เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 636 ผู้อำนวยการฉิน ผมได้ยินมาว่าที่บ้านคุณมีเหล้าเหมาไถ
- Home
- เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
- บทที่ 636 ผู้อำนวยการฉิน ผมได้ยินมาว่าที่บ้านคุณมีเหล้าเหมาไถ
ต่อให้โง่กว่านี้ เฉินชางก็เข้าใจความหมายของฉินเสี้ยวยวน
เขาปูทางอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้ให้ ช่างเป็นผู้มีพระคุณสำหรับเฉินชางจริงๆ!
เฉินชางประทับใจเล็กน้อย เขากุมถ้วยน้ำชาไว้ สัมผัสความอุ่นภายใน พร้อมเงยหน้าขึ้นพูด “ขอบคุณครับ ผู้อำนวยการฉิน”
ฉินเสี้ยวยวนยิ้ม “ไม่ใช่คนนอกสักหน่อย ไม่ต้องเกรงใจ แต่เสี่ยวเฉิน พูดตามตรง ในโรงพยาบาลอันดับสองหรือในตงหยาง มีเรื่องอะไรผมก็ยังช่วยคุณได้ แต่ออกไป ถึงอย่างไรก็ต้องพึ่งตัวเอง อีกอย่างคุณก็อย่าดูถูกโรงพยาบาลอันดับสองเชียว ความจริงไม่ว่าคุณไปโรงพยาบาลไหน ผมก็กล้ารับประกันว่าคุณจะไม่มีอำนาจตัดสินใจได้มากเท่าที่นี่ มีผมอยู่ที่นี่ คุณก็ตั้งใจทำงานไปเถอะ มีความสามารถแค่ไหนก็แสดงมันออกมา
เพราะฉะนั้น เวทีแบบนี้ ถือว่าหายยากและมีค่ามาก! คุณต้องรักษาและใช้ให้เกิดประโยชน์ แน่นอนว่าถ้ามีเวทีที่ดีกว่าก็ย่อมได้ อย่าอื่นไม่ต้องพูดถึง แค่ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์”
คำพูดของฉินเสี้ยวยวน เฉินชางเข้าใจทั้งหมด เขาไม่ใช่คนที่เพิ่งเข้าสู่สังคมทำงานสักหน่อย
เฉินชางยิ้ม “อืม ขอบคุณผู้อำนวยการฉินครับ ผมเข้าใจ ผมจะพยายามให้ดีที่สุด”
ฉินเสี้ยวยวนดื่มชาคำหนึ่ง เผยรอยยิ้มและถามต่อว่า “อืม จริงสิ เรื่องฝึกงาน มีความคิดเห็นอะไรไหม ผมตัดสินใจแทนคุณไปโดยพลการ”
เฉินชางส่ายหน้า “แน่นอนว่าไม่มี ออกไปฝึกงานถือเป็นเรื่องที่ดี! ถ้าผมมีความคิดเห็น ก็เท่ากับไม่รู้คุณค่าโอกาสแล้ว”
พ่อตาปูทางไว้ให้ตน ปฏิเสธก็โง่สิ!
ทั้งสองคุยกันเรื่อยเปื่อยขึ้นมา ไม่เหมือนผู้อำนวยการและคุณหมออีกต่อไป กลับเหมือนพ่อตากับลูกเขย
จู่ๆ ฉินเสี้ยวยวนก็ถามอย่างสนใจ “เสี่ยวเฉิน ผมมีเรื่องหนึ่งที่ไม่ค่อยเข้าใจ คุณอยากพัฒนาไปในทิศทางไหนกันแน่ ตอนนี้ศัลยกรรมมือของคุณทำได้ดีขนาดนี้ ศัลยกรรมหัวใจก็มีชื่อเสียง จะไปเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศอยู่แล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะได้อันดับกลับมาด้วย พวกเฉียนเลี่ยงบอกว่าเทคนิคแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีของคุณก็สุดยอดมาก...ตอนนี้ผมไม่เข้าใจว่า ทิศทางพัฒนาในอนาคตของคุณเป็นอย่างไร ผมเห็นระดับปริญญาโทคุณเลือกแผนกศัลยกรรมหัวใจ คุณจะพัฒนาไปในทิศทางนี้จริงเหรอครับ”
ฉินเสี้ยวยวนจับทางเฉินชางไม่ได้เลยจริงๆ
หมอคนอื่นๆ แม้จดจ่อกับแผนกใดแผนกหนึ่งยังทำได้ไม่ดี ถึงขั้นเริ่มเจาะจงการผ่าตัดเพียงประเภทเดียว ถึงขั้นเจาะจงไปถึงโรคเพียงโรคเดียว
ตอนนี้เฉินชางกลับทำสิ่งที่ตรงกันข้าม ทำทุกอย่างเป็นอย่างละนิดหน่อย!
เฉินชางยิ้ม มองฉินเสี้ยวยวนพร้อมพูดว่า “ความจริง…สิ่งที่ผมเรียนก็คือทางที่คุณปูให้ผมไงครับ”
ฉินเสี้ยวยวนอึ้ง “หืม หมายความว่าไง”
เฉินชางสูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมพูดว่า “ผู้อำนวยการฉินบอกแล้วว่าจะสร้างตึกฉุกเฉิน ตึกที่สูงขนาดนั้น จะมีแค่แผนกเดียวคงไม่ได้หรอกมั้ง แผนกศัลยกรรมหัวใจฉุกเฉิน แผนกศัลยกรรมทรวงอกฉุกเฉิน แผนกศัลยกรรมมือฉุกเฉิน แผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีฉุกเฉิน และแผนกศัลยกรรมฉุกเฉินอื่นๆ…ก็ควรจะมีไม่ใช่เหรอ คุณบอกว่าจะให้ผมเป็นหัวหน้า ก็ควรจะเป็นตัวหลักของทุกคน เพราะฉะนั้นจะต้องควบคุมทุกระบบโรคฉุกเฉินอย่างเต็มความสามารถ!!”
ฉินเสี้ยวยวนยิ้ม “เจ้าหมอนี่ อย่าทำเกินกำลังตนเอง ข้าวต้องกินทีละคำ กินเยอะไปนอกจากสำลักแล้วยังจะท้องแตกตายด้วย…”
เฉินชางหัวเราะฮ่าๆ ขึ้นมา แต่ก็พูดต่อว่า “ความจริง แผนกฉุกเฉินเป็นที่แรกในการช่วยชีวิตของคนไข้วิกฤต และโรคภัยไข้เจ็บก็ไม่ใช่น้อยๆ ถึงขั้นที่ทุกแผนกล้วนมีโรคที่ทำให้คนไข้อันตรายถึงชีวิต แต่คิดดูอย่างละเอียด ในทุกแผนกใช่ว่าทุกโรคจะอันตรายถึงชีวิต!
สิ่งที่ผมอยากทำมาโดยตลอดคือแยกประเภทคนไข้วิกฤตของแต่ละแผนกออกจากแผนกนั้นๆ เพื่อรักษาในคราวเดียว ผมรู้สึกว่า ผมมีความสามารถและพรสวรรค์นั้น ผมไม่อยากเสียเปล่า
อีกอย่าง โรคและการผ่าตัดพวกนี้ดูเหมือนเยอะมาก นับไม่ถ้วน แต่พิจารณาอย่างละเอียดแล้ว ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกัน
อย่างเช่นอาการบาดเจ็บภายนอก ไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บภายนอกของทรวงอก อาการบาดเจ็บภายนอกของช่องท้อง…เป็นต้น ขอเพียงแค่หาความเกี่ยวข้องของพวกเขาเจอ การสรุปและแบ่งประเภท…ความจริงทำให้ง่ายขึ้นได้
ถึงตอนนั้น ผมจะรักษาฉุกเฉินให้ดีได้ ไม่แน่ว่าผมแก่ไป ยังจะเขียนหนังสือการผ่าตัดฉุกเฉินและอายุรศาสตร์ฉุกเฉินได้ด้วย
ตอนนี้หมอในประเทศเราล้วนเป็นหมอเฉพาะทาง ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาฉุกเฉินน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นอายุรศาสตร์ฉุกเฉิน ผมคิดว่าถ้าคนยุคเราทำให้ดี สักวันจะต้องทำคู่มือการผ่าตัดศัลยกรรมกฉุกเฉินให้ดีได้จริงๆ ถึงตอนนั้น เราก็จะพัฒนาหมอแผนกศัลยกรรมฉุกเฉินในขอบเขตที่กว้างขึ้นได้
และทีมนี้ก็คือหน่วยรบพิเศษของวงการแพทย์ของเรา! เป็นดั่งดาบอันแหลมคม!
ถึงตอนนั้น หากมีฝ่ายหนึ่งประสบภัย ทีมหน่วยรบพิเศษที่เป็นดั่งดาบอันแหลมคมของเรา จะช่วยประชาชนจากภัยพิบัติ!”
พูดถึงสุดท้าย เฉินชางถึงขั้นรู้สึกถึงความฮึกเหิมและเลือดร้อนของตน!
ยากไหม
ต้องยากแน่!
ถึงขั้นน้อยมากที่จะมีคนทำแบบนี้
แต่ของบางอย่างจะต้องมีคนทำ!
ยากแค่ไหน!
เหนื่อยแค่ไหน!
ก็จะต้องให้คนยุคสู่ยุค ทำให้มันสมบูรณ์ทีละก้าว
เฉินชางรู้ว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่ตนคนเดียวจะทำไม่ได้ แต่ เขารู้ว่าในวงการนี้ไม่ได้มีเขาคนเดียว!
รุ่นพี่หลายคนกำลังทำแล้ว
แต่เพราะข้อจำกัดของตนเอง จึงยังทำไม่สำเร็จเท่านั้น
เฉินชางมีระบบ นี่คือข้อได้เปรียบที่สุดของเขา
แต่ถ้าระบบถูกเขาสิ้นเปลืองไปเปล่าๆ จะน่าเสียดายมาก
เขาจะต้องทำเพื่อประชาชน ทำเพื่อสังคมสักหน่อย
หลังจากเฉินชางพูดจบ ทั้งสองต่างเงียบไป
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินชางแบ่งปันเรื่องอุดมการณ์และอนาคตกับคนอื่น ถึงขั้นพูดถึงแผนของตนเอง
ฉินเสี้ยวยวนฟังจบแล้วก็สะเทือนใจเช่นกัน
ความจริง พวกฉินเสี้ยวยวนเป็นนักศึกษาปริญญาโทด้านเนื้องอกวิทนากลุ่มแรกของประเทศ
ความจริง คิดอย่างละเอียดแล้ว เนื้องอกวิทยาก็เป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ
เนื้องอกเกี่ยวข้องกับทุกอวัยวะ เนื้อเยื่อ ระบบในร่างกายของมนุษย์!
วิจัยขึ้นมา ถือว่าเป็นสหวิทยาการแล้ว แต่พวกเขายังคงกระโจนเข้าไปวิจัยอย่างต่อเนื่อง!
หนึ่งคนวิจัยไม่จบ ก็ต้องวิจัยด้วยกันสิบคน สิบคนไม่พอ ก็ร้อยคน พันปี หนึ่งยุค สองยุค…
ตอนนี้การรักษาเนื้องอกในประเทศสู้ต่างประเทศไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าเทียบกับในอดีต ถือว่าก้าวหน้าขึ้นมากๆ แล้ว
พยายาม ก็ต้องมีทิศทาง และต้องมีกระบวนการ
ชั่วขณะนี้ จู่ๆ ฉินเสี้ยวยวนก็รู้สึกเข้าใจเฉินชางมากเป็นพิเศษ!
คิดถึงตรงนี้ ฉินเสี้ยวยวนยกถ้วยชาขึ้น พินิจเฉินชางอย่างจริงจังอีกครั้งก่อนจะยิ้มพูด “มา อวยพรให้คุณ ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ใช้ชาแทนเหล้า หมดแก้ว!”
เฉินชางยิ้ม “หมดแก้ว!”
ทั้งสองสบตากัน
เพียงแต่สิบวินาทีหลังจากนั้น เฉินชางพลันพูดว่า “ผู้อำนวยการฉิน ความจริงไม่จำเป็นต้องแทนเหล้าด้วยชา ผมได้ยินเยว่เยว่บอกว่า ในบ้านมีเหล้าเหมาไถพิเศษ ว่ากันว่าบ่มมาสี่สิบปีแล้วเหรอครับ”
เหล่าฉินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “ไสหัวไป”