เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 627 ความโชคดีในความโชคร้าย
ตอนที่ 627 ความโชคดีในความโชคร้าย
Ink Stone_Fantasy
ในห้องฟอกเลือด
ผู้ป่วยเอ่ยด้วยสีหน้างุนงง “หมอครับ…ร้ายแรงอย่างที่พวกคุณพูดกันจริงๆ เหรอครับ”
หมอในห้องฟอกเลือดกับอู๋เผิงจากแผนกฉุกเฉินสบตากัน หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
“ร้ายแรงไหมเหรอ”
“ร้ายแรงไหมก็ไม่ได้ขนาดนั้นหรอกครับ แต่ที่น่ากลัวที่สุดก็คือถ้ามาฟอกเลือดช้า สุดท้ายจะทำให้ตับเสียหายถาวร แบบนี้มันไม่จำเป็นครับ”
หลังจากผู้ป่วยได้ยินก็นึกกลัวขึ้นมา “เฮ้อ…ใครจะคิดได้ล่ะครับ กินยาแก้หวัดมาหลายปีขนาดนั้นก็เกือบทำตัวเองตายได้”
อู๋เผิงมองดูคนไข้ “คุณยังถือว่าค่อนข้างโชคดี มาฟอกเลือดทัน”
“ผู้ป่วยหลายคนไม่ได้เป็นเพราะขาดวิธีรักษา แต่เป็นเพราะวินิจฉัยโรคไม่ทันเวลา”
หมอห้องฟอกเลือดพยักหน้า “จริงครับ การรักษาด้วยการฟอกเลือดยังได้ผลดีกับภาวะยาเป็นพิษเฉียบพลันแบบนี้ แต่…หลายครั้ง รอตอนหมอวินิจฉัยโรคคนไข้ได้ก็สายไปเสียแล้ว!”
“ดังนั้น คุณถือว่าโชคดี!”
“ตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าหมอเฉินรู้ได้ยังไงว่าเป็นภาวะพิษจากพาราเซตามอล ตอนนี้เคสแบบนี้มีน้อยมากใช่ไหมล่ะ” หมอห้องฟอกเลือดถอนใจ “หมออู๋ พวกคุณหมอแผนกฉุกเฉินเก่งขนาดนี้หมดเลยเหรอ”
หลังจากอู๋เผิงได้ยินก็พลันหน้าแดงไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหนดี
คิดไปคิดมาก็ได้แต่พูดว่า “อืม…หมอเฉินเก่งมากครับ”
หมอห้องฟอกเลือดพยักหน้า เอ่ยอย่างออกจะตกตะลึง “เฮ้อ…หมอเฉินคนนี้อย่างกับอัจฉริยะจริงๆ คุณบอกว่าหมอแผนกฉุกเฉินคนหนึ่ง ขนาดสารฟอกเลือดยังเทียบเป็น สารฟอกเลือดที่ใช้กับพาราเซตามอลแบบนี้ผมยังเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก!”
“พูดตามตรง ถ้าไม่ใช่หัวหน้าโทรมาเองผมยังไม่กล้าใช้เลยนะ นี่ก็เก่งเกินไปแล้ว ผลลัพธ์ยังดีจริงๆ ด้วย ได้ผลดีขึ้นกว่าการฟอกเลือดเฉยๆ ในเวลาปกติไม่น้อยเลย!”
อู๋เผิงยิ้มอย่างอดไม่ได้ “คุณยังไม่รู้ใช่ไหม”
หมอห้องฟอกเลือดอึ้งไป “รู้อะไรครับ”
ตอนนี้เอง หมออาวุโสอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา “ตอนนิคมสารเคมีที่เมืองตะวันตกมีปัญหาคราวนั้น ภาระงานแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลเราค่อนข้างหนัก แต่สารฟอกเลือดไม่พอแล้ว คุณรู้ไหมเขาจัดการยังไง”
หมอน้อยส่ายหัว “ทำไงล่ะครับ”
หมออาวุโสยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “เฮ้อ ตอนหัวหน้าหวังกับหัวหน้าจางของพวกเราไปอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ ขู่ผู้อำนวยการจนหมดหนทาง หมอเฉินเขามาที่ห้องฟอกเลือดของพวกเรา จัดการผสมสารฟอกเลือดด้วยตัวเอง ตอนนี้คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมหัวหน้าถึงวางใจให้คุณใช้สารฟอกเลือกของหมอเฉิน”
คราวนี้หมอน้อยงงไปเลย!
“จริงเหรอครับเนี่ย”
หมออาวุโสอดส่ายหัวไม่ได้ “ตอนนั้นเสี่ยวอู๋ก็อยู่ เห็นเฉินชางผสมน้ำยากับตา คุณไปถามเขาสิ”
อู๋เผิงทอดถอนใจ “ครับ นี่เป็นเรื่องจริง คุณไม่ได้เห็นสถานการณ์ตอนนั้น ตอนนั้นหัวหน้าหวังยังเกือบทำรองผอ.ตกใจจนร้องไห้”
“แต่บอกตามตรง เรื่องคราวนั้นก็ออกจะด่วนจริงๆ สารฟอกเลือดไม่พอ แต่คนไข้ที่ต้องใช้สารฟอกเลือดกลับมีมากจนตึงมือ ตอนนั้นหมอเฉินมาผสมสารฟอกเลือดให้พวกเราเอง”
พอได้ยินการพูดคุยกันของคุณหมอเหล่านี้ ผู้ป่วยยังออกจะตื่นเต้น ในใจรู้สึกเร้าใจจนทนไม่ไหว
คิดไม่ถึงว่าตนจะถึงกับโชคดีดวงแข็ง ได้พบกับหมอเฉิน
ตอนนี้เอง หมออาวุโสในห้องฟอกเลือดมองดูผู้ป่วยแล้วพูดว่า “เฮ้อ…ไม่รู้จริงๆ ว่าจะบอกว่าคุณโชคดีหรือโชคร้ายดี!”
“จะว่าคุณโชคดีไหม…กินยาแก้หวัดจนหัวใจเต้นพลิ้ว เกือบตายไปแล้ว! ผมเป็นหมอฟอกเลือดมานานหลายปีขนาดนี้ เห็นคนที่เกิดภาวะเป็นพิษจากยาที่ปลอดภัยอย่างพาราเซตามอลแบบนี้มาฟอกเลือดน้อยมากจริงๆ!”
“แต่…จะว่าคุณโชคร้ายรึเปล่า คุณได้เจอหมอเฉินฉวยตัวคุณกลับมาจากมือยมทูตพอดี ผมบอกตามตรง ต่อให้วันนี้หัวหน้าซย่า ซย่าเกาเฟิงอยู่ในวอร์ด ก็ไม่แน่ว่าเขาจะหาสาเหตุของอาการป่วยได้ไวขนาดนี้ เพราะหลายปีนี้ลักษณะเฉพาะพื้นฐานของภาวะเป็นพิษจากพาราเซตามอลมีในคลินิกน้อยมาก”
ผู้ป่วยยิ้มเจื่อน การฟอกเลือดกำลังจะเริ่มขึ้น
……
……
ส่วนในแผนกศัลยกรรมหัวใจทางนี้ เมิ่งซีมองเฉินชางอย่างค่อนข้างเหลือเชื่อ “เสี่ยวเฉิน นี่คุณ…ยังผสมสารฟอกเลือดได้ด้วยเหรอ”
เฉินชางพยักหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ “ยากมากเหรอครับ”
ไม่รู้ทำไม สามหมอปริญญาเอกกับหนึ่งเมิ่งได้ยินคำพูดนี้ของเฉินชางถึงรู้สึกอยากต่อยคน
ขนาดคนที่ใจเย็นที่สุดอย่างอาจารย์เมิ่งยังกำหมัดแน่นอย่างอดไม่ได้ “ไม่แกล้งโง่แล้วมันจะตายเหรอคะ”
เฉินชางยิ้มอายๆ “เปล่าๆ ก่อนหน้านี้ผมเคยอยู่ในห้องฟอกเลือดพอดี”
เก่อฮว๋ายถอนใจ “ผมก็เคยอยู่นะ? ทำไมผมถึงทำไม่เป็นล่ะ”
นักศึกษาปริญญาเอกปีสองตีเก่อฮว๋ายอย่างอดไม่ไหวแล้วถอนใจ “เหล่าเก่อ คุณไปเทียบอะไรกับหมอเฉินเล่า คุณ…ไม่รู้สึกว่าทำตัวเองขายหน้าเองหรือไง คุณดูผม ไม่พูดไม่จา ดูเขาแกล้งโง่เงียบๆ ก็ถูกแล้ว”
การทำงานด้านการแพทย์ไม่เหมือนงานสายอื่น บางครั้งบรรยายแพทย์ว่าเหมือนทหารหรือนักรบก็เห็นภาพดี แพทย์บางคนเหมือนสุดยอดทหาร ไม่ว่าจะเป็นการจู่โจม สืบข่าว ศิลปะการต่อสู้หรือยิงโจมตี…ล้วนเชี่ยวชาญไปเสียหมด เป็นทหารหน่วยพิเศษมาโดยกำเนิด มีความสามารถชนิดที่ถือดาบสั้นพุ่งโจมตีถึงนายพลได้เลย คนแข็งแกร่งแบบนี้มักได้รับความเคารพจากผู้อื่นง่าย
เก่อฮว๋ายไม่ถอดใจ เขาแค่นหัวเราะ “ชิ ผมจะเหมือนพวกคุณได้เหรอ ต่อให้เป็นไอ้ขี้แพ้ ผมก็อยากเป็นไอ้ขี้แพ้ที่มีความฝันคนหนึ่ง เสี่ยวเฉิน คุณบอกผมทีเถอะ มีคัมภีร์ลับอะไรไหม หรือมีพรสวรรค์อะไร ทำยังไงถึงเปลี่ยนให้ยอดเยี่ยมได้อย่างคุณ”
เฉินชางอดถอนใจไม่ได้ ไม่รู้จริงๆ ว่าจะพูดอย่างไรดี แต่เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวังนั้นของเก่อฮว๋าย จึงถอนใจแล้วพูดขึ้นว่า “นี่…ก็คงจะเป็นพรสวรรค์ละมั้งครับ!”
พูดจบ เฉินชางก็หันหลังเดินไปห้องผ่าตัด
ทิ้งให้สามหมอปริญญาเอกนิ่งอึ้งอยู่ข้างๆ
นักศึกษาปริญญาเอกปีสามมองเก่อฮว๋ายครั้งหนึ่ง “ทำไมคุณต้องหาโอกาสให้เขาแกล้งโง่ด้วยล่ะ ไม่เงียบแล้วจะตายหรือไง…”
เก่อฮว๋าย “…”
……
เพื่อให้เมิ่งซีปรับตัวและคุ้นเคยกับการผ่าตัดหลอดเลือดใหญ่ให้เร็วที่สุด ช่วงนี้โรงพยาบาลตงต้าสาขาหนึ่งจึงเอาผู้ป่วยให้เมิ่งซีหมด ทรัพยากรก็เอนเอียงไปหาเมิ่งซี ทั้งยังให้ความช่วยเหลือ
และการผ่าตัดทั้งสามครั้งในคืนนี้ก็เป็นตัวอย่าง
คราวนี้หมอดีกรีปริญญาเอกเบอร์สามยังมาผ่าตัดร่วมกับเมิ่งซีและเฉินชาง
ผ่าตัดก่อนแล้วจึงค่อยแลกเปลี่ยนกัน
ต้องพูดว่าทุกคนต่างเป็นประกายแสงที่โดดเด่นจริงๆ
คนโง่สามคนยังเคยแข่งชนะขงเบ้งเลย นับประสาอะไรกับหมอปริญญาเอกสามคนล่ะ
พอเริ่มพูดคุยแลกเปลี่ยน บรรยากาศก็เริ่มครึกครื้นแล้ว
ทำงานยุ่งไปยุ่งมาจนถึงราวๆ ห้าทุ่มก็เสร็จงานในที่สุด
เมิ่งซีพัฒนาขึ้นมาก เฉินชางก็ไม่หยุดปรับตัวและไตร่ตรองเรียนรู้ความรู้กับประสบการณ์ที่ได้จากการแข่งขันระดับมณฑลเช่นกัน
สิ่งที่สองคนสุดท้ายให้เฉินชางล้วนเป็น [การผ่าตัดซ่อมแซมหลอดเลือดดำเสียหาย]
ส่วนการผ่าตัดหลอดเลือดใหญ่ทรวงอกเจ็ดชนิดย่อยในการแข่งขันตอนนี้ เฉินชางมีการผ่าตัดระดับสมบูรณ์แล้วสี่ชนิด ที่เหลือล้วนเป็นระดับปรมาจารย์ ได้แก่ [การผ่าตัดซ่อมแซมเอออร์ตาส่วนขึ้นเสียหาย] [การผ่าตัดซ่อมแซมเอออร์ตาส่วนลง] [การผ่าตัดซ่อมแซมหลอดเลือดดำเสียหาย] และ [การผ่าตัดซ่อมแซมหลอดเลือดแดงอินโนมิเนตเสียหาย]
แบบนี้แล้วความน่าจะเป็นที่ตนจะชนะยังมีมากอยู่ แต่ตอนนี้สิ่งที่ขาดไปอาจจะเป็นโชค