เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 622 ปิดฉาก (2)
ตอนที่ 622 ปิดฉาก (2)
Ink Stone_Fantasy
พอได้ยินสือน่าที่ปกติไม่เคยมีปากมีเสียงกับใครถึงกับพูดว่ามาหาตนพร้อมทนาย จางเหวินป๋อก็ผงะไปครู่หนึ่ง!
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ คุณก่อเรื่องจนคนอื่นเขารู้ไปทั่วมันดีกับคุณตรงไหน ดีกับลูกยังไง”
ฉินเยว่อึ้งไปเลย! นี่จะหงายการ์ดความรู้สึกหรือไง นี่คิดว่าอาจารย์สือของพวกเราใจดีเหรอ
ฉินเยว่พูดขึ้นทันที “ที่นี่เป็นโรงพยาบาล อย่าเอะอะโวยวายค่ะ ลุงยามคะ มานี่หน่อยค่ะ”
ตัวฉินเยว่เองก็ใจแข็ง เห็นผู้ชายเลวก็ยิ่งโมโห เธออยู่กับสือน่ามาสามปี เข้าใจความรู้สึกของสือน่าเป็นอย่างดี นี่ก็เหมือนกับความฝันสามปีของตัวเองถูกคนอื่นเจาะให้แตกกะทันหัน
จางเหวินป๋อเห็นสถานการณ์ก็อับอายจนโมโหทันที!
พอเห็นว่าเขาจะกระโจนเข้ามา กลุ่มพยาบาลอย่างเล่อเล่อ เสี่ยวหลินก็พากันวิ่งออกมาหมด “คุณจะทำอะไร”
ยามสามคนก็วิ่งมาพร้อมกัน เอากระบองยามมาขวางจางเหวินป๋อไว้ทันที!
จางเหวินป๋อคิดไม่ถึงว่าตนเพิ่งมาก็จะเจอกับสถานการณ์อย่างนี้!
“สือน่า คุณโหดร้ายมากเลยนะ คุณอยากฆ่าผมเหรอ คุณคิดถึงลูกผมหรือยัง”
“ไม่มีงานเป็นเรื่องดีกับคุณตรงไหน นี่ไม่ใช่ลูกคุณเหรอ คุณมันไม่มีหัวจิตหัว…”
สองสามวันนี้สือน่าคิดตกแล้ว เธอมองจางเหวินป๋อ เอ่ยเรียบๆ ว่า “คุณวางใจได้ สิทธิ์เลี้ยงลูกจะไม่เป็นของคุณแน่นอน อีกอย่าง ที่คุณนอกใจ ฉันมีหลักฐานทั้งหมด พวกเราไปเจอกันที่ศาลเถอะ”
“จางเหวินป๋อ ในเมื่อคุณเคยคิดนอกใจก็ต้องเคยคิดจะหย่า คงเตรียมพร้อมแล้วมั้ง”
พอพูดจบสือน่าก็ไม่สนใจด้วยซ้ำ ลุกไปราวน์วอร์ดทันที
พอผ่านเรื่องนี้ เธอก็ทำใจยอมรับได้นานแล้ว ลองผู้หญิงคนหนึ่งหมดใจให้ผู้ชายคนหนึ่งแล้วจริงๆ เด็ดขาดเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
จางเหวินป๋อได้ยินคำสือน่าก็งงไปทันที!
“คุณ…สือน่า! คุณมัน…”
ในขณะที่จางเหวินป๋อกำลังจะหลุดปากด่าทอก็ถูกฉินไท่ซานจ้องเข้าให้ “คุณอะไร! ออกไป!”
สิ้นคำ เขาก็เรียกยามสองสามคนมาไล่จางเหวินป๋อไป
หลังจางเหวินป๋อจากไป เขาก็กลับถึงบ้านด้วยอารามตกตะลึง
แม่อยู่บ้าน พ่อนอนโรงพยาบาล สือน่ายังจะพาลูกไปด้วย บ้านหลังนี้ว่างเปล่าหาใดเทียบ เงียบสุดๆ
จางเหวินป๋อนั่งลงบนโซฟาอย่างหดหู่
ตั้งแต่กลับมาจนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้ไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลเลย เพราะเขาถูกแม่ยัดเยียดความคิดว่าพ่อไม่ได้เรื่องมาตั้งแต่เด็ก ถึงขนาดที่รู้สึกว่าพ่อชราที่หนักหนึ่งร้อยห้าสิบกว่ากิโลกรับเป็นภาระในบ้าน บางครั้งคุณธรรมกับการศึกษาของคนเราก็ไม่ได้สัมพันธ์กันจริงๆ
เฮ้อ…
จางเหวินป๋อหดหู่จนไม่พูดไม่จา แม่ของเขารินน้ำมาให้แก้วหนึ่ง
“ทางโรงพยาบาล…เป็นยังไงบ้าง” แม่เขาถาม
จางเหวินป๋อพูดสีหน้าไร้อารมณ์ “ผมโดนให้ออกแล้ว…”
แม่เขาอึ้งไป “นะ…นี่มันเป็นไปได้ยังไง!”
จางเหวินป๋อถอนหายใจ “เรื่องจริงครับ นี่เป็นประกาศ”
หลังจากแม่เขาเห็นก็ตะลึงไปทันที “ผะ…ผู้อำนวยการคนนี้ไม่มีตาเลยจริงๆ! โรงพยาบาลตงต้าสาขาสองนี่อีก หัวหน้าอะไรห่วยแตก!”
“ลูกฉันไปทำโพสต์-ด็อกที่อเมริกาเชียวนะ พวกเขาตาบอดกันหมดแล้วเหรอ”
หลังจากแม่ของเขาก่นด่าอยู่นานก็เอ่ยขึ้นว่า “ไม่ต้องกลัวลูก ลูกประวัติการศึกษาดีขนาดนี้ ยังมีคนแย่งตัวอีกเป็นกอง ลูกก็ไม่ได้อยากไปที่นั่นด้วยไม่ใช่เหรอ นี่ไม่พอดีเลยหรอกเหรอ!”
จางเหวินป๋อส่ายหัว “ผมว่าผมคงหางานดีๆ ในอันหยางไม่ได้แล้ว…เรื่องของผมกับอาเหลียนถูกสือน่าจับได้แล้ว…”
“สือน่าจะหาทนายมาขอหย่าผม”
หลังจากแม่ของเขาฟังจบก็คิดถึงแต่ลูกชาย “นี่ไม่พอดีหรอกเหรอลูก อาเหลียนคนนั้นไม่ใช่ลูกสาวของผู้นำหรือลูกเศรษฐีหรอกเหรอ ลูก…หย่าแล้วก็แต่งงานใหม่พอดีเลยไม่ใช่เหรอ”
“ถึงยังไงตอนนี้โพสต์-ด็อกที่อเมริกาก็ยังไม่ถึงกำหนด พอถึงกำหนดแล้วลูกก็แต่งกับเขา ถึงตอนนั้นพ่อเขาจะไม่ช่วยลูกเลยเหรอ”
“นี่มันโอกาสของลูกเลยนะ!”
จางเหวินป๋อพยักหน้า เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่มีทางให้หันหลังกลับแล้ว เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาอาเหลียน “ที่รักเหรอครับ ครับ…อาการป่วยของพ่อผมคงที่แล้ว ครับ…รอผมกลับไปหาคุณแล้วพวกเราแต่งงานกันนะ”
“โอเค! ที่รัก ผมคิดถึงคุณนะ พวกรีบแต่งงานกันเร็วหน่อยเถอะ!”
จางเหวินป๋อยิ้ม “ครับ โอเคครับ ผมจะเร่งให้เร็วที่สุด จะทำทุกอย่างให้เสร็จในอาทิตย์เดียว”
“ค่ะ จริงด้วย…พ่อแม่ฉันอาจจะมาอเมริกาอาทิตย์หน้า เหวินป๋อ ฉันว่าคุณซื้อบ้านที่อเมริกาดีกว่า…ฉันกลัวว่าถ้าพวกเขามาแล้วรู้ว่าคุณเช่าบ้านอยู่มันจะไม่ค่อยดี ทางฉันมีอยู่สองแสนดอลลาร์ ยังขาดอีกสามแสน ที่ฉันคิดไว้ก็คือฉันไปซื้อบ้านให้เรียบร้อยก่อนคุณกลับมาจะดีที่สุด พอพ่อแม่ฉันมาจะได้เห็นพอดี…”
พอจางเหวินป๋อได้ยินว่าอีกฝ่ายออกตัวเอาเงินสองแสนมาซื้อบ้าน เขาพลันรู้สึกซาบซึ้งเป็นที่สุด จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนั้นสือน่าก็เอาเงินสองแสนมาซื้อบ้านให้ตนด้วยเหมือนกัน…
เขาส่ายหัว “ได้ครับ ขอบคุณนะที่รัก ผมไปทำธุระทางนี้ก่อน คุณไปดูบ้านนะ…ผมจะเตรียมเงิน”
…….
……
จางเหวินป๋อกับสือน่าได้พบกันเป็นการส่วนตัว ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันเองโดยไม่ผ่านศาล
เรื่องแบบนี้ไม่ควรอยู่ที่ศาล มิหนำซ้ำจางเหวินป๋อยังจะเตรียมรีบกลับอเมริกาไปแต่งงานกับอาเหลียนหลังจากเรื่องทางนี้จบลง ถึงตอนนั้นตนจะไปไหนก็ได้ พอคิดถึงตรงนี้ จางเหวินป๋อจึงยอมถอยมากที่สุดเท่าที่ทำได้
ลูกๆ ล่ะ? สำหรับเขาในตอนนี้แล้ว ลูกเป็นภาระอย่างหนึ่ง และลูกทั้งสองคนก็อยู่ด้วย บอกตามตรงว่าเด็กๆ ไม่ได้มีภาพจำกับ ‘พ่อ’ คนนี้เท่าไร ภาพจำทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่แม่พูดให้ฟัง! ลูกทั้งสองคนยังเล็ก ภาพยังไม่ได้ติดอยู่ในใจอย่างลึกซึ้ง ถึงอย่างไรก็ได้พบกันจริงๆ ไม่กี่ครั้ง!
กระบวนการเจรจานี้ราบรื่นจนประหลาด สือน่าให้เงินจางเหวินป๋อห้าแสน ส่วนบ้านเป็นสิทธิ์ของสือน่า
แล้วสินสมรสล่ะ จางเหวินป๋อยังมีไม่มากเท่าไรจริงๆ ความรักของทั้งสองคนอาจจะเป็นสินสมรสเพียงอย่างเดียว น่าเสียดายที่จางเหวินป๋อทิ้งความรักนี้ไปเหมือนรองเท้าขาดๆ
หลังจากนั้น แม่ของจางเหวินป๋อก็ย้ายออกจากบ้าน กลับไปอยู่ที่พักจัดสรรเล็กๆ ของตน จางเหวินป๋อขายของในบ้านที่ให้หมดอย่างดีอกดีใจ เตรียมออกนอกประเทศไปเอาชนะสาวหมวยสวยรวย
ด้านสือน่าพาลูกๆ กลับบ้าน เรียกพ่อแม่ของตนเข้ามาอยู คล้ายชีวิตจะไม่ต่างอะไรกับในตอนแรก
พ่อของจางเหวินป๋อจากไปในเวลาไม่ถึงสองวัน ด้านแม่ของจางเหวินป๋อกับลูกสาวไม่ได้โศกเศร้ามากนัก พี่ชายคนโตกลับร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง สือน่ากับพวกลูกๆ ก็ร้องไห้อย่างเศร้าใจ
สำหรับหลายคนแล้ว การจากไปของชายชราเหมือนการบอกลาครอบครัวนี้โดยสมบูรณ์
สำหรับหญิงชราที่หยิ่งผยองมาทั้งชีวิตแล้วอาจจะเศร้าเหมือนทำของหาย เธอที่เดิมทีคิดว่าจะไม่เสียใจแต่ตอนนี้กลับทุกข์ใจ
และสำหรับสือน่าแล้ว นี่อาจจะเป็นบทสรุปอันงดงามของชีวิตการแต่งงานไม่ถึงสิบปีของตน
แต่จางเหวินป๋อกลับไปแต่งงาน ไม่สนใจงานศพทางนี้สักนิด…
รอยยิ้มกลับมาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลูกทั้งสองอย่างรวดเร็วเพราะการปรากฏตัวของคุณตาคุณยาย
ในขณะที่สือน่าทำงาน ก็คล้ายทิ้งภาระลงไปได้หลายอย่าง รอยยิ้มบนใบหน้าไม่ได้หนักอึ้งเท่าตอนแรกแล้ว
ฉินเยว่ตั้งใจไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ตั้งแต่หัวจดเท้าชุดใหม่เพื่อต้อนรับชีวิตใหม่เป็นเพื่อนเธอที่ห้าง
คราวนี้ จู่ๆ เฉินปิ่งเซิงก็เย้าขึ้นมาว่า “โห สือน่า ทำไมเมื่อก่อนผมไม่รู้ว่าคุณสวยขนาดนี้ล่ะ ผมใจเต้นแล้ว ทำไงล่ะทีนี้”
เฉินชางถอนใจ “ลูกพี่ ผมอัดเสียงไว้แล้ว วีแชทภรรยาคุณผมก็แอดไปแล้วด้วย คุณจัดการเอาเองเนอะ…”
เสียงหัวเราะรื่นเริงดังขึ้นในออฟฟิศ
เหมือนว่าชีวิตจะไม่มีหลุมบ่อที่ผ่านไปไม่ได้