เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 7 ตัวพองหมดแล้ว
[เข็มเย็บแผล (สีขาว) ภายหน้าเมื่อท่านใช้เข็มใดๆ เย็บแผล จะได้รับผลความคม +1!]
ในที่สุดเฉินชางก็เข้าใจ หมายความว่าหลังจากนี้เมื่อตนใช้เข็มเย็บแผลจะได้คุณสมบัติความคม +1
เพียงแต่…ความคม +1 นี่มันคืออะไรกันแน่?
ไม่เข้าใจ!
ช่างเถอะ คงจะทำให้เข็มคมขึ้นล่ะมั้ง! เป็นความหมายของความคมหรือเปล่า?
เมื่อผ่าตัดเสร็จ ผู้ป่วยก็ถามขึ้นว่า “หมอครับ ไส้ติ่งของผมล่ะ?”
เฉินชาง “…”
คิดถึงมันขนาดนี้เลยเหรอ?!
พยาบาลถือถาดเดินมาข้างกายพี่ชายคนนั้น “นี่ค่ะ นี่คือไส้ติ่งของคุณ!”
พี่ชายคนนั้นมองดู จากนั้นจึงรู้สึกมวนท้อง “ไม่! ตอนนี้เป็นไส้ติ่งของคุณแล้ว เอาไปเถอะ…หมาบ้านผมไม่กินของพวกนี้หรอก น่ารังเกียจเกินไป”
“โอ้โห นี่ไม่เหมือนในอินเทอร์เน็ตเลยนะครับ? ทำไมถึงได้น่าเกลียดขนาดนี้? อัปลักษณ์จริงๆ!”
เฉินชางไอแค่กๆ นี่ไม่ใช่ไส้ติ่งธรรมดาสักหน่อย
ความจริง มันเป็นไส้ติ่งที่เน่าจนเป็นรูต่างหาก!
นี่เกิดจากการที่ไส้ติ่งต่อต้านเจ้านายที่กินดื่มมั่วซั่วจนทำให้เกิดความอันตรายถึงชีวิต มันจึงพยายามจนมีสภาพเป็นไส้ติ่งหายากแบบนี้!
พยาบาลหัวเราะจากนั้นจึงถือถาดกลับมา
กับของพวกนี้ เธอเห็นจนรู้สึกเฉยๆ แล้ว บางครั้งยังวางอยู่ตรงที่เธอกินข้าวด้วยซ้ำ แต่ไม่ส่งผลอะไรแม้แต่น้อย!
เฉินปิ่งเซิงพูดขึ้นว่า “ส่งไปแผนกพยาธิวิทยา[1]เพื่อทำการตรวจสอบ”
พยาบาลพยักหน้าแล้วเดินจากไป
ดูเหมือนยาชาของพี่ชายคนนี้สลายไปหมดแล้ว สมองจึงปลอดโปร่งขึ้นมาก “หมอครับ ท้องผมถูกยาชาแบบนี้ ตามหลักแล้วกระเพาะต้องชาไปด้วยสิครับ? ทำไมเมื่อกี้ผมเห็นของน่าเกลียดนั่นถึงรู้สึกอยากอ้วกล่ะ? ทำไมยังรู้สึกมวนท้องอยู่อีก?”
เฉินชางรู้สึกว่าพี่ชายคนนี้ถามปัญหาที่ลึกซึ้งออกมาแล้ว!
กระเพาะถูกทำให้ชาแล้วจะรู้สึกมวนท้องได้อย่างไร? ฉลาดจริงๆ!
เฉินปิ่งเซิงหัวเราะ “เพราะคุณรู้สึกรังเกียจนั่นแหละ! เป็นอาการทางใจ!”
พยาบาลในห้องผ่าตัดทนไม่ไหวอีกต่อไป หัวเราะออกมาเสียงดัง!
แม้แต่เฉินชางก็หัวเราะออกมาด้วย
พี่ชายคนนี้เกาหัว “มีเหตุผล!”
ดูเหมือนฤทธิ์ยาจะกลับมาอีกแล้ว ยังไม่ทันตอบอะไรก็ถูกเข็นออกไปจากห้องผ่าตัดเพื่อส่งไปที่ห้องผู้ป่วย
วิสัญญีแพทย์ชื่อหลิวเจี้ยนเดินเข้ามา เมื่อเห็นผลการผ่าตัดของเฉินชางจึงหัวเราะ “ลงมีดครั้งแรกรู้สึกยังไงบ้างครับ?”
เฉินชางทอดถอนใจ “ไม่มีความรู้สึกเหมือนได้เป็นศัลยแพทย์หลักเลยครับ!”
หลิวเจี้ยนชะงัก “แล้วศัลยแพทย์หลักต้องมีความรู้สึกยังไงล่ะ?”
เฉินชางกล่าวตอบ “ก็ต้องให้ผู้ช่วยลงมือทำงานบ้างสิครับ? หัวหน้าเฉินเป็นผู้ช่วยคนแรกในชีวิตของผม แต่ไม่สนใจผมสักนิด แล้วยังบอกให้ผมทำนู่นทำนี่อีก”
หลิวเจี้ยนรู้สึกอับจนคำพูดขึ้นมาโดยพลัน “คุณนี่นะ ได้คืบจะเอาศอกไปหรือเปล่า? จะให้เฉินปิ่งเซิงลงมือช่วยคุณเหรอ? คุณจะได้ใจเกินไปหรือเปล่า?”
เฉินชางยิ้ม เขาก็รู้จักล้อเล่นเหมือนกันนะเนี่ย
เขาเดินตามหัวหน้าเฉินออกมาจากห้องผ่าตัด ขณะที่ล้างมืออยู่กันตามลำพังไม่มีคนอื่น เฉินปิ่งเซิงจึงอดแขวะขึ้นไม่ได้ “คุณกลับไปฝึกเย็บแผลให้ดีๆ รอยแผลน่าเกลียดอะไรขนาดนั้น ทำให้ผมอายแทนจริงๆ ต่อหน้าคนอื่นผมไม่กล้าพูด พูดออกไปก็ขายหน้าตัวเองเปล่าๆ!”
เฉินชางยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน
[ติ๊ง! NPC ระดับสูง เฉินปิ่งเซิง มอบหมายภารกิจ: พัฒนาทักษะการเย็บแผลให้ถึงระดับสูง! รางวัล: คะแนนทักษะ 1 แต้ม]
เฉินชางดีใจขึ้นมาทันที!
มีเรื่องดีๆ แบบนี้ด้วยเหรอ?
ทักษะการเย็บแผลที่ผิวหนัง: ระดับกลาง: 1679/2000
หลังจากทำงานหนักมาหลายวัน ในที่สุดก็พัฒนาขึ้นเล็กน้อย แต่หากจะใช้คะแนนทักษะตอนนี้ก็รู้สึกสิ้นเปลือง อีกสักครู่ค่อยว่ากันเถอะ
ว่าแต่ว่าคะแนนทักษะนี่มันใช้ยังไง?
เฉินชางรู้สึกสงสัย
[ติ๊ง! หากต้องการเพิ่มระดับทักษะจากระดับต้นไประดับกลางต้องใช้คะแนนทักษะ 1 แต้ม
จากระดับกลางไประดับสูงต้องใช้คะแนนทักษะ 2 แต้ม
จากระดับสูงไประดับปรมาจารย์ต้องใช้คะแนนทักษะ 4 แต้ม
จากระดับปรมาจารย์ไประดับสมบูรณ์ใช้คะแนนทักษะ 8 แต้ม!]
เฉินชางพยักหน้า ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง!
คะแนนทักษะเอาไว้ใช้ในการพัฒนาระดับของทักษะต่างๆ
ถ้าเช่นนั้นคะแนนทักษะอันล้ำค่าที่ตนมีอยู่หนึ่งแต้มนี้ก็เก็บไว้เถอะ
ตลอดช่วงเช้าได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว
[ติ๊ง! ภารกิจของ NPC เฉินปิ่งเซิงสำเร็จ ทำการผ่าตัดไส้ติ่ง 2 เคสสำเร็จในระดับดีเยี่ยม ได้รับ: ประสบการณ์การผ่าตัดไส้ติ่งของเฉินปิ่งเซิง x1]
ประสบการณ์การผ่าตัดไส้ติ่งของเฉินปิ่งเซิง?
นี่มันมีประโยชน์อะไรกัน?
เฉินชางกดรับรางวัล ทันใดนั้นมีข้อมูลระลอกหนึ่งไหลเข้าสู่สมอง
ข้อมูลถาโถมเข้ามา!
ทนแทบไม่ไหว!
ในนั้นเต็มไปด้วยภาพเลือดเนื้อเละเทะ ประสบการณ์การผ่าตัดของเหล่าเฉินก็คือประสบการณ์ที่เขาสะสมมาจากการผ่าตัดครั้งแล้วครั้งเล่านั่นเอง
จนสุดท้ายก็กลายเป็นความรู้ของเหล่าเฉิน
เฉินชางค่อยๆ ดื่มด่ำ ของเหล่านี้จะกลายเป็นความรู้ของตน
ในสมองของเขาพยายามย่อยข้อมูลอยู่เรื่อยๆ ดูดซึม…
ผสมผสาน…
[ติ๊ง! ดูดซึมประสบการณ์การผ่าตัดไส้ติ่งของเฉินปิ่งเซิงสำเร็จ ได้รับประสบการณ์การผ่าตัดไส้ติ่ง +1,000!]
[ติ๊ง! ทักษะการผ่าตัดไส้ติ่งของท่านพัฒนาถึงระดับกลางแล้ว: ทักษะการผ่าตัดไส้ติ่ง: 300/2000 (ระดับกลาง)]
เฉินชางรู้สึกยินดี!
ได้รับประสบการณ์การผ่าตัดไส้ติ่งมาถึงหนึ่งพันแต้ม นี่มันสมบูรณ์แบบจริงๆ!
เขามีความสุขยิ่งนัก!
ตอนนี้เฉินชางรู้สึกแทบจะลอยอยู่รอมร่อ ความรู้สึกนี้อัศจรรย์เกินไป อัศจรรย์จนไม่อยากเชื่อ
หัวหน้าเฉิน คุณยังมีประสบการณ์อะไรอีกหรือเปล่า?
ตอนเช้าทำการผ่าตัดไปสองเคสก็ได้รับเงินมาสามร้อยหยวน จุ๊บๆ
อา เงินมากมายขนาดนี้จะใช้ยังไงดี?
ชีวิตของคนมีตังค์มันลำบากแบบนี้เอง…
จืดชืดไร้รสชาติ!
เมื่อกลับมาถึงห้องปฏิบัติการ เฉินปิ่งเซิงเลิกงานก็กลับบ้านไปกินข้าว ส่วนเฉินชางยังอยู่ในห้องเวร ขี้เกียจกลับ หากต้องไปๆ มาๆ สู้พักผ่อนอยู่ที่ห้องเวรยังจะดีกว่า
หยิบมือถือขึ้นมาสั่งอาหารเดลิเวอรี่ซะหน่อยแล้วกัน
พอคิดว่าวันนี้ตนหาเงินได้ เฉินชางก็ตัดสินใจสั่งอาหารดีๆ สักหน่อย!
ใกล้ๆ โรงพยาบาลมีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อจากหลานโจวที่รสชาติไม่เลวอยู่ร้านหนึ่ง เฉินชางกดสั่งไป
เพียงแต่เนื้อในก๋วยเตี๋ยวเนื้อหลานโจวมีน้อยเกินไป ถึงแม้รสชาติจะไม่เลว แต่ชามเดียวมีเนื้ออยู่แค่สองชิ้น!
ไม่งั้น…
สั่งเนื้อพิเศษแยกมาเลยเป็นไง???
เฉินชางเริ่มมีความคิดน่ากลัวขึ้นมากะทันหัน
เมื่อคิดได้ว่าเงินสามร้อยหยวนที่หาได้วันนี้เป็นรายรับที่นอกเหนือความคาดหมาย เฉินชางก็รู้สึกว่าตัวเองชักจะใจกล้าขึ้นมาแล้วจริงๆ
ถึงขั้นอยากสั่งเนื้อเพิ่มในตอนที่จะสั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อหลานโจวเลยเชียว!
สั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อหนึ่งชามเป็นเงินสิบสองหยวน
เพียงแต่เนื้อสองชิ้นต้องเพิ่มเงินอีกสามหยวน เฉินชางกัดฟันสั่งเพิ่มสิบที่!
เงินสามสิบหยวน ท่านเฉินผู้ยิ่งใหญ่จะดื่มด่ำกับเนื้อนี้ให้ดี!
เมื่อคิดถึงท่าทางมึนงงและเทิดทูนของเถ้าแก่ เฉินชางพลันสูดปาก กลัวว่าน้ำลายจะไหลออกมา
อา ชีวิตของคนมีเงินนี่มันช่างทุกข์ตรมจริงๆ …
กินก๋วยเตี๋ยวเนื้อยังต้องสั่งเนื้อเพิ่มอีกสิบที่
นี่คงเป็นชีวิตคนมีเงินล่ะมั้ง…
เขาไถโทรศัพท์เล่นพักหนึ่ง อ่านผลงานใหม่ของนักเขียนที่ตนชอบ
ไม่ทันไรก็ผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมง อาหารมาส่งแล้ว เฉินชางเปิดห่ออาหารออกดูด้วยความคาดหวัง คิดจะเสพสุขกับความรู้สึกที่ได้กัดเนื้อคำใหญ่ให้ดี แต่ทันใดนั้น…
กลับถูกภาพเบื้องหน้าทำเอาเหวอ!
นี่…
นี่คือสิ่งที่เรียกว่าเนื้อสามสิบหยวนเหรอ?
นี่คือสิ่งที่เรียกว่าสั่งเนื้อเพิ่มเหรอ?
เฉินชางมองดูเนื้อที่บางเหมือนปีกจั๊กจั่นด้านบน ส่งกลิ่นหอมออกมาจางๆ…
นี่มียี่สิบชิ้นเหรอ?
เฉินชางคิดว่าเนื้อพวกนี้ ตัวเองกินคำเดียวก็หมดแล้ว!
นี่คือเนื้อสามสิบหยวนงั้นเหรอ…
เฉินชางอยากจะร้องไห้
เงินสามสิบหยวนของเขาซื้อเนื้อครึ่งกิโลฯ กลับมาตุ๋นเองได้เลย!
เขาสูดหายใจลึก กินก๋วยเตี๋ยวเนื้อราคาแพงถ้วยนี้ทั้งน้ำตา
เสียเปรียบชะมัด!
แต่ขณะนั้นเอง จู่ๆ เฉินชางก็รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง!
เงินสามสิบหยวนได้เนื้อยี่สิบชิ้น ก๋วยเตี๋ยวทุกชามจะมีเนื้อสองชิ้น!
นี่หมายความว่าทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อได้สิบชาม หนึ่งชามสิบสองหยวน เท่ากับหนึ่งร้อยยี่สิบหยวน เรียกได้ว่าเถ้าแก่ขายเนื้อยี่สิบชิ้นในราคาหนึ่งร้อยยี่สิบหยวน!
แต่เขาซื้อมาในราคาแค่สามสิบหยวน ถ้างั้นก็แสดงว่า!
เถ้าแก่ขาดทุนไปเก้าสิบหยวน!
แม้ตัวเองจะขาดทุนไปสิบหยวน
แต่เถ้าแก่ก็ขาดรายได้จากเขาไปเก้าสิบหยวนเช่นกัน!
ถ้าเป็นแบบนี้ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!
การซื้อนี้ไม่นับว่าล้มเหลว อย่างมากก็เสียหายทั้งสองฝ่าย
อา…
ฉันนี่ช่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์จริงๆ!
ซื้อก๋วยเตี๋ยวเนื้อหนึ่งชามยังต้องทะเลาะกับเถ้าแก่
เหนื่อยใจจริง
พรุ่งนี้กินซุปหมาล่าดีกว่า…
……..