เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 718 คุณชอบให้ฉันใส่ชุดอะไรคะ
ฉินเยว่มองท่าทางตื่นตกใจของเฉินชางพลันประหลาดใจเล็กน้อย รอวางสายจึงพูดว่า “เป็นอะไรไป เมื่อกี้ทำไมคุณถึงตกใจขนาดนั้น!”
เฉินชางเองก็ตกใจจนเหงื่อตก
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเฉียนหลินจะเก่งขนาดนี้ จะส่งให้หัวหน้าเถาจริงๆ!
โชคดีที่หัวหน้าเถาไม่เข้าใจ ไม่อย่างนั้น…
เรื่องวันนี้ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรแล้ว!
ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้เฉียนหลินอาจจะติดเทรนด์อันดับหนึ่งในเวยป๋อ! ถึงตอนนั้นเขาคงจะโด่งดังจริงๆ แล้ว!
ช่างเป็นเจ้าอ้วนที่สามารถแปรความหายนะเป็นความมหัศจรรย์ได้จริงๆ ภายใต้ร่างกายร้อยสองร้อยกิโลกรัม มีหัวใจดวงใหญ่แค่ไหน ตับที่หนาแค่ไหนซ่อนอยู่กันแน่!
เฉินชางคิดๆ แล้วยังนึกกลัวเล็กน้อย
ทว่านึกถึงท่าทางตกใจจนแทบตายของเฉียนหลิน เฉินชางก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ จากนั้นจึงอธิบายเรื่องราวกับฉินเยว่
หลังจากฉินเยว่ฟังจบ ก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
“เฉียนหลินเกือบโดนคุณฆ่าตายแล้ว…”
เฉินชางพูดอย่างมั่นใจ “ผมก็ไม่คิดว่าหัวหน้าเถาจะขอไงครับ อีกอย่าง…เฉียนหลินก็โง่ ของแบบนี้เราดูเองก็พอแล้ว เขาถึงกับจะส่งให้อาจารย์!”
จู่ๆ ฉินเยว่ก็เงียบไป ยืนจ้องเฉินชางอย่างสนใจอยู่ตรงนั้น
“งั้น…คุณชอบดูของอาจารย์คนนั้นเหรอคะ”
เฉินชางได้ยินแบบนี้ สนใจขึ้นมาทันที “ต้องดูอารมณ์ อย่างเช่น วันนี้ผ่อนคลายหน่อย ผมก็จะชอบดูของแม่บ้านอาจารย์มิคามิ ยูอะ ถ้าวันไหนอารมณ์ดีหน่อย ผมก็จะดูแนวอาจารย์ติวเตอร์ส่วนตัว…”
ตอนที่เฉินชางเหมือนกำลังนับสมบัติอันมีค่าของตน จู่ๆ ก็รู้สึกตัว!
ไม่ใช่สิ!
นี่ไม่ใช่ ‘การแลกเปลี่ยนทางวิชาการ’ กับเจ้าอ้วนเฉียน แต่เผชิญหน้ากับแฟนสาวอยู่!
เฉินชางรีบกระแอมทีหนึ่ง เหล่มองฉินเยว่อย่างระมัดระวัง “ผมล้อเล่นครับ! จริงๆ ผมมีแฟนแล้วจะดูพวกนั้นไปทำไม! แฟนผมสวยที่สุดครับ…”
ฉินเยว่ไม่เพียงไม่โกรธ กลับพูดข้างหูเฉินชางอย่างยั่วยวนประโยคหนึ่ง “คุณชอบให้ฉันใส่อะไรคะ ชุดคุณครู พยาบาล แอร์โฮสเตส หรือ…”
เฉินชางตัวสั่นระลอกหนึ่ง!
กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที!
ยัยนี่ มีข้อเสนอดีๆ แบบนี้ด้วยเหรอ
ทว่าเฉินชางยังคงประหม่าเล็กน้อย เขามองฉินเยว่แล้วอดกลืนน้ำลายไม่ได้ พลันถามอย่างสงสัย “จริงเหรอครับ”
ฉินเยว่หรี่ตา พยักหน้าอย่างเก้อเขิน “อืม!”
เฉินชางสูดหายใจเข้าลึกๆ คราหนึ่ง ประหม่าเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงว่าในจิตวิญญาณของยัยฉินขี้ประจบจะมีปีศาจร้ายแบบนี้ซ่อนอยู่
ไม่รู้ทำไมเขาถึงตื่นเต้นเล็กน้อย
ในสายตาของเฉินชางเต็มไปด้วยเพลิงแห่งความปรารถนาและความคาดหวัง เขาเริ่มถูมือ มีเรื่องดีขนาดนี้ด้วยเหรอ
หรือว่า…วันนี้เป็นวันที่ผมจะได้แสดงฝีมือแล้ว
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็ตื่นเต้นเล็กน้อย
ทว่าตอนนี้เอง ฉินเยว่ก็พูดข้างหูเฉินชางเบาๆ อย่างเย้ายวน “เพียงแค่คุณผ่านเกณฑ์ ฉันก็จะตอบรับคุณ!”
เฉินชางชะงัก “ผ่านเกณฑ์เหรอ ผ่านเกณฑ์อะไรครับ”
จู่ๆ ฉินเยว่ก็พูดข้างหูเฉินชางว่า “คุณสู้ๆ นะคะ ห้าสิบนาทีของคุณเสร็จหรือยัง อีกอย่าง…ฉันจะสามสิบแล้วนะ…ขอแค่คุณผ่านเกณฑ์! ฉันก็จะตอบรับคุณค่ะ…”
ตอนนี้เอง ฉินเยว่ก็พูดอย่างเนิบช้า “คิดได้แล้วบอกฉันนะคะ ฉันกลับก่อน! ฉันได้ยินว่า…ดูหนังโป๊จะเสร็จไวนะคะ คราวหน้าคุณระวังหน่อย!”
พูดจบฉินเยว่ก็หมุนตัวจากไป
ทิ้งเฉินชางให้ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น!
สายลมโชยมา เฉินชางใจเย็นจนน่าแปลก
ภารกิจห้าสิบนาทียังไม่สำเร็จ เฉินชางนะเฉินชาง คุณกล้าดูอาจารย์คนอื่น กลัวว่าจะปรนนิบัติอาจารย์ฉินไม่ได้เหรอ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็ตัดสินใจอย่างลับๆ เรียนรู้จากความเจ็บปวด! กลับไปคราวนี้จะลาอาจารย์พวกนั้น!
แต่…ห้าสิบนาที! ?
ตอนนี้ภายในใจของเฉินชางปรากฏจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ก็แค่ห้าสิบนาทีไม่ใช่เหรอ
พยายาม!
ผ่าตัด!
อดทน!
ตอนนี้เฉินชางรู้สึกถึงเป้าหมายเล็กๆ เป้าหมายหนึ่ง…
ทว่า…
ประโยคสุดท้ายที่ว่า ‘ฉันจะสามสิบแล้ว’ หมายความว่าอย่างไรกัน
เฉินชางเกาหัว เดินอยู่บนถนนพร้อมสีหน้างุนงงเต็มประดา
เปิดโทรศัพท์มือถือค้นหาว่า ‘แฟนสาวบอกว่าสามสิบแล้ว หมายความว่าอย่างไร’
ไป่ตู้ก็ไม่รู้อีก!
เฉินชางถอนหายใจ ไป่ตู้นะไป่ตู้ คนไข้ถามอะไรรู้หมด ผมถามคำถามพื้นฐานแบบนี้กลับไม่รู้!
……
……
ช่วงบ่ายวันศุกร์ นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินชางรับผู้ป่วยนอกในฐานะหัวหน้า!
ในใจเขาตื่นเต้นเล็กน้อย
ช่วงบ่าย เฉินชางเปิดประตูแผนกผู้ป่วยนอกก่อนเวลา อุตส่าห์เปลี่ยนเป็นเสื้อกาวน์ที่สะอาดสะอ้าน
เพิ่งเข้ามา เขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ!
[ติ๊ง! พบภารกิจแผนกผู้ป่วยนอก: วินิจฉัยผู้ป่วยตั้งแต่สามคนขึ้นไป!]
เฉินชางยิ้มเยาะทีหนึ่ง ดูถูกกันเกินไปหรือเปล่า
คนไข้สามคน
หัวหน้าเฉินออกโรงเอง แน่นอนว่าต้องง่ายอยู่แล้วหรือเปล่า
……
ทว่าตั้งแต่เริ่มเข้างานตอนบ่ายสองครึ่ง ทางเดินบนตึกผู้คนขวักไขว่ มีเพียงห้องของเฉินชางที่ยังคงเงียบเป็นป่าช้า ทำให้เฉินชางท้อใจเล็กน้อย!
จนปัญญา!
รู้แบบนี้แต่แรกจะไม่วางท่า ให้หัวหน้าแผนกผู้ป่วยนอกลงทะเบียนให้ทำความคุ้นเคยสักหน่อย จะได้คุ้นชิน
อย่างน้อยตนก็เป็นหัวหน้าคนหนึ่ง ไม่มีคนไข้แม้แต่คนเดียว เสียหน้ามากนะ…อย่าให้ใครมาเห็นเชียว!
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางจัดหน้ากากอนามัยให้กระชับ อยากบังหน้าตัวเองไว้
ตอนที่เฉินชางเบื่อจะขาดใจเตรียมจะยอมแพ้นั่นเอง
จู่ๆ พี่สาวคนหนึ่งเดินเข้ามา เฉินชางเผยสีหน้าดีใจทันที!
เปิดประเดิมแล้ว อย่างน้อยก็มีคนมาแล้ว!
“สวัสดีครับ เชิญนั่งครับ”
พี่สาวคนนั้นดูเก้อเขินมาก “คุณหมอคะ…ฉัน…”
เฉินชางเผยรอยยิ้มที่คิดไปเองว่าเบิกบานมากแล้ว “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ มีอะไรที่หมอพอจะช่วยได้ไหมครับ”
พี่สาวยิ้มอย่างลำบากใจ “คุณหมอคะ ฉันขอนั่งตรงนี้สักแป๊บได้ไหมคะ ข้างนอกคนเยอะ ไม่มีที่นั่ง ฉันยืนจนปวดเอวแล้วค่ะ”
เฉินชางพบว่า ตนดีใจไวไป
……
เรื่องแบบนี้ หลังจากเกิดขึ้นหลายครั้ง ในที่สุดเฉินชางก็มีคนไข้คนแรกแล้ว
เด็กหนุ่มที่อายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปีคนหนึ่ง หลังจากเข้ามาอย่างเร่งรีบก็บอกเฉินชางว่า “คุณหมอครับ! ผมไม่สบาย!”
เฉินชางดีใจขึ้นมาทันที ในที่สุดก็มีคนไข้แล้ว!
“เชิญนั่งก่อนครับ ไม่สบายตรงไหนครับ”
เด็กหนุ่มยังเป็นนักเรียนมัธยมปลาย สวมชุดนักเรียน “ผม…ไม่สบายตรงหัวใจครับ!”
เฉินชางชะงักไป เด็กขนาดนี้ก็มีโรคหัวใจแล้วเหรอ
“อ้อ เป็นอะไรครับ แน่นหน้าอก หรือว่าใจสั่นครับ”
เด็กหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดอย่างเสียใจเล็กน้อย “ผม…ทรมานตรงหัวใจครับ!”
เฉินชางขมวดคิ้ว “อืม เอาอย่างนี้ ผมวัดความดันโลหิตให้ก่อนครับ”
เด็กหนุ่มอยากปฏิเสธ แต่เห็นเฉินชางจริงจังขนาดนี้ก็ปล่อยเขาไป
วัดความดันโลหิตเสร็จ เฉินชางอึ้งไปทันที “ปกติมาก 110/70mmHg! ดีมากนะ รู้สึกไม่สบายตรงหัวใจได้อย่างไรครับ ผมดูสิว่าต้องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจไหม”
เด็กหนุ่มส่ายหน้า “คลื่นไฟฟ้าหัวใจเหรอครับ ไม่ต้องครับ แค่ทุกครั้งที่ผมสอบเสร็จ ในใจเหมือนมีไฟกองหนึ่งกดทับอยู่ ผมรู้สึกว่าในใจร้อนรนมาก ทรมานมาก…วันนี้ผมก็เพิ่งสอบเสร็จแล้ว คะแนนไม่ดีเท่าไร ไม่มีคนให้ระบาย ผมเดินผ่านโรงพยาบาลอันดับสอง เห็นว่าถูกดีเลยมาคุยกับคุณสักหน่อย…”
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น!
เด็กหนุ่มลุกขึ้น “ขอบคุณครับคุณหมอ ผมไปก่อนนะครับ!”
ตอนนี้เฉินชางรู้สึกว่าอาการของตนทรมานเหมือนเด็กหนุ่มคนนี้!
ไฟสุมอกจนแทบทนไม่ไหวแล้ว!
คุณเห็นแผนกผู้ป่วยนอกเป็นห้องให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาแบบนี้จะดีเหรอ
จ่ายห้าหยวนให้ผมคุยเป็นเพื่อนคุณครึ่งบ่าย!
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็รู้สึกว่าตนก็ไม่สบายใจ พลันหยิบเครื่องวัดความดันโลหิตขึ้นมาวัดให้ตัวเอง
“115/80 mmHg!”
เฉินชางที่ว่างจนเบื่อวัดมือขวาของตนไปด้วย
เอ๊ะ! ต่างกันห้ามิลลิเมตรปรอท!
ผมตรวจค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดต่อแล้วกัน…
เฉินชางที่เบื่อหน่ายเริ่มศึกษาตัวเองแล้ว…