เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 654 ฮ่าๆๆ ผมว่าแล้วว่าพวกคุณต้องจำคนผิด
ได้ยินคำพูดของอาจารย์เมิ่ง เฉินชางก็เงยหน้าขึ้นมองอาจารย์เมิ่งแวบหนึ่ง!
“อาจารย์เมิ่ง คุณเป็นอาจารย์ผมนะครับ!” เฉินชางถอนหายใจ ตัดสินใจเรียกสติผู้หญิงที่ดื้อดึงไม่รู้ตัวคนนี้
เมิ่งซีอึ้ง ถลึงตาพร้อมพูดว่า “ใช่ ฉันเป็นอาจารย์คุณ เพราะฉะนั้น…คุณต้องฟังฉันไม่ใช่เหรอ”
เฉินชางฟังแล้วก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผล!
แต่…
เมิ่งซีลากเฉินชางออกไปข้างนอก “ไปๆๆ ไปห้องฉัน ห้องฉันเป็นห้องเดี่ยว!”
เฉินชางหัวใจกระตุกวูบ
ห้องฉัน…รับประกันความอิ่มท้อง…
คำพูดเหล่านี้วางด้วยกันแล้วทำไมรู้สึกแปลกๆ!
เมิ่งซีพาเฉินชางขึ้นลิฟต์ หลังจากรูดการ์ดก็มาถึงชั้นห้าสิบเอ็ด
พอเปิดประตูห้อง เฉินชางก็อึ้งไปทันที!
“ให้ตายสิ ทำไมห้องผมเป็นห้องสแตนดาร์ด ห้องคุณเป็น…ห้องดีลักซ์ที่ใหญ่ขนาดนี้”
เฉินชางมองห้องดีลักซ์นอันกว้างใหญ่นี้ ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเหลือเชื่อ
เมิ่งซีพูดเหมือนเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว “ฉันโทรถามแล้วว่าเพิ่มเงินอัพเกรดห้องได้ แต่ฉันเช็คแล้ว ห้องชุดขนาดเล็กและชุดพรีเมี่ยมหมดแล้ว ฉันเลยจองห้องเพรสซิเดนสูท”
เฉินชางฟังแล้วส่ายหน้าทันที มีเงินนี่ดีจริงๆ เลย!
เฉินชางเงยหน้าขึ้นจ้องเมิ่งซีแวบหนึ่ง “อาจารย์เมิ่ง เสียดายมากที่คุณชอบผู้หญิง ไม่อย่างนั้น…ผู้ชายอย่างพวกผมคงสุขสบายไวขึ้นอีกหลายร้อยปีเลย!”
เมิ่งซียิ้มเย้ายวน มองเฉินชางพร้อมเลิกคิ้ว “ฉันได้ยินว่าคุณมีน้องชายคนหนึ่ง หล่อกว่าคุณด้วย!”
สีหน้าของเฉินชางเปลี่ยนไปทันที “อาจารย์เมิ่ง กระต่ายไม่กินหญ้าข้างบ้านนะครับ น้องชายผมยังเด็ก!”
เมิ่งซีหัวเราะฮ่าๆ “อืม ฉันรู้ค่ะว่าน้องชายคุณยังเด็ก!”
“ตอนที่ฉันเดินผ่านเมื่อครู่นี้ ได้ยินพวกเขาคุยกันว่าเฉินชางทั้งไวทั้งบาง ก็ไม่รู้ว่าพวกเขารู้ได้อย่างไร”
เฉินชางสีหน้าคล้ำเขียว!
เสียชีพได้ แต่ไม่ยอมเสียศักดิ์
คนอย่างเฉินชางจะรับการดูถูกขนาดนี้ได้อย่างไร
ทว่านึกได้ว่าอาจารย์เมิ่งมีเงินขนาดนั้น เฉินชางจึงตัดสินใจอดทนไว้!
เฮ้อ…
อาจารย์เมิ่งนะอาจารย์เมิ่ง ไม่เห็นผมเป็นนักเรียนเลย ช่างเถอะ อย่าถือสาคำพูดของเด็ก ให้อภัยเธอแล้วกัน
ความจริง ตอนนี้เมิ่งซีและเฉินชางยามอยู่ด้วยกันก็เป็นกันเองมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่งเลย ไม่สิ…เป็นเพื่อนสาว!
เมิ่งซียิ้ม เข้าห้องไปถอดเสื้อหนังแขวนบนไม้แขวนเสื้อ เสื้อสเวตเตอร์ผ้าแคชเมียร์ขับเน้นรูปร่างเธออย่างชัดเจน
เมิ่งซีเผยรอยยิ้มลึกลับให้เฉินชาง “รีบหน่อย ตอนนี้จะเที่ยงแล้ว บ่ายสองครึ่งก็จะเริ่มแล้ว มีเวลาแค่สองชั่วโมงกว่า ไม่รู้ว่าเวลาพอไหม!”
เฉินชางมึนแล้ว!
เรียกผมมาที่ห้อง เข้ามาก็ถอดเสื้อ และยังบอกผมว่ามีเวลาแค่สองชั่วโมง…
เห็นได้ชัดว่ากำลัง…
แต่!
คุณทำเกินไปหรือเปล่า
สองชั่วโมง!
ปากเก่งจริงๆ เลย
เฉินชางรีบปฏิเสธ
“อาจารย์เมิ่งครับ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น!”
เมิ่งซีได้ยินแล้วลากเฉินชางเดินเลี้ยวซ้ายไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
เฉินชางสีหน้าเปลี่ยนไป “อาจารย์เมิ่ง ห้องนอนอยู่ทางขวาครับ!”
เมิ่งซีชะงักไป ก่อนจะหันมองเฉินชางแวบหนึ่ง “ห้องนอนเหรอ ไปทำอะไรที่ห้องนอนคะ”
พูดจบก็ลากเฉินชางมาที่โต๊ะกลางห้องรับแขก ยื่นมือหยิบกระดาษแผ่นใหญ่เมื่อเช้าออกมา!
ในดวงตาตาคู่โตเหมือนพูดได้ จ้องเฉินชางพร้อมพูดว่า “เสี่ยวเฉิน มา บอกความคิดเห็นของคุณให้ฉันฟังหน่อย! ถ่ายทอดความลับที่คุณสั่งสมมาให้ฉัน ทำเวลาหน่อย ภารกิจหนักหนา มีเวลาแค่สองชั่วโมง!”
“คุณดู ฉันสรุปมา การผ่าตัดพวกนี้ วิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิมของการผ่าตัดเหล่านี้ฉันทำเป็นทั้งหมด แต่กับวิธีจัดการบาดแผลพิเศษบางอย่าง ฉันไม่มีวิธีที่ดีมากนัก คุณช่วยฉันคิดหน่อย บอกวิธีที่ดีกับฉันหน่อย”
เฉินชางเหลืออด “ผมหิวครับ!”
เมิ่งซีได้ยินแล้วโกรธจนตบโต๊ะทันที เธอพูดอย่างโกรธเคือง “อาจารย์คุณจะตกรอบอยู่แล้ว คุณยังอยากกินข้าว คุณกินลงเหรอ”
“คุณลองคิดดู ถ้าฉันตกรอบขึ้นมา คุณจะขายหน้าแค่ไหน อาจารย์จะขายหน้าแค่ไหน ในฐานะลูกศิษย์คุณจะมีเกียรติเหรอ โชคชะตาของเราผูกกันแล้วนะ!”
เฉินชางอึ้ง แบบนี้ก็ได้เหรอ
คนอื่นเขาลูกศิษย์แพ้ อาจารย์ขายหน้า ทำไมคุณ…ตรงข้ามล่ะ
“อีกอย่าง เสี่ยวเฉิน พูดความจริง ฉันดีกับคุณแค่ไหน” เมิ่งซียังคงถามไม่หยุด
เฉินชางพูดตามความจริง “ไม่เท่าไหร่ครับ!”
เมิ่งซีได้ยินแล้วโกรธจนก้อนตรงหน้าอกจวนเจียนระเบิด “ฉัน…ฉัน…”
เฉินชางเข้าใจสถานการณ์มาก จึงก้มหน้าพูดต่อทันที “อาจารย์เมิ่งดู การผ่าตัดที่หนึ่ง ความจริงเป็นการบาดเจ็บของเอออร์ตาส่วนขึ้นทั่วไปทำให้เกิดการฉีกขาดอย่างกะทันหัน การบาดเจ็บแบบนี้ ปกติสิ่งสำคัญที่สุดในการผ่าตัดคือการจัดการเส้นเลือดอุดตันซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการผ่าตัด แกนหลักคือจัดการกับปัญหาของเส้นเลือดอุดตัน อืม คุณดู…”
เมิ่งซีเห็นแบบนี้ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก้มหน้าดู
เวลาสองชั่วโมง เฉินชางพูดไม่จบจริงๆ!
เมิ่งซีคัดความเป็นไปได้ในการผ่าตัดออกมายี่สิบกว่ารายการ
ความจริง! นี่ก็คือการเก็งข้อสอบ!
ดูสิว่าจะเก็งเจอข้อสอบจริงไหม
ช่วยไม่ได้ ความสามารถมีจำกัด ทำได้เพียงภาวนาขอพรจากพระตอนช่วงจวนเจียน
……
……
ในห้องอาหารตอนนี้ กัวอวิ๋นเฟยไปกินข้าวคนเดียว แต่เมื่อเทียบกับการไปกินกับเมิ่งซี เขากลับรู้สึกว่ากินข้าวแบบนี้สบายกว่า
เขาที่อารมณ์ดีกินอาหารจานเด็ดไปหลายจาน แม้แต่เนื้อยังกินไปหลายชิ้น!
แต่เขาค้นพบเรื่องที่แปลกมากเรื่องหนึ่ง เพราะ…ตอนที่เขาคีบอาหาร คนรอบข้างมักหลีกทางให้เขาพร้อมรอยยิ้ม!
ใช่แล้ว เมื่อครู่นี้สเต็กเนื้อเหลือแค่หนึ่งเดียว คนข้างหน้ามองเขาแวบหนึ่ง แล้วยิ้มพูด “หมอเฉินครับ คุณกินก่อน! ช่วงบ่ายสู้ๆ นะครับ! รอผลงานคุณอยู่!”
ฉากแบบนี้เกิดขึ้นไม่เพียงแค่ครั้งเดียวแล้ว ทำให้กัวอวิ๋นเฟยมึนงง
หรือ…ผมจำชื่อตัวเองผิด ผมตระกูลเฉินเหรอ??
ไม่ใช่สิ!
ผมก็ชื่อกัวอวิ๋นเฟยไง
แต่ทำไมถึงเรียกผมว่าหมอเฉิน
กัวอวิ๋นเฟยงุนงง
แม้แต่ตอนที่กินข้าว คนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ยังซุบซิบเรื่องของกัวอวิ๋นเฟยแล้วเผยรอยยิ้มเป็นมิตร
คนที่กล้าๆ หน่อยก็เข้ามาทักทาย “หมอเฉินครับ การผ่าตัดเมื่อเช้าของคุณสุดยอดมาก พวกเราได้เปิดโลกเลย!”
แค่นี้ยังรับได้!
แต่นักเรียน นักศึกษาปริญญาโทเหล่านั้นยิ่งวิ่งเข้ามา พูดกับกัวอวิ๋นเฟยพร้อมรอยยิ้ม
“คุณหมอเฉิน คุณไวมากจริงๆ!”
“ใช่! ไวเกินไปแล้ว!”
“ใช่ค่ะ หนูไม่เคยเห็นหมอศัลยกรรมหัวใจที่ไวและละเอียดเท่าคุณเลย”
“หมอเฉินมีคนรักหรือยังคะ”
……
กัวอวิ๋นเฟยที่เข้าหาผู้หญิงไม่เก่งอยู่แล้วมึนงงไปทันที หนีไปอย่างเร่งรีบ!
ทำให้นักเรียนหญิงที่อยู่ข้างหลังต่างหัวเราะขึ้นมา
หลังจากกัวอวิ๋นเฟยจากไป เขาก็หวาดกลัวขึ้นมาระลอกหนึ่ง!
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ทำไมผู้หญิงกลุ่มนี้รู้เยอะขนาดนี้
ผมใส่กางเกงตัวนอกหนึ่งตัว กางเกงในหนึ่งตัว กางเกงให้ความอบอุ่นหนึ่งตัว กางเกงลองจอนหนึ่งตัว กางเกงใน…พวกเขาก็มองเห็นเหรอ
น่ากลัวเกินไปแล้วมั้ง
คิดถึงตรงนี้กัวอวิ๋นเฟยก็อายมาก ตื่นตกใจขึ้นมา!
กัวอวิ๋นเฟยออกจากตึก ยืนถอนหายใจอยู่ข้างนอก!
วันนี้ลมแรงมาก!
ตอนนี้เอง เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาอยากโทรหาภรรยา อยากถามว่าความลับของตนเองถูกเปิดเผยได้อย่างไร!
ตอนนี้เอง จู่ๆ ก็มีคนตบหลังตนเอง
พอหันมอง พลันเห็นติงอวี่เผยรอยยิ้ม “เหล่ากัว ทำอะไร”
กัวอวิ๋นเฟยอึ้ง!
จู่ๆ ก็เข้าใจทันที อดหัวเราะฮ่าๆ ไม่ได้
ใช่!
พวกเธอหมายถึงหมอเฉิน ผมคือหมอกัว พวกเธอต้องจำผิดแน่ๆ
ใช่แล้ว!
ไม่มีทางที่จะมีคนรู้ความลับของผม!
ฮ่าๆๆๆ…