เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 667 จิตใจยุติธรรม (2)
เฝิงหงอี้ก็ตามเข้าไปในห้อง บอกตามตรง เขายังไม่เข้าใจกระบวนการนี้นัก เขาแค่อยากขู่เอาเงินจริงๆ! แต่คิดไม่ถึงว่าจะมาถึงขั้นนี้เสียได้!
นี่อู๋ถงฝู่ถึงกับจะขึ้นศาลด้วยจุดยืนหนักแน่น หรือเขาไม่รู้ผลลัพธ์ของเรื่องนี้
ในห้องควบคุมกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ดึงวิดีโอกล้องวงปิดออกมา
ทันใดนั้น!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็ปรากฏขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ หลังจากเฝิงหงฝางเข้ามาก็เริ่มโวยวายร้องตะโกนดังลั่น ชี้พยาบาลพลางตะคอกอะไรบางอย่าง จนต่อมาฮุ่ยฮุ่ยพูดอะไรสักสองสามประโยค ยามก็ออกมา ส่วนเฝิงหงฝางก็ลุกจากไป
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง หรือก็คือเวลาพักกลางวัน เฝิงหงฝางเดินเข้าไปใกล้เคาน์เตอร์พยาบาล ลงมือทำร้ายฮุ่ยฮุ่ยที่กำลังกินข้าวอยู่! ทั้งเหตุการณ์โหดร้ายหาใดเทียบ!
นี่ทำให้พวกอู๋ถงฝู่ เจี่ยงเหวินรุ่ยที่เพิ่งเห็นภาพนี้เข้ามือสั่นทั้งสองข้าง!
ขนาดเฉินชางยังศีรษะชาหนึบ!
เรื่องแบบนี้คุณเอาอะไรมาป้องกันตัว! ป้องกันได้ยากอยู่แล้ว!
ภาพหยุดไปชั่วคราว!
พวกตำรวจที่อยู่ข้างหลังหนิวเจิ้งกับเจ้าหน้าที่บันทึกต่างงุนงงไปหมดแล้ว
การก่อคดีอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ช่างน่าโมโหจริงๆ! แถมยังน่าใจหายด้วย!
พอดูถึงตรงนี้ ทุกคนต่างอดขมวดคิ้วไม่ได้
น่าโมโหเกินไปแล้ว!
ทุกคนต่างหันไปจ้องเฝิงหงอี้ แววตาโกรธเคืองจนแทบจะฉีกเขาให้แหลกกระจุยได้!
ก่ออาชญากรรมไปแล้ว! คุณเอาอะไรมาเถียงอีก
เฝิงหงอี้อดพูดไม่ได้ “นี่มันเรื่องปกติของคนเรา คุณคิดดูสิ พะ…พะ…พ่อคุณตายทั้งคน คุณจะไม่วู่วามได้เหรอ”
“พ่อผมยังดีๆ อยู่เลย สุดท้ายนอนโรงพยาบาลคืนเดียวก็ตายแล้วเหรอ”
“พ่อผมเป็นถึงทหารเก่าที่ปลดประจำการจากกองทัพเลยนะ ตอนแรกเขาไม่ได้ตายในสนามรบ สุดท้ายมาตายที่โรงพยาบาลพวกคุณนี่ ผมจะรายงานออกไป ผมจะให้คนทั้งโลกมาวินิจฉัยถูกผิด!”
เฝิงหงอี้ยังดึงดันจะบีบบังคับต่อไป!
ใช่แล้ว พ่อของเขาเป็นทหารเก่าปลดประจำการ มิหนำซ้ำยังเป็นทหารที่มีความดีความชอบ คนแบบนี้ถ้าอยู่ในอินเทอร์เน็ตจะต้องกลายเป็นพล็อตเรื่องวีรบุรุษ ดึงดูดความเห็นใจและความรู้สึกขอบคุณจากคนกลุ่มต่างๆ ได้! มิหนำซ้ำหลังจากคุณเฝิงผู้พ่อปลดประจำการก็ใช้ชีวิตระดับรากหญ้าเงียบๆ ทั้งชีวิต ไม่ได้รับค่าตอบแทนคุณงามความดีแต่อย่างใด เป็นคนละทิ้งสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเอง
คนรุ่นพวกเขามีศรัทธา! พวกเขาคิดว่าตนขานรับการเรียกหาของประเทศชาติ ทุ่มตัวไปกับการสร้างหมู่บ้านชนบท ต่อมาอายุมากแล้ว ประเทศจึงดูแลคนพวกนี้เป็นอย่างดี กำหนดให้รักษาโรคโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ให้ความช่วยเหลือในการดำรงชีวิต
วีรบุรุษเก่าเช่นนี้คนหนึ่งถ้าอยู่ในโซเชียลมีเดียจะก่อให้เกิดคลื่นใหญ่ถาโถมได้จริงๆ!
นี่ก็คือไพ่ตายที่ใหญ่ที่สุดของเขาเฝิงหงอี้!
เดิมทีในสังคมก็มีคนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกต่อต้านโรงพยาบาลอยู่แล้ว ถ้าเอาสองเรื่องนี้มารวมกัน นี่จะทำให้ผู้คนโกรธเคืองได้เท่าไร!
เขา เฝิงหงอี้ คิดได้ถึงผลกระทบที่น่ากลัว! แล้วโรงพยาบาลจะนึกไม่ถึงเชียวหรือ
นี่ก็คือที่พึ่งที่ใหญ่ที่สุดของเขาเฝิงหงอี้!
ก็แค่ขู่เอาเงินเท่านั้นเอง มิหนำซ้ำพ่อผู้ชราของเขาก็คุ้มเงินมาก ถึงขนาดที่ในจิตใจอันบิดเบี้ยวของเขาเห็นว่าตายไปแล้วหาเงินได้มากกว่ายังอยู่! ด้วยเหตุนี้เขาจึงตั้งใจหาพวกป่วนโรงพยาบาลของที่นี่มาทำให้เรื่องใหญ่โตไปกว่าเดิมโดยเฉพาะ บนป้ายยังเขียนวีรกรรมเกียรติยศของพ่อเขา เป็นวีรบุรุษนั่นนี่ ขนาดภาพยังเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว! เห็นได้ชัดว่ามาโดยเตรียมการไว้ก่อน
ผู้กำกับหนิวได้ยินเฝิงหงอี้ชี้ตนพลางพูดว่าพ่อเขาตายแล้ว ทันใดนั้นก็โกรธจัด
“พูดจาอะไรของคุณ!”
เฝิงหงอี้แค่นหัวเราะ “ผมก็แค่ยกตัวอย่าง คุณอย่าโกรธสิ!”
ผู้กำกับหนิวโกรธ แล้วก็คร้านจะไปทะเลาะกับคนพรรค์นี้
เฝิงหงอี้เอ่ยต่อ “กรอไปข้างหลังสิ ผมอยากเห็นว่าน้องชายผมบาดเจ็บยังไง พวกคุณกล้าดียังไงมาทำร้ายเขา คนที่จะจับจะตีก็เป็นหน้าที่หน่วยงานตำรวจนี่นา!”
พอได้ยินคำนี้เข้า เฉินชางก็รู้สึกตงิดๆ อดมองเฝิงหงอี้อย่างเย็นชาไม่ได้
เฝิงหงอี้เห็นชายหนุ่มอย่างเฉินชางจ้องตนอยู่จึงหัวเราะหยัน “จ้องอะไรน่ะ ทำไม คุณทำร้ายน้องชายผมเหรอ ให้ค่ายาค่าหมอไหม ค่าขาดงานนี่ไม่ใช่เงินหรือไง คุยกันทีละเรื่องไหม”
เฉินชางหัวเราะเย็นชา ไม่ได้พูดจา
เฝิงหงอี้พูดหัวเราะเยาะเย้ย “อนาคตไกล!”
หนิวเจิ้งเห็นสถานการณ์จึงเอ่ยทันทีว่า “นี่คุณกำลังยั่วยุให้เกิดเรื่อง ให้ผมพาตัวคุณไปเลยไหม”
เฝิงหงอี้หัวเราะหึหึ “ผมไม่ได้ทำความผิดสักหน่อย ไก่อ่อนถึงได้ไปพึ่งตำรวจ”
เขาพูดเสียงเบามาก แต่พวกเฉินชางกลับได้ยิน ทุกคนจึงคร้านจะถือสาเขา หนิวเจิ้งก็จนใจกับนักเลงแบบนี้ที่เป็นแขกประจำของสถานีตำรวจท้องที่ พนันต่อยตีอะไรก็เคยทำมาหมดแล้ว ไม่รู้จริงๆ ว่าพ่อสั่งสอนอย่างไรถึงได้มีลูกโง่แบบนี้สองคน
เพราะเขาพึ่งพาเส้นสายของพ่อ ทุกคนจึงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
ภาพเล่นต่อไปข้างหน้า จู่ๆ ทุกคนก็เห็นว่าในภาพพลันมีชายคนหนึ่งปรากฏตัว เขาโฉบออกมาชิงตัวฮุ่ยฮุ่ยไป ตอนนี้เอง จู่ๆ เฝิงหงฝางถือมีดจะแกว่งไปทางเฉินชาง เฉินชางยกมือขึ้นบังตามสัญชาตญาณ แล้วถือโอกาสใช้เท้าข้างหนึ่งเตะออกไป
ทันใดนั้น! ภาพต่อมาก็ทำให้ทุกคนในที่นั้นตะลึงไป เฉินชางบิดข้อมือเฝิงหงฝางเบาๆ ทันใดนั้นข้อมือก็ถูกบิดหักเหมือนขนมเกลียว!
ในกล้องวงจรปิดไม่มีเสียง เห็นได้เพียงท่าทางเหยเกของเฝิงหงฝาง หลังจากมีดตกลงไปกับพื้น เฉินชางก็เตะส่งๆ ไปครั้งหนึ่ง
เตะส่งๆ จริงๆ!
เพราะเฉินชางกลัวว่าจะเตะจนเขาตายไปจริงๆ!
อย่าล้อเล่นยาบำรุงพลังเด็ดขาด
แต่การเตะส่งๆ ของเฉินชางกลับทำเอาเฝิงหงฝางกระเด็นออกไปเจ็ดแปดเมตร!
ทุกคนเห็นภาพนี้เข้าต่างงุนงงไปหมด
ขนาดเจี่ยงเหวินรุ่ยกับหนิวเจิ้งยังตาเบิกกว้างมองดูเฉินชาง รู้สึกหวาดๆ ขึ้นมา
นี่มันกระบวนท่าบาทาไร้เงาแห่งฝอซานหรือไง เตะทีกระเด็นเจ็ดแปดเมตร ขนาดคนในกองทัพพวกนั้นยังใช่ว่าจะมีความสามารถแบบนี้เลยมั้ง นี่ต้องออกแรงขนาดไหน
ทุกคนในห้องต่างตะลึง อดขยับหลบเฉินชางครึ่งก้าวไม่ได้
แต่เฝิงหงอี้กลับงุนงง เขาคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มคนนี้จะถึงกับร้ายกาจขนาดนี้ ท่าทางเฉยๆ แต่ทำไมโหดขนาดนี้ล่ะ
เฝิงหงอี้นึกถึงคำพูดเมื่อกี้ของตนแล้วตกใจจนยืนนิ่งอยู่กับที่ คิดไปคิดมารู้สึกว่าอยู่ข้างหนิวเจิ้งปลอดภัยกว่า เขาเริ่มหวังว่าเมื่อกี้เฉินชางจะไม่ได้ยินคำถากถางของตน…
ยังไงซะคนร้ายกาจแบบนี้ก็โคตรน่ากลัว จังหวะเตะคนตายได้นี่มัน แต่…
ฝางหงอวี้พลันผงะไปครู่หนึ่ง จริงด้วย! นี่ไม่ใช่โอกาสหรอกเหรอ
ทันใดนั้นเขาก็หน้าเปลี่ยนสี น้ำตาไหลออกมาบดบังดวงตาทั้งสองข้าง พูดเสียงดังลั่นว่า “ผู้กำกับหนิว คุณต้องช่วยผดุงความยุติธรรมให้ผมนะครับ น้องชายผมถูกอันธพาลนี่เตะกระเด็น นี่…ข้อมือยังถูกบิดหักเลย นี่มันโหดร้ายไปแล้ว!”
“ต้องลงโทษ!”
“ต้องลงโทษอย่างรุนแรง!”
“นี่ยังมีขื่อมีแปอยู่ไหม”
หนิวเจิ้งมองเฉินชางครั้งหนึ่ง เอ่ยว่า “สหายน้อยคนนี้ คุณคงต้องกลับไปลงบันทึกกับพวกเรา”
เฉินชางพยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธ!
ดูรูปการณ์แล้วนี่ต้องเป็นการป้องกันตัวอย่างเหมาะสมแน่นอน ถึงอย่างไรมีดของเฝิงหงฝางจะหันมาที่ตนด้วย ถ้านี่ถือว่าผิดกฎหมายก็ไม่เหมาะสมแล้ว
อู๋ถงฝู่มองเฉินชางพลางเอ่ย “เสี่ยวเฉิน คุณวางใจได้ เรื่องนี้ผมจะให้ความเป็นธรรมกับคุณ!”