เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 650 เขาหัวล้านแล้ว แถมเก่งด้วย! (1)
ตอนนี้เอง จู่ๆ ผู้คุมการแข่งขันหลักเหอไต้เจินก็รู้สึกว่าความจริงแล้วผู้ชายหน้าตาดีก็ดีมากเหมือนกัน! อย่างน้อย…ก็ถือว่ามองกันไม่เบื่อแล้วกัน!
หลังจากทั้งสองคนมองกันมาเจ็ดแปดนาที ในที่สุดพวกเขาก็ทำลายความเงียบลง พูดคุยกันสองสามนาที ผู้คุมการแข่งขันถือโอกาสถามคำถามส่วนตัวกับเฉินชาง สุดท้ายหลังจากพูดคุยกันอย่างอึดอัดมาสิบกว่านาที ผู้คุมการแข่งขันหลักก็ได้รับแจ้งว่าผู้เข้าแข่งขันสามารถออกจากสถานที่แข่งขันได้แล้ว
เหอไต้เจินพลันเอ่ยยิ้มๆ “เจ้าหนู ถ้ามีเวลาก็ผลัดมาที่โรงพยาบาล 301 ดู”
เฉินชางพยักหน้ายิ้มให้ “ได้ครับ ขอบคุณผู้คุมการแข่งขันนะครับ”
หลังจากเฉินชางออกมาก็ค่อนข้างตะลึง เพราะเหอไต้เจินดูเหมือนอายุไม่มาก ท่าทางก็เหมือนสี่สิบต้นๆ แต่ตอนเฉินชางคลิกลูกศรที่หัวเธอเพื่อฆ่าเวลา เสียงเตือนของระบบก็ทำให้เขาผงะไป
[เหอไต้เจิน: นี่คือหัวหน้าแผนกศัลยกรรมหัวใจที่มุ่งเน้นงานวินิจฉัยโรคคนหนึ่ง เชี่ยวชาญการผ่าตัดศัลยกรรมหัวใจมากมาย เป็นหัวหน้าใหญ่ของแผนกศัลยกรรมหัวใจโรงพยาบาล 301 และแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ]
เฉินชางพบว่ายิ่งระดับตนสูงขึ้น ข้อมูลที่ค้นดูได้ก็ยิ่งมากขึ้น ถึงกับเห็นของอย่างชื่อสกุล อาชีพ ความถนัดของอีกฝ่ายได้ แบบนี้ก็เจ๋งเลย อีกอย่างก็คือหัวหน้าเหอที่ดูเหมือนอายุสี่สิบกว่าดันเป็นแพทย์ชื่อดังระดับประเทศแล้ว เมืองหลวงต่างจากตงหยางตามคาด มีแต่เสือหมอบมังกรซุ่มสินะ
ทุกคนทยอยกลับจากสถานที่แข่งขันมาที่ที่นั่ง ต่อไปก็คือการสรุปคะแนน บนจอแสดงตารางที่เรียงตามตำแหน่งที่นั่งเป็นแถวๆ
“ชื่อสกุล…คะแนน…”
หลังจากทุกคนนั่งลงแล้วก็ต่างเริ่มรออย่างอดทน ตอนนี้ด้านบนที่นั่งผู้ชมกลับโกลาหล พากันถกกันว่าอันดับหนึ่งในการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นใคร ก็มีอยู่ไม่กี่คน!
“ผมว่าเฉินชางต้องได้ที่หนึ่งแน่!”
“นั่นสิ เขาเร็วกว่าซือคงด้วยซ้ำ ไม่ได้ที่หนึ่งแล้วจะได้ที่เท่าไร”
“พูดแบบนี้ แต่เกณฑ์ตัดสินคะแนนการผ่าตัดไม่ใช่ความเร็วช้ามั้ง ผมว่าคณะกรรมการต้องเริ่มคิดคะแนนจากแง่มุมต่างๆ ให้คะแนนที่ยิ่งสมเหตุสมผลแน่ ก็เหมือนอย่างที่ศาสตราจารย์ทุกคนท่านพูดไว้เมื่อกี้ การผ่าตัดของเฉินชางมีสีสันแต่ไม่คลาสสิค ดังนั้นคะแนนการแข่งขันยังน่าเป็นห่วง”
……
การวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ชมยิ่งทำให้ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองร้อยคนกระวนกระวาย
เฉินชางมองดูเครื่องหมายคำถามเหนือศีรษะของกัวอวิ๋นเฟย แจ้งเตือนภารกิจนี่นา! เขาจึงผงะไปเล็กน้อย “หมอกัว คุณเป็นอะไรไปครับ ตื่นเต้นเหรอ”
ที่จริงกัวอวิ๋นเฟยไม่ตื่นเต้นสักนิด ถึงอย่างไรเขากรำศึกมานาน ถ้ามาตกรอบในการแข่งขันแค่นี้ก็ออกจะขายหน้าเสียแล้ว เขาตื่นเต้นเพราะเมิ่งซีที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาต่างหาก!
ไม่รู้ทำไม กัวอวิ๋นเฟยถึงรู้สึกว่าตนแพ้น้ำหอม แพ้ลิปสติก แล้วก็แพ้…เอาเป็นว่าแพ้มารเจ้าเสน่ห์ที่อยู่ข้างกายเขาคนนี้ด้วย ถึงขนาดที่ตอนนี้เขาทำตัวไม่ถูก ดูกระวนกระวายเป็นอย่างยิ่ง
กัวอวิ๋นเฟยถอนหายใจ เขาปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงสวยไม่เก่งจริงๆ สิน่า มีปัญหากับการเข้าสังคมกับเด็กผู้หญิงตั้งแต่เด็ก หลายปีมานี้ต่อให้ทำงานไม่ถึงกับกระวนกระวาย เผชิญหน้ากับคนไข้ยังพูดง่าย แต่…ในชีวิตทั่วไปเจอแบบนี้เข้าก็ทำตัวไม่ถูกทุกที
เห็นกัวอวิ๋นเฟยส่ายหัว เฉินชางก็สงสัยเสียแล้ว เขาจึงพบความแปลกของกัวอวิ๋นเฟย ด้วยความสงสัย เขาจึงกดเครื่องหมายคำถามของกัวอวิ๋นเฟย
[กัวอวิ๋นเฟยผู้อึดอัดใจทำตัวไม่ค่อยถูกกับผู้หญิงสวย ช่วยเขาคลี่คลายความอึดอัด ได้รับค่าความรู้สึกดี +5]
เฉินชางเห็นแจ้งเตือนแล้วชะงักไปเล็กน้อย อดยิ้มไม่ได้ “หมอกัว ผมจะคุยกับอาจารย์เมิ่งนิดหน่อย พวกเราเปลี่ยนที่กันเถอะครับ”
กัวอวิ๋นเฟยสีหน้าดีใจทันที “ได้ครับ!”
หลังจากทั้งสองคนเปลี่ยนที่นั่งกัน เฉินชางก็ได้รับแจ้งเตือนรางวัลจากระบบ ด้านกัวอวิ๋นเฟยก็เหมือนผ่อนคลายลงมาก
เมิ่งซีมองเฉินชาง “คุณแข่งเป็นไงบ้าง”
เฉินชางส่ายหัวคิด บอกไปตามตรงว่า “พูดยากครับ! ไม่รู้ว่าเกณฑ์ตัดสินคืออะไร แต่คงเข้ารอบได้สบาย”
เมิ่งซีพยักหน้า “หมอกัวล่ะคะ”
กัวอวิ๋นเฟยพยักหน้า “ผมคงทำได้กลางๆ มั้งครับ”
บนจอเริ่มประกาศคะแนนอย่างต่อเนื่อง คะแนนของผู้เข้าแข่งขันออกมามากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
คะแนนของเมิ่งซีก็ออกแล้ว “เก้าสิบเอ็ดคะแนน”
และไม่นานนัก คะแนนของกัวอวิ๋นเฟยก็ออกแล้วเช่นกัน “เก้าสิบสามคะแนน”
คะแนนค่อยๆ ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ เมิ่งซีเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาทันที เพราะที่จริงคะแนนของเธอไม่ได้เปรียบอะไรแล้ว ส่วนมากคะแนนราวๆ เก้าสิบคะแนนทั้งนั้น แต่ผู้เข้าแข่งขันที่เข้ารอบมีเพียงสิบสองคน คะแนนของผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่ประกาศออกมาอย่างต่อเนื่อง ดวงตาเมิ่งซีเริ่มจ้องหน้าจออย่างละเอียด พลางคำนวณคะแนนสิบสองอันดับแรกของกลุ่มพวกเธอ! ปากก็พึมพำบ่นอุบอิบ
ในที่สุด! คะแนนของกลุ่มพวกเธอก็ออกมาหมดแล้ว เมิ่งซีได้ที่สิบเอ็ด เข้ารอบอย่างเฉียดฉิว! เธอจึงถอนใจโล่งอกในที่สุด!
ด้านกัวอวิ๋นเฟยอดยิ้มไม่ได้ ตนได้เก้าสิบสามคะแนน เป็นที่สามของกลุ่ม คนส่วนมากเกาะกลุ่มอยู่ระหว่างแปดสิบแปดถึงเก้าสิบสามคะแนน
นี่เป็นบันไดขั้นแรก
ตอนนี้เอง อันดับที่สิบสองของกลุ่ม A กระวนกระวายมาก ถึงอย่างไรก็กลุ่ม A ก็มีแต่หมายเลข 007 ที่ยังไม่ได้ประกาศคะแนน ตอนนี้เขาเป็นอันดับที่สิบสอง รู้สึก…ว่าตัวเองยังมีโอกาสอยู่
ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างยิ่งกระตือรือร้น!
“ซือคง เก้าสิบเจ็ดคะแนน! เก่งจัง!”
“ติงอวี่ก็ไม่แย่ เก้าสิบหกคะแนน ดูท่าความเร็วจะไม่ใช่เกณฑ์เดียวจริงๆ”
“เผิงลู่เก่งนะ! เก้าสิบหกคะแนน เป็นที่หนึ่งของกลุ่ม!”
“เอ๊ะ ทำไมคะแนนของเฉินชางยังไม่ออกล่ะ!”
“นั่นสิ…”
ตอนนี้เองทั้งหน้าจอกลายเป็นสีขาวทั้งหมด มีแต่ตำแหน่งเฉินชางที่ยังเป็นสีดำ โดดเด่นมาก!
ทุกคนต่างจ้องหน้าจออย่างสงสัย ถึงขนาดคนที่อยู่รอบๆ ทยอยหันไปมองที่นั่งเฉินชาง
กัวอวิ๋นเฟยผงะไปเลย ทุกคนมองเขาทำไม
แม้แต่พวกผู้ชมที่อยู่ในที่นั่งผู้ชมยังพากันมองไปที่ที่นั่งของเฉินชาง เพราะเห็นไม่ชัดจึงทำได้เพียงใช้มือถือซูมยี่สิบเท่ามาดู!
แต่ทุกคนเห็นแค่ศีรษะ! พอเห็นเข้าก็ต่างสูดหายใจเย็นเฮือกหนึ่งทันที!
“เฮือก…แข็งแกร่งตามคาด!”
“นั่นสิ คุณดูทุ่งหมาหลงนี่สิ มองปราดเดียวก็ได้กลิ่นอายของผู้แข็งแกร่ง!”
“จริง มีอำนาจมหาศาลผุดขึ้นระหว่างเส้นผมบางหรอมแหรม”
“แข็งแกร่งจัง!”
แต่แพทย์หญิงกลับถอนใจ “เฮ้อ อายุทำร้ายคนได้จริงๆ เฉินชางของพวกเราก็ไม่มีผมแล้ว…”
แพทย์ชายที่อยู่ข้างหลังเอ่ยว่า “ภาพต้องโฟโต้ช็อปมาแน่เลย!”
“+1!”