เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 668 จิตใจยุติธรรม (3)
เฝิงหงฝางก็ถูกพาออกมาจากห้องด้วย
แขนเขาในตอนนี้มีกระดูกหักละเอียดหลายแห่ง บริเวณท้องก็บาดเจ็บในระดับที่ต่างกันไป แต่เขาก่ออาชญากรรมไปแล้ว! ข้อหาทำร้ายร่างกายโดยเจตนา
ตอนนี้เฝิงหงฝางถูกทางตำรวจคุมตัวไปรับการควบคุมสอบสวน รอผลหลังจากการรักษา
ทว่าทันใดนั้นก็เกิดเรื่องสนุกเข้าแล้ว! เฝิงหงอี้ปฏิเสธที่จะจ่ายค่ารักษาใดๆ ก็ตามของเฝิงหงฝาง
“มีสิทธิ์อะไร! น้องชายผมถูกโรงพยาบาลคุณทำร้ายบาดเจ็บ ให้พวกเราจ่ายค่ารักษา นี่ฝันหรือไง!”
“ผมบอกให้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป เรื่องของพ่อกับน้องชายผมก็จะกระจายไปในเน็ต ถึงตอนนั้นโรงพยาบาลพวกคุณต้องชื่อเสียงพังพินาศแน่!”
“ผมจะให้คนทั้งโลกเห็นโฉมหน้าอันน่าขยะแขยงของพวกคุณชัดๆ แล้วผมก็จะให้คนทั้งโลกได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงด้วย!”
“รังแกกันเกินไปแล้ว!”
เฝิงหงอี้ยืนตะคอกเสียงดังในสวนโรงพยาบาล!
ส่วนเฝิงหงฝางอยู่ในห้องผู้ป่วย ตั้งแต่เริ่มจนจบกำลังโหยหวน ถามอะไรไม่ออกสักอย่าง
ขณะนี้เอง เฝิงหงอี้จ้องอู๋ถงฝู่พลางพูดว่า “อย่านึกว่าผมไม่รู้กฎหมาย พวกเรารู้ดีหรอก!”
คราวนี้ชายคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากกลุ่มคน เขามองเฉินชางเอ่ยว่า “พวกเราต้องได้เห็นรายงานการตรวจของเฝิงหงฝาง ตอนนี้ผมสงสัยว่าหมอคนนี้อาจจะมีเจตนาร้ายทำร้ายคนเหมือนกัน คุมตัวเฝิงหงฝางไว้แล้วชัดๆ ทำไมยังต้องเตะเขาออกไปอีก”
“นี่ไม่ใช่การป้องกันตัวเองแล้ว ถึงกับทำเกินกว่าเหตุ ทำร้ายคนโดยมีเจตนาร้ายแล้ว!”
เฝิงหงอี้ได้ยินคำของชายคนนี้แล้วดวงตาทอประกายทันที “ได้ยินรึยัง! ทำร้ายคนโดยมีเจตนาร้าย! ทำเกินกว่าเหตุ ผมจะฟ้องพวกคุณ!”
เขาแสร้งทำเป็นกลัดกลุ้ม เริ่มร้องไห้โหยหวน “ผมลำบากเกินไปแล้ว ทำไมต้องเจอโรงพยาบาลแบบนี้ด้วยนะ!”
“พรุ่งนี้ผมจะปล่อยเรื่องพวกคุณลงไปในเน็ต!”
“พวกคุณรังแกกันเกินไปแล้วจริงๆ!”
เฉินชางเห็นใบหน้าเช่นนี้ของเฝิงหงอี้แล้วรู้สึกขยะแขยงนัก
ด้านอู๋ถงฝู่คราวนี้คล้ายจะลังเลแล้ว
ถ้าไม่มีเฉินชางมายุ่งเรื่องนี้ เขาจะต้องดึงดันดวลเดี่ยวกับพวกป่วนโรงพยาบาลพวกนี้ให้ตายไปข้างหนึ่งแน่!
แต่ว่านะ เฉินชางมีความดีความชอบไง! เขาถึงกับช่วยฮุ่ยฮุ่ย คนแบบนี้จะให้เขาไปขึ้นโรงขึ้นศาลได้เหรอ
อู๋ถงฝู่เป็นหมอมาตลอดชีวิต ย่อมรู้ว่าเรื่องยุ่งยากแบบนี้ติดตัวคุณเป็นตังเม มิหนำซ้ำทักษะเจ้าหนุ่มเฉินชางก็จะเก่งกาจมากไปแล้วมั้ง อานุภาพของเท้านี่มีมากแค่ไหนกันแน่
ตอนนี้ใบรับรองแพทย์ยังทำไม่เสร็จ แต่…อู๋ถงฝู่ก็ไม่กล้าแน่ใจ
พอคิดถึงตรงนี้ เขาอดส่ายหัวไม่ได้
แต่เรื่องเฝิงหงฝางย่อมไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแล้ว เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาเรื่องหลักการกับขีดจำกัดต่ำสุดไปแล้ว อยู่ในโรงพยาบาลยังกล้าเอามีดมาแทงบุคลากรทางการแพทย์ทันที ยังมีเรื่องไหนไม่กล้าอีก
ก็ในตอนนี้เอง จู่ๆ ชายคนหนึ่งก็เบียดเข้ามาในกลุ่มคนแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าร้อนรน “หัวหน้าเจี่ยง…ผู้อำนวยการอู๋ เมียผมเป็นไงบ้างแล้ว”
ชายคนนั้นสวมชุดกาวน์ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งวิ่งออกมาจากห้องผู้ป่วย สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มกังวลใจ!
เมื่อกี้เขาออกไปกู้ชีพ หลังจากได้ข่าวภรรยาก็งุนงงไปทันที
แต่…ช่วยไม่ได้
เขาเลยช่วยผู้ป่วยที่กู้ชีพในตอนนั้นกลับมา พอจัดแจงเสร็จแล้วจึงวิ่งมาหา สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความคับข้องใจและตื่นตะลึง!
เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและไม่ยินยอม!
มือทั้งสองกำหมัดแน่น แต่กลับไม่รู้ว่าจะแกว่งหมัดนี้ไปทางไหนดี!
ลูกเพิ่งห้าเดือน! ภรรยาดีกับพ่อแม่ผมขนาดนั้น…
เมื่อคืนยังเป็นช่วงเวลาที่ตั้งชื่อให้ลูกอย่างรักใคร่ เต็มไปด้วยภาพฝันในอนาคต
พอมาวันนี้กลับได้ข่าวร้ายข่าวนี้!
เห็นผู้อำนวยการอู๋กับเจี่ยงเหวินรุ่ยไม่พูดสักคำ เสี้ยวเจิ้นไห่พลันร้องไห้พลางหัวเราะฮ่าๆๆ ขึ้นมาทันที
เขาไม่ยอม!
เขาหันหลังไปจ้องคนป่วนโรงพยาบาลพวกนี้ คำรามจนปอดขาดหัวใจฉีก!
“มีสิทธิ์อะไร!”
“มีสิทธิ์อะไรที่พวกเราไปช่วยกู้ชีพพวกคุณ แต่พวกคุณกลับมาฟันแทงพวกเรา!”
“แค่เพราะพวกเราเป็นหมอ ก็เลยต้องช่วยชีวิตพวกคุณเหรอ”
“พวกเราก็คนนะโว้ย!”
“พวกเราก็คนมีเลือดมีเนื้อเหมือนกันโว้ย เมียผม…เขาท้องอยู่ด้วย!”
“จิตสำนึกพวกคุณไปอยู่ไหนกัน”
เขาพูดไปพูดมาก็เจ็บปวดแทบขาดใจ ชกตัวเองหมัดหนึ่ง!
“ทำไมผมต้องเรียนหมอด้วย ทำไมผมต้องเรียนหมอด้วย ผมช่วยคนมากมายขนาดนั้น แล้วใครมาช่วยเมียผม! ใครมาช่วยลูกผม!”
“ผมถามพวกคุณอยู่นะ!”
“พวกคุณตอบผมสิ”
“ใครจะมาช่วยผม! คนป่วนโรงพยาบาลอย่างพวกคุณนี่มีจิตสำนึกสักนิดไหม!”
“พวกคุณกลัวแต่โลกจะไม่วุ่นวายหรือไง”
“พ่อแม่ลูกเมียพวกคุณจะไม่ป่วยเลยหรือไง”
พอพูดถึงตรงนี้ หลี่เหว่ยเยี่ยนก็วิ่งออกไปประคองเสี้ยวเจิ้นไห่ทันที “เหล่าเสี้ยว ไม่เป็นไร ฮุ่ยฮุ่ยสบายดี ไม่เป็นไรแล้ว!”
ตอนนี้เพิ่งบ่ายสามโมง
เรื่องของฮุ่ยฮุ่ยสร้างความโกรธเคืองให้บุคลกรทางการแพทย์ทั้งโรงพยาบาลโดยสมบูรณ์
คนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งพากันเดินลงมาจากชั้นบน!
หนึ่งร้อยคน สองร้อยคน สามร้อยคน…ห้าร้อยคน!
แพทย์และพยาบาลยืนอยู่ในสวนกันแน่นขนัด!
พวกเขาก็ยืนอยู่อย่างนี้! คนค่อยๆ มากขึ้น!
เจ็ดร้อยกว่า!
แปดร้อยกว่า!
ควบคุมเหตุการณ์ไว้ไม่อยู่แล้ว!
คนในโรงพยาบาลศูนย์ฉุกเฉินมีจำนวนมาก บุคลากรแพทย์และพยาบาล พนักงานฝึกงาน นักศึกษาปริญญาโท พนักงานชั่วคราว…รวมกันแล้วเกือบสี่พันคน!
ในสวนขนาดมหึมามีบุคลากรแพทย์และพยาบาลลงมามากยิ่งขึ้น! กระแสคนสีขาวมารวมตัวกันไม่สิ้นสุด! ค่อยๆ รวมเป็นมหาสมุทรผืนหนึ่ง!
กองทัพที่มีคนสองพันกว่าคนยืนอยู่ในสวนพร้อมกัน พวกเขาประท้วงอย่างเงียบเชียบไร้เสียง!
ด้านรถฉุกเฉินที่กำลังว่างอยู่สามสิบกว่าคันจอดบีบแตรอยู่รอบๆ
สถานการณ์น่าหวั่นใจหาใดเทียบ!
บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนต่างไม่พูดจา มารวมตัวกันช้าๆ!
พลังเช่นนี้ยิ่งสั่นสะท้านใจคน ยิ่งไม่อาจควบคุมได้จริงๆ!
ตอนนี้เอง ทุกคนที่อยู่ในวงล้อมต่างลนลานไปหมดแล้ว
พวกป่วนโรงพยาบาลมองดูคนกลุ่มนี้ก็ตกใจจนตัวสั่นเทา
เหตุการณ์ชวนหวั่นใจเกินไปแล้ว
แรงปะทะที่รับรู้ผ่านสายตาเช่นนี้ทำให้ทุกคนต่างสะท้านใจ!
ตอนนี้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนต่างยืนร่วมใจอยู่ตรงนั้น ดวงตาหลักพันคู่จับจ้องไปที่กลุ่มคนไม่กี่สิบคนตรงนั้น!
ไม่มีใครพูดจา! ไม่มีใครส่งเสียง!
นี่เป็นพลังอย่างหนึ่ง เป็นการต่อต้านอย่างเงียบเชียบ!
พวกเราไม่ได้ไม่อยากต่อต้าน!
พวกเราแค่มีคนน่ารักหลายคนรอพวกเราไปช่วยชีวิต!
พวกเราแค่ไม่อยากไป…ไปทำให้ชีวิตไม่รู้เท่าไรต้องมาชดใช้เพราะตัวเองทำงานตามอารมณ์
พวกเราไม่ส่งเสียง!
ไม่ใช่เพราะพวกเราไม่กล้าส่งเสียง!
แต่เป็นเพราะพวกเรามีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องไปทำ
จะรบกวนความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการรักษาทั้งสังคมเพราะตัวป่วนอย่างพวกคุณเหล่านี้ไม่ได้
ที่ทนยอมไม่ใช่เพราะกลัว!
และการไม่พูดไม่ได้หมายความว่ายอมรับ
แต่เป็นเพราะพวกเราไม่อยากให้โลกที่น่ากลัวอยู่แล้วใบนี้วุ่นวายยิ่งขึ้นไปอีก!
แต่ตอนนี้!
พวกเราอยากส่งเสียง
พวกเราเป็นหมอ ไม่ใช่เทพ!
ถอดชุดกาวน์ออกก็เป็นแค่คนธรรมดา!