เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 711 ช่วยเหลือฉุกเฉินสองร้อยไมล์!
ทว่าพอเห็นทักษะทั้งสามในเทคนิควินิจฉัยโรค เฉินชางก็อึ้งไปทันที นี่คือทั้งสามทักษะที่ตนคิดค้นไม่ใช่หรือ
ทำไมไม่มีของคนอื่น
ตอนนี้เอง เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น
[ติ๊ง! เทคนิควินิจฉัยโรคจะต้องผ่านการวิจัยแผนก อย่างเช่นดำเนินการทดลองการวินิจฉัยโรคผ่านการเผยแพร่บทความจนได้ทักษะและวิธีการรักษาที่มีผลการรักษาที่ชัดเจนต่อผู้ป่วย]
เฉินชางเพิ่งจะเข้าใจว่า เทคนิคทั้งสามของตนเอง ล้วนเป็นทักษะที่มีประสิทธิภาพจากการเผยแพร่บทความและวิจัยข้อมูลการวินิจฉัยโรค
และทักษะเหล่านี้ ถ้าสมาชิกในแผนกอยากเรียนรู้ พัฒนาการจะเร็วกว่ามาก!
ความจริงนี่เทียบเท่าทักษะตัวช่วย!
และถ้าอยากได้ทักษะตัวช่วย จะต้องทำวิจัยเทคนิคออกมา
คิดถึงตรงนี้ จู่ๆ เฉินชางก็ตระหนักได้ว่า ถ้าแผนกอยากพัฒนา ก็ต้องพึ่งพาการวิจัยของการวินิจฉัยโรครวมกัน
[ติ๊ง! ในตำแหน่งหัวหน้าแผนก (รองหัวหน้า) คุณจะได้รับถุงของขวัญเดือนละหนึ่งใบ
คำอธิบาย: อันดับยิ่งสูง ถุงของขวัญยิ่งหลากหลาย!]
หลังจากเฉินชางเห็นอันดับที่อยู่สามร้อยกว่าก็ถอนหายใจเงียบๆ!
การพัฒนาของแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลอันดับสอง เป็นภาระหนักหน่วงและอีกยาวไกล!
……
……
หลังจากนั้น ชีวิตก็ของเฉินชางก็กลับมาสู่ภาวะปกติอีกครั้ง
สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนเดิมคือ ตอนนี้เดินไปถึงไหนทุกคนล้วนเรียกเขาว่าหัวหน้าเฉินด้วยความเคารพอย่างกระตือรือร้นกว่าเดิม
ใช่แล้ว ตั้งแต่รางวัลชนะเลิศการแข่งขันทักษะศัลยกรรมหัวใจจนถึงแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งแห่งปี ทุกคนต่างตระหนักได้ว่า เฉินชางไม่ใช่คนที่พวกเขาจะเทียบเทียมได้แล้ว
อย่าว่าแต่รองหัวหน้าเลย ตอนนี้ไม่แน่ว่าโรงพยาบาลไม่รู้เท่าไรคงถึงขั้นอยากเชิญเฉินชางไปเป็นผู้อำนวยการ!
แต่งานของแผนกฉุกเฉินเหมือนจะไม่เคยให้คุณเหนื่อยน้อยลงเพราะคุณเป็นหัวหน้า
ช่วงบ่าย เฉินชางเพิ่งกลับมาก็ได้ยินหัวหน้าพยาบาลมองหวังเชียนพร้อมต่อว่าอย่างเดือดดาล “หมอหวัง ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ใช้ผ้าก๊อซน้อยลงหน่อย แล้วก็เบตาดีนของคุณน่ะ เทเยอะขนาดนั้น คุณ…สิ้นเปลืองเกินไปแล้ว! ฉันจะบอกให้นะ คราวหน้าคุณยังทำแบบนี้ ฉันจะให้หัวหน้าหักเงินคุณ
อีกอย่าง ฉันเห็นคุณเรียนกับหัวหน้าอันมาสักพักแล้ว โรงพยาบาลเป็นของบ้านคุณเหรอ เข็มกับด้ายเย็บแผลไม่ใช่เงินเหรอ เครื่องมือฆ่าเชื้อไม่ใช่เงินเหรอ ไม่เป็นหัวหน้าครอบครัว ไม่รู้หรอกว่าทุกอย่างเป็นเงิน!”
หวังเชียนยิ้มเจื่อน “แม่เถียน ผมรู้แล้วครับ คุณอย่าโกรธเลย เดี๋ยวคุณโกรธจนเกิดต่อมเต้านมก็เป็นเราไม่ใช่เหรอที่ต้องผ่าตัดให้คุณ ไม่คุ้มหรอกครับ!”
คำพูดของหวังเชียนทำให้เถียนเซียงหลานหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกทันที!
ทั้งสองเห็นเฉินชางเดินมา หวังเชียนเจอแพะรับบาปทันที “โน่น! แม่เถียน เฉินชางสิ้นเปลืองกว่าผมอีก ทำไมคุณไม่ว่าเขา”
เถียนเซียงหลานมองบน พลันหัวเราะเยาะ “หัวหน้าเฉินเขาเป็นรองหัวหน้าแผนก และยังเป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งของแผนกเรา ถ้าคุณเรียกเงินบริจาคได้สักสิบล้านฉันจะไม่ว่าอะไรเลย ต่อให้คุณจะเอาเบตาดีนไปอาบ ใช้ผ้าก๊อซเป็นกระดาษชำระ ฉันก็จะซื้อกลับมาให้คุณโดยไม่บ่นสักคำ!”
พยาบาลที่อยู่ข้างๆ หัวเราะ!
หวังเชียนอดน้อยใจไม่ได้ “แม่เถียน คุณสองมาตรฐานอะ”
ตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของห้องทำงานพยาบาลดังขึ้น เล่อเล่อรับโทรศัพท์ ครู่หนึ่งหลังจากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นพูด “หัวหน้าเฉิน สายจากศูนย์ฉุกเฉินค่ะ ศูนย์สุขภาพเมืองหนานเฉียวมีคนไข้กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันคนหนึ่งให้เราไปรับ”
เฉินชางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “สถานการณ์ของคนไข้เป็นอย่างไร”
เล่อเล่อเล่าอาการคร่าวๆ เธอทำงานให้กับแผนกฉุกเฉินบ่อย ความสามารถในการจำอาการของคนไข้ถือว่าฝึกมาอย่างช่ำชองแล้ว!
“คนไข้เป็นหญิงชราอายุเจ็ดสิบเอ็ดปี ถูกส่งตัวเข้าพักรับการรักษาที่ศูนย์สุขภาพเมืองหนานเฉียวด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันกำเริบ เช้าวันนี้จู่ๆ อาการก็แย่ลง หอบหืดรุนแรง ได้ขอความช่วยเหลือและคำปรึกษาจากโรงพยาบาลท้องถิ่นแล้วค่ะ แต่หลังจากอีกฝ่ายไปถึงก็ไม่ได้มีวิธีที่ชัดเจนนัก ตอนนี้ต้องส่งมาที่เมืองอันหยาง แต่หมอเวรของอีกฝ่ายไม่มีความสามารถพอที่จะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระยะทางไกลได้ หวังว่าเราจะให้ความร่วมมือในการกู้ชีพคนไข้ค่ะ!”
หลังจากเฉินชางได้ยินแล้วก็พยักหน้า ในใจพอจะมีการคาดเดาและความคิดอยู่บ้างแล้ว
ยังไม่รู้รายละเอียดประวัติการรักษา อีกอย่าง สถานการณ์แบบนี้ แม้จะถามอย่างชัดเจนแล้วก็ไม่มีประโยชน์
เพราะหมอฉุกเฉินคืออะไร
ตอนที่คนไข้โทรหาศูนย์ฉุกเฉิน 120 ไม่ว่าทางตรงหน้าจะอันตรายแค่ไหน คุณก็ต้องไปนี่ความเป็นจริง
ถ้าบอกว่าเห็นความตายดั่งคืนสู่มาตุภูมิ แน่นอนว่าเกินจริงไปสักหน่อย แต่…ใครใช้ให้พวกเขาเป็นหมอฉุกเฉินเล่า
การออกรักษาทางไกลก็แบบนี้แหละ ระหว่างทางเสี่ยงมาก เฉินชางต้องไปหลายครั้งต่อเดือน
และทุกครั้งล้วนอกสั่นขวัญหาย
หวังเชียนอดพูดไม่ได้ “ศูนย์สุขภาพเมืองหนานเฉียวเหรอ ห่างจากที่นี่หนึ่งร้อยกว่ากิโลเมตรเลยมั้ง แถมยังมีทางขึ้นเขาอีกระยะหนึ่ง เดินทางลำบากมาก!”
เฉินชางพยักหน้า “อืม ทำเวลาหน่อย คนไข้อยู่ในช่วงรักษาอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ตอนนี้อาการรุนแรงขึ้น จะต้องมีภาวะแทรกซ้อนอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน รีบเตรียมอุปกรณ์เถอะ!”
หลังจากพูดจบ เฉินชางก็หันมองเสี่ยวหลิน “เสี่ยวหลิน คุณไปกับผมนะครับ”
เฉินชางชอบหญิงสาวที่ชื่อหลินหร่านคนนี้มาก มือไวตาไว เทียบกับเล่อเล่อแล้วคล่องแคล่วกว่ามาก เฉินชางมักจะพาเธอไปช่วยงานของศูนย์ 120
จู่ๆ หวังเชียนก็พูดว่า “ผมไปด้วยไหมครับ”
เฉินชางส่ายหน้า “ในแผนกงานเยอะมาก ไม่แน่ว่าคุณกับพวกเหวินฟู่อาจจะมีผ่าตัดฉุกเฉิน!”
หวังเชียนจำต้องยอม!
ไปชนบทแบบนี้ เฉินชางเองก็ไม่ได้มั่นใจนัก เพราะปัญหาที่แท้จริงข้อหนึ่ง
การกระจายทรัพยากรทางการแพทย์ในประเทศไม่สมดุลอย่างมาก คุณภาพโดยรวมของหมอตั้งแต่ผู้มีอำนาจผู้เชี่ยวชาญจนถึงหมอชนบท ความรู้ทางทฤษฎีและการวินิจฉัยโรคล้วนลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง เฉินชางทำงานที่แผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลอันดับสองมาสามปีกว่าแล้ว เขาที่มักวิ่งงานที่แผนกฉุกเฉินระดับรากหญ้า พูดได้ว่าสะเทือนใจกับสถานการณ์นี้อย่างมาก
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางเองก็ไม่กล้าเสียเวลา
เครื่องกระตุ้นหัวใจคือสิ่งที่ขาดไม่ได้!
และยังต้องเตรียมอุปกรณ์กู้ชีพ คิดไปคิดมาจู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าครั้งก่อนกัวอวิ๋นเฟยผ่าตัดในรถ จึงพูดกับเสี่ยวหลินว่า “ไปเตรียมอุปกรณ์ผ่าตัดฉุกเฉินชุดหนึ่งครับ!”
เสี่ยวหลินเชื่อฟังมาก การกระทำคล่องแคล่วว่องไว ไม่นานทั้งสองก็ขึ้นรถของคนขับรถเหล่าหยาง
หลังจากเหล่าหยางได้ยินว่าเป็นศูนย์สุขภาพเมืองหนานเฉียวก็ขมวดคิ้วทันที เขาพูดยิ้มๆ “เส้นนี้เดินทางลำบากจริงๆ! ออกจากเขตเมือง ขึ้นทางด่วน เลี้ยวเข้าทางหลวงมณฑล เดินทางบนถนนชนบทอีกระยะหนึ่ง เข้าเขตภูเขา ให้ความรู้สึกเหมือนไปเที่ยว ความจริง ถ้าไม่ใช่ออกภารกิจ ไปขับรถรับลมที่นั่นก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยนะครับ!”
เฉินชางอดยิ้มไม่ได้
เหล่าหยางขับรถกู้ภัยให้กับศูนย์ฉุกเฉิน 120 มาทั้งชีวิต เคยไปเกือบทั่วทั้งตงหยางแล้ว สำหรับเส้นทางของโรงพยาบาลต่างๆ ยิ่งคุ้นเคยเป็นอย่างดี
สองชั่วโมงหลังจากนั้น รถก็แล่นเข้าสู่ศูนย์สุขภาพเมืองหนานเฉียวอย่างราบรื่น
เฉินชางรีบเดินนำเสี่ยวหลินเดินเข้าไป!