เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 670 ออกไป มีประชุมนะ!
ในห้องผู้ป่วยแผนกศัลยกรรมหัวใจของโรงพยาบาลศูนย์ฉุกเฉินแห่งเมืองหลวงมีคนมาเยือนมากมาย
ฮุ่ยฮุ่ยฟื้นแล้ว
บนใบหน้ายังมีรอยยิ้มมีน้ำมีนวลแบบนั้นเหมือนเคย เธอนอนนิ่งไม่ขยับ แต่ทำตาหยีแล้วดูน่ารักจริงๆ
เจี่ยงเหวินรุ่ยมองดูหญิงร่างใหญ่คนนี้อย่างเอ็นดู จู่ๆ ก็รู้สึกว่าพูดคำพูดเอ็นดูหรือขอโทษแบบนั้นไม่ออก จึงอดพูดล้อเล่นเหมือนแต่ก่อนไม่ได้ “ฮุ่ยฮุ่ย คราวนี้ได้พักดีๆ แล้วใช่ไหม”
ฮุ่ยฮุ่ยยิ่งหัวเราะเบิกบานใจ
เสี้ยวเจิ้นไห่นั่งอยู่ข้างๆ บีบมือฮุ่ยฮุ่ยเอาไว้ มีความรู้สึกเหมือนรอดจากภัยพิบัติ
“ฮุ่ยฮุ่ย ต่อไปคุณอยากกินอะไรผมจะทำจะซื้อให้หมดเลย คุณไม่ต้องลดความอ้วนแล้ว”
“อ้วนหน่อยดีจะตาย จริงๆ นะ!”
ขณะที่พูดเขาก็รู้สึกแสบจมูก “ขอแค่คุณอยู่ดีมีชีวิตรอด ต่อให้คุณเป็นแบบไหนผมก็ชอบทั้งนั้น”
ฮุ่ยฮุ่ยเห็นสามีเป็นแบบนี้ น้ำตาก็ไหลลงมาจากหางตา
“เจิ้นไห่ พวกเธอเอาแต่พูดว่าฉันไม่คู่ควรกับคุณ บอกว่าฉันทั้งอ้วนทั้งโง่ แถมไม่ปราดเปรียว ตอนนี้ฉัน…ยิ่งไม่คู่ควรกับคุณซะแล้ว” เสียงอ่อนแรงดังขึ้นข้างหูเสี้ยวเจิ้นไห่ ชายที่ได้พบกับผู้ป่วยจากภัยพิบัติเพียงไหนก็ไม่เคยขมวดคิ้วให้ วันนี้ร้องไห้ไปกี่ครั้งแล้ว
เธอหันมามองเฉินชาง “ฉันจำคุณได้…คุณช่วยฉันไว้ ขอบคุณที่ช่วยนะคะ”
เฉินชางยิ้มให้ “ไม่เป็นไรก็ดีแล้วครับ ผมควรช่วยอยู่แล้ว”
เจี่ยงเหวินรุ่ยพลันพูดขึ้นว่า “ฮุ่ยฮุ่ย หายแล้วก็กลับบ้านไปคลอดลูกเถอะ รอลาคลอดเสร็จแล้วค่อยกลับมาทำงาน คราวนี้ก็คิดซะว่าเพิ่มวันลาให้เธอ”
บใบหน้าอ้วนๆ ของฮุ่ยฉุ่ย ขอเพียงยิ้มครั้งเดียว ตาก็จะหยีไปด้วย
อู๋ถงฝู่ก็พยักหน้า “รอคุณคลอดลูกแล้วไปทำงานที่แผนกพยาบาลเถอะ ที่นั่นขาดรองหัวหน้าอยู่คนหนึ่ง”
ฮุ่ยฮุ่ยได้ยินเข้าก็ตาเบิกกว้างทันที “หัวหน้าเจี่ยง…คุณไม่ต้องการฉันแล้วเหรอคะ”
พอพูดคำนี้ น้ำตาก็ไหลลงมา
เจี่ยงเหวินรุ่ยได้ยินแล้วใจอ่อนยวบทันที รู้สึกแสบจมูกเหมือนกับเป็นหวัด “นี่ไม่ใช่เพราะคิดถึงร่างกายของคุณหรือไง ทำงานกะดึกไม่ได้แล้วนะ ต่อไปต้องดูแลลูกให้ดี”
“จะว่าไป อยู่ไหนไม่ทำงานบ้างล่ะ ฮุ่ยฮุ่ย คุณต้องทำตามการจัดการขององค์กร”
ฮุ่ยฮุ่ยสะอึกสะอื้น ทั้งยังไม่พูดจา บนใบหน้าอ้วนจ้ำม่ำเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม “ฉัน…ฉันชอบห้องฉุกเฉินค่ะ ฉันอยากทำงานคลินิก ฉันไม่อยากไปทำงานแนวหลัง…”
“หัวหน้า ฉันไม่กลัว ฉันไม่กลัวจริงๆ นะคะ ผู้อำนวยการคะ ฉันหายแล้วยังทำงานแนวหน้าได้ คุณอย่าเอาฉันไม่อยู่แนวหลังเลยนะคะ…”
คำพูดเดียว ทุกคนได้ยินแล้วรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มแทงใจ
เป็นคนดีจังเลย! ทำไมคนแบบนี้ถึงต้องบาดเจ็บด้วยนะ
เสี้ยวเจิ้นไห่มองฮุ่ยฮุ่ยแล้วส่ายหัว “ฮุ่ยฮุ่ย ความจริงแล้วผมคิดแบบนี้ตั้งนานแล้ว ผมอยู่แนวหน้าก็ลำบากมากแล้ว นอกจากครอบครัวใหญ่แล้ว พวกเรายังมีครอบครัวน้อยๆ ของพวกเราเองด้วยนะ!”
“ลูกจะคลอดแล้ว คุณจะส่งไปให้บ้านคุณเลี้ยงเหรอ”
ฮุ่ยฮุ่ยนอนนิ่ง ไม่ได้พูดจา หลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา
……
……
ทุกคนเห็นสถานการณ์แล้วพากันถอนใจ หลังจากปลอบแล้วก็ให้เสี้ยวเจิ้นไห่พักร้อน เพื่อให้ช่วงนี้เขาได้อยู่เป็นเพื่อนภรรยา ดูแลภรรยาให้ดี
ทันทีที่อู๋ถงฝู่ออกจากห้องคนไข้ก็ได้รับโทรศัพท์จากสำนักงานผู้อำนวยการ
“ผู้อำนวยการอู๋ เมื่อกี้มีผู้นำจากคณะกรรมการสุขภาพมาหาคุณ คุณไม่รับโทรศัพท์ เขาเลยมาที่ออฟฟิศเลย รอคุณอยู่ที่ประตูน่ะ”
อู๋ถงฝู่ได้ยินแล้วชะงักไปทันที นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง
“คุณให้เขารอไปเถอะ!”
เขาพูดประโยคเดียวแล้วก็วางสาย ทำให้ทุกคนอึ้งไป!
เจี่ยงเหวินรุ่ยมองผู้อำนวยการแล้วเลื่อมใสขึ้นมา อู๋ถงฝู่เป็นผู้ทรงอิทธิพลจริงๆ!
แต่ชื่อเสียงของเขาไม่ได้ได้มาเพราะถูกอุ้มชู เขาต่อสู้จึงได้มาต่างหาก!
ตอนน้ำท่วมใหญ่ช่วงปีเก้าศูนย์ เขาก็เป็นกำลังหนุนบุคลากรทางการแพทย์มาถึงแนวหน้า
ปีสองพัน ตอบสนองเสียงเรียกของประเทศชาติไปบรรเทาทุกข์ชายแดนสองปี!
ทันทีที่เกิดโรคระบาดปีศูนย์สามขึ้น เขาที่เพิ่งเป็นหัวหน้าก็พาคนกลุ่มหนึ่งมุ่งสู่แนวหน้าอย่างห้าวหาญ
แผ่นดินไหวที่เขตเวิ่นยิ่งสร้างวีรกรรมอันโดดเด่น!
คนแบบนี้ คุณเอาตำแหน่งไปกดเขาก็กดไม่ได้ เขาเป็นคนหัวแข็ง สิ่งที่หลอมอยู่ในกระดูกเหล็กของเขามีแต่จิตวิญญาณผู้กล้า
ประโยคเดียว!
“ให้เขารอไปเถอะ!”
ความจริงทุกคนต่างรู้ว่าเรื่องอะไร ในศูนย์ฉุกเฉินเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ คนทั้งโรงพยาบาลรวมตัวกันย่อมมีคนไปรายงานนานแล้ว มิหนำซ้ำอู๋ถงฝู่ยังแสดงความเห็นที่ไม่ ‘เหมาะสม’ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงมีคนมาหา
ถึงอย่างไรทันทีที่ความคิดเห็นเหล่านี้กระจายไปในเน็ต จะต้องสุมไฟเพิ่มให้คนที่มีเจตนาไม่ดีแน่
เป็นอย่างที่พวกป่วนโรงพยาบาลเมื่อวานพวกนั้นพูดไว้! พวกเขามีบัญชีเวยป๋อที่ได้รับการรับรองนับร้อยบัญชี มีบัญชีวีแชททางการหลายร้อยบัญชีและยังมีช่องทางสื่อเผยแพร่
สิ่งเหล่านี้ต่างเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์และกองทัพโต้กลับของกลุ่มผู้ไม่หวังดี
สาเหตุที่อู๋ถงฝู่เมินเขาก็เพราะเหตุนี้!
เจี่ยงเหวินรุ่ยอดพูดไม่ได้ “ผู้อำนวยการ...นี่จะไม่ดีหรือเปล่าครับ”
อู๋ถงฝู่นิ่วหน้าขึ้นมา “เจี่ยงเหวินรุ่ย เสียแรงที่คุณเคยเป็นทหาร ผมชื่นชมจิตใจรักความถูกต้องเต็มเปี่ยมของคุณถึงให้คุณเป็นหัวหน้า คุณก็เป็นเอาแบบนี้เสียแล้วเหรอ”
“ผู้อำนวยการแล้วทำไมเหรอ เขามาทีผมไม่ต้องทำงานแล้วเหรอ เขามาทีผมไม่ต้องประชุมหรือไง แล้วถ้าเขามาผมไม่ต้องผ่าตัดงั้นสิ”
“ไป! ไปประชุมกับผม!”
พูดจบอู๋ถงฝู่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแจ้งสำนักผู้อำนวยการรวมถึงหัวหน้าทุกแผนกว่าคนที่มาได้ต้องมา คนที่มาไม่ได้ให้คนอื่นเอาเครื่องอัดเสียงมาอัดให้!
เฉินชางงุนงงไปหมดแล้ว! เขารู้สึกว่าคนอย่างตาเฒ่าอู๋มองการณ์ไกลคำนึงถึงผลประโยชน์ เป็นยอดของยอดคนมาโดยตลอด! คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนตรงไปตรงมาคนหนึ่ง! แถมยังมีนิสัยดื้อดึง ดูไปแล้วยังออกจะน่ารัก?
เฉินชางอดส่ายหัวไม่ได้
……
……
กวนจิ่งซานผงะไปเลย!
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้อำนวยการก็สีหน้าทั้งอึดอัดและตื่นตะลึง!
เพราะว่า…
เมื่อกี้ผู้อำนวยการของคณะกรรมการสุขภาพคนนี้อยู่ข้างๆ เขานี่เอง!
กวนจิ่งซานก็โมโหจนอยากหัวเราะ อู๋ถงฝู่คนนี้ใช้ไม่ได้จริงๆ
‘ให้เขารอไปเถอะ’
ทำไมได้ยินประโยคนี้เข้าหูถึงรู้สึกระคายหูขนาดนั้นนะ
ผ่านไปสักพัก โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ก็ดังขึ้น “เอ่อ…คุณคะ ผู้อำนวยการจะจัดการประชุมค่ะ…”
กวนจิ่งซานโมโหแล้ว
นี่ไม่มีธุระอะไรชัดๆ แค่ทำเมินให้เขารออยู่ที่นี่ นิสัยเสียมานานขนาดนี้จะเปลี่ยนไม่ได้หรือไง
พอคิดถึงตรงนี้ กวนจิ่งซานก็เอ่ยอย่างโมโหว่า “ผมไปด้วย อยากเห็นหน่อยว่าเขาประชุมอะไร”
เจ้าหน้าที่มีสีหน้างุนงง
ในห้องประชุมใหญ่
อู๋ถงฝู่มองดูทุกคนแล้วพูดว่า “เรื่องวันนี้ทุกคนก็รู้แล้ว ปัญหาใหญ่มาก ผลกระทบก็เลวร้ายมากด้วย!”
“การประชุมในวันนี้ของพวกเรา ประเด็นอยู่ที่การถกกันเรื่องบัญชีดำที่ผมพูดวันนี้”
“ที่ผมจะพูดคือจะใช้บัญชีดำยังไง ไม่ได้บอกว่าควรหรือไม่ควรใช้”
ทุกคนมองหน้ากัน กล่าวตามตรง ไม่ใช่ว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกคนจะเห็นด้วยกับอู๋ถงฝู่
หลายคนก็ต้องการไกล่เกลี่ย ไม่อยากหาเรื่องวุ่นวาย
แทนที่จะมีเรื่องเพิ่มขึ้น ทำให้เรื่องน้อยลงจะดีกว่า
แต่อู๋ถงฝู่กำลังโมโห ไม่ฟังคำพูดใครทั้งนั้น
ในตอนนี้เอง กวนจิ่งซานก็เดินเข้ามา
อู๋ถงฝู่จ้องเขม็ง พูดทันทีว่า “ออกไป กำลังประชุม!”
กวนจิ่งซานงงไปเลย
ให้ตายสิ…