เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 634 บันทึกการเลื่อนตำแหน่งของเฉินชาง (3)
ถานลี่กั๋วพูดต่อว่า “พวกเราน่ะ ต้องให้อำนาจตัดสินใจเขาอย่างเต็มที่ อีกอย่าง หลี่เป่าซานเป็นคนเก่าแก่แล้ว เขาควบคุมได้ทั้งหมดแล้ว! มีหลี่เป่าซานอยู่ ย่อมปูทางให้เฉินชางได้! ส่วนเฉินชางก็มีพื้นที่ที่เพียงพอในการพัฒนา อีกทั้งเรายังให้คำมั่นสัญญาเขาว่า ในอนาคตจะให้ตำแหน่งหัวหน้ากับเขา! แบบนี้ไม่เพียงแค่ให้เวทีพัฒนาตัวเองอย่างแท้จริงกับเฉินชาง ยังมีรางวัลอย่างแท้จริง และเขายังได้รับคำมั่นสัญญาในอนาคตด้วย! ทุกคนคิดว่าอย่างไร”
ทุกคนต่างตะลึง!
นี่…ไม่ใช่หัวหน้าธรรมดาแล้วนะ
แต่เป็นผู้อำนวยการเล็กๆ คนหนึ่ง
ความหมายของถานลี่กั๋วคือสร้างแผนกฉุกเฉินให้เป็นตึกฉุกเฉิน
ส่วนเฉินชางเป็นรองหัวหน้าของตึกฉุกเฉินนี้ เป็นหัวหน้าในอนาคต และให้อำนาจตัดสินใจอย่างเพียงพอ
พูดไม่น่าฟังหน่อย ถึงตอนนั้น อำนาจของหลี่เป่าซาน ถึงขั้นที่อำนาจของเฉินชาง จะแข็งแกร่งกว่ารองหัวหน้าแผนกหลายคนเสียอีก
ในโรงพยาบาล มีกฎที่ไม่เป็นทางการกฎหนึ่ง!
โดยพื้นฐานแล้วผู้อำนวยการเคยอยู่แผนกไหน ก็ต้องพัฒนาแผนกนั้นอย่างเต็มกำลัง
อย่างเช่น หลังจากฉินเสี้ยวยวนรับตำแหน่ง แผนกเนื้องอกวิทยาของโรงพยาบาลอันดับสองติดหนึ่งในสามของมณฑล อาคารผู้ป่วยในมีแผนกเนื้องอกวิทยาห้าที่!
ตอนนี้ จู่ๆ ก็จะสร้างตึกฉุกเฉินตึกหนึ่ง
นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันหมายถึงว่างบประมาณปลายปีนี้เป็นของแผนกฉุกเฉิน
นี่เป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาของโรงพยาบาลอันดับสอง
ได้ยินประโยคนี้ ผู้อำนวยการและเลขาที่อยู่รอบๆ ต่างอึ้งงัน
รวมถึงฉินเสี้ยวยวนด้วย!
เพราะตึกเล็กนี้ ฉินเสี้ยวยวนจงใจทำให้ว่าง เขาเองก็อยากสร้างที่นั่นเป็นแผนกศัลยกรรมเนื้องอกวิทยา เอาไว้ผ่าตัดศัลยกรรมเนื้องอกโดยเฉพาะ
ถึงอย่างไรตอนนี้ทิศทางการพัฒนาที่เหมาะสมที่สุดของโรงพยาบาลอันดับสองคือแผนกศัลยกรรมเนื้องอกวิทยา เพราะการพัฒนาอย่างเต็มกำลังของแผนกเนื้องอกวิทยา ทำให้คนไข้เพิ่มขึ้นมาก ไม่เปิดแผนกศัลยกรรมเนื้องอกวิทยาถือเป็นการสิ้นเปลืองอย่างที่สุด!
ถ้าโรงพยาบาลอันดับสองเปิดแผนกศัลยกรรมเนื้องอกวิทยา นับเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาของโรงพยาบาลอันดับสอง
ฉินเสี้ยวยวนยังไม่ทันได้พูดอะไร หลี่เจี้ยนเหว่ยก็ชิงพูดขึ้นว่า “ไม่เหมาะครับ เป้าหมายของการพัฒนาโรงพยาบาลในอนาคตคือแผนกศัลยกรรมเนื้องอกวิทยา แผนการพัฒนาตึกเล็กก็เช่นกัน จะเปลี่ยนแปลงทิศทางการพัฒนาโรงพยาบาลเพราะเฉินชางไม่ได้”
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลในเครือเองก็พยักหน้า “ใช่ครับ ผมคิดว่าตอนนี้เฉินชางยังไม่มีความสามารถที่จะรับภาระด้านหนึ่งแต่เพียงผู้เดียว ยังเป็นรองหัวหน้าของตึกฉุกเฉินไม่ได้!”
อำนาจของรองผู้อำนวยการ แข็งแกร่งกว่าพวกหัวหน้าแผนกทั่วไปพวกนี้มาก!
ถ้าแผนกฉุกเฉินก่อตั้งตึกฉุกเฉิน ถึงตอนนั้น ที่นั่นก็จะเป็นศูนย์กลางคนไข้ของโรงพยาบาล เฉินชางอยากให้ใครก็ให้คนนั้น แค่คิดก็รู้ถึงอำนาจที่แฝงอยู่แล้ว!
“ใช่ครับ เฉินชางเด็กเกินไป…ทำแบบนี้ไม่เหมาะสม!” รองเลขาเองก็พูดเสริม
ถานลี่กั๋วไม่เพียงแค่ไม่เสียใจ กลับเงียบไม่พูดจา
เพราะบางคำพูดที่เขาพูดออกมาไม่ได้จะให้ทุกคนฟัง แต่เขาพูดให้ฉินเสี้ยวยวนฟัง
จุดประสงค์คืออะไรน่ะเหรอ
คิดเองเถอะ!
หลังจากฉินเสี้ยวยวนเงียบไปครู่ใหญ่ จู่ๆ ก็นึกได้ถึงวิธีที่ดีมากวิธีหนึ่ง
เขามองทุกคนพร้อมพยักหน้า “อืม ที่ทุกคนพูดมีเหตุผลมาก! ผมขอพูดวิธีของผมหน่อย ตอนนี้โรงพยาบาลต้องพัฒนาไปสองทิศทาง ทิศทางแรกคือต้องสร้างศูนย์แผนกศัลยกรรมเนื้องอกวิทยา ทิศทางต่อมาคือตึกฉุกเฉินก็ต้องเข้าสู่กระบวนการแล้ว
“การพัฒนาของตึกฉุกเฉินเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของโรงพยาบาลเรา จำเป็นต้องสร้างศูนย์ศัลยกรรมมือ แผนกศัลยกรรมทรวงอก และแผนกศัลยกรรมฉุกเฉินทั่วไปก็ละเว้นไม่ได้เช่นกัน แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ นอกจากต้องมีเครื่องมือ ยังต้องมีบุคลากร ส่วนเรื่องของเฉินชาง ผมก็จะพิจารณาให้รอบคอบ ส่งออกไปฝึกงาน”
ได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนอึ้งงันไปทันที
ส่งออกไปฝึกงาน?
นี่เป็นการใส่พานถวายให้คนอื่นชัดๆ
ฉินเสี้ยวยวนพูดต่อว่า “ฝึกงานเป็นเวลาหนึ่งปี เริ่มตั้งแต่หลังปีใหม่ปี 2020 ถึงปลายปี 2020 ซึ่งก็คือหลังจากปีใหม่ปี 2021 ในเวลาหนึ่งปี โรงพยาบาลของเราจะต้องปรับปรุงอาคารเก่าให้เสร็จสิ้น และอาคารใหม่ก็กำลังจะเสร็จในเร็วๆ นี้แล้ว
“ถึงตอนนั้น ตึกหนึ่งเป็นตึกแผนกศัลยกรรมเนื้องอกวิทยา อีกตึกเป็นตึกฉุกเฉิน นอกจากนี้ภายในปีนี้ เราจะต้องก่อตั้งทีมแผนกศัลยกรรมเนื้องอกวิทยา ในขณะเดียวกันก็ต้องสรรหาและอบรมทีมศัลยกรรมฉุกเฉินอย่างเต็มกำลัง”
คำพูดที่เด็ดขาดของฉินเสี้ยวยวนทำให้ทุกคนอึ้งไปทันที!
ใช้เวลาหนึ่งปีในการสร้างทีมแผนกฉุกเฉินที่สมบูรณ์แบบ!
ใช้เวลาหนึ่งปีในการฝึกหัวหน้าแผนกฉุกเฉินชั้นยอดคนหนึ่ง!
ใช้เวลาหนึ่งปี ในการสร้างตึกแผนกศัลยกรรมเนื้องอกวิทยาให้แล้วเสร็จ!
เรื่องที่ฉินเสี้ยวยวนจะทำ สุดยอดกว่าที่พวกเขาจินตนาการมาก
เรื่องนี้ทำให้ทุกคนตกใจยิ่งกว่าคำพูดของถานลี่กั๋ว แม้เลื่อนออกไปหนึ่งปี แต่…อีกหนึ่งปีจะเป็นหัวหน้าใหญ่ของแผนกฉุกเฉิน!
นี่จะ…ใจกว้างเกินไปหรือเปล่า!
พวกเขากล้าพนันว่า แม้เฉินชางถูกโรงพยาบาลเหล่านั้นแย่งตัว ก็ไม่มีทางยกตึกฉุกเฉินให้เขาพัฒนา
อย่างมากก็เป็นแค่หัวหน้าแผนกทั่วไป!
ในตอนที่พวกเขากำลังคิดไม่ตกอยู่นั่นเอง จู่ๆ ทุกคนก็ตระหนักได้ถึงเรื่องหนึ่งอย่างมีไหวพริบ!
ปีหน้า…ครบวาระแล้ว!
ที่สำคัญที่สุดคือ หนึ่งปีหลังจากนั้น ตำแหน่งผู้อำนวยการของฉินเสี้ยวยวนหมดวาระ จะต่ออีกหรือไม่
ถานลี่กั๋วก็หมดวาระเช่นกัน
พวกเขากำลังวางแผนอะไรกันแน่
ทุกคนต่างหายใจถี่กระชั้น
ทั้งห้องทำงานตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงเสียงหายใจที่ดังอย่างต่อเนื่อง
ในปีนี้ โรงพยาบาลอันดับสองจะต้องมีผลงาน!
และการสร้างตึกใหม่ ก็คือผลงาน!
สร้างสองตึกให้เสร็จภายในคราวเดียว ก็เป็นผลงานของทุกคนที่นั่งอยู่ในนี้
แผนกศัลยกรรมฉุกเฉินหนึ่งตึก!
แผนกศัลยกรรมเนื้องอกวิทยาอีกหนึ่งตึก!
ทุกคนที่นั่งอยู่ในนั้น ต่าง…ไม่จำใจปฏิเสธ!
หลังจากถานลี่กั๋วได้ยินคำพูดของฉินเสี้ยวยวน สายตาพลันเป็นประกายกว่าเดิม
เขาอดพึมพำในใจไม่ได้ กล้าหาญมาก!
ตอนนี้เอง จู่ๆ ฉินเสี้ยวยวนก็พูดว่า “ผมเห็นด้วย!”
ถานลี่กั๋วเองก็ไม่ปฏิเสธ “ผมเห็นด้วย!”
ทุกคนเริ่มทยอยยกมือขึ้น “เห็นด้วยครับ!”
ถูกต้อง!
ทุกคนไม่ได้โง่
ไม่ว่ากับเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว วิธีของฉินเสี้ยวยวนถือว่าดีมาก
ทำไมต้องปฏิเสธ
อีกอย่าง อีกหนึ่งปี เฉินชางเป็นหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน แล้ว…จะเป็นไรไป
ผ่านไปสองนาที การลงคะแนนสิ้นสุดลง!
ฉินเสี้ยวยวนพูด “อืม ตอนสิ้นเดือน ใส่สองเรื่องนี้เข้าไปในแผนการห้าปีของโรงพยาบาล ในการประชุมใหญ่ตอนสิ้นปี เราหารือรายละเอียดให้ชัดเจน การประชุมวันนี้จบลงเพียงเท่านี้ ทุกคนแยกย้ายได้”
ทุกคนต่างลุกขึ้น
ถานลี่กั๋วกลับเลือกที่จะอยู่ต่อ
เขามองฉินเสี้ยวยวน ถามเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ “เหล่าฉิน อีกสองปี คุณยังจะอยู่ที่โรงพยาบาลอันดับสองไหม”
ฉินเสี้ยวยวนได้ยินแล้วอึ้งงันไปทันที!
เป็นถึงระดับผู้อำนวยการ ก็มักจะสลับปรับเปลี่ยนกันไปในแต่ละโรงพยาบาล!
ฉินเสี้ยวยวนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เหล่าถาน คุณมีความคิดเห็นอย่างไร”