เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 686 อยู่ได้ไม่ถึงอายุยี่สิบ!
ในแผนก ลู่เจี๋ยมองเฉินชางที่อยู่ตรงข้าม ไม่พูดอะไรอยู่นาน
สักพัก…
เสียงของลู่เจี๋ยสั่นเครือเล็กน้อย คิดจะพูดออกมาอย่างระมัดระวัง แต่พออ้าปากกลับไม่พูดอะไรสักที เธอไม่กล้าถาม แล้วก็ไม่กล้าเอ่ย…
“หมอคะ เฉิงเฉิง…เขา…”
เธอคิดว่าตัวเองใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่กล้าใจกล้าเลยสักนิดแล้ว!
แต่ทำไมสวรรค์ถึงยังกลั่นแกล้งเธอแบบนี้ด้วย เสาหลักของครอบครัวพังลงหลังจากสามีจากไป! ภูเขาลูกนั้นก็คือที่พึ่งพิงของพวกเขาทั้งครอบครัว เป็นความกล้าหาญของคนทั้งบ้าน พอไม่มีภูเขาแล้ว…พวกเขาก็เหมือนเสียที่พึ่งทั้งหมดไป
ตอนที่สามียังอยู่ เธอรู้สึกว่าต่อให้ฟ้าถล่มลงมาผู้ชายคนนั้นก็จะต้านไว้ได้!
ทว่าตอนนี้ เธอรู้สึกรับการโจมตีใดๆ ไม่ไหว
แต่ขณะที่เธอมองดูลูกก็รู้ว่าตนควรพยายามเข้มแข็งเข้าไว้ เพราะยังมีคนที่อ่อนแอและยังต้องการการปกป้องกว่าเธอรอเธออยู่!
ในช่วงปีสองปี ทั้งสองต่างประคับประคองกัน เคยชินกับชีวิตหาเช้ากินค่ำ เธอลาออกจากงานที่ต้องทำงานล่วงเวลา ซื้อรถจีลี่คันหนึ่ง กลายเป็นหนึ่งในคนขับแท็กซี่นับหมื่นพัน ทุกเช้าตรู่เธอจะกินข้าวเช้าเป็นเพื่อนลูก ไปส่งลูกที่โรงเรียน จากนั้นจึงเริ่มทำงาน ตอนกลางวันรอลูกเลิกเรียนไปกินข้าว รอถึงช่วงบ่ายจึงค่อยมารับกลับบ้าน
แม้จะลำบาก แต่ทั้งสองก็มีความสุข ลูกมานั่งรถเป็นเพื่อนเธอเป็นครั้งคราว สำหรับลู่เจี๋ย การได้ฟังลูกแบ่งปันเรื่องราวที่โรงเรียนก็เป็นทุกอย่างในชีวิตแล้ว
แต่การจู่โจมกะทันหันเช่นนี้ทำให้ลู่เจี๋ยจิตใจสั่นไหวอยู่บ้าง!
เพราะอะไร
มีสิทธิ์อะไร
เธออยากตะโกนถามดังๆ!
แต่ก็รู้ว่าเปล่าประโยชน์
ลู่เจี๋ยถอนหายใจ รวบรวมความกล้าถามอาการป่วยของลูกสาวตน
“หมอเฉินคะ คุณบอกว่าเฉิงเฉิงหัวใจผิดปกติ แต่ทำไมนานขนาดนี้แล้วยังไม่เป็นไรล่ะคะ”
เฉินชางอธิบาย “เคสแบบนี้เรียกว่าหลอดเลือดใหญ่หัวใจสลับขั้วจัดระเบียบโดยกำเนิด! หมายความว่ายังไง ก็หมายความว่าความจริงแล้วร่างกายคนเรามีกลไกทดแทนที่แข็งแกร่งมาก พอหัวใจผิดรูปแต่กำเนิดแล้วก็จะปรับตัวกับความผิดรูปนี้อย่างเต็มที่ เกิดเป็นระบบไหลเวียนเลือดใหม่ระบบหนึ่ง! ตอนนี้เฉิงเฉิงเขามีหัวใจผิดรูปชนิดที่ห้องหัวใจบนและล่าง ห้องหัวใจล่างและหลอดเลือดแดงใหญ่ไม่เชื่อมสนิท”
เฉินชางเอากระดาษออกมา พยายามอธิบายการทำงานของหัวใจให้ลู่เจี๋ยฟังอย่างง่ายๆ
ต่อให้ลู่เจี๋ยไม่เข้าใจ เธอก็ต้องทำความเข้าใจให้ได้! เธอรู้ว่าเธอต้องเข้าใจลูก ถึงจะช่วยให้ลูกฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น
เฉินชางอธิบาย “หัวใจสูบฉีดเลือดจากห้องหัวใจล่างไปที่หลอดเลือดแดงใหญ่ ไหลกลับจากหลอดเลือดดำมาที่ห้องหัวใจบน จากนั้นเลือดค่อยกลับมาที่ห้องหัวใจบนจากห้องหัวใจล่าง ไหลเวียนเป็นวงจรแบบนี้”
ดังนั้น การที่ห้องหัวใจบนและล่าง ห้องหัวใจล่างและหลอดเลือดแดงใหญ่ไม่เชื่อมสนิทแบบนี้จึงเกิดเป็นช่องทางไหลเวียนเลือดของร่างกายและปอดที่เป็นปกติและเชื่อมต่อกัน เลือดจากหลอดเลือดดำที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายไหลเข้าสู่ห้องหัวใจบนขวา ผ่านลิ้นไบคัสปิดกับห้องหัวใจล่างซ้ายมาที่หลอดเลือดแดงปอด
จากนั้นเลือดจากหลอดเลือดแดงปอดก็จะไหลเข้าหัวใจห้องบนซ้าย ผ่านลิ้นหัวใจไตรคัสปิดกับห้องหัวใจล่างขวามาถึงหลอดเลือดแดงใหญ่! ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการจัดระเบียบเชิงสรีระ ดังนั้นหัวใจผิดรูปลักษณะนี้จึงเรียกอีกอย่างว่าการแก้ไขการเคลื่อนตัวของหลอดเลือดแดงใหญ่ตามสรีระครับ”
เฉินชางเห็นลู่เจี๋ยงุนงงอยู่บ้าง จึงพูดง่ายๆ ว่า “ความจริงแล้วก็เพราะการผิดรูปแบบนี้เอง หัวใจถึงใช้วิธีพิเศษมาสร้างทางผ่านใหม่ ทำให้หัวใจทำงานได้ตามปกติ”
พอลู่เจี๋ยได้ยินเข้าก็ถามว่า “งั้น…หัวใจไม่ได้ทำงานปกติเหรอคะ”
เฉินชางส่ายหน้า “นี่เป็นแค่วิธีชั่วคราวอย่างหนึ่งครับ ถ้าพูดให้ชัด พออายุมากขึ้น วิธีการนี้จะเพิ่มความเสียหายให้กับหัวใจ ระยะแรกจะมีอาการแน่นหน้าอก หลักๆ แล้วมีสาเหตุมาจากห้องหัวใจล่างขวารับภาระมากเกินไป ทำให้เจ็บหัวใจ แล้วก็จะค่อยๆ เกิดหัวใจห้องขวาล้มเหลว ระยะท้ายๆ จะเกิดเป็นหัวใจวาย อาการโรคในอนาคตย่ำแย่มาก!”
“พูดง่ายๆ ก็คือ เฉิงเฉิงยังเล็ก แต่พออายุมากขึ้น ร่างกายก็จะยิ่งแย่ตามไปด้วย โดยทั่วไปอายุขัยจะไม่ถึงยี่สิบปีถึงสามสิบกว่าปี!”
ประโยคเดียว ลู่เจี๋ยแทบสับสน!
เฉินชางเอ่ย “แน่นอนว่ามีข้อยกเว้นเหมือนกัน แต่…อย่างที่คุณรู้ครับ พวกเราจะฝากความหวังไว้กับข้อยกเว้นไม่ได้ ตอนนี้สภาพของเฉิงเฉิง ข้อแนะนำของผมก็คือผ่าตัดให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุดครับ”
ลู่เจี๋ยได้ยินว่าเฉิงเฉิงอยู่ได้ถึงอายุราวยี่สิบปี ทันใดนั้นมีเสียงสายฟ้าฟาดในสมองครั้งแล้วครั้งเล่า!
คล้ายจะโจมตีวิญญาณอันอ่อนแอของเธอให้แหลกลาญ!
เฉินชางถอนหายใจ เขาก็จนใจ
ชีวิตยากมากแล้ว ทำไมจะต้องทรมานครอบครัวอันอ่อนแอนี้ด้วย
เป็นเด็กที่รู้เดียงสาขนาดไหนกันนะ
อายุน้อยขนาดนี้ก็รู้จักช่วยแม่ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แม่ ช่วยแบ่งเบาภาระให้แม่ได้แล้ว…
พอนึกถึงท่าทางที่เฉิงเฉิงเลียนแบบการพูดคุยของผู้ใหญ่เมื่อกี้ เฉินชางก็อดส่ายหัวไม่ได้
ตอนนี้เฉิงเฉิงตามหยางไคฮว่ากับพยาบาลเล่อเล่อไปยืนอยู่ข้างนอก มองทั้งสองคนด้วยสีหน้ากังวลไปหมด
“หนูเป็นห่วงแม่หนู หนูไปดูแม่หน่อยนะคะ…ถ้าแม่ไม่เห็นหนูจะกังวล”
เล่อเล่อผงะไป มองดูท่าทางเป็นผู้ใหญ่ของเฉิงเฉิง รู้สึกอบอุ่นใจจากใจจริง
“เป็นเด็กที่น่ารักขนาดไหนกันนะ”
หยางไคฮว่าจ้องมองเฉิงเฉิงแล้วพยักหน้า “นั่นสิครับ!”
เล่อเล่อตามเข้าไป ผลักประตูเข้าแผนกอย่างระมัดระวัง จู่ๆ ก็เห็นว่าแม่กำลังร้องไห้อยู่ตรงนั้น!
เธอตกใจทันที รีบร้อนวิ่งเข้าไปหา
“แม่คะ แม่ร้องไห้ทำไม…”
พูดจบก็ยกมือน้อยๆ จะปาดน้ำตาให้ลู่เจี๋ย
“แม่อย่าร้องไห้นะคะ พวกเรากลับบ้านกัน กลับไปตอนกลางคืนหนูล้างเท้าให้แม่ดีไหมคะ”
“จริงด้วย แม่คะ เดี๋ยวหนูก็จะได้ปิดเทอมหน้าหนาวแล้ว ถึงเวลาหนูจะอยู่กับแม่ทุกวันเลย”
“แม่คะอย่าร้องไห้!”
“กลับบ้านไปเดี๋ยวหนูเล่านิทานให้แม่ฟัง”
ลู่เจี๋ยเห็นเฉิงเฉิงที่รู้เดียงสาก็รู้สึกอยากร้องไห้ออกมา แต่ก็ต้องทนไว้
เธอยิ้ม “เฉิงเฉิงเป็นเด็กดี ไปรอข้างนอกนะลูก แม่จะคุยกับคุณอาหมอนิดหน่อย”
พอเฉิงเฉิงฟังแล้วก็พยักหน้าอย่างรู้ความ หันหลังเดินออกไปข้างนอก
แต่เดินไปไม่กี่ก้าวก็ออกจะไม่วางใจ พลันหันหลังไปมองลู่เจี๋ย แล้วจึงเดินออกมา
ลู่เจี๋ยเห็นลูกเดินออกไปแล้วก็มองเฉินชาง เอ่ยว่า “หมอเฉิน การผ่าตัดนี่ต้องใช้เงินเท่าไรคะ”
คำถามนี้เล่นเอาเฉินชางไปไม่เป็น เขายังไม่รู้จริงๆ
“เอาแบบนี้แล้วกันครับ วันนี้คุณพาลูกกลับบ้านไปก่อน รถเสียแล้ว วันสองวันนี้คุณก็ไม่ต้องรีบออกไปทำงาน ให้ลูกคุณลาหยุด ผมจะติดต่อผู้เชี่ยวชาญในมณฑลสองสามคนให้ พวกเรามาทำความเข้าใจพูดคุยกันดูว่าต้องรักษายังไงถึงจะเหมาะสมที่สุดกันแน่ จะต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญภายนอกหรือเปล่า รวมถึงปัญหาพวกค่าใช้จ่ายบางอย่างด้วย คุณว่ายังไงครับ”
“ถึงยังไงลูกก็ยังเล็ก สุขภาพสำคัญกว่าอะไรทั้งหมดค่ะ!”
ลู่เจี๋ยพยักหน้า ใช่แล้ว!
ในใจเธอ เฉิงเฉิงเป็นทุกอย่างของเธอแล้ว
ชีวิตเธอจะสูญเสียอะไรอีกไม่ได้แล้ว…
พอออกมาจากแผนก ลู่เจี๋ยก็พาลูกจากไป
จู่ๆ หยางไคฮว่าก็พูดขึ้นว่า “เอ่อ…คุณลู่ ผมติดต่อศูนย์รถแล้ว ตอนนี้เขามาแล้ว ผมรับผิดชอบทุกอย่างเองครับ คุณไม่ต้องห่วงเลย”
พูดถึงตรงนี้ หยางไคฮว่าก็พูดว่า “ผมให้คนขับรถขับรถคันหนึ่งมา ผมส่งพวกคุณกลับบ้านดีไหมครับ”