฉินชางพยักหน้า
แต่สือน่ายังคงพูดว่า “เอ่อ…คืนนี้ฉันอยู่เวรเองค่ะ เดี๋ยวฉันเล่าสถานการณ์ของคนไข้ให้คุณฟัง
“คนไข้เพศชายอายุหกสิบสองปี ศูนย์ฉุกเฉิน 120 ส่งตัวมาที่โรงพยาบาลเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ตอนเที่ยงมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง จากนั้นค่อยๆ รุนแรงขึ้น ไม่มีอาเจียน อาการพวกนี้ตอนกลางวันที่ฉันทำงานอยู่ พวกเขาไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยไม่ได้บอกฉัน พอถึงกลางคืน ตอนกินข้าวเย็นเสร็จ จู่ๆ ก็สำลักอาหารออกมา ศูนย์ฉุกเฉิน 120 เลยส่งตัวมาที่แผนกฉุกเฉิน
“หลังจากฉันรู้ คิดว่าเลือดออกในสมอง อยากทำ CT ศีรษะ ถึงอย่างไรก็มีประวัติความดันโลหิตสูงและเบาหวานมาเป็นเวลานาน ปัจจุบันกินแอมโลดิพีนเบซิเลตและเมตฟอร์มิน…แต่ เพราะหมดสติไป จากนั้นหัวใจก็หยุดเต้น ทำอะไรไม่ทันเลยจริงๆ!”
สือน่าอธิบายการใช้ยาในชีวิตประจำวันและอาการของผู้ป่วยโดยละเอียดอย่างคล่องแคล่ว
และสุดท้ายได้พูดว่า “สาเหตุที่อาการกำเริบคือ…ถูกกระตุ้นอารมณ์”