เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 623 เห็นค่า
ตอนที่ 623 เห็นค่า
Ink Stone_Fantasy
บรรยากาศของนิวยอร์กช่างหอมยวนจมูกจางเหวินป๋อ มันเต็มไปด้วยอิสระและความหรูหราของทุนนิยม ในใจเขามีภาพฝันกับอนาคตว่ากำลังจะได้เห็นบ้านในอเมริกาของเขาแล้ว
เงินสามแสนดอลลาร์ นี่เป็นเงินทั้งหมดของจางเหวินป๋อแล้ว แต่…สิ่งนี้ไม่สำคัญ พอคิดถึงอนาคตอันงดงามแล้ว เขาก็รู้สึกว่าทั้งหมดนี้คุ้มค่า
พอลงจากเครื่องบิน เขาก็รีบร้อนโทรหาอาเหลียน แต่…เธอไม่รับโทรศัพท์สักที
จางเหวินป๋อหัวเราะแกมบ่น ยัยน่ารักตัวน้อย ยังอยากเซอร์ไพรส์ผมเหรอ ยัยตัวแสบ!
จางเหวินป๋อรู้จักเธอมาสองปีแล้ว ผู้หญิงคนนี้เข้าออกอีเว้นท์ไฮโซ ขับรถหรู ย่อมไม่มีทางทำเพื่อหลอกเอาเงินสามแสนดอลลาร์จากตน ขนาดพ่อแม่ของเธอ จางเหวินป๋อยังเคยค้นดูเอง นอกจากเรื่องนี้แล้วเขาไม่สงสัยเรื่องอื่น เพราะแค่ดูรูปยังเหมือนผู้นำระดับไม่ต่ำไม่สูงบางคน
เขากลับมาถึงคอนโดที่เช่าไว้ วางของเสร็จก็จะรีบออกเดินทาง
แต่หลังจากเปิดประตูจางเหวินป๋อก็งุนงงไปทันที! ทั้งห้องยุ่งเหยิงไปหมดอย่างกับมีโจรเข้ามา! เขาเดือดดาลเป็นที่สุด ไอ้ระบบความปลอดภัยเฮงซวย หลังจากค้นหาอยู่นานก็พบว่าของมีค่าของเขาหายไปหมดแล้ว!
แม่ง!
จางเหวินป๋อลอบด่าคำหนึ่งแล้วหยิบโทรศัพท์มาเตรียมแจ้งความ
ตอนนี้เอง เสียงเคาะประตูดังขึ้น หลังจางเหวินป๋อเปิดประตูก็พบว่าเป็นเจ้าของคอนโด
“ดร. จาง ถึงกำหนดจ่ายค่าเช่าห้องคุณแล้วใช่ไหม” เจ้าของคอนโดอายุหกสิบกว่าปีแล้ว แต่ชอบออกกำลังกาย ร่างกายจึงยังถือว่าแข็งแรง
จางเหวินป๋อเอ่ยอย่างร้อนรน “คุณปีเตอร์ โจรขึ้นห้องผม! ผมต้องแจ้งตำรวจก่อน คุณรอเดี๋ยว”
ปีเตอร์ผู้สูงวัยเห็นความยุ่งเหยิงภายในห้องแล้วมุ่นคิ้วแน่นทันที เขาก็อยู่ห้องตรงข้าม หลังจากรู้ว่าโจรขึ้นห้องก็ค่อนข้างโกรธ มองจางเหวินป๋อ “โจรขึ้นเหรอ ผมมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ตรงทางเดิน คุณอยากดูไหม”
จางเหวินป๋อพยักหน้าไวๆ ตามเข้าไปในห้องปีเตอร์ หลังจากเปิดดูก็ตะลึงไปทันที เพราะช่วงไม่กี่วันที่เขาไม่อยู่ นอกจากอาเหลียนแฟนเขาแล้ว ก็ไม่มีคนอื่นเข้าห้องเลยสักนิด และเมื่อดูให้ละเอียด เขาก็พบว่าของมีค่าถูกอาเหลียนคนนี้เอาไปจนหมด คราวนี้จางเหวินป๋อผงะไปเสียแล้ว!
เขาเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาอาเหลียนไม่หยุด แต่ก็โทรไม่ติดเลย พอยืมโทรศัพท์มือถือของปีเตอร์ก็เป็นแบบเดียวกัน!
ขณะนี้จางเหวินป๋อร้อนรนเสียแล้ว! เขารีบเรียกแท็กซี่ไปที่อยู่ของอาเหลียน ถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายจากไปนานแล้ว เขาลองตามหาร่องรอยของเธอ แต่…อาเหลียนคนนี้เหมือนหายไปในอากาศ จู่ๆ ก็กลายเป็นอากาศธาตุเสียอย่างนั้น
ตอนนี้จางเหวินป๋อศีรษะชาหนึบ ความสิ้นหวังพุ่งสูงขึ้นทันที หรือว่า…เราจะถูกหลอกซะแล้ว
พอคิดถึงตรงนี้ เขาก็อ่อนยวบไปทั้งตัว เขาคิดไม่ถึงว่าตนจะมีวันถูกหลอกได้ เขารีบวิ่งไปสถานีตำรวจ หลังจากแจ้งความแล้วถึงได้รู้ว่า…แม้แต่ชื่อแซ่กับบัตรประชาชนของอาเหลียนก็ยังเป็นของปลอม!
มิหนำซ้ำ ที่สำคัญที่สุด ตำรวจยังบอกเขาว่า “ผู้หญิงคนนี้มีชื่อจริงว่าเอมี่ หลายวันก่อนทางตำรวจได้รับแจ้งความมาสามครั้งต่อเนื่องแล้ว ล้วนเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ทั้งนั้น เมื่อพวกเราหาเบาะแสได้แล้วจะติดต่อคุณไปนะครับ”
“แต่พวกเราบอกคุณได้เลยว่าคนคนนี้เป็นนักต้มตุ๋นคนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย มิหนำซ้ำยังเป็นนักต้มตุ๋นที่ก่ออาชญากรรมเป็นขบวนการ พุ่งเป้าลงมือกับนักศึกษาต่างชาติกับลูกเศษฐีจากประเทศจีนโดยเฉพาะ”
คราวนี้จางเหวินป๋อเหวอไปเลย! เขางงไปหมดแล้ว เขาคิดไม่ถึงว่าที่ผ่านมามีแต่เขาที่หลอกคนอื่น อยู่มาวันหนึ่งจะถูกคนอื่นหลอกกลับ! ตอนที่ออกมาจากสถานีตำรวจ จางเหวินป๋อรู้สึกว่าจู่ๆ วิญญาณของตนก็ถูกควักออกไปจนเกลี้ยง
ตอนนี้ความหวังทั้งหมดคล้ายเมฆหมอกมลายหายไป
เจ้าหน้าที่ระดับสูงอะไร! ลูกเศรษฐีอะไร! สาวหมวยสวยรวยอะไร! แม่งตายจากไปไกลหมดแล้ว
จางเหวินป๋อร้องตะโกนดังลั่น แต่รอบๆ ไม่มีใครสนใจเขาสักคน เขาที่ร่างกายอ่อนยวบทรุดลงไปนั่งกับพื้น
คราวนี้เขาเสียใจเสียแล้ว…เสียดายเสียแล้ว! จินตนาการเป็นแค่การระบายความปรารถนาของตนออกมาเท่านั้น จินตนาการของตนถูกคนอื่นทำลายลงกับมือ
เนิ่นนาน เขาไม่พูดไม่จา นั่งอยู่กับพื้น ในหัวมีภาพนับไม่ถ้วนวนเวียนไม่หยุด สิ่งละอันพันละน้อยในชีวิตฉายขึ้นในหัวเขาอย่างต่อเนื่องราวกับหมอกควันผ่านตา ทันใดนั้นเขาก็พบว่าสำหรับเขาเองแล้ว ห้าปีนี้ก็เหมือนอาหารขยะ หาสิ่งที่ควรค่าแก่การหวนระลึกไม่ได้
ความฝันในตอนแรกคืออะไร เขาพบว่าตนลืมไปแล้ว…
ความตั้งใจแรกเริ่มในตอนแรกคืออะไร เขาถึงกับไม่กล้าเผชิญหน้า…
ช่วงเวลาที่คนกลัวที่สุดน่ะหรือ ที่กลัวที่สุดก็คือเผชิญหน้ากับความผิดที่ตัวเองก่อไว้ไม่ได้ กลับไปเดินบนเส้นทางที่เสียใจไม่ได้…
มองดูตัวเองอิจฉาลัทธิทุนนิยม มองดูนิวยอร์กอันคึกคัก เขาโซซัดโซเซ เดินสะดุดไปมาแต่กลับไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนอีก อย่างกับขอทานคนหนึ่ง
เพราะทางหันหลังกลับไปถูกตนปิดตายเองกับมือแล้ว
“ฮ่าๆ…”
“ฮ่าๆๆๆ…”
“น่าขำ!”
……
ขณะนี้ เขาเริ่มคิดถึงสือน่าอย่างบ้าคลั่ง อยากบอกเธอแทบบ้าว่าเขาผิดไปแล้ว เขาผิดตั้งแต่แรก!
แต่ตอนที่รวบรวมความกล้าโทรหา เขาก็พบว่าตนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะขอโทษ ตัวเองถูกบล็อกไปแล้ว เขาคิดถึงลูกของตัวเอง แต่พอนึกดูดีๆ กลับนึกหน้าตาของพวกเขาไม่ออก จู่ๆ ในหัวก็มีคำหนึ่งลอยมา แกมันไม่ไม่คู่ควร!
จางเหวินป๋อเริ่มหัวเราะดัง ใช่ไง! เขาไม่คู่ควร
ในตอนนี้เอง จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาดูแล้วเห็นว่าเป็นพี่ชายของตน พลันได้ยินเสียงอีกฝ่ายพูด “จางเหวินป๋อ ต่อไปอย่าติดต่อฉันเลย ฉันไม่มีน้องชายอย่างแก งานศพพ่อแกยังไม่มา แกเป็นคนอยู่ไหม” เสียงพี่ชายราบเรียบ แต่กลับเด็ดขาด!
สายโทรศัพท์ตัดไป
จางเหวินป๋ออยากร้องไห้ ใช่ไง! เขาไม่คู่ควร! ไม่คู่ควรเป็นลูกใคร! ไม่คู่ควรเป็นพ่อใคร! และยิ่งไม่คู่ควรเป็นสามีใคร!
ครั้งหนึ่งครอบครัวที่ดีปานไหนรอเขากลับมา ภรรยาที่ดีปานไหนดูแลเรื่องในบ้านแทนเขา ลูกๆ ที่ดีปานไหนเรียกเขาว่าพ่อ พ่อที่ดีขนาดไหนทำกับข้าวไว้ให้ตน…
เรื่องเหล่านี้!
สิ่งงดงามเหล่านี้…
เขาพบว่าด้วยความเคยชิน ด้วยความที่นึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา ตัวเองจึงมองข้าม…จนกระทั่งไม่สนใจ เขาเริ่มละโมบอยากไขว่คว้าหาแรงจูงใจกับ ‘ภาพฝัน’ ที่ว่า…
คราวนี้เขาพบแล้วว่าความจริงแล้วความสุขก็เรียบง่ายปานนี้ แต่ตนกลับไม่เห็นค่า
มาถึงตอนนี้ ตอนที่เดิมเขานึกว่าตนมั่งคั่งและมีความสามารถมากพอแล้ว กลับพบว่าตนไม่คู่ควรกับความสุขแล้ว!
เพราะเขาทรยศความสุขเหล่านั้นไปแล้ว! เขาไม่คู่ควรกับความสุข!
ใครบางคนที่ยินดีทำดีกับคุณโดยไม่มีเงื่อนไขได้จากไปแล้ว
และใครบางคนที่ยอมรอคุณอย่างโง่เขลาก็หมดใจไปแล้ว
บัดนี้ จางเหวินป๋อรู้แล้ว
ตนหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว….
ขณะที่มองท้องฟ้าของนิวยอร์กแห่งนี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าแสงสีที่เคยอิจฉาในตอนแรกนั้นกลับเป็นเพียงภาพลวง
เมื่อได้สติ หัวใจของเขาก็ตายลงที่ต่างเมือง!
ขนาดเสียใจยังไม่กล้าคิด!