เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 680 คุณจะถ่อมตัวไม่ได้นะ!
พอเฉินชางผุดความคิดนี้ขึ้นมา ก็รู้สึกว่าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกับหัวหน้าฉินเสียงจากแผนกผิวหนังของโรงพยาบาลตงต้าสาขาหนึ่งเสียหน่อยดีกว่า
เฉินชางไม่มีเวลามานอน แถมยังขี้เกียจเดิน จึงเรียกรถไปโรงพยาบาลตงต้าสาขาหนึ่งเสียเลย
ฉินเสียงเห็นเฉินชางมาถึง ส่งจดหมายเชิญฉบับหนึ่งให้ฉินชาง ยิ้มพลางพูดว่า “มา หัวหน้าเฉิน รีบนั่งเร็ว”
เฉินชางยิ้มเขินๆ “หัวหน้าฉิน คุณอย่าล้อผมเล่นเลยครับ”
ฉินเสียงส่ายหัว “ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ เสี่ยวเฉิน คุณจะถ่อมตัวเกินไปไม่ได้นะ”
“ใช่แล้ว ผมขอพูดธุระกับคุณก่อน ไฟลท์เช้าวันศุกร์พวกเราไปโซลเลย งานประชุมจัดวันเสาร์ ความจริงเดิมทีผมยังอยากให้คุณไปเข้าร่วมการแข่งขันนั่น แต่ออกไปดูหน่อยก็ดี ปกติแล้วการประชุมที่ต่างประเทศจะมีวันพักหนึ่งวัน วันอังคารถึงกลับได้ ยังไงที่จัดงานประชุมแบบนี้ก็บริษัทไม่ก็กลุ่มธุรกิจใหญ่ทั้งนั้น”
จู่ๆ เฉินชางก็นึกถึงปีเตอร์ จึงเอ่ยถามอย่างสงสัย “หัวหน้าฉิน การแข่งขันอะไรนั่นผมเข้าร่วมไม่ได้เหรอครับ”
ฉินเสียงถอนใจ “ต้องมีหนังสือรับรองจากผู้เชี่ยวชาญที่เป็นกรรมการตัดสินหนึ่งฉบับถึงเข้าร่วมได้ ผมบอกคุณให้ก็ได้ ผู้เชี่ยวชาญในประเทศเราพวกนั้นแนะนำคนอื่นหมด ผมยังไม่มีสิทธิ์มากพอ”
“ผมช่วยคุณถามเพื่อนที่ผมรู้จักแล้ว แต่เขาก็เสนอคนไปแล้วเหมือนกัน ขอโทษจริงๆ นะ!”
เฉินชางฟังเท่านี้ ปีเตอร์ก็คงเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เป็นกรรมการตัดสินเหมือนกันใช่ไหม เขาเสนอชื่อให้ได้หรือเปล่า
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางรีบเอ่ยถามว่า “หัวหน้าฉิน พวกคุณรู้จักปีเตอร์ โธบีไหมครับ”
ฉินเสียงยิ้มหน้าบาน พยักหน้าเอ่ยว่า “ไม่รู้จักอยู่แล้ว!”
เฉินชางหมดคำพูด ไม่รู้จักแล้วคุณดีใจขนาดนี้ทำไม
ฉินเสียงเอ่ย “เขาไม่รู้จักผม แต่ผมรู้จักเขาไง เขาเป็นคนริเริ่มองค์กรศัลยกรรมตกแต่ง CIS แห่งสหรัฐอเมริกา เป็นผู้เข้าแข่งขันหมอเวชศาสตร์ความงามผู้เข้าแข่งขันที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งปีนั้นด้วย แนวคิด ทีมและผลลัพธ์การผ่าตัดของเขายอดเยี่ยมทั้งนั้น แถมยังเป็นแนวคิดศัลยกรรมตกแต่งที่ผมค่อนข้างยอมรับและชื่นชมด้วย ว่ากันว่าเขากำลังร่วมมือกับเจ้าของกิจการพัฒนาเทคนิคศัลยกรรมตกแต่งจำลองด้วยคอมพิวเตอร์อย่างหนึ่งอยู่ ตอนนี้ทีมพวกเขาอาจจะเก่งกว่านั้นแล้วมั้ง”
เฉินชางคิดไม่ถึงว่าฉินเสียงจะยกย่องปีเตอร์ขนาดนี้ แต่เทคนิคศัลยกรรมตกแต่งจำลองด้วยคอมพิวเตอร์ของเขาเขานั้นได้มีการเอาไปใช้แล้ว
เฉินชางพยักหน้า “ใช่แล้ว เขานั่นละครับ คุณว่าเขามีสิทธิ์เสนอชื่อไหมครับ”
ฉินเสียงผงะไป “มีสิทธิ์อยู่แล้ว เขาเป็นถึงรองหัวหน้าคณะกรรมการการแข่งขันครั้งนี้เชียวนะ”
พอเฉินชางได้ยินก็เอ่ยอย่างดีใจว่า “เหรอครับ งั้นเดี๋ยวผมโทรหาเขา!”
ฉินเสียงกลอกตา พูดอย่างกับพวกนายสนิทกัน!
โทรหา…
ปีเตอร์ โธบีเป็นใคร
เป็นคนที่ขนาดประธานสมาคมศัลยกรรมตกแต่งประเทศเราอย่างเฉาเซวียนยังไม่เข้าตา เย่อหยิ่งทะนงตน
แต่เห็นเฉินชางโทรออกไปแล้ว ฉินเสวียนก็กลอกตา “ตอนนี้ที่อเมริกาคงประมาณห้าทุ่ม คุณแน่ใจนะว่าอยากโทรหา มิหนำซ้ำ…คุณรู้จักปีเตอร์จริงเหรอ”
“ผมบอกว่าคุณไม่ต้องถ่อมตัว…แต่ผมก็ไม่ได้บอกให้คุณคุยโวนะ!”
เฉินชางโทรศัพท์ ได้ยินคำพูดของฉินเสียงจึงได้สติทันที จริงด้วย ตอนนี้ที่อเมริกาดึกมากแล้ว อาจจะนอนไปแล้วมั้ง
ตอนที่เขาเตรียมจะวางสาย จู่ๆ อีกฝ่ายก็รับแล้ว!
“ไง เฉินเพื่อนรัก ไม่ได้คุยกันนานเลย”
เสียงในโทรศัพท์ลอยมา ทำให้ฉินเสียงผงะไปครู่หนึ่ง
หรือเฉินชางจะรู้จักปีเตอร์จริงๆ แถมยังสนิทขนาดนี้ด้วยเหรอ
พอคิดถึงตรงนี้ ฉินเสียงก็เริ่มสงสัยทันที!
เฉินชางพูดขึ้นว่า “ขอโทษจริงๆ ปีเตอร์ ผมมีเรื่องอยากให้คุณช่วย”
ปีเตอร์หัวเราะเบิกบาน “ผมนอนค่อนข้างดึก มีเรื่องอะไรเหรอ”
เฉินชางจึงพูดว่า “ผมอยากเข้าร่วมการแข่งขันที่อยู่ในการประชุมประจำปีปีนี้ แต่ขาดหนังสือรับรองจากผู้เชี่ยวชาญฉบับหนึ่ง คุณสะดวกไหมครับ”
ปีเตอร์หัวเราะร่า “ผมยังนึกว่าเรื่องอะไร ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย ถึงเวลาผมไปบอกทางเจ้าภาพสักหน่อยก็พอแล้ว หนังสือรับรองวุ่นวายเกินไป พวกคุณมีกี่คน”
เฉินชางกำลังจะตอบ จู่ๆ ก็นึกถึงหัวหน้าฉิน อดถามไม่ได้ว่า “หัวหน้าฉิน คุณอยากสมัครไหมครับ”
ฉินเสียงหน้าแดง เอ่ยอย่างเกรงใจว่า “ยากจะปฏิเสธจริงๆ…งั้นสมัครก็สมัคร! ผมก็ไปลองดู…”
เฉินชางเห็นดังนั้นก็อดกลอกตาไม่ได้
พูดกับปีเตอร์ว่า “ตอนนี้มีแค่สองคนครับ”
ปีเตอร์หัวเราะ “อืม ผมไปถึงโซลวันศุกร์ พวกเราไปเจอกัน”
เฉินชางพยักหน้า พูดคุยพอเป็นพิธีแล้ววางสาย
ฉินเสียงมองดูเฉินชางด้วยสีหน้ากังขา “คะ…คุณถึงกับรู้จักปีเตอร์เหรอ แถมยังสนิทขนาดนี้ด้วยเหรอ”
เฉินชางขานรับ พยักหน้าเรียบๆ “ใช่ครับ ประหลาดใจเหรอครับ”
ฉินเสียงอดติอยู่ในใจไม่ได้ เฉาเซวียนอยากขอวิธีติดต่อจากเขายังขอไม่ได้ คุณว่าประหลาดใจไหมล่ะ
“ทำไมคุณถึงรู้จัก เพราะเจิ้งกั๋วถานเหรอ จริงด้วย…จางอ้ายเซียงใช่ไหม”
เดิมทีเฉินชางไม่อยากพูด ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเจิ้งกั๋วถาน แต่พอได้ยินว่าฉินเสียงรู้ จึงพยักหน้า “ครับ ตอนนั้นพวกปีเตอร์ โธบีก็มา แต่ประธานเจิ้งไม่พอใจกับความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา ชอบของผมมากกว่า ตอนหลังกลายเป็นการผ่าตัดที่ผมทำ แล้วจากนั้นปีเตอร์ก็เลยออกตัวขอเบอร์โทรกับอีเมล์จากผมเอง”
คำพูดผ่อนคลายของเฉินชางทำให้ฉินเสียงออกจะหมดคำพูด แต่จู่ๆ ก็ได้สติกลับมา “คุณหมายความว่า…คุณชนะปีเตอร์เหรอ”
“ให้ตายสิ เสี่ยวเฉิน คุณจะเก่งเกินไปแล้วมั้ง! คุณรู้ไหมว่าปีเตอร์เก่งขนาดไหน” ฉินเสียงตาเบิกกว้าง เหลือเชื่อไปหมด “ไม่ไหว ตอนนี้ผมยิ่งสงสัยว่าคุณผ่าตัดเป็นยังไงบ้าง พรุ่งนี้ไปดูหน่อยดีกว่าว่าอ้ายเซียงเป็นไงบ้างแล้ว เจ้าหนู ซ่อนคมในฝักจริงๆ เลย!”
“ขนาดเรื่องนี้ยังมาถ่อมตัวกับผม! ผมทำงานมาทั้งชีวิตยังดีลจบในสายเดียวแบบคุณไม่ได้เลย!” ฉินเสียงเอ่ยพลางทอดถอนใจ
เฉินชางยิ้มเขินๆ พลันเอ่ยถาม “ใช่แล้ว หัวหน้าฉิน ผมยังมีเรื่องอยากถามคุณหน่อยครับ!”
ฉินเสียงเอ่ยถามอย่างสงสัย “เรื่องอะไรเหรอ”
เฉินชางเอ่ย “แผนกฉุกเฉินขาดทุนทุกปี ผมก็คิดอยู่ว่าแผนกฉุกเฉินจะเปิดแผนกรักษาผิวหนังฉุกเฉินได้ไหม คุณคิดยังไงครับ ช่วยสร้างรายได้ให้แผนกฉุกเฉินได้ไหมครับ”
ฉินเสียงได้ยินแล้วก็ส่ายหัวทันที “ในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นไปไม่ได้หรอก!”
“เพราะความจริงแล้วการผ่าตัดแผนกรักษาผิวหนังฉุกเฉินเป็นผ่าตัดใหญ่ทั้งนั้น อย่างเช่นการผ่าตัดแผลไหม้ขนาดใหญ่…คุณคนเดียวทำสำเร็จไม่ได้อยู่แล้ว มิหนำซ้ำเดิมทีหมอแผนกศัลยกรรมผิวหนังก็มีน้อยอยู่แล้ว ส่วนมากไม่อยากไปแผนกฉุกเฉินด้วย ยากเกินไป”
“นอกจากนี้ในช่วงเวลาสั้นๆ คุณเปิดแผนกไม่ทันอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องมีคือชื่อเสียง คือทรัพยากร ต้องมีเครื่องมือเฉพาะทางของแผนกผิวหนัง ช่วงแรกลงทุนเยอะมาก แต่กลับได้ไม่คุ้มเสีย”
“แต่ไอเดียที่คุณว่ามานี่ความจริงแล้วก็ไม่เลว ถ้าผ่านช่วงแรกไปได้ มีชื่อเสียงแล้ว มีบุคลากร เทคโนโลยีและทรัพยากรแล้ว และมีตัวเด่นในวงการมาบัญชาการสักคน ความจริงแล้วยังมีอนาคตอยู่!”
พอทั้งสองคุยกัน ในใจเฉินชางก็เกิดความคิด
ตอนนี้ไม่เหมาะ…
แต่ไม่ได้หมายความว่าต่อไปจะทำไม่ได้